ตอนที่ 38 เข้าใจโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณลม(อ่านฟรี11/03/2566)
ตอนที่ 38 เข้าใจโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณลม
พายุเหนือท้องฟ้าดูดกลืนทั้งเศษฝุ่นโลหะและสนิมสีแดงลอยไปมาอย่างรุนแรง ในด้านในอัดแน่นไปด้วยอนุภาควิญญาณที่ตัดขาดสัญญาณและพลังงานต่าง ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ไฮเทคในโลกยุคปัจจุบันนี้ที่แม้จะผ่านมาเนิ่นนานหลายร้อยปีแล้วก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงอนุภาควิญญาณได้อย่างถ่องแท้
นั้นเป็นเพราะการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่แยกออกจากกัน
สหพันธรัฐดาวอังคารมีพื้นฐานมาจากอารยธรรมโลกที่ใช้พลังงานฟอสซิส นิวเคลียร์ ฟิวชั่น น้ำ แสงอาทิตย์ ลม ความร้อนใต้พิภพ ไฮโดรเจนและอื่น ๆ มาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า
ทำให้สหพันธรัฐยังคงพัฒนาพลังเหล่านี้มาตลอด อาจจะมีเทคโนโลยีที่วิจัยไปยังพลังงานประเภทอื่น ๆ แต่เทคโนโลยีของโลกมนุษย์นั้นแทบไม่สามารถแตะต้องอนุภาควิญญาณสุดจะลึกลับได้เลย
ยกเว้นก็แต่หมอผีที่เป็นตัวตนที่ถูกสหพันธรัฐปกปิดไว้ในความมืด ถึงการมีอยู่ของพวกเขา
หมอผีคือมนุษย์ที่พิเศษที่มีจิตสัมผัสที่เป็นเครื่องมือในการรับรู้ถึงอนุภาควิญญาณ หมอผีนั้นถือว่าอนุภาควิญญาณก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ที่ควรจะศึกษาอย่างยิ่ง
และตอนนี้ลีโอได้ก้าวข้ามวิธีการที่ใช้เพียงพลังจิตในการเฝ้าศึกษาอนุภาควิญญาณแล้ว ดวงตาของลีโอมองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลง เรียนแบบมันตามธรรมชาติของพลัง
โครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณลม การจะศึกษามันลีโอต้องเข้าใจก่อนว่า ลมนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
คำถามนี้ลีโอไม่ต้องไปคอยหาคำตอบเอง เพราะมีการศึกษามันมานานมากเป็นหลายร้อยปีอยู่ก่อนแล้ว และในความทรงจำของลีโอคนเก่าก็มีจดจำไว้อย่างชัดเจน
ลม นั้นคือการไหลเวียนของอากาศ โดยสิ่งที่ทำให้เกิดคือ อุณหภูมิที่ต่างกัน ลมร้อนลอยตัวขึ้น ลมเย็นกดตัวลงต่ำ ให้อากาศไหลเวียนและสภาพแวดล้อมให้ลมนั้นเปลี่ยนแปลง
เช่นเหมืองมรณะที่เกิดเป็นพายุวนเวียนอยู่ไม่ไปไหนนั้นเพราะว่าที่เหมืองนั้นอากาศเย็นมากกว่าจึงดูดเอามวลอากาศรอย ๆ เข้ามาสู่จุดศูนย์กลาง ณ ที่แห่งนี้
และสิ่งที่ทำให้เกิดความเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาตลอดนี้คืออนุภาควิญญาณ
สิ่งนี้นับว่าเป็นของขวัญสำหรับลีโอในการศึกษาโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณ ลีโอมองดูการสร้างความต่างของอุณหภูมิที่อนุภาควิญญาณกระทำต่ออากาศรอบ ๆ
ความรู้ด้านโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณลมของลีโอกำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ลีโอได้บรรลุโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณลมตั้งแต่ 2 วันแรกแล้ว แต่เขายังคงจมอยู่กับมันต่อไปราวกับว่าเขาชื่นชอบมันเป็นอย่างยิ่ง กินดื่มความรู้เหล่านี้มากเพียงใดก็ไม่เต็มอิ่ม
โครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณลมของลีโอพัฒนาอย่างต่อเนื่องเกินกว่าที่โครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณไฟของลีโอจะเทียบทานได้แล้ว
ในครั้งที่ลีโอเริ่มเข้าใจและมองเห็นโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณไฟ เขาสามารถทำให้เปลวไฟสั่นไหว และในครั้งนี้เมื่อลีโอเข้าใจและมองเห็นโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณลมอย่างถ่องแท้รอบตัวของลีโอก็ดึงดูดสายลมจากเบื้องบนท้องฟ้าเข้ามาหา จนเกิดเป็นลมพายุหมุนที่รุนแรงกว่าปรากฏการณ์ครั้งแรกมาก
ร่างกายของลีโอถูกกระแสลมกระทบอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าสังเกตดี ๆ จะพบว่ารอบตัวของลีโอมีลมห่อหุ้มหักล้างกับลมที่ปะทะเข้ามา ทำให้ตัวของลีโอยังคงนั่งเงยหน้ามองท้องฟ้าได้โดยไม่โดนพัดปลิวไฟ
แต่สิ่งที่เกิดนี้กับสร้างความตื่นตกใจให้กับเหล่าคนธรรมดาทั้งสามอย่างซูซี่ แฮงแมน และฮานอยู่ไม่น้อย พวกเขาตกใจว่าลมมาจากไหน เพราะอุปกรณ์ตรวจจับสภาพอากาศก็ไม่แจ้งเตือนเรื่องนี้
แต่อยู่ ๆ วันที่สามลมก็กรรโชกรุนแรงจนผิดสังเกต สุดท้ายพวกเขาก็รู้ว่านี่เป็นฝีมือของลีโอที่อยู่ด้านบน นี่ทำให้ทั้งสามรู้สึกเกรงกลัวลีโอขึ้นมา เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าลีโอทำได้อย่างไร
เข้าวันที่สี่ในสุดลีโอก็ลุกขึ้นยืนด้วยแววตาที่ล้ำลึกและเผยรอยยิ้มออกมา
‘ข้าเข้าใจมันอย่างถ่องแท้แล้ว แถมยังเข้าใจยิ่งกว่าโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณไฟเสียอีก’
ลีโอสติกลับมาครบถ้วนแล้ว เขามองไปรอบ ๆ ก่อนจะพบว่าของรอบ ๆ นั้นโดนเก็บกลับเข้ามาแล้ว เป็นสัญญาณว่าการขุดเหมืองนั้นจบสิ้นแล้ว
“เสาเขตแดนกะพริบเตือนอะไรหรือไม่” ลีโอเข้ามาด้านในรถและสอบถาม
“ไม่มี” แฮงแมนตอบ
‘อาจจะเพราะการปั่นป่วนของอนุภาควิญญาณจากการศึกษาของข้าทำให้พวกวิญญาณเร่ร่อนไม่เข้ามาใกล้บริเวณนี้’ ลีโอกล่าวในใจ แน่นอนว่านี่อาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่อย่างไรการเข้ามาในเหมืองก็ใช่ว่าจะต้องพบเจอกับผีร้ายอยู่ทุกวันอยู่แล้ว
แม้จะน่าเสียดาย แต่ก็ไม่เป็นอะไร เพราะลีโอเข้าใจโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณลมแล้ว
“ท่านหัวหน้าพวกเราขุดแร่ครบตามจำนวนแล้ว จะกลับเลยหรือไม่”
“ตามนั้นก็แล้วกัน”
ลีโอกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าอยู่ลึก ๆ เนื่องจากหลายวันที่ผ่านมาเขาใช้พลังจิตสัมผัสผสานกับการมองเห็นเพื่อเรียนรู้โครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณลมอย่างต่อเนื่อง
หลังจากกล่าวลีโอก็เดินเข้าไปที่ห้องน้ำล้างหน้าสักเล็กน้อยและกลับมานั่งพักที่เบาะนั่งของตนเอง
“ไปกันเถอะ” แฮงแมนป้อนข้อมูลให้กับซูซี่
ซูซี่เหลือบมองลีโอที่หลับตาลงพักผ่อนอยู่ ก่อนจะหันมาพยักหน้ารับคำพูดของแฮงแมนและขับรถกลับไปที่ฐานขุดเจาะทันที
...
หลังจากกลับมาถึงทุกอย่างยังคงดำเนินเหมือนเดิม ต่างกันที่ครั้งนี้ลีโอไม่ต้องไปหาหมอผีแท้จริงที่รับผิดชอบเวรอยู่ แต่ยังคงต้องเขียนรายงาน
ลีโอจัดการเขียนเรื่องราวอยู่ ลีโอจึงเปลี่ยนการรายงานจากวิญญาณสิงสถิตไปเป็นวิญญาณเร่ร่อน ที่ทำแบบนี้เพราะว่ามันง่ายต่อการรายงาน เขาไม่ต้องเขียนบอกเรื่องของไฟฉายที่เป็นวัตถุวิญญาณ ลีโอไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องนี้ เพราะสิ่งนี่สามารถระบุถึงความแข็งแกร่งของคนผู้หนึ่งได้
หมอผีฝึกหัดที่พึ่งเข้าสู่ระดับ 1 กลับสามารถจัดการผีสิงสถิตได้คงน่าสงสัยไม่น้อย
แน่นอนว่าลีโอนั้นไม่ใช่หมอผีฝึกหัดระดับ 1 แล้ว แต่เป็นระดับ 2 ขั้นกลางเสียด้วยซ้ำเพียงแต่เขาไม่ได้ไปรายงานเท่านั้น ที่สำคัญการต่อสู้กับผี สิ่งที่นี่น่ากลัวคือการมองไม่เห็นมัน
ต่อให้มีจิตสัมผัสก็เพียงสัมผัสได้ตามระดับพลังจิตของแต่ละบุคคล
ลีโอรีบรายงานว่ากำจัดไปสองวิญญาณเร่ร่อนและตรงกลับเข้าห้องพักทันที เขาไม่ได้เริ่มเขียนยันต์ภายในห้องพัก แต่เข้าไปในโลกมิติดวงตาผนึกเทพสถานที่เขาสามารถควบคุมทุกสิ่งได้อย่างแม่นยำมากที่สุด
เมื่ออยู่ในโลกของเขาแล้วก็ทำให้เขามั่นใจมากขึ้น ลีโอจึงเริ่มเขียนยันต์ลมทันที
ลีโอนั่งลงเอาชุดอุปกรณ์เขียนยันต์ออกมา จากนั้นก็ลงมือเขียนยันต์ลมแผ่นแรก ใช้เวลาสักพักใหญ่ ๆ จึงเสร็จสิ้น
“สำเร็จ” ลีโอถือยันต์แผ่นสี่เหลี่ยมในมือด้วยแววตายินดี ก่อนจะทดลองใช้งานมันดู
พรึบ!
ยันต์ลมถูกกระตุ้น เบื้องหน้าของลีโอก็มีมวลอากาศก่อตัวขึ้นมาก่อนจะพุ่งออกไปคล้าย ๆ กับบอลไฟ เพียงแต่นี่คือบอลลมอัดอากาศจนพื้นดินด้านหนึ่งโดนกระแทกยุบลง
“ผลลัพธ์นั้นน่าพอใจ จัดอยู่ในประเภทชั้นสูง” ลีโอพึมพำวิเคราะห์ระดับยันต์ของตนเอง
“แต่ว่ายันต์ลมนั้นไม่เหมาะที่ใช้กับผีเท่าไหร่ มันเหมาะกับพวกภูติหรือผีปีศาจที่มีร่างกายภาพมากกว่า”
ผีนั้นสามารถหลายตัวและทะลุผ่านวัตถุกายภาพได้ ไฟนั้นทำร้ายมันได้อย่างรุนแรง เหมือนเช่นที่ทำกับภูติและปีศาจ แต่ลมนั้นแม้จะมาจากอนุภาควิญญาณ แต่ก็สร้างผลกระทบไม่มากนัก อย่างมากคงจะทำให้มันกระเด็นออกไปเท่านั้น แต่ถ้าใช้กับปีศาจและภูติที่มีร่างกายจะได้ผลดีกว่า เพราะทั้งสองสิ่งมีร่างกายภาพที่ถ้าโดนกระแทกคงเจ็บหนักไม่น้อย เพราะใช้กับคนด้วยกันก็เหมาะเช่นกัน
“ยันต์ลมนี่เป็นเพียงรูปแบบแรก ถ้าอยากจะทำให้มันโจมตีวิญญาณได้ผลที่ดีต้องเป็นยันต์คลื่นเสียงที่ใช้ความรู้ด้านอักขระวิญญาณคลื่นเสียงใกล้เคียงกับยันต์ลม”
ความรู้ความเข้าใจด้านโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณลมของลีโอนั้นไปไกลจนแทบจะใกล้เคียงกับอักขระวิญญาณระดับ 1 แล้ว ถ้าเขาข้ามไปอีกเล็กน้อยก็สามารถสร้างยันต์ระดับ 1 ได้เลยเดียว แน่นอนว่าพลังจิตของลีโอคงยังไม่มากพอในการสนับสนุน ถ้าอยากจะสร้างจริง ๆ อาจจะต้องหาวัตถุภายนอกเข้ามาสนับสนุน
“ข้าน่าจะลองสร้างยันต์คลื่นเสียงได้ระดับ 0 ที่สร้างยากมากเป็นอันดับต้น ๆ ในยันต์ระดับ 0 แต่ถ้าสร้างในโลกมิติก็คงสำเร็จ แถมข้ายังมีงวัตถุดิบอย่างดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวน”
ลีโอมองไปยังต้นดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเก็บดอกของมันไปขายให้กับลูคัส
เมื่อคิดได้ก็ลงมือในทันที แต่ว่าเขายังต้องศึกษาอีกสักหน่อย จึงเลือกจะสร้างยันต์ลมไปก่อนจนกระทั่งผ่านไปอีก 1 วันเขาเริ่มชำนาญมากขึ้นลีโอจึงหยุดพักฟื้นฟูพลังจิตด้านนอกเพื่อเตรียมตัวในการเรียนรู้โครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณเสียง
ในระหว่างนั้นลีโอออกมาด้านนอกพอดีและได้รับภารกิจขุดเหมืองที่เริ่มในอีกวันพอดี
“ดูเหมือนเวลาจะไม่คอยท่าสักเท่าไหร่” ลีโอกล่าว ก่อนจะเดินออกไปด้านนอกห้องพัก หาสถานที่เต็มไปด้วยเสียงเพื่อทำความเข้าใจในขั้นสุดท้ายของโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณเสียง
สถานที่ซึ่งมีเสียงดังมากที่สุดในยามค่ำคืนของที่เหมืองมรณะจะเป็นที่ใดไม่ได้ก็นอกจากบาร์ในเมือง