ตอนที่ 1026 ลาก่อน?
เมืองไป๋เหอ
มีพื้นที่น้ำที่นอกเมืองท่าเทียบเรือทิศเหนือแต่เรือทั้งหมดไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เรือสำราญขนาดใหญ่จนถึงเรือประมงจนถึงเรือใช้ล่องแก่ง
ซากเรือหักพังนับพันกองอยู่ในบริเวณนี้เนื่องจากมีการสะสมมากขึ้นทุกปีทำให้น้อยคนจะเข้ามาถึงที่นี่ได้แต่กลับเป็นสวรรค์ของปลาทุกชนิด บางครั้งก็มีผู้สูงอายุในเมืองไป๋เหอมาที่นี่เพื่อตกปลาและกลับเข้าบ้าน พวกหนุ่มสาวไม่ชอบบริเวณซากเรืออับปางที่เต็มไปด้วยสนิมเขรอะและกลิ่นประหลาดไม่พึงประสงค์
บางทีคนแก่ผู้อาวุโสไม่ใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่พวกคนหนุ่มสาวไม่อาจทนยืนอยู่ในที่เต็มไปด้วยความเสื่อมสลาย
วันนี้บริเวณซากเรืออับปางมีหญิงสาวสองคนเข้ามาโดยไม่มีใครคาดคิด
คนหนึ่งสวมชุดขาวยิ่งกว่าหิมะ
อีกคนหนึ่งชุดดำเหมือนหมึก
หน้าตารูปร่างของพวกนางตัดกับผืนน้ำยามสนธยาและเหมือนนำอากาศสดชื่นเข้ามายังพื้นที่สุสานเรืออับปาง
“โอว..ข้าไม่เห็นเลยจริงๆ สุสานที่เจ้าเลือกนั้นไม่เลวเลย ง่ายและประหยัดฝังในทะเลโดยตรงย่อมดีแน่นอน!” สตรีชุดดำก็คือแมงมุมน้ำผู้อำมหิตและมีพิษร้ายมากที่สุดในบรรดายอดฝีมือรุ่นเยาว์ของเมืองไป๋เหอ ส่วนสตรีชุดขาวที่เป็นเป้าหมายของนางก็คือหลิวเย่ สำหรับสตรีมนุษย์ที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยอย่างหลิวเย่ แมงมุมน้ำไม่มีเหตุผลในการฆ่านาง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามการฆ่าหลิวเย่ไม่เพียงแต่เป็นพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวเท่านั้น แต่สำหรับแมงมุมน้ำนางจำเป็นต้องมีเหตุผลในการฆ่าหลิวเย่ด้วยหรือ?
นางไม่ต้องการเหตุผลใดๆในการฆ่า
ถ้าจะมีเพียงเหตุผลเดียวก็คือแมงมุมน้ำไม่ต้องการเห็นใครดูดีกว่านาง
“ข้าตัดสินใจครั้งล่าสุดแล้ว ว่าจะสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกัน ไม่ว่าใครแพ้ใครชนะจะต้องมีคนล้มตายที่นี่” หลิวเย่ยังคงมีสีหน้าสงบ นางมองดูแมงมุมน้ำผู้แข็งแกร่งอย่างสงบ เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูดวงตาของนางมีแต่ความกล้าที่ปราศจากความกลัว นางเปลี่ยนไปจากช่วงเวลาปกติ “อย่างไรก็ตาม ถ้าสู้กับเจ้า ข้าจะไม่มีทางยอมแพ้ ถ้าเจ้าต้องการสู้ ข้าก็จะสู้ด้วย!”
“น้ำเสียงเจ้าคุยโตเสียเหลือเกิน แต่เจ้าอ่อนแอเหมือนแมลงน้อย มีคุณสมบัติใดมาสู้กับข้า? น่าขัน!” นางแมงมุมน้ำแค่นเสียงเยาะเย้ย
นางกระโจนขึ้นไปในท้องฟ้า
หลังจากขึ้นถึงที่ระดับความสูงหลายร้อยเมตรนับว่ามีพลังกระโดดที่กล้าแข็งมาก
จากนั้นพุ่งกลับลงมาราวกับอุกกาบาตรัศมีรอบตัวสิบเมตรมีแรงบดขยี้ทุกอย่างให้เป็นผุยผงได้
หลิวเย่หลบหลีกแรงอัดกระแทกจากร่างที่ร่วงลงมาของแมงมุมน้ำซากเรือทุกส่วนถูกทำลายเกือบหมด คลื่นยักษ์โหมกระหน่ำ น้ำซัดสาดเหมือนถูกพายุพัดหอบเข้ามาทั้งหมด ชิ้นส่วนและซากเรืออับปางจากก้นแม่น้ำหมุนควงอยู่ในอากาศพร้อมกับสายน้ำเกิดเป็นภาพแปลกประหลาดตา
พลังของพายุหมุนสายน้ำมีขนาดใหญ่ทำให้การเสี่ยงอันตรายหลบหลีกของหลิวเย่ได้รับผลไปด้วยนางถูกฉุดดึงไปอย่างช่วยไม่ได้
แมงมุมน้ำลงมายืนอยู่บนผิวน้ำและกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า
ความเร็วของนาง
แทบจะเร็วกว่าสายฟ้าแล่บ
การร่วงลงมาและการพุ่งย้อนกลับเป็นพลังที่แตกต่างกันสองสายเหนือพื้นผิวน้ำมีพลังสองสายปะทะกัน
แม้ว่าจะไม่ได้ทำลายพื้นที่มิติแต่ก็สร้างมิติภายในพายุหมุนวารีได้ ไม่ว่าจะเป็นซากเรืออับปางหรือสายน้ำและอากาศจะห่อหุ้มด้วยฟองอากาศพื้นที่ขนาดใหญ่ที่รวมตัวกัน ฟองอากาศนี้ถูกตัดขาดจากน้ำซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมจากเจตจำนงของนางแมงมุมน้ำอย่างสมบูรณ์นี่คือวิชาลับเฉพาะที่ไม่เหมือนใครของนาง ฟองอากาศกักกัน
ในฟองอากาศนี้ทันทีที่ศัตรูติดอยู่ข้างในต่อให้เป็นนักสู้ปราณฟ้าที่ทรงพลังก็ยากจะหลุดออกมาได้
มีความเป็นไปได้ว่าการต่อสู้นี้จะจบลงในเงื้อมมือของนางแมงมุมน้ำชีวิตของศัตรูจะตกอยู่ในเงื้อมมือนาง
แพ้โดยไม่ทันได้สู้
หลิวเย่เจอปัญหายากลำบากทันทีที่นางเข้ามาในฟองอากาศ
นางไม่เพียงแต่เคลื่อนไหวไม่ได้ดังใจเท่านั้น แต่ยังต้องหายใจทางปาก นางค่อยๆตกอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายตรงข้าม ในการต่อสู้นี้ นางไม่แพ้ได้หรือไม่?
แทบจะไม่มีเวลาคิดแมงมุมน้ำใช้ไม้ตายที่สอง
จากนั้นก็มีพลังโจมตีต่อเนื่องตามกันมา
ฟองอากาศโจมตีก็เพียงพอเอาชนะหลิวเย่ที่อ่อนแอได้แล้ว แต่นางแมงมุมน้ำรู้สึกว่าลงมือเพียงแค่นั้นยังไม่เพียงพอ แมงมุมน้ำผู้อำมหิตและมีพิษร้ายกาจจะยอมให้ศัตรูตายอย่างง่ายดายได้ยังไง?
หลิวเย่รอให้ร่างของนางแมงมุมน้ำผ่านเข้าฟองอากาศที่งดงามและนางพบว่ามีใยแมงมุมใสหลายสายปรากฏไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด
ใยแมงมุมเหล่านี้ยืดขยายอยู่ในสายลม
และสานเข้ากันสร้างเป็นตาข่ายที่แข็งแกร่ง
ตาข่ายใยแมงมุมรวบจับทั้งคนทั้งซากเศษเหล็กของเรือลงไปในกลุ่มเรืออับปาง
ถ้าตกลงไปในฟองอากาศของแมงมุมน้ำตอนแรกก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบออกมาจากท้องฟ้าได้ จากนั้นแมงมุมน้ำใช้ไม้ตายที่สอง แหมังกรบิน ผู้นั้นต้องตายแน่นอน...การใช้ชื่อแหมังกรบินตามชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นแหที่ทรงพลังที่สุดแม้แต่มังกรก็ยังหนีไม่พ้น หลิวเย่ไม่รู้ว่าแมงมุมน้ำจับมังกรได้หรือไม่ แต่นางรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของแหนี้!
อันตราย!
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ในสายตาของแมงมุมน้ำหลิวเย่ในปัจจุบันนี้เท่ากับคนตาย แค่เพียงไม่กี่อึดใจ นางก็สามารถฆ่าเพื่อระบายอารมณ์ได้แล้ว!
ในเวลานี้อีกด้านหนึ่งของเมืองไป๋เหอผู้เฒ่าเถี่ยเหมายืนอยู่ที่กระท่อมหนามเหล็ก มองผิวเผินเขาไม่ได้ขยับ แต่ลึกลงไปในดวงตาปรากฏแววเสียใจนี่คือสถานที่ซึ่งฟูผิงศิษย์ของเขาเคยพักอาศัยอยู่ ศิษย์คนนี้ฉลาด ตั้งแต่นางยังเป็นเด็ก เรียนรู้ง่ายว่านอนสอนง่าย ทำให้การสอนนางสบายใจกว่าสอนคนอื่น บ่อยครั้งที่ฟูผิงเรียนจบแล้วแต่คนอื่นเพิ่งเริ่ม จะไม่มีแรงสนับสนุนอยู่เบื้องหลังถ้าไม่ใช่เพราะฟูผิง เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้อัจฉริยภาพและปัญญาของนางเพื่อเป็นเจ้าเมืองไป๋เหอที่เป็นสตรี
น่าเสียดายนางยอดเยี่ยมมาก แต่นางกลับเดินเข้าสู่เส้นทางคนทรยศ
เดิมทีคนรุ่นหลังของเมืองไป๋เหอไม่เคยถูกทอดทิ้งอย่างยาวนานครอบคลุมขนาดนี้ ไม่ต้องคำนึงถึงบรรพบุรุษหอทงเทียนที่ห่างไกลหรือแดนสวรรค์ในทุกวันนี้ เผ่าพันธุ์ต้องสาปเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับการยอมรับจากคนภายนอก เป็นไปไม่ได้ที่จะออกไปใช้ชีวิตกับคนภายนอก
ดังนั้นคนที่แม้โง่เง่าก็จะไม่หลบหนีจากเผ่าพันธุ์กบฏ
แม้แต่ฟูผิงผู้ฉลาดก็ยังทำเรื่องโง่ ที่แม้แต่คนโง่ไม่ยอมทำ
“ลาก่อนลูกสาวของข้า” หลังจากเฒ่าเถี่ยเหมากล่าวประโยคนี้ในใจ แววตาที่ทุกข์ใจของเขาหายไปอย่างสิ้นเชิงเหลือแต่เพียงความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว เขาโบกมือและสั่ง “มาเถอะกระท่อมของฟูผิงคนทรยศเผ่าพันธุ์จะต้องถูกยึด ข้าวของๆ นางให้ยึดไว้ ของใช้ส่วนตัวของคนทรยศให้ส่งไปสมาคมและสำนักเรียนต่างๆในเมือง แจ้งให้รู้ว่าเป็นสิ่งน่ารังเกียจ จงใช้สอนเพื่อเตือนใจคนของเรา จงป่าวประกาศในเมืองว่าเรากำลังจับคนทรยศนี้และถือว่านี่เป็นเรื่องน่าอับอายในประวัติศาสตร์ตลอดไป จงจารึกชื่อของนางไว้ในหอโลหิตต้องสาปในเมืองเรา ปล่อยให้นางตกเป็นเป้าหมายของการสาปแช่งของเราตลอดไป วิญญาณนางจะไม่มีวันได้ผุดได้เกิด จงดู นี่คือจุดจบของคนทรยศ!”
“ขอรับ” ทหารเมืองที่อยู่ด้านหลังเฒ่าเถี่ยเหมารับคำด้วยความเคารพ
พวกทหารเริ่มเก็บกวาดสิ่งของ
ดวงตาเฒ่าเถี่ยเหมาทอประกายวูบจากนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว
ชุดเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่แม้ว่าจะเป็นชุดขอกะลาสีเรือแต่ดูเหมือนเขาจะเป็นจอมพลเรือระดับสูง นักรบเมืองไป๋เหอผู้รู้จักเขาจะตะโกนเรียกหาเขา ขณะที่พ่อค้าและทหารรับจ้างในเมืองผู้อยู่อาศัยมาหลายปีพวกเขามองดูเขาด้วยความตะลึง... พวกเขาแทบไม่อาจยอมรับว่าบุรุษผู้มีสง่าราศีเหมือนกับพญาราชสีห์คือเฒ่าขี้เมาที่ประจำอยู่ที่ท่าเรือตะวันออก
เวลานี้ใครยังจะกล้าดูถูกเหยียดหยามเขา?
ถนนดูเหมือนมีลมพัดผ่านเบาๆ
เฒ่าเถี่ยเหมาก้าวขึ้นมายืนนิ่งๆและมองไปทางตำแหน่งทิศเหนือของเมือง
ปรากฏว่ากลุ่มทหารที่อยู่ด้านหลังของเขารีบก้าวออกมาข้างหน้าและตามความเข้าใจของพวกเขา จอมพลหยุดอย่างนี้แสดงว่าต้องมีคำสั่ง เฒ่าเถี่ยเหมาค่อยๆ ยกมือโบก “พวกเจ้าทุกคนรีบไปที่สุสานเรืออับปางตรงท่าประตูทิศเหนือถ้าพบเจอแมงมุมน้ำ บอกให้นางกลับฐานทันที อย่าช้าแม้แต่วินาทีเดียว ถ้านางกล้าขัดขืนคำสั่ง ให้คร่ากุมนางได้ทันที!”
น้ำเสียงเด็ดขาดเช่นนี้นายกองที่รับภารกิจได้ยินยังสั่นสะท้านใจ
แม้ว่าจอมพลมักจะวางตัวสง่างามมีอำนาจ แต่ไม่เคยเป็นเหมือนกับวันนี้ หรือว่าแมงมุมน้ำจะทำผิดทำนองเดียวกับฟูผิง?
พวกทหารพอได้รับคำสั่งก็รีบเร่งเดินทางไปยังท่าประตูเมืองทิศเหนือด้วยความเร็วสูงสุด คนที่รวดเร็วที่สุดคือคนที่ทำหน้าที่นายกอง แม้ว่าจะเป็นหัวหน้าตำแหน่งน้อย แต่เขาก็มีพลังมากมายเช่นกัน และกองทหารของพวกเขาเป็นกลุ่มที่น่ากลัว
เฒ่าเถี่ยเหมาออกคำสั่งด้วยสีหน้าเฉยเมยและเขาเดินหน้าต่อ
ทันใดนั้นเขาเป็นเหมือนราชสีห์แก่ที่พบเจอศัตรู เขาวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเขาพุ่งผ่านไปสองช่วงตึกตรงไปยังชานชาลารถไฟ
นี่คือสถานี้ที่ฟูผิงขึ้นรถไฟและทำการติดต่อกับเจ้าเด็กหน้าขาวเป็นครั้งแรก
ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าหนุ่มหน้าขาวนั่นฟูผิงคงจะไม่ทรยศเผ่าพันธุ์จะไม่มีทางหนีไป เขาเสียใจ ถ้าเขาเลือกได้อีกครั้งเขาจะไม่ปล่อยให้ฟูผิงพบกับเจ้าหนุ่มหน้าขาวนั่น คิดไม่ถึงเลยว่า ในช่วงเวลาไม่กี่วัน เจ้าหนุ่มหน้าขาวทำให้ฟูผิงหลงผิด ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าหนุ่มหน้าขาวนั่นฟูผิงจะไม่ทรยศเผ่าพันธุ์แน่นอน เฒ่าเถี่ยเหมาวิ่งไปที่สถานีรถไฟ เขาโกรธ ไม่เพียงแต่เขาสูญเสียผู้เป็นเหมือนธิดาของเขาแต่เพราะเจ้าหนุ่มหน้าขาวที่ถูกฆ่าในทะเลหมอกไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีกครั้ง
เจ้าหนุ่มหน้าขาวยังจะมีชีวิตได้อย่างไร?
เฒ่เถี่ยเหมาค่อยๆมองขบวนรถที่ออกไปจากสถานี ในหน้าต่างที่เปิดอยู่บานหนึ่งมีเจ้าหนุ่มหน้าขาวกำลังโบกมือและยิ้มให้
ขณะนั้นเฒ่าเถี่ยเหมาโกรธจนแทบทำลายรถไฟทั้งขบวน
ขณะเดียวกันเขารู้สึกหวั่นไหวสะท้านใจ
ศัตรูไม่ควรจะมีชีวิตอยู่จนถึงบัดนี้แต่ยังกลับมาเมืองไป๋เหอได้ พระเจ้า, นี่หมายถึงอะไร? หรือเจ้าเด็กนี่พบศักดิ์ฐานะของตัวเขา
ศัตรูผู้นี้ช่างน่ากลัวจริงๆ!
เจ้าเด็กหน้าขาวจะดูเรียบง่ายเหมือนเด็กหนุ่มธรรมดาจริงหรือ?
เฒ่าเถี่ยเหมารีบระงับความโกรธเหมือนกับมีตาข่ายยักษ์ที่เขาไม่รู้ว่ากางดักรอไว้นานเท่าใด และมันถูกรวบเข้าทันทีเป็นการยืนยันว่าเมืองไป๋เหอตกอยู่ในอันตราย ช่วงเวลานี้นอกจากเพิ่งสูญเสียฟูผิงไป เขาเกรงว่าทั่วทั้งเมืองไป๋เหออาจประสบภัยพิบัติอย่างไม่เคยพบเจอมาก่อน
เจ้าหนุ่มหน้าขาวและสหายของเขาและสตรีลึกลับ!
ปัจจัยต่างๆทั้งหมดที่เขาไม่เคยเข้าใจมาก่อน ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจเล็กน้อย คนเหล่านี้อาจไม่ได้มุ่งหมายอยู่ที่แร่ดอกสายฟ้า แต่เป็นเมืองไป๋เหอ นักรบหอทงเทียนกำลังไล่ล่าตระกูลต้องสาปการเข่นฆ่าจะมาถึงในที่สุดอย่างนั้นหรือ?
เฒ่าเถี่ยเหมาไม่สามารถติดตามเป้าหมายที่กำลังออกมาจากรถโดยสารและปฏิเสธจะไปสมาคมเหล็กทันทีเพื่อกระจายข่าวร้าย
เขาไม่ทำเช่นนั้น
เขารีบเร่งกลับไปที่กระท่อมด้วยความเร็วสุดชีวิตเปิดกลไกทางลับ จากนั้นเร่งรีบกลับไปที่ฐานทัพ.. เมื่อเทียบกับชีวิตผู้คนนับแสนเฒ่าเถี่ยเหมามีความสำคัญมากกว่า ฐานทัพใต้น้ำและผู้ประกอบพิธีชุบชีวิตบรรพบุรุษ ตราบใดที่ชนชั้นฝีมือดีอยู่รอดได้ ตระกูลต้องสาปก็ยังจะมีหวัง ในทางตรงข้าม แม้คนแสนคนหนีไป ต่อไปนักรบแห่งทงเทียนไล่ทัน แต่ฐานทัพและสถานที่บูชายัญชุบชีวิตบรรพบุรุษ จะสูญเสียไปไม่ได้อย่างแน่นอน!
เมื่อเฒ่าเถี่ยเหมากลับไปที่ป้อมเหล็กยักษ์ด้วยความเร็วสูงสุด พอผ่านทางออกมาถึงประตูใหญ่ห้องประกอบพิธีชุบชีวิต
เขาต้องพบกับความตื่นตระหนก
เด็กหนุ่มที่เพิ่งออกจากรถโดยสารและเยาะเย้ยเขารออยู่ที่นั่นและยิ้มให้เขา แม้แต่เจ้าเด็กหน้าขาวนี่ยังทำตัวเหมือนเป็นสหายเก่ามาหลายปีเขาโบกมือให้
อะไรกัน? เฒ่าเถี่ยเหมาตกใจและพยายามข่มใจ
ใจของเขาสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้