ตอนที่ 58 เป้าหมาย : ฐานห้องแดง [ฟรี]
ตอนที่ 58
เป้าหมาย : ฐานห้องแดง
ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวของซูไป๋รู้ดีว่าเขารักความสะอาดขนาดไหน ทำให้ดอตตี้ไม่เชื่อว่าเขาจะให้ครอบครัวเอสเบทย้ายไปที่คฤหาสน์ อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าคฤหาสน์จะมีขนาดใหญ่มาก และทุกคนสามารถอยู่รวมกันได้อย่างสบาย ๆ แต่ถึงอย่างนั้นดอตตี้ก็ไม่ได้ถามอะไรให้มากความ เห็นได้ชัดว่าเขาจะต้องมีเหตุผลของตัวเองที่คนอื่นไม่รู้ เพราะเขาจะไม่ยอมทำอะไรที่ไร้จุดประสงค์
ส่วนเรื่องฉุกเฉินที่ซูไป๋บอกดอตตี้ก็พอเดาได้
เขาถามเรื่องขององค์กรขึ้นมาก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นเขาก็มุ่งหน้ามาหาเอสเบททันที และบอกกับว่ามีเรื่องฉุกเฉิน ถ้าดอตตี้ไม่สามารถเดามันได้เธอก็จะไม่มีประโยชน์กับเขาอีกต่อไป
"ถ้าคุณอยากไปที่ห้องแดง ฉันเกรงว่ามันจะไม่มีประโยชน์อะไรมากมายนัก" ดอตตี้พูดขึ้น
"ไม่เป็นไรถึงแม้ว่าจะเจอเพียงแค่พนักงานถือกระเป๋าก็ตาม" ซูไป๋พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม "ผมคิดมาตลอดตั้งแต่กลับมาในครั้งนั้น เนื่องจากสูตรเซรุ่มอยู่ในมือของพวกเราแล้ว เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังอีกต่อไปและในตอนนี้เรื่องที่คุณทรยศพวกเขาก็รู้แล้ว ในไม่ช้าก็เร็วมันก็จะเกิดปัญหาขึ้นอยู่ดี แทนที่เราจะอยู่เฉย ๆ แต่เรากลับไปเป็นฝ่ายเริ่มก่อนไม่ดีหรอ? คุณก็น่าจะรู้ดีว่าวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะทำให้ผู้คนกลัวก็คือการไม่ปิดซ่อนมัน ทำให้พวกเขารู้สึกว่าไร้ที่พึ่งและหนทางที่จะหลบหนีไปได้!"
"หลังจากทำลายฐานของห้องแดงองค์กรของคุณน่าจะอยู่ในอาการตื่นตระหนก ทำให้สิ่งที่พวกเขาต้องกังวลจะไม่ใช่การที่จะต้องฆ่าคุณและนำสิ่งของกลับมา แต่จะเป็นการกังวลว่าเราจะทำลายฐานของพวกเขาต่อหรือเปล่า"
"และเมื่อเรื่องนี้จบลง ... มันก็ถึงเวลาที่จะต้องศึกษาเซรุ่มอย่างจริงจังสักที"
ซูไป๋พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย ส่วนดอตตี้ก็พยักหน้าเบา ๆ
...
ช่วงเที่ยงของวันรุ่งขึ้นซูไป๋และดอตตี้เดินทางมาที่บริษัท โดยพาเอริคไปกับเขาด้วยเพื่อปล่อยให้เอริคคอยปกป้องบริษัทเอาไว้ชั่วคราว เพราะเขาได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตในบรองซ์ด้วยตัวเองแล้ว หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หันหลังกลับและเดินออกมาจากทีมรักษาความปลอดภัย เอริคได้รับหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการภายในบริษัทชั่วคราว ในขณะเดียวกันก็ถือได้ว่าเป็นการฝึกฝนอย่างหนึ่ง ท้ายที่สุดแล้วเอริคก็ไม่ได้เด็กจนเกินไป การสะสมประสบการณ์ในตอนนี้จะเป็นตัวเบิกทางไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพและความสามารถของเขา ถ้าเขาไม่ฝึกฝนอย่างหนัก แม็กนีโตจะยังคงเป็นแม็กนีโตที่เขาเคยเห็นมาอยู่หรือเปล่า?
เมื่อเขามาถึงบริษัทเขาและเอริคก็พากันมุ่งหน้าไปยังห้องปฏิบัติการชั้นใต้ดินเพื่อตรวจสอบความคืบหน้า หลังจากนั้นไม่นานซูไป๋ก็ลงมาถึงและเห็นกลุ่มคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่
"เอสเบท"
"ผมได้จัดเตรียมทุกอย่างที่คุณสั่งเอาไว้เมื่อวานเรียบร้อยแล้วครับ สี่คนนี้จะถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่เพื่อความปลอดภัยของบริษัท ส่วนสมาชิกที่เหลืออีกสี่สิบหกคนของทีมรักษาความปลอดภัยรวมถึงผมจะติดตามคุณซูไป๋ไปเพื่อทำภารกิจในครั้งนี้ครับ" เอสเบทพูดขึ้น
"มากขนาดนี้เลย? นายได้บอกพวกเขาหรือเปล่าว่าภารกิจในครั้งนี้มันอันตรายมาก?" ซูไป๋รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะตอนแรกเขาคิดว่าคงจะมีเพียงไม่กี่คนที่จะไปกับเขา
"ในเมื่อคุณซูไป๋ให้ค่าจ้างพวกเรามากขนาดนี้ นี่คือสิ่งที่พวกเราควรจะทำ ... และพวกเราแต่ละคนก็ได้คิดไต่ตรองกันมาเป็นอย่างดีแล้วครับ" เอสเบทพูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม
"นายขับรถได้ไหม?"
"เราจะทำการวางแผนกันก่อน!"
"ว่าแต่นายเคยได้ยินเกี่ยวกับสโมสรเฮลไฟร์คลับบ้างไหม?"
"ผมเคยได้ยินมาว่ามันเป็นไนต์คลับระดับไฮเอนด์ที่มีเงินหมุนเวียนในระดับสูงมาก และผมยังได้ยินมาอีกว่ามีเจ้าของไนต์คลับสองคนที่อ้างว่าเป็นราชาขาวและราชาดำที่ลึกลับเป็นอย่างมาก สมาชิกแต่ละคนในสโมสรนั้นร่ำรวยและใช้แต่ของราคาแพงและพวกเขาทั้งหมดก็เป็นคนชั้นสูง และถ้าเกิดว่าไม่ใช่พวกคนรวยก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เข้าร่วมกับสโมสร และในตอนที่อีเกิลส์ต้องการเข้ายึดครองสโมสร แต่ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการสอนบทเรียนกลับมาและเขาก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้อีกเลยครับ" เบสเอทพูดขึ้น
"มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรอ? ฮ่า ๆ สมควรแล้วที่เขาตายไป เพราะอยู่ไปก็รกโลก ในเมื่อนายรู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้วมันก็ง่ายมากที่จะจัดการต่อ นายและใครสักคนหนึ่งขับรถไปที่นั่นและบอกชื่อของฉันไป และให้พวกเขาจัดเตรียมอาวุธและอุปกรณ์ให้กับพวกนาย พวกนายต้องการอะไรก็บอกกับพวกเขาไป เข้าใจไหม?" ซูไป๋หันไปสั่ง
เอสเบทหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะถามขึ้นมาด้วยความลังเลว่า "คุณชายนี่คือ ...?"
"นายไม่ได้บอกหรอว่าเฮลไฟร์คลับมีราชาคู่ขาวดำ และฉันก็คือราชาขาว!" ซูไป๋พูดขึ้นมาเบา ๆ
เอสเบทอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าไปลึก ๆ ด้วยความตกตะลึง คุณซูไป๋ ... ราชาขาว? กลายเป็นว่าเขาคือราชาชาวที่ลึกลับที่สุดในเฮลไฟร์คลับ? มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับสโมสรเฮลไฟร์คลับ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีราชาสองคน แต่ราชาดำก็มีโอกาสเห็นตัวได้มากกว่าราชาขาวที่ลึกลับเป็นอย่างมาก
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาบอกให้ไปเอาอาวุธที่นั่น และฆ่าอีเกิลส์ทันทีโดยไม่สนผลที่จะตามมาภายหลังได้แบบนี้
อีเกิลส์ช่างโชคร้ายจริง ๆ!
หากอีเกิลส์รู้ว่าซูไป๋คือราชาขาวเขาคงไม่กล้าทำแบบนี้อย่างแน่นอน
"ได้ครับผมจะไปเดี๋ยวนี้!"
เอสเบทตอบรับและคัดเลือกคนมาหนึ่งคนให้ไปเอาอาวุธและอุปกรณ์กับเขา
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าภารกิจในครั้งนี้คืออะไร แต่มันก็ไม่ใช่ภารกิจง่าย ๆ อย่างแน่นอน และการที่ให้ไปเอาอาวุธและอุปกรณ์แบบนี้ ถ้าฟังคำพูดของซูไป๋ดี ๆ ก็จะเข้าใจได้ว่าอาวุธและอุปกรณ์พวกนี้จะไม่ต้องส่งกลับคืนไปในภายหลัง กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือนี่จะกลายเป็นของทีมรักษาความปลอดภัยของพวกเขาในอนาคต แน่นอนว่าจะต้องเลือกอย่างระมัดระวัง ซึ่งเอสเบทไม่ค่อยรู้ในเรื่องนี้มากนัก ดังนั้นหน้าที่พวกนี้จึงตกเป็นของทหารผ่านศึกที่รู้เกี่ยวกับอาวุธปืนเป็นอย่างดี
ใช้เวลาไม่นานพวกเขาทั้งสองคนก็มาถึงเฮลไฟร์คลับ
เมื่อพวกเขามาถึงหน้าประตูของเฮลไฟร์คลับ พวกเขาทั้งสองคนก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ โดยไม่รู้ตัวก่อนที่จะเปิดประตูรถออก
ทันทีที่พวกเขาลงมาจากรถก็มีเด็กรับรถเดินเข้ามาพวกเขาทันที
เอสเบทไม่คุ้นชินกับสถานการณ์แบบนี้จริง ๆ ก่อนที่จะเขาพูดปฏิเสธขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว และพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็วต่อว่า "ไม่เป็นไร พวกเรากำลังมองหาผู้จัดการของที่นี่"
"กำลังมองหาผู้จัดการ?"
เด็กรับรถมองไปที่พวกเขาทั้งสองคน เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนนี้ไม่ได้แต่งตัวเหมือนคนรวยเลย และก็ไม่ได้แต่งตัวเหมือนผู้มีอำนาจหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้วย แต่พวกเขาบอกว่ากำลังมองหาผู้จัดการ นี่มัน ...
โปรดติดตามตอนต่อไป …