ตอนที่ 1032 ทดสอบจุดอ่อนของมนุษย์?
ผ่านเข้าประตูทางเข้ายุคโบราณ เย่ว์หยางและหลิวเย่ว์เทเลพอร์ตเข้าไปยังพื้นที่มืด
เป็นพื้นที่มืดสนิท
มีความคล้ายคลึงกับผนึกมิติหลุมดำ แต่ไม่มีพลังกลืนกินที่น่ากลัวในพื้นที่มืดมิดนี้เย่ว์หยางคิดว่าคงจะมีกฎสวรรค์ห้ามแสง ไม่ว่าจะเป็นเปลวไฟมุกส่องแสงหรือพลังงานส่องสว่างจะถูกตัดไม่ให้ใช้
ไม่มีแสงสำหรับหลิวเย่ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย แต่ช่วยปิดบังความอายให้นางในเวลานี้
การใช้ทักษะมองกลางคืนสำหรับเย่ว์หยางถือว่าเป็นทักษะเด็กๆ
นอกจากนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยตาแต่ด้วยพลังจิตหรือสนามพลังของเขา เย่ว์หยางสามารถเดินผ่านโลกมืดนี้ได้อย่างสบาย
หลิวเย่ตกอยู่ใต้แรงกดดันของความอายกังวลและกลัว ปล่อยให้เย่ว์หยางจูงมือนางเดินนำ นางได้แต่ติดตามเขาไม่ทราบว่าเขาจะนำนางไปยังเป้าหมายใด ตราบใดที่อยู่กับเขานางมั่นใจเต็มร้อย ไม่ต้องไปนึกถึงเรื่องไม่พึงประสงค์อื่นๆ หลิวเย่ไม่พูดอะไรและนางรู้สึกถึงความร้อนจากมือของเย่ว์หยางเงียบๆ
บางทีอาจเดินไปแค่สักสิบนาทีหรืออาจจะนานกว่านั้น
หลังจากที่หลิวเย่ตั้งสติได้นางพบว่าเย่ว์หยางนำนางออกจากความมืดเข้ามาในพื้นที่แสงสว่าง ในพื้นที่นั้นมีแสงสว่างสดใสตรงข้ามกับความมืดทุกอย่างสว่างสดใสจนนางแทบลืมตาไม่ได้ ถ้านางฝืนใช้ตามอง จะรู้สึกแสบตายิ่งกว่ามองดวงอาทิตย์ตอนกลางวัน แสงสีขาวนั้นสว่างซึมซาบลึกจนถึงวิญญาณ ตอนนี้ไม่มีร่องรอยที่มืดอับแสง เมื่อเทียบกับความมืดที่เพิ่งผ่านมา หลิวเย่ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องเข้าไปอยู่ในที่มีแสง นางอึดอัดใจกับการเดินผ่านในพื้นที่มีแสงมากกว่าเดินในความมืดที่ยากจะจำแนกแยกแยะความแตกต่างของทิศทางและสถานที่
หลิวเย่ในขณะนี้ไม่รู้สึกถึงอย่างอื่นนอกจากการปรากฏตัวของเขาเย่ว์หยาง
เดินตามเย่ว์หยางเหมือนหุ่นยนต์เมื่อผ่านไปชั่วขณะ
ทันใดนั้นดูเหมือนว่าพวกเข้าก้าวเข้าไปในภูมิประเทศแปลกประหลาด
จู่ๆความมืดแผ่เข้ามาหา หลิวเย่ไม่มีเวลาตั้งตัวได้ทัน และพบว่าตัวนางเองเดี๋ยวจมอยู่ในความสว่างและก็มืดทับซ้อนสลับกันระหว่างความเร็วนางเข้าไปในช่องทางใหญ่ ในช่องทางนั้นมีแสงสลับกับความมืดเป็นวงๆ นับไม่ถ้วนในทางผ่าน
ตอนนี้หลิวเย่รู้สึกเวียนหัวและอึดอัด นางรู้สึกอยากอาเจียน
แสงกับความมืดเปลี่ยนแปลงสลับเร็วเกินไป นางไม่คาดว่าจะเป็นพลังที่น่ากลัวขนาดนั้น หลิวเย่ตกใจ ถ้านางต้องสู้กันในภูมิประเทศเช่นนี้ นางจะสู้ได้สักเท่าใด? ถ้านางต้องเทเลพอร์ตผ่านเส้นทางระยะไกลในภูมิประเทศอย่างนี้นางจะไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จหรือไม่? สีหน้าของหลิวเย่ตกตะลึงเมื่อพบว่าในพื้นที่ภูมิประเทศนี้พลังการต่อสู้ของนางอ่อนแอลงจนแทบถึงที่สุด และการเทเลพอร์ตทางไกลออกไปแบบเดียวกัน นางคิดว่าคงจะทำได้ไม่สำเร็จ
“โชคดีที่ไม่มีศัตรูอยู่ที่นี่!” หลิวเย่อดรำพึงความในใจไม่ได้
“ศัตรู? อาจจะมีแต่เรายังไม่พบ” เย่ว์หยางจูงมือหลิวเย่เดินไปข้างหน้าบางครั้งหลิวเย่ก็ทึ่ง เขาแยกแยะเส้นทางได้อย่างไร? ถ้านางต้องการเปลี่ยนแปลงตนเอง ก็อย่าตำหนิตนสร้างกำแพง นางเกรงว่าจมูกน้อยๆของนางอาจบวมเป่งก็ได้
ขณะผ่านพื้นที่มีแสงและความมืดตัดกัน หลิวเย่เห็นเส้นทางประหลาดทางซ้ายและขวา
คดโค้งเหมือนกับไส้เดือน
ทั้งโค้งและบิดเบี้ยว
ดินแดนมหัศจรรย์แห่งความมืดสลับแสงทำให้นางเห็นแล้วหลังเหงื่อเยียบเย็น
นี่เป็นมิติทางเข้าโบราณแบบไหน? มีสถานที่แปลกประหลาดแบบนี้ได้อย่างไร?
หลังจากเดินผ่านเส้นทางที่มีแสงสว่างเล็กน้อย เย่ว์หยางพาหลิวเย่ออกไปยังบริเวณที่มืดมิดไร้แสงภายนอกส่องเข้ามาสิ้นเชิง มีแต่จุดแสงสว่างเหมือนดวงดาวเล็กน้อยตอนนี้หลิวเริ่มเห็นชัด ปรากฏว่าดวงดาวเหล่านั้นเป็นสมบัติหรือหีบสมบัติที่เปล่งแสงระยิบระยับ ในท่ามกลางความมืดดูเหมือนว่าจะมีทางเดินเหมือนเขาวงกตที่สามารถเข้ามาถึงแสงดาวเหล่านั้นได้และอาจจะถูกกลไกกับดักกักขังไว้ที่ครึ่งทาง หลิวเย่รู้ว่าโอกาสของนางมาถึงแล้ว ด้วยแสงเหมือนแสงดาวนำทางเป็นเป้าหมายและนางมีกวางทะลุมิติใช้เทเลพอร์ตผ่านกำแพงอีกครั้งได้อย่างไร นางจะพาเขาเดินผ่านเขาวงกตตรงไปยังด้านหน้าของขุมทรัพย์หรือหีบสมบัติที่เปล่งแสงเหมือนดวงดาว
หลิวเย่เรียกกวางทะลุมิติ
กวางเดินไปถึงขอบหีบสมบัติที่เต็มไปด้วยประกายแสงดวงดาว
ขณะเดียวกันนั้นหลิวเย่จูงมือเย่ว์หยางใช้ทักษะลับเทเลพอร์ตมาถึงพร้อมกันโดยไม่สนใจว่ามีอุปสรรคขวางกั้น
หลังจากเปิดหีบสมบัติทองคำแล้วหลิวเย่พบว่าข้างในหีบทองเต็มไปด้วยอัญมณีคุณภาพดีที่สุด มุกส่องแสงและสร้อยดารามีแม้กระทั่งกริชดำศักดิ์สิทธิ์
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
ต้องพยายามให้หนักต่อไปในอนาคต นางชอบของวิเศษและต้องช่วยให้เขาได้สมบัติที่ดีกว่ายิ่งขึ้น
ถึงตอนนั้นเขาจะได้ฝึกฝนอย่างเคร่งครัดไม่พบกับความพ่ายแพ้...หลิวเย่ยินดีอยู่ในใจและลอบหันไปมองหน้าเขา บางครั้งก็ยิ้มให้
“......” สีหน้าของเย่ว์หยางแปลกประหลาด ไม่เพียงแต่ไม่ตื่นเต้น แต่ยังขมวดคิ้วแทบติดกัน
นี่นี่เหมือนกับไม่ได้รับสมบัติอะไรเลย!
หลิวเย่ไม่เข้าใจ
เขาไม่ชอบสมบัติจริงๆหรือ?
ทำไมหลังจากเปิดหีบสมบัติแล้วเขาต้องขมวดคิ้ว?
“มีกับดักใต้หีบใส่สมบัติเหล่านี้หรือไม่?” ใจของหลิวเย่มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาและนางตระหนักว่าปัญหาบางอย่างอาจมีอยู่ ไม่ว่าหีบทองคำนี้จะเป็นกับดักหรือไม่ หรือว่าเมื่อนำของออกมาอาจไปกระตุ้นกลไกที่น่ากลัว? ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาถึงขมวดคิ้ว? ทำไมไม่เก็บสมบัติเหล่านั้น?
“ไปดูที่หีบสมบัติอื่นกันก่อน!” เย่ว์หยางตัดสินใจ
“ก็ได้!”
หลิวเย่ใช้กวางทะลุมิติไปยังหีบสมบัติที่ส่องประกายเหมือนดวงดาวขณะเดียวก็พาเย่ว์หยางเทเลพอร์ตไปด้วย
เมื่อเปิดหีบสมบัติที่สองออกดูปรากฏว่าพบเจอ‘หญ้าเงินสามวิญญาณ’แต่มีขวดน้ำทิพย์อยู่หลายขวดและกระดาษแผ่นหนึ่งดูคล้ายเป็นเคล็ดวิชาลับในตำนาน
เย่ว์หยางเห็นแล้วยิ่งขมวดคิ้วแนบแน่นกว่าเดิม
หลิวเย่ตะลึงถาม “มีอะไรหรือ? ทั้งหมดนี้เป็นของปลอมใช่ไหม?”
เย่ว์หยางลูบศีรษะนางเบาๆ “เป็นของจริง!”
หลังจากได้ยินคำตอบของเย่ว์หยางหลิวเย่ยิ่งประหลาดใจมากกว่าเดิม ถ้าเป็นของปลอม ไม่มีความสุขพอใจก็เป็นเรื่องปกติ แต่นี่เป็นของจริงทำไมถึงไม่มีความสุข? นางประหลาดใจแต่ไม่พูดออกมา นางเชื่อในตัวของเขา แม้ว่านางจะไม่ทราบว่าเหตุผลคืออะไร แต่เขาทำเช่นนี้ต้องมีเหตุผลแท้จริงในใจของหลิวเย่คิดได้เท่านี้
หีบสมบัติที่สามที่สี่ ที่ห้าและที่หกถูกเปิดตามๆ กัน
สิ่งที่อยู่ข้างในเป็นสมบัติวิเศษที่หาได้ยากทั้งหมด
เย่ว์หยางไม่เหมือนกับที่เคยเป็นมาตามปกติเมื่อพบเห็นสมบัติมากมาย เขาไม่เตะต้อง แต่ขมวดคิ้วมากขึ้นทุกที
“นี่เหมือนกับประตูเป็นตายในหอทงเทียนสิ่งที่เห็นเป็นภาพลวงตาที่แท้จริงหรือ?” หลิวเย่คิดถึงความเป็นไปได้อีกครั้ง
“ไม่ ที่นี่เหมือนกับประตูเป็นตายแต่ไม่ได้อยู่ที่นี่ และสมบัติเหล่านี้เป็นของจริงไม่ใช่ภาพลวงตา ถ้าสิ่งของเหล่านี้เป็นภาพลวงตาข้าสามารถมองออก ปัญหาก็คือของเหล่านี้จริงทั้งหมดทำให้ข้ารู้สึกสงสัย” เย่ว์หยางพูดจบ เขาหยุดนิ่งเล็กน้อยและพูดต่อ “นี่อาจเป็นการทดสอบ ไม่ใช่เป็นการทดสอบเจ้า แต่เป็นการทดสอบข้า”
“มีบางคนลอบสร้างเหตุผีสางนี่หรือเปล่า?” หลิวเย่ตกใจ และเริ่มตัวสั่น ร่างของนางจะให้คนภายนอกเห็นได้อย่างไร?
“ไม่มีใครแน่ น่าจะเป็นพลังกฎสวรรค์!” เย่ว์หยางรีบโบกมือปลอบใจนาง “ข้ากำลังคิดถึงปัญหาข้อหนึ่ง พลังของกฎสวรรค์นี้รู้ว่าจิตใจของเจ้าบริสุทธิ์แค่ไหนจากนั้นจึงทำการทดสอบความโลภของข้า?”
“ทดสอบความโลภ?” หลิวเย่ไม่ค่อยเข้าใจนัก
“พลังของกฎสวรรค์ที่นี่จงใจตั้งหีบสมบัติไว้ที่นี่แน่นอนในกรณีแรกนี้คือวิธีการที่นักออกแบบคนแรกใช้เพื่อทำการทดสอบความโลภ ถ้าข้าเก็บเอาสมบัติเหล่านี้ใช่แล้วข้าสามารถเก็บเอาไปได้ แต่ถ้าข้าเก็บไปมากกว่าหนึ่งหีบจะทำให้เกิดข้อจำกัดของกฎสวรรค์ที่นี่ คาดว่าข้าอาจถูกเนรเทศออกไปนี่คือการทดสอบความโลภสำหรับผู้ที่เข้ามาในนี้ และข้ารู้สึกได้อย่างไร? เจ้าไม่มีความคิดครอบครองสมบัติเหล่านี้และเจ้าไม่สามารถสัมผัสถึงการมีอยู่ของพลังกฎสวรรค์ ข้ามีความตั้งใจจะค้นหาสมบัติข้าจึงรู้สึกได้ว่ามีพลังกฎสวรรค์กำลังรอให้ข้าถูกหลอก และมันจะใช้พลังเล่นงานข้า!” ต่อหน้าของวิเศษดีๆมากมายในหีบสมบัติเย่ว์หยางถอนหายใจเบาๆ และตัดสินใจไม่ยอมแพ้
“ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอย่างไร?” หลิวเย่รู้สึกเสียดาย เห็นได้ชัดว่ามีสมบัติวิเศษต่อหน้านาง แต่กลับเป็นของใช้ทดสอบความโลภเมื่อแตะต้องไม่ได้นับเป็นของเสียเปล่า!
“ถ้าเราต้องการเดินหน้าต่อ เราต้องไม่สนใจของวิเศษที่อยู่ต่อหน้าเรานี้” เย่ว์หยางหัวเราะ “ตรงกันข้าม ถ้าเราพอใจกับสถานการณ์เพียงเท่านี้เราก็แค่เก็บหีบสมบัติแล้วออกไป”
“อย่างนั้นก็เดินหน้าต่อ!” หลิวเย่รู้สึกว่าอาจมีบางอย่างที่ดีกว่ารอนางอยู่ข้างหน้า
“ถ้าเกี่ยวกับการผ่าน นี่คือข้อสอบเกี่ยวกับ ‘ความโลภ’ หรือ ‘ผลประโยชน์’ อย่างนั้นก็ต้องมีการทดสอบ ความโกรธ ความคลั่ง ชื่อเสียงความรักและอื่นๆ ทั้งหมดนี้คือจุดอ่อนของมนุษย์ โดยเฉพาะสำหรับข้าในตอนนี้” เย่ว์หยางหัวเราะทันที และหัวเราะพูดกับหลิวเย่เสียงดัง “บางครั้งก็เหมือนกับเจ้า ไม่มีความปรารถนานั้นเป็นความทรงพลังอย่างหนึ่ง”
“ข้าไม่ใช่คนดีเหมือนอย่างที่ท่านบอก!” หลิวเย่อายก้มหน้าเล็กน้อยนางไม่รู้เกี่ยวกับการทดสอบอื่น แต่นางเข้าใจว่ามีการทดสอบความรัก นางคงไม่สามารถผ่านด่านทดสอบได้
กลับกันเถอะ เย่ว์หยางตัดสินใจทันที
“ว่าไงนะ?” หลิวเย่ได้ยินคำพูดของเขา นางอดตกตะลึงไม่ได้
“มันยากมาก ในที่สุดข้าก็ต้องเผชิญกับความโลภไม่ง่ายเลยที่จะตระหนักถึงจุดอ่อนของข้า ต่อไปจะมีการทดสอบสถานะปัจจุบันในจิตใจของข้า ข้าอาจไม่พบเจอก็ได้อาจไม่สามารถผ่านด่านได้! ข้ากล้าบอกได้ว่าในการทดสอบที่ยากขึ้นย่อมมีรางวัลที่ดีกว่า แต่น่าเสียดายที่ใจของข้ายังไม่ชัดเจนพอยังไม่บริสุทธิ์พอ... แทนที่จะล้มเหลวกลับไปเพิ่มความแข็งแกร่งและฝึกยืดหยุ่นสภาพจิตใจของข้าก่อนแล้วค่อยตอบสนองตามความต้องการ” เย่ว์หยางถอนหายใจเล็กน้อย“ขุมทรัพย์ยุคโบราณนั้น ข้ายังไม่ดีพอที่จะฉวยเอามาได้ ข้าจะต้องไม่ปล่อยให้ความโลภครอบงำมิฉะนั้นคงโดนหัวเราะเยาะแน่นอน!”
“ไม่จริงเลย ความจริงแล้วมนุษย์ทุกคนมีจุดอ่อน ถ้าไม่มีข้อบกพร่องเลย นั่นไม่ใช่มนุษย์แล้ว แต่เป็นเทพเจ้า” หลิวเย่รีบปลอบเย่หยาง
ในใจนางก็คิดเช่นนั้นจริงๆ
เย่ว์หยางก็มีข้อบกพร่อง
แต่บางครั้งเป็นเพราะเขามีข้อบกพร่องดังกล่าว เขาจึงดูแตกต่างจากคนอื่นมากมายเป็นคนที่น่าสนใจมาก ถ้าไม่มีความผิดมีแต่ความดีล้วนๆ นางคิดว่าเขาสูงส่งกว่านาง นั่นจะเป็นความแตกต่างจนไม่กล้าเข้าใกล้... เทียบกับการมีอยู่ของเทพเจ้าหลิวเย่รู้สึกว่านางชอบจอมลามกอย่างเย่ว์หยางมากกว่า