บทที่ 48 : หน่วยไวเปอร์
บทที่ 48 : หน่วยไวเปอร์
ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า…… ร่างของแมวเสือดาวเขาเดียวจมกองเลือดเเละได้สูญเสียพลังชีวิตทั้งหมดไป
พวกชูโจวทั้งสี่มองหน้ากันแล้วยิ้ม… การต่อสู้ครั้งนี้เป็นความร่วมมือที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ…….ชูโจวและหลิงซานรับผิดชอบการโจมตีหลัก, ซีเหมิงเป็นโล่มนุษย์รับหน้าที่ป้องกัน, ส่วนหลี่ชิงฉีคอยก่อกวนและขัดจังหวะแมวเสือดาวเขาเดียว...
เมื่อพวกเขาร่วมมือกัน พวกเขาสามารถจัดการแมวเสือดาวมีเขาเดียวได้โดยที่พวกเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลยเเละนี่คือพลังของทีม
หากเปลี่ยนเป็นชูโจวคนเดียวที่ต้องการฆ่าแมวเสือดาวเขาเดียว แม้ว่าเขาจะทำสำเร็จ เขาจะต้องได้รับบาดเจ็บอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่มากก็น้อย, ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าแมวเสือดาวเขาเดียวต้องการหนีมันก็ยากสำหรับเขาที่จะหยุดมันโดยลำพัง
“ปิ้งเนื้อมันกันดีกว่า” ชูโจวยิ้มและหยิบดาบฟันมังกรออกมาทันที ขั้นแรกถอดเขาของแมวเสือดาวเขาเดียวออกมาใส่ไว้ในกระเป๋าจากนั้นหั่นเนื้อชิ้นใหญ่และเริ่มทำอาหารบาร์บีคิว
"สนามพลังของฉันสามารถเข้าถึงระดับ 25 เเล้ว….. ยังเหลืออีก 5 คะแนนจากนั้นฉันสามารถก้าวไปสู่นักรบผู้ปลุกพลังขั้นสูงได้"
ในขณะที่กินเนื้อชูโจวก็ถือโอกาสดูสนามพลังของเขา, หลังจากเทคนิคการหายใจพื้นฐานพัฒนาไปถึงระดับ A ประสิทธิภาพในการดูดซับพลังงานจักรวาลของเขาก็สูงกว่าผู้ตื่นแล้วเกือบหกเท่า, นอกจากนี้ในตอนที่เขาฝึกฝนขั้นแรกของ 'ร่างไทเทเนียมทองคำ' ได้สำเร็จการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของเขายังส่งเสริมการเพิ่มขึ้นของสนามพลังอย่างมากทำให้ในตอนนี้สนามพลังของเขาก็พัฒนาไปถึงระดับ 25 ไดด้อย่างน่าประทับใจ
…….
“น่าจะอีกสิบวัน….. ไม่ซิ บางทีมันอาจจะใช้เวลาไม่ถึงสิบวันที่สนามพลังของฉันอาจจะพัฒนาไปถึงระดับ 30 ได้” ชูโจวทำการคำนวณการพัฒนาของตนในใจ
เเละหลังจากทำบาร์บีคิวเสร็จเเล้วชูโจวก็แล่เนื้อแมวเสือดาวเขาเดียวบรรจุในถุงเก็บความสดใส่กระเป๋าแล้วออกเดินทางกันต่อ
……
ครึ่งวันต่อมา ปรากฏซากเมืองขนาดใหญ่ที่ดึงดูดสายตาของชูโจวและคนอื่นๆ
ข้างหน้าพวกเขาคืออาคารยุคเก่าที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักเเละเมื่อรวมกับต้นไม้ขนาดยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนที่เกิดขึ้นรอบๆมันกลับปรากฏเป็นฉากที่สวยงามเเละไม่เหมือนใคร
"นี่คือเมืองร้างในสมัยก่อนหรือ,มันน่าทึ่งจริงๆ สิ่งที่เห็นในอินเทอร์เน็ตนั้นสมจริงน้อยกว่าที่เห็นในตอนนี้มาก" หลี่ชิงฉีกระโดดขึ้นไปบนซากรถบัส มองดูเมืองที่อยู่ตรงหน้าและพึมพำกับตัวเอง
"นี่คืออารยธรรมที่มนุษย์เราเคยสร้างขึ้น, น่าเสียดายที่ตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพังและเป็นที่พักพิงของมอนสเตอร์จำนวนนับไม่ถ้วนไปแล้ว" ซิเหมิงถอนหายใจเบาๆ
"ทุกคนระวังตัวด้วย….ตอนนี้เราได้เข้าสู่ขอบเขตของเมืองร้างหมายเลข 0504 แล้ว ….จำนวนของมอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้มีจำนวนมากกว่าที่อาศัยอยู่ในป่า และพวกมันก็มีพลังมากกว่าด้วย" ชูโจวกล่าวเตือน
…..
สงครามระหว่างมนุษย์และมอนสเตอร์นั้นมีประวัติศาสตร์มายาวนานมาก
ในช่วงแรกมอนสเตอร์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่า แต่เมื่อสงครามระหว่างมนุษย์และมอนสเตอร์เริ่มต้นขึ้น, มอนสเตอร์จำนวนมากก็ค่อยๆ ถูกค้นพบ
ในตอนที่มอนสเตอร์อาศัยอยู่ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า พวกมันสามารถถูกกำจัดเป็นชิ้นๆ อย่างง่ายดายด้วยปืนของมนุษย์….. แต่หลังจากที่พวกมันเริ่มยึดเเละอาศัยอยู่ในเมืองที่ยึดได้จากมนุษย์… จากนั้นมันก็เริ่มจะไม่ง่ายเลยที่มนุษย์จะยิงปืนใส่พวกมันเพราะพวกมันเริ่มมีที่กำบัง
เเละเมื่อกองทัพมนุษย์ต้องการกวาดล้างมอนสเตอร์ต่อไป พวกเขาจำเป็นต้องเข้าสู่เมืองที่มอนสเตอร์ยึดครองอยู่ หลังจากนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะถูกลอบโจมตีหรือตกอยู่ในการถูกล้อมจากมอนสเตอร์จำนวนนับไม่ถ้วน
เมื่อการโจมตีมอนสเตอร์ที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองร้างไม่ได้ผล…. ในเวลาต่อมามนุษย์จึงใช้วิธียิงขีปนาวุธเพื่อทำความสะอาดเมืองที่ถูกมอนสเตอร์ยึดครองไป
วิธีนี้ใช้ได้ผล…..เเต่มันได้ผลเเค่ในช่วงเเรกเพราะเหล่ามอนสเตอร์ไม่ใช่สัตว์ป่าที่ไม่มีสมอง, โดยเฉพาะมอนสเตอร์ระดับสูง… ความฉลาดของพวกมันไม่ได้แย่ไปกว่าอัจฉริยะของมนุษย์เลย
มนุษย์สามารถใช้ขีปนาวุธในการกวาดล้างเมืองที่ถูกมอนสเตอร์ยึดครองได้ เหล่ามอนสเตอร์ก็จะปล่อยกองทัพมอนสเตอร์ที่น่าสะพรึงกลัวออกมาโจมตีเมืองมนุษย์ได้เช่นกัน….ด้วยวิธีเเบบนี้,สงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์ในยุคก่อน อาจกล่าวได้ว่าน่าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง
ในเวลาต่อมาทั้งสองฝ่ายต่างไม่สามารถแบกรับความสูญเสียดังกล่าวได้ ดังนั้นผู้นำมนุษย์ได้ทำการเจรจากับราชามอนสเตอร์และได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในที่สุด
มนุษย์ไม่สามารถยิงขีปนาวุธใส่เมืองที่มีมอนสเตอร์อาศัยอยู่ได้ง่ายๆ เเละฝั่งมอนสเตอร์ก็ไม่สามารถปล่อยกองทัพมอนสเตอร์มาโจมตีเมืองมนุษย์ได้อย่างง่ายๆเช่นกัน…….แน่นอนว่านี่เป็นข้อตกลงที่ไม่สามารถทำให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามได้อย่างสมบูรณ์
เพราะเมื่อมนุษย์พบว่าบางครั้งมอนสเตอร์ที่รวมตัวกันในเมืองบางเมืองนั้นน่ากลัวเกินไป พวกเขาจะยังคงทำการโจมตีด้วยขีปนาวุธอยู่ดีเเละในทำนองเดียวกันฝั่งราชามอนสเตอร์ก็จะปล่อยกองทัพออกมาเป็นครั้งคราว
ทั้งสองฝ่ายพยายามจะรักษาสมดุลนี้ไว้เเต่สำหรับการต่อสู้เล็กๆนั้น…… พวกเขาไม่สามารถควบคุมได้มากขนาดนั้น, เเละหลังจากการเกิดขึ้นของข้อตกลงนี้ มนุษย์ส่วนใหญ่จึงพึ่งพาทีมนักรบที่ทรงพลังในการกวาดล้างมอนสเตอร์ในเมืองร้างที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ
……………
"ตามข้อมูลที่ฉันรวบรวมจากฟอรัมนักรบ มีคนค้นพบฝูงสุนัขหางแมงป่องทางทิศตะวันตกของเมือง" หลี่ชิงฉีกระโดดลงจากซากรถบัสและบอกกับคนอื่นๆ
“ถ้าอย่างนั้น เรามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกของเมืองกันเถอะ” ชูโจวนำทั้งสามคนไปทางทิศตะวันตกของเมืองร้าง, อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาก้าวไปข้างหน้าได้เพียงไม่ถึง 500 เมตร, พวกเขาก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดดังมาจากด้านหน้า
ในไม่ช้าพวกชูโจวทั้งสี่ก็เห็นทีมนักรบอีกทีมหนึ่ง…..ทีมนักรบนี้มีกันห้าคนเเละพวกเขาเพิ่งล่าฝูงกระทิงเขาเหล็กสำเร็จทำให้รอบๆบริเวณเต็มไปด้วยซากศพของกระทิงเขาเหล็กเจ็ดหรือแปดตัว
"นั่นใคร" ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนอย่างเย็นชาจากชายที่มีผ้าปิดตาสีดำที่ตาข้างซ้ายและสวมแขนกลที่มือขวา
"ต้องการขโมยเหยื่อของพวกเราหรือ?" ชายอีกคนเย้ยหยันพร้อมๆกับชี้ไปที่ชูโจวและคนอื่นๆ ด้วยปืนสไนเปอร์
ส่วนอีกสามคนที่เหลือมองที่พวกของชูโจวด้วยท่าทางอาฆาตราวกับว่าพวกเขาพร้อมจะโจมตีได้ทุกเมื่อ
……
"สถานการณ์ไม่ดีเลย พวกเขาเพิ่งฆ่ากระทิงเขาเหล็กเสร็จและเราก็ปรากฏตัวขึ้น...ฉันเกรงว่าพวกเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าเรากำลังจะเเย่งเหยื่อของพวกเขา" ขณะที่หลี่ชิงฉีพูดเเบบนี้ สีหน้าของชูโจวและคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาออกล่าในถิ่นทุรกันดาร แต่พวกเขาก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกฎที่ไม่ได้เป็นทางการในการล่ามอนสเตอร์จากฟอรัมนักรบ…… คือคุณไม่ควรปรากฏตัวเมื่อทีมอื่นเพิ่งล่ามอนสเตอร์เสร็จ, มิฉะนั้นจะถูกเข้าใจผิดว่าต้องการเเย่งเหยื่อของอีกฝ่ายและจะถูกอีกฝ่ายตรงโจมตีอย่างไร้ความปราณี
ส่วนเหตุผลที่กฎที่ไม่เป็นทางการนี้เกิดขึ้น …….อันที่จริงก็เป็นเพราะมีการฉกเหยื่อมากเกินไป,มนุษย์เป็นสัตว์ที่ซับซ้อน เมื่ออยู่ในเมืองมนุษย์ย่อมถูกผูกมัดด้วยกฎหมายมากมาย, แต่ในพื้นที่ทุรกันดาร...มันเป็นสถานที่ที่ไร้ซึ่งกฎหมายเเละอะไรก็เกิดขึ้นได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดิมพันมันสูงพอ มนุษย์ด้วยกันเองอาจจะอันตรายมากกว่าเหล่ามอนสเตอร์เสียอีก….ดังนั้นในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าจึงเกิดกฎที่ไม่เป็นทางการมากมายเเละหากคุณไม่ใส่ใจกับกฎเหล่านี้ คุณก็อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและอาจนำไปสู่ความตายได้ง่ายๆเลย
"อ้อมไปกันเถอะ" ชูโจวพาทั้งสามคนถอยห่างออกมาหลายสิบเมตรอย่างช้าๆ แล้วจากไปอีกทางหนึ่ง
ฝ่ายตรงข้ามทั้งห้าคนที่เห็นพวกชูโจวและคนอื่นๆจากไป ก็รู้เเล้วว่าเป็นการเข้าใจผิด พวกเขาจึงไม่ได้เลือกที่จะทำอะไรกับพวกของชูโจว
"สี่คนนี้ตอนนี้ดูเด็กมาก เหมือนว่าจะเป็นนักเรียนมัธยมปลายที่เพิ่งจบการศึกษา... ฮิฮิ มือใหม่ทั้งสี่กล้าที่จะจัดตั้งทีมนักรบและมาที่เมืองร้างเพื่อล่ามอนสเตอร์...อยู่ได้ไม่นานหรอก” ซุนหลงมือสไนเปอร์หัวเราะเยาะ
“ฉันว่าคืนนี้ไม่รอดแน่” ลู่จุนพูดอย่างดูถูก
"ชายที่ถือดาบเมื่อกี้….เหมือนฉันจะเคยเห็นมันที่ไหนสักแห่ง" กัปตันทีมลู่หวู่พึมพำขณะที่บีบคางด้วยมือขวาพร้อมขมวดคิ้ว
"กัปตัน เมื่อ 'คนขายเนื้อจินจิงหวูติดต่อคุณมาเมื่อวานนี้เเล้วเขาส่งรูปถ่ายให้คุณ, คนในรูปนั้นดูเหมือนจะเป็นชายหนุ่มที่พึ่งจากไปหรือเปล่า" ทันใดนั้นสมาชิกในทีมคนหนึ่งก็เตือนลู่หวู่
“ชูโจว…..ใช่แล้วคนเมื่อกี้คือชูโจว” ดวงตาข้างเดียวของลู่หวู่เป็นประกาย
"ฮิฮิฮิ…. ฉันไม่คิดเลยว่าจะโชคดีขนาดนี้….. ทุกคนเตรียมทำธุรกิจใหญ่" ลู่หวู่ยิ้มอย่างน่ากลัว
"ธุรกิจใหญ่หรอ?" ซุนหลง, ลู่จุน, และคนอื่นๆต่างก็มองไปที่ลู่หวู่ด้วยความประหลาดใจ….. ทีมไวเปอร์ของพวกเขามีธุรกิจที่หลากหลายมาโดยตลอด, นอกจากการล่ามอนสเตอร์ตามปกติแล้วพวกเขายังทำงานนักฆ่านอกเวลาเป็นครั้งคราวอีกด้วย อีกทั้งเมื่อเห็นทีมนักรบทีมอื่นออกล่าและมอนสเตอร์ที่มีค่ามหาศาล พวกเขาก็ไม่ปฏิเสธการกลายเป็นโจร……สรุปแล้วตราบใดที่เงินมากพอ ทีมของพวกเขาก็สามารถทำทุกอย่างได้
อย่างไรก็ตามสำหรับทีมไวเปอร์ของพวกเขาธุรกิจที่มีมูลค่า 10 ถึง 20 ล้านถือว่าเป็นธุรกิจธรรมดาเท่านั้น…. ถ้าจะขึ้นชื่อว่าธุรกิจใหญ่ก็ต้องมีเงินเกิน 100 ล้านขึ้นไป
….
หลังเเจ้งคนในทีมเเล้ว ลู่หวู่ก็ทำการติดต่อจินจิงหวูโดยตรง
"จินจิงหวู" นายติดต่อฉันมาเมื่อสามวันที่แล้วและบอกว่าถ้าเจอคนในรูปให้แจ้งนายทันทีใช่ใหม"
"ลู่หวู่" เเกเห็นชูโจวใช่ใหม….บอกมาว่ามันอยู่ที่ไหนเเล้วฉันจะให้รางวัล 10 ล้านเหรียญ" จินจิงหวูพูดอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า จินจิงหวู, เเกคงประเมินความอยากอาหารของฉันต่ำเกินไป…. 10 ล้านไม่พอสำหรับฉันหรอก” ลู่หวู่ยิ้มอย่างร้ายกาจ
จินจิงหยูหยุดเล็กน้อยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "แล้วเเกต้องการเท่าไร"
“300 ล้านเเล้วฉันจะช่วยเเกกำจัดเขา” ลู่หวู่เปิดปากของเขาและบอกราคา
"300 ล้าน?..... ฆ่าผู้ปลุกพลัวที่พึ่งตื่นขึ้นเเต่แกกล้าที่จะเรียกเงิน 300 ล้านหรอ, แกจะบ้าเหรอ" จินจิงหวูคำราม
"100 ล้าน….ถ้าเเกตกลงก็ทำเลย,เเต่ถ้าเเกไม่เอาฉันจะหาเด็กนั่นเอง"
“100 ล้านก็ 100 ล้าน…. ธุรกิจนี้ฉันทำ” ลู่หวู่ตกลงตามข้อเสนอของจินจิงหวู
100 ล้านถือว่าไม่เลวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป้าหมายที่จะถูกฆ่าคือผู้ปลุกพลังระดับต่ำเท่านั้น…. ในเมืองร้างนี้, การตามล่าผู้เยาว์ที่พึ่งปลุกพลังนั้นง่ายมากสำหรับทีมไวเปอร์ของพวกเขา
"จินจิงหวู, รอฟังข่าวดีเเละเตรียมโอนเงิน" ลู่หวู่พูดจบก็ตัดการติดต่อจากนั้นหันมาพูดกับสมาชิกในทีมทั้งสี่
“พี่น้อง ธุรกิจขนาดใหญ่อยู่ที่นี่แล้ว, ฆ่ามือใหม่สี่คนก่อนหน้าแล้ว'จินจิงหวู'จะให้เงินเรา 100 ล้าน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า กัปตันแค่ฆ่ามือใหม่สี่คน… แค่นี้ก็ได้ 100 ล้านแล้วหรอ, ธุรกิจนี้ง่ายมาก”
"ใช่ มันง่ายมากเราไม่ได้รับธุรกิจที่ง่ายเช่นนี้มานานแล้ว"
"เอาล่ะ ลงมือกันเลย…..มากำจัดพวกเขาให้เร็วที่สุดและรับเงินนี้กัน" หลังจากลู่หวู่พูดจบ เขาก็พาสมาชิกในทีมสี่คนพุ่งไปในทิศทางที่ชูโจวและคนอื่นๆ ออกไป
…..
ณ ถนนเล็กๆในเมืองร้าง
ชูโจวและคนอื่นๆ กำลังเดินผ่านซากปรักหักพังอย่างระมัดระวัง
“จือโจว ฉันจำทีมนักรบเมื่อกี้นี้นี้ได้เเล้วหัวหน้าทีมนักรบนั้นสวมผ้าปิดตาและมีแขนกล…. เขาน่าจะเป็นลู่หวู่ผู้ฉาวโฉ่”
“เเละทีมเมื่อกี้คือทีมไวเปอร์” หลี่ชิงฉีพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
"ทีมไวเปอร์, ลู่หวู่…ชายคนนี้ดูเหมือนจะมีชื่อเสียงที่ไม่ดี" ซีเหมิงขมวดคิ้ว
"ยิ่งกว่าไม่ดีอีก….. ลู่หวู่และทีมไวเปอร์ของเขา ฉันได้ยินมาว่าพวกมันมักจะฉกเหยื่อของทีมนักรบอื่น ๆ และยังแอบฆ่านักรบในถิ่นทุรกันดารมาเเล้วหลายครั้ง..."
"ชื่อเสียงของทีมไวเปอร์นั้นแย่พอๆกับทีมเงาโลหิตของจินจิงหวูเลย….โชคดีที่เราไม่ได้ขัดแย้งกับพวกเขา ไม่เช่นนั้นเราจะมีปัญหาใหญ่ไปแล้ว” ใบหน้าของหลี่ชิงฉีแสดงร่องรอยของความกลัวออกมา
ด้านชูโจวเขาไม่ได้ให้ความสถกับทีมไวเปอร์มากเกินไป มันแค่ทางผ่านและไม่มีความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่าย, ทั้งสองทีมจึงไม่มีเหตุผลต้องต่อสู้กัน
ยิ่งไปกว่านั้น หน่วยใบมีดของพวกเขาสามารถรวมพลังกันเพื่อตามล่านักรบมอนสเตอร์ระดับสูงได้, ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กลัวที่จะต้องสู้กับนักรบคนอื่น
"ไปกันเถอะ ทางตะวันตกของเมืองอยู่ที่นี่เเล้ว, เราควรจะหาที่สูงๆ แล้วใช้กล้องส่องเพื่อหาที่อยู่ของสุนัขหางแมงป่อง"
หลังจากที่ชูโจวกล่าว เขาก็พาคนอื่นๆไปยังอาคารสูงที่ถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์ยักษ์
………………………