ตอนที่ 6 ถ่ายทอดพลังงานทางจิตวิญญาณ
เมื่อลู่หยานรันกลับมาที่ยอดเขาหลิงจิ่วอีกครั้ง เธอก็มีสีหน้าที่สลับซับซ้อนออกมา
เธอในตอนนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นแต่ก็ประหม่าเล็กน้อย
"ท่านปรมาจารย์"
ทันทีที่ลู่หยานรันมาถึงยอดเขาเธอเห็นว่ายื่อซวนกําลังรอเธออยู่ที่ลานบ้าน
เธอรีบก้มลงคำนับเขา
"ตอนนี้เจ้าได้กลายเป็นลูกศิษย์ของข้าแล้ว คุณไม่จําเป็นต้องสวมเสื้อผ้าแบบที่สาวใช้ทั่วไปใส่หรอก เจ้าสามารถไปสำนักกวางตุ้งหลังจากนี้ได้เพื่อรับชุดสำหรับลูกศิษย์ส่วนตัวได้!"
ยื่อซวน มองไปที่เสื้อผ้าธรรมดาๆของลู่หยานรันและบอกเธอทันทีว่าเธอสามารถเปลี่ยนชุดได้
"ข้าจะทำตามที่ท่านสั่งค่ะ!" ลู่หยานรันพูดอย่างเชื่อฟัง
ในนิกายชิงหยุนนั้นเหล่าลูกศิษย์จะถูกแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ จากอันดับต่ำสุดสู่อันดับสูงสุดมีตั้งแต่ระดับสาวใช้ ลูกศิษย์ภายในและลูกศิษย์ส่วนตัว
ลูกศิษย์ในระดับต่างๆนั้นจะมีเสื้อผ้าที่แตกต่างกัน
เมื่อได้ยินแบบนี้ยื่อซวนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและพยักหน้า หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดอีกครั้ง
"วันนี้ข้าจะเปิดเส้นลมปราณของเจ้าและถ่ายทอดความสามารถบางอย่างของข้าเข้าไปในร่างกายของเจ้า!"
คําพูดที่ดูปกติของยื่อซวนนั้นทําให้ลู่หยานรันตกตะลึง
ร่างกายของลู่หยานรันอดไม่ได้ที่จะเริ่มสั่นหลังจากที่ยื่นซวนพูดจบ
"ท่านปรมาจารย์พูดจริงงั้นหรือ? เขาจะถ่ายทอดพลังทางจิตวิญญาณของเขาลงในร่างกายของข้าจริงๆงั้นหรือ?'
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเธอจะอ่อนแอก็ตาม แต่เธอก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเธอจะแข็งแกร่งขึ้นได้หรือไม่
หลังจากเธอทําการถ่ายทอดพลังเสร็จ ในวันนั้นเธอจะไปที่ศูนย์รับฝากคัมภีร์ภายในนิกายเพื่ออ่านหนังสือ ซึ่งเธอใช้เวลาเกือบทั้งหมดที่ได้รับอนุญาติให้อยู่ในห้องนี้ไปกับการหาความรู้เรื่องพลังทางจิตวิญญาณที่ถูกถ่ายทอดเข้าในร่างกาย
ด้วยเหตุนี้ลู่หยานรันจึงได้รู้ว่าพลังทางจิตวิญญาณที่ถูกถ่ายทอดไปในร่างกายนั้นหมายถึงอะไร
ในแง่ของคนธรรมดาผู้ฝึกตนที่มีระดับที่สูงนั้นจะทำการถ่ายทอดพลังแก่ผู้ที่อ่อนแอกว่า กล่าวอีกนัยหนึ่งหมายความว่าพลังทางจิตวิญญาณที่พวกเขาได้รับจากการฝึกตนอย่างหนักหน่วงนั้นสามารถถ่ายทอดให้กับผู้อื่นได้
โดยทั่วไปพลังทางจิตวิญญาณที่ถูกถ่ายถอดไปนั้นจะหายไปอย่างสมบูรณ์และผู้ฝึกตนที่อยู่ในระดับสูงคนนั้นจะสามารถเติมเต็มพลังทางจิตวิญญาณที่หายไปส่วนนี้ผ่านการฝึกตนในอนาคตเท่านั้น
มันเป็นความคิดที่เห็นแก่ผู้อื่นอย่างแท้จริงและแทบไม่มีผู้ฝึกตนคนไหนเลือกที่จะทําแบบนี้เลย
เพราะกว่าที่พวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดนั้นได้พวกเขาต้องฝึกฝนอย่างยากลําบาก ยกเว้นแต่ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนโง่เขลา ดังนั้นจึงไม่มีใครถ่ายทอดพลังงานทางจิตวิญญาณให้ผู้อื่นแบบฟรีๆ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นญาติทางสายเลือด แต่ก็ยากมากที่พลังทางจิตวิญญาณนั้นจะถูกรวมเข้ากับคนอื่นได้อย่างง่ายดาย
ภายใต้สถานการณ์ปกตินั้นมีเพียงผู้ฝึกตนที่อยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังและรู้ว่าพวกเขาถึงจุดจบของชีวิตแล้วเท่านั้นถึงจะมอบพลังทางจิตวิญญาณให้กับคนที่เขารักหรือคนสําคัญสำหรับเขา
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นการกระทำนี้เป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่เกือบจะเทียบเท่ากับการเลี้ยงดูใครบางคนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
ด้วยเหตุนี้ลู่หยานรันจึงรู้สึกตกใจอย่างมาก เธอตกตะลึงอย่างหนักและไม่สามารถคิดอะไรได้
การถ่ายทอดพลังทาจิตวิญญาณ?
หากยื่อซวนทําสิ่งนี้จริงๆ ความแข็งแกร่งของเธอนั้นจะดีขึ้นอย่างมาก แม้ว่าความสามารถของเธอจะอยู่ตามค่าเฉลี่ย แต่ระดับของเธอนั้นจะได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากหลังจากนั้น
"ท่านปรมาจารย์..."
ครู่หนึ่งเสียงของลู่หยานรันก็ค่อยๆสั่นเหมือนเสียงร้องและดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงขณะที่เธอพยายามไม่แสดงออกมาให้เห็น
ยื่อซวนที่ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดีแบบนี้เธอจะตอบแทนเขาได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นการที่ได้เป็นลูกศิษย์ส่วนตัวของเขานั้น เธอควรจะทําอะไรเพื่อที่จะสมควรแก่การตอบแทนในครั้งนี้ได้?
"ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไรมาก่อน แต่ตอนนี้เจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้า เจ้าจะไม่ถูกใครก็ตามมาข่มเหงเจ้าได้!" ยื่อซวนพูดอย่างใจเย็น
ในสายตาของคนอื่นนั้นการถ่านทอดพลังงานทางจิตวิญญาณนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีที่ไม่ได้ให้ประโยชน์ส่วนตัวใดๆ โดยพื้นฐานแล้วไม่มีผู้ฝึกตนคนไหนเลยเลือกที่จะทําแบบนี้
แต่สําหรับยื่อซวนแล้วเรื่องแบบนี้มีประโยชน์ต่อตัวเขาอย่างมาก
เพราะเนื่องจากเขามีระบบตอบแทน พลังทางจิตวิญญาณทุกอย่างที่เขาถ่ายทอดไปนั้นจะถูกส่งคืนกลับมาเป็นอย่างน้อยสองเท่า ยิ่งเขาถ่ายทอดไปมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งได้รับการตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น
ในระยะสั้นนั้นยังไงเขาก็ได้เปรียบกว่า
แน่นอนว่ายื่อซวนจะไม่เลือกลูกศิษย์แบบส่งๆเพราะเหตุนี้ แม้ว่าเขาจะมีพลังของระบบก็ตามแต่เขาก็ยังคงให้ความสําคัญกับการเลือกลูกศิษย์ของเขามากกว่า
"ตามข้ามา!"
ยื่อซวนมองลู่หยารันนิ่งๆแล้วเดินเข้าไปในห้องโถง
"ได้ค่ะท่านปรมาจารย์"
ลู่หยานรันกลั้นน้ำตาของเธอที่กําลังจะไหลลงมาและเดินตามยื่อซวนไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื้นตัน
ตั้งแต่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไป ไม่มีใครเลยที่ปฏิบัติต่อเธอได้ดีขนาดนี้ เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะได้พบกับปรมาจารย์ที่ดีแบบนี้ในชีวิตของเธอ
ในไม่ช้า ลู่หยานรันก็มาถึงห้องโถงซึ่งเธอยังคงอยู่ข้างหลังยื่อซวนอยู่
ห้องโถงนั้นกว้างมาก มีฟูกห้าหรือหกตัวอยู่ข้างในซึ่งนี่คือสถานที่ที่ยื่อซวนมักจะปลีกตัวออกมาอยู่อย่างสันโดษ
จากนั้นยื่อซวนก็ส่งสัญญาณให้ลู่หยานรันมาที่ฟูกและนั่งลงอย่างช้าๆ ส่วนยื่อซวนนั้นนั่งลงข้างหลังเธอ
ในเวลาเดียวกันประโยคสองสามบรรทัดก็ปรากฏขึ้นในมุมมองของยื่อซวน
แน่นอนว่าไม่มีคนอื่นนอกจากเขาที่สามารถมองเห็นได้
[ค่าความเข้าใจ: 234]
[ค่ากระดูกโดยธรรมชาติ: 25]
[ร่างโครงกระดูก : ยังไม่ได้เปิดใช้งาน (สามารถเปิดใช้งานได้ด้วยดาบดารา)]
นี่คือหน้าที่ของระบบตอบแทนของลูกศิษย์ เขาสามารถมองเห็นความสามารถของลูกศิษย์ของเขาได้อย่างชัดเจน
ความสามารถนี้สามารถบอกค่าความเข้าใจของผู้ฝึกตนและค่ากระดูกโดยธรรมชาติได้
ค่าความเข้าใจนั้นคือความเข้าใจของผู้ฝึกตนเกี่ยวกับสวรรค์และโลก ยิ่งค่าเข้าใจมากเท่าไหร่ความเข้าใจของผู้ฝึกตนก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ดังนั้นความเร็วในการฝึกฝนของพวกเขาก็จะเร็วมากด้วยเช่นกัน
ไม่เพียงแค่นั้น แต่ยังช่วยด้านความเข้าใจในพลังของผู้ฝึกตนอีกด้วยเช่นความสามารถของดาบแต่ละเล่ม
ผู้ฝึกตนที่มีความเข้าใจระดับต่ำนั้นจะต้องใช้เวลามากในการทําความเข้าใจพลังของสวรรค์และโลกและอัตราความสําเร็จของพวกเขาก็จะต่ำมากด้วยเช่นกัน
'ค่ากระดูกโดยธรรมชาตินั้น' หมายถึงร่างกายของผู้ฝึกตน เพราะทุกคนนั้นมีร่างกายที่แตกต่างกัน
ผู้ฝึกตนบางคนสามารถเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานทางจิตวิญญาณของสวรรค์และโลกได้โดยธรรมชาติ และด้วยความช่วยเหลือของระบบนั้นพวกเขาจะสามารถฝึกตนเพิ่มได้มากขึ้นเป็นสองเท่าหรือหลายๆเท่าของคนอื่นๆ ด้วยการใช้พลังงานเพียงครึ่งเดียว ผู้ฝึกตนคนอื่นอาจต้องใช้เวลาสามถึงสี่ปีในการก้าวข้ามระดับ แต่พวกเขานั้นจะใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนเพื่อทำเช่นเดียวกันได้
"ค่ากระดูกและค่าความเข้าใจของเจ้านั้นค่อนข้างธรรมดามาก!" ยื่อซวนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเมื่อเห็นสิ่งนี้
ไม่แปลกใจเลยที่ลู่หยานรันพยายามอย่างหนัก นั่นก็เพราะระดับของเธอในปัจจุบันนั้นอยู่ในขั้นตอนที่สี่ของรูปแบบการปรับแต่งเท่านั้น
เมื่อยื่อซวนได้เห็นร่างกายพิเศษของลู่หยานรันนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะสบตาเธอ
สันนิษฐานว่าการเปิดใช้งานร่างโครงกระดูกนั้นจะช่วยปรับปรุงค่ากระดูกของลู่หยานรันได้อย่างมาก แต่ดูเหมือนว่าเธอจะต้องใช้เวลาในการค้นหาดาบดารานี้
เพราะหลังจากที่ลู่หยานรันเปิดการใช้งานร่างกายพิเศษของเธอ ยื่อซวนก็สามารถรับมันเป็นการตอบแทนได้ด้วย
"ทำสมาธิให้ตั้งมั่น ข้าจะถ่ายทอดพลังทางจิตวิญญาณของข้าลงไปในตอนนี้!"
ใบหน้าของลู่หยานรันที่เต็มไปด้วยความกังวลเมื่อเสียงของยื่อซวนนั้นดังขึ้น
ลู่หยานรันรีบหลับตา พลังฉีและพลังจิตวิญญาณทั้งหมดของเธอรวมตัวกันทันทีก่อนที่จะค่อยๆดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณเข้าสู่เธอ
ในวินาทีถัดมาฝ่ามือของยื่อซวนนั้นก็กดทับอยู่บนหลังของลู่หยานรัน พลังฉีและพลังทางจิตวิญญาณนั้นพุ่งออกจากร่างกายของเขาและค่อยๆถ่ายทอดลงไปในแกนกลางนร่างกายของเธอ
"นี่มัน... พลังของท่านปรมาจารย์แข็งแกร่งขนาดนี้เลยหรือ?"
เมื่อลู่หยานรันรู้สึกถึงพลังอันมหาศาลนี้เธอแทบจะคุมสติของเธอไม่ได้เลย