ตอนที่ 1028 สุขเถิดลูกพ่อ
ประตูเหล็ก
บัดนี้เฒ่าเถี่ยเหมาเข้าใจแล้วว่าจริงๆ แล้วเด็กหนุ่มที่เขามองว่าเป็นเจ้าหนุ่มหน้าขาว ไม่ใช่เด็กหนุ่มธรรมดา แต่เป็นสุดยอดนักสู้ที่ยากตอแย การตัดสินคนจากลักษณะภายนอก ทำให้พรานแก่นักล่าห่านป่ามาทั้งชีวิตต้องถูกห่านป่าจิกตาจนได้
แค่อ่านตาเดินผิดไปก้าวเดียวเป็นเหตุให้สถานการณ์โดยรวมล้มเหลวยากจะกอบกู้
เขามองดูเย่ว์หยางที่กำลังยิ้มด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
หากสามารถย้อนกลับไปได้เฒ่าเถี่ยเหมาจะยอมแพ้โดยไม่ลังเลทันที
อย่างไรก็ตามทุกอย่างเป็นไปไม่ได้ยากจะหวนกลับคืน.. มิน่าเล่าฟูผิงถึงได้มองดูเขา ปรากฏว่าเขาเป็นบุรุษที่คู่ควรแก่การติดตามอย่างแท้จริง ฟูผิงไม่ผิด นางมีสายตาดีเสมอ นางฉลาดอยู่เสมอ!
“เจ้าชื่ออะไร?” เฒ่าเถี่ยเหมาพยายามสงบอารมณ์เท่าที่จะทำได้ ไม่มีทหารฝีมือดีหลายร้อยคนเฝ้าอยู่หน้าประตูเหล็กอีกต่อไป
“ท่านไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อข้าหรอ จริงไหม?” เย่ว์หยางมองดูใจเย็นไม่เหมือนกับผู้รุกรานที่ฆ่าทหารตายเป็นร้อย
“แล้วเจ้าเป็นตัวอะไร?” เฒ่าเถี่ยเหมาถามถึงสถานะของเย่ว์หยาง
“ถ้าท่านถามถึงสถานะของข้า อย่างนั้นข้าขอตอบท่านดังๆ ข้าคือจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แห่งหอทงเทียน” เย่ว์หยางยิ้ม เขายิ้มเหมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์
“ไม่, ไม่, เป็นไปไม่ได้!” เฒ่าเถี่ยเหมาปฏิเสธทุกคำพูดของเด็กหนุ่มเบื้องหน้า เขารู้สึกว่าเด็กหนุ่มเบื้องหน้าเขาอาจเป็นใครก็ได้อาจเป็นนักล่าอัจฉริยะผู้โดดเด่นชาวหอทงเทียนที่ตกค้างในแดนสวรรค์หรือใครอื่นก็ได้ แต่มีอย่างเดียวนั่นคือไม่มีทางเป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ของหอทงเทียนแน่นอน เมื่อจักรพรรดิอวี้รุ่นก่อนเสียชีวิต หอทงเทียนตกต่ำลง เส้นทางเข้าถึงแดนสวรรค์ถูกผนึกไว้เป็นเวลาหลายพันปีไม่มีใครสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระไม่ว่าคนรุ่นหลังจะมีพลังแข็งแกร่งเพียงไรเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลายเป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แห่งหอทงเทียน
“ในเวลากลางวันเฒ่าเถี่ยเหมาทำตัวเป็นชนชั้นแรงงานที่ประตูท่าเรือตะวันออก ส่วนเวลากลางคืนเป็นจอมพลแห่งเผ่าพันธุ์กบฏแล้วทำไมข้าจะเป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แห่งหอทงเทียนไม่ได้?” เย่ว์หยางถามคำถามประหลาด
“เจ้ามีหลักฐานอะไร?” เฒ่าเถี่ยเหมาแค่นเสียง
ตอนนี้เขามั่นใจถึง90% ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดที่ผู้ตกค้างอยู่ในแดนสวรรค์ได้ฝึกฝนขึ้นมาเป็นอย่างดี
ตระกูลผู้รอดชีวิตที่ตกค้างอยู่ในแดนสวรรค์หวังจะใช้เด็กหนุ่มคนนี้ฟื้นฟูความรุ่งเรืองแต่เก่าก่อนของหอทงเทียน ดังนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฝึกฝนให้เด็กหนุ่มข้างหน้านี้ขึ้นมาเป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตามนักสู้ผู้เหลือรอดตกค้างในแดนสวรรค์และเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่มีทางนึกภาพออกแน่ว่าจักรพรรดิอวี้ที่แท้จริงนั้นทรงพลังน่ากลัวเพียงไหน จักรพรรดิอวี้ที่แท้จริงสง่างามเพียงไหน
จักรพรรดิอวี้ผู้ใกล้เคียงนักสู้ระดับเทพมีสมบัติวิเศษชั้นเทพอยู่สามชิ้น
แค่ความแข็งแกร่งของเขาเอง
ก็เพียงพอสั่นสะเทือนแดนสวรรค์ตะวันตกได้ทั้งหมด
แม้แต่ภายใต้การต่อสู้กับเจ้าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์กับสามจอมภพแดนสวรรค์ตะวันตก จักรพรรดิอวี้ก็ยังยืนหยัดต้านทานได้
บุรุษผู้ทำให้แดนสวรรค์ตะวันตกทั้งหมดสั่นสะเทือนถึงจะมีคุณสมบัติเรียกว่าจักรพรรดิอวี้ ส่วนเด็กหนุ่มรุ่นเยาว์นี้มีคุณสมบัติอะไรถึงอ้างตัวว่ารับสืบทอดอำนาจและเรียกตนเองว่าจักรพรรดิอวี้?
เฒ่าเถี่ยเหมาไม่ได้ต่อต้านจักรพรรดิอวี้ แต่เขาสังเกตการสู้รบของเขาเป็นเวลานาน
จนถึงวันนี้เฒ่าเถี่ยเหมายังไม่สามารถกำจัดความกลัวจักรพรรดิอวี้ออกไปจากใจได้
บุรุษอย่างนั้นนับได้ว่าน่าเกรงขามคนอย่างนั้นถึงมีคุณสมบัติพอเรียกว่าจักรพรรดิอวี้ นักสู้อันดับหนึ่งของหอทงเทียน!
เย่ว์หยางมองดูเฒ่าเถี่ยเหมา
แล้วยิ้ม
เขาค่อยๆดึงตราเทพจักรพรรดิอวี้ออกมาจากแหวนเก็บสมบัติ นั่นคือตราเทพจักรพรรดิอวี้ของแท้
สมบัติวิเศษชั้นเทพนี้เปล่งรัศมีเจิดจ้าไม่ต้องพูดถึงพลังกดดันที่ถูกปล่อยออกมาล้วนดีกว่าสมบัติวิเศษชั้นเทพทั้งโลก ก็เหมือนกับเฒ่าเถี่ยเหมาในฐานะจอมพลที่ตกค้างอยู่ในแดนสวรรค์อดคุกเข่าแสดงความเคารพต่อหน้าตราผนึกเทพที่น่ากลัวข้างหน้านี้มิได้ คำสาปโบราณผนึกอยู่ในวิญญาณเขาอย่างสมบูรณ์เนื่องมาจากตราผนึกและพลังไร้เทียมทานในนี้ มีพลังสะท้อนสั่นสะเทือนทันที แม้ว่าเฒ่าเถี่ยเหมาจะฝืนกำลังบังคับก็ตาม แต่ก็ยังไม่อาจเรียกฟื้นฟูพลังได้
เย่ว์หยางเพียงแต่ถือตราผนึกเทพไว้แต่ไม่ได้ลงมือโจมตี
พลังของมันแข็งแกร่งอยู่แล้ว
เฒ่าเถี่ยเหมาเหมือนอยู่ในพายุคลื่นทะเลรุนแรงเสียงกรีดร้องของเขาสั่นสะท้าน “ตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้!”
“ความจริงข้าไม่ต้องการทำอะไรในฐานะจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ ข้าต้องการเป็นตัวของตัวเอง” หน้าของเย่ว์หยางยังคงมีรอยยิ้มเหมือนคุยกับสหายที่ไม่ได้พบเจอมานานแต่คนแดนสวรรค์มีสายตาร้ายกาจ ไม่ยอมจดจำจักรพรรดิอวี้ จำได้แต่นางพญาผู้พิชิต ทำให้คนรุ่นใหม่ของเราไม่มีพื้นที่สำหรับการพัฒนาฝีมือ ต่างจากจักรพรรดิอวี้และนางพญาผู้พิชิต ตลอดทั้งโลกและสวรรค์ ข้าเกรงว่าจะไม่มีใครรู้จักข้าเย่ว์หยางหรืออีกชื่อหนึ่งก็คือคุณชายไตตัน”
“เจ้าผ่านมาตามทางเชื่อมแดนสวรรค์กับหอทงเทียนหรือ?” ผู้เฒ่าเถี่ยเหมาไม่สามารถคิดได้ว่าบุรุษหนุ่มผู้ถือตราเทพจักรพรรดิอวี้สามารถเดินทางผ่านมิติที่แตกสลาย จะทรงพลังขนาดไหน
“ไม่, ข้าไม่จำเป็นต้องเปิดผนึก ข้ามีเข็มทิศสามภพ ของวิเศษของนางพญาผู้พิชิตข้าสามารถเดินทางระหว่างหอทงเทียนและแดนสวรรค์ได้อย่างอิสระข้าเพิ่งกลับไปอาบน้ำอาบท่าที่ทะเลฝนดาวตกหอทงเทียน เจ้าว่าข้าทำได้หรือไม่?” คำพูดของเย่ว์หยางทำผู้เฒ่าเถี่ยเหมาหมดหวังอย่างสิ้นเชิง
รับตกทอดตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้และเป็นศิษย์ของนางพญาผู้พิชิต
เขาทรงพลังจนไม่อาจคาดเดาได้ทั้งยังมีเข็มทิศสามภพที่ได้มาจากนางพญาผู้พิชิตสามารถเดินทางได้อย่างอิสระ
ศัตรูแข็งแกร่งขนาดนี้เขาจะต่อต้านได้อย่างไร?
เฒ่าเถี่ยเหมารู้สึกสำนึกเสียใจ
ถ้ามีเวลาพอจะชุบชีวิตบรรพบุรุษห่างไกลแม้ว่าบรรพบุรุษจะฟื้นคืนชีพหลุดจากผนึกได้ แต่ก็ยังอ่อนแอ ไม่สามารถต่อกรกับเย่ว์ไตตัน หรือเย่ว์หยางผู้นี้ได้ นอกจากจะมีโอกาสซ่อนตัวและฟื้นฟูพลังอย่างช้าๆ จากนั้นจึงค่อยกลับมาช่วยฟื้นฟูเผ่าพันธุ์ต้องสาป ตอนนี้แผนชุบชีวิตบรรพบุรุษเป็นเรื่องเร่งด่วนดังนั้นจึงดึงดูดคุณชายไตตันหรือจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ให้มาปรากฏตัว
ถ้าเพียงแต่มีเวลาอีกหลายวันก็คงดี
ในใจของเฒ่าเถี่ยเหมาสิ้นหวังต้องการฆ่าตัวตาย
“เจ้าฆ่าข้าเถอะ!” เฒ่าเถี่ยเหมาเลิกต่อต้านเด็กหนุ่มข้างหน้า ไม่ว่าเขาจะเป็นจักรพรรดิอวี้แห่งหอทงเทียนจริงหรือไม่ ตราบใดที่เขาถือตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ เขาไม่อาจต่อต้านขัดขืนได้
ตราบใดที่ตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ทำงานถ้าไม่ตายทันที เขาอาจถูกปลุกคำสาปโบราณจนร่างระเบิด
สมบัติวิเศษระดับเทพ โดยเฉพาะสมบัติเทพที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้
ไม่ใช่สิ่งที่พลังของมนุษย์จะต่อต้านได้!
ยังดีว่าในอดีตสามจอมภพแดนสวรรค์ต่อสู้กับจักรพรรดิอวี้ในปีนั้นพวกเขายังต้องรับการลงทัณฑ์จากสมบัติวิเศษนี้... “ถ้าข้าบอกว่า ข้าให้เวลาเจ้าสองสามวัน ท่านจะชุบชีวิตบรรพบุรุษได้ยังไง..?” เย่ว์หยางยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนสุนัขจิ้งจอกขโมยกินไก่
“อะไรนะ ว่าไงนะ?” แม้แต่เฒ่าเถี่ยเหมาที่ใจแข็งยิ่งกว่าเหล็ก ก็ยังอดร้องไม่ได้
“ถ้าข้าต้องการแทรกแซงการชุบชีวิตบรรพบุรุษของท่านอย่างนั้นเมื่อสองสามวันก่อน ขณะที่ท่านพยายามค้นหาข้าในป้อมเหล็กเล็กข้าก็สามารถหยุดได้” เย่ว์หยางพูดเช่นนี้เฒ่าเถี่ยเหมาตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น กลับกลายเป็นว่าลางสังหรณ์ของเขาไม่ผิดพลาด มีศัตรูปะปนเข้ามาจริงๆ เพียงแต่มีพลังแข็งแกร่งเกินไป ถึงเขาสงสัย แต่ก็ค้นหาไม่พบเจอ
“ตราบใดที่ท่านให้เวลาเราอีกสิบวัน ไม่ แปดวันก็พอเราจะชุบชีวิตบรรพบุรุษได้...” เฒ่าเถี่ยเหมารู้ว่าคงพูดไม่ดี แต่เขายังมีความหวังอีกเล็กน้อย
บางทีบุรุษหนุ่มผู้นี้อาจภูมิใจว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุดในโลก
คงไม่ห้ามการชุบชีวิตและมุ่งเน้นถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปนาน
นั่นมิใช่เป็นไปไม่ได้!
หากเป็นเช่นนั้นจริง ยังมีความหวังสำหรับเผ่าพันธุ์ต้องสาป!
การคืนชีพบรรพบุรุษไม่มีความจำเป็นต้องสู้กับจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ผู้นี้ ตราบเท่าที่ซ่อนตัวกลับไปสู่จุดสูงสุดให้ได้และจากนั้นรวบรวมเผ่าพันธุ์ต้องสาปตระกูลต่างๆในทุกที่ของแดนสวรรค์ รวมพลังให้ยิ่งใหญ่ที่สุดย่อมชิงดีชิงเด่นกับคุณชายไตตันผู้นี้ได้แน่นอน
กล่าวอีกอย่างหนึ่งตราบใดที่สามารถคืนชีพบรรพบุรุษได้ ย่อมมีหวังตราบนั้น
เฒ่าเถี่ยเหมาตัดสินใจว่าไม่ว่าเด็กหนุ่มข้างหน้าเขาขอเงื่อนไขอะไร เขาจะยอมสัญญาทุกอย่างถ้าเขายินดีให้โอกาสคืนชีพบรรพบุรุษ
อย่างไรก็ตามขณะที่ความหวังในใจของเฒ่าเถี่ยเหมาเพิ่มขึ้นจนถึงขีดจำกัดเย่ว์หยางกลับพูดจนเขารู้สึกเหมือนตกจากฟ้าร่วงลงนรก เพราะเย่ว์หยางกล่าว “อย่าว่าแต่แปดวันเลย ต่อให้ข้าให้เวลาแปดเดือนหรือแปดปีท่านก็คืนชีพบรรพบุรุษท่านไม่ได้ ท่านผู้เฒ่าผู้ที่วิญญาณแตกสลายไปนานแล้วจะคืนชีพได้อย่างไร? นอกจากนี้จารึกที่อยู่ด้านในไม่ได้ระบุถึงการคืนชีพบรรพบุรุษ แต่เป็นผนึกทางเข้าขุมทรัพย์โบราณ”
เฒ่าเถี่ยเหมารู้สึกเหมือนมีสายฟ้าที่มองไม่เห็นฟาดลงกระหม่อมรู้สึกเหมือนวิญญาณแหลกสลาย
เสาโลหิตที่เขานึกว่าใช้คืนชีพบรรพบุรุษเป็นแค่เพียงเสาพลังงานสำหรับเปิดประตูลับหรือ?
ปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือต้องการปฏิเสธ
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นสีหน้าเย่ว์หยางทำให้เฒ่าเถี่ยเหมาหมดสงสัย ใจแหลกลาญและสิ้นหวัง...เด็กหนุ่มนี้ไม่ได้โกหก เพราะเขาไม่จำเป็นต้องโกหก!
เด็กหนุ่มนี้จงใจบอกความจริงเขาเพื่อที่ว่าเขาจะได้ทนทุกข์ทรมานมากยิ่งขึ้น!
“ทำไมเจ้าถึงไม่รีบฆ่าข้าให้เร็วกว่านั้น?” เฒ่าเถี่ยเหมาคร่ำครวญด้วยความปวดใจ
เขาไม่อาจยอมรับผลลัพธ์ดังกล่าวได้
ลูกหลานของเผ่าพันธุ์ต้องสาปต้องใช้เวลาและความพยายามมากเพียงไหนในการคืนชีพบรรพบุรุษที่มิอาจคืนชีพได้? ผ่านมาหลายพันปีแล้วและตัวเขาก็ไม่รู้ว่าจะมีคนรุ่นต่อไปที่เดินหน้าพยายามคืนชีพบรรพบุรษแม้แต่ตัวของเขาเองก็ใช้ความพยายามอยู่ที่นี่มาหลายร้อยปี ความทุ่มเททั้งหมดนี้กลับไม่ได้รับผลตอบแทนใดเลย ความเป็นจริงนี้ช่างโหดร้ายนัก
ถ้าเป็นไปได้เฒ่าเถี่ยเหมาไม่ต้องการรู้ความจริงนี้
เขาอาจจะตายไปพร้อมกับความเสียใจ
ทันทีที่เขาวิ่งไปถึงประตูเหล็กและถูกเด็กหนุ่มผู้นี้ใช้ตราผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ฆ่าเขาอย่างน้อยในใจของเขาก็ไม่ต้องผิดหวังเหมือนตอนนี้!
“ข้าอยากเตือนท่านไว้ในฐานะจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แห่งหอทงเทียน ข้ามีสิทธิ์และหน้าที่ตัดสินโทษท่านว่าเป็นกบฏของหอทงเทียน ทุกอย่างสามารถทำได้ตามความปรารถนาของข้า ถ้าข้าบอกว่าให้อภัยเผ่าพันธุ์และตระกูลของท่าน พวกเขาก็สามารถมีชีวิตต่อและได้รับชีวิตใหม่ถ้าข้าตัดสินโทษท่านและเผ่าพันธุ์ตระกูลของท่าน อย่างนั้นนั้นท่านจะต้องชดใช้บาปกรรมที่ท่านสร้างในปีนั้น” เย่ว์หยางยิ้มเล็กน้อย “เฒ่าเถี่ยเหมาไม่ว่าจะในฐานะกะลาสีประจำท่าเทียบเรือตะวันออกหรือจอมพลของตระกูลกบฏเมื่อหลายพันปีก่อน ท่านไม่ได้รับการอภัย! ตอนนี้ท่านมีคำพูดใดจะสั่งเสีย ข้าขอเตือน อย่าใช้เวลานานนัก ข้ามีความอดทนจำกัด!”
“.....” เฒ่าเถี่ยเหมายังจะพูดอะไรได้อีก?
เฒ่าเถี่ยเหมายกมือเตรียมฟาดกระหม่อมตนเอง
เขาไม่ต้องการตกไปอยู่ในมือของผู้เยาว์นี้ และไม่ต้องการเจ็บปวดจากคำสาปโบราณ
เมื่อนึกถึงคำสาปโบราณระเบิดตัวสีหน้าเฒ่าเถี่ยเหมาเปล่งประกายเล็กน้อย นางไขคำสาปโบราณได้ ไม่รู้ว่านางจะได้รับการอภัยและได้ชีวิตใหม่ในเงื้อมมือของคุณชายไตตันหรือไม่? ถ้านางรอด บางทีนางอาจจดจำบิดาที่ดุร้ายของนางไว้ได้
เป็นสุขเถิดลูกพ่อ!
ในที่สุดเฒ่าเถี่ยเหมาก็ระลึกถึงความคิดที่ดีและทรงคุณค่า รับรู้ถึงความหยิ่งและชีวิตที่เต็มไปด้วยบาปของเขา
เขาไม่หยุดกระทำชั่วในชีวิตของเขา เขาทำเรื่องที่ไม่ดีหลายอย่าง สนุกกับการฆ่า เป้าหมายสูงสุดก็คือรวบรวมเลือดมนุษย์บูชายัญให้บรรพบุรุษ ในชีวิตของเขาแทบจะพูดได้ว่าทำความดีเพียงอย่างเดียวคือให้การฝึกฝนศิษย์ที่เป็นเสมือนลูกสาวของเขา