ตอนที่ 1025 ไม่เคยเห็นคนโง่อย่างนี้มาก่อนในชีวิต
ทะเลหมอก
เรือสำราญท่องเที่ยวยังจอดนิ่งอยู่กับที่ แต่นักท่องเที่ยวบนเรือถูกสังหารและเป็นชาวมนุษย์เพื่อเอาเลือดไปใช้บูชายัญ ที่ไม่ใช่มนุษย์ก็ตกเป็นอาหารปลาทั้งหมด เลือดและศพจำนวนมากดึงดูดฉลามทรายมาเป็นจำนวนมากที่สามารถครอบครองน่านน้ำได้
ฉลามเสือเหล่านี้มีแต่เทพเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามันปรากฏในเมืองไป๋เหอ
อาจมีใครบางคนจงใจเก็บมันเอาไว้ หรือบางทีอาจเป็นสิ่งมีชีวิตดั้งเดิมที่อยู่ในทะเลมาก่อนที่ทวีปจะล่มสลาย
ฉลามเสือทรายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดมีพลังถึงปราณฟ้าระดับสาม ตราบใดที่มันอยู่ในน้ำเมื่อพวกมันเล็งเป้าหมายใดไว้ เป้าหมายนั้นก็เท่ากับถูกกำหนดไว้ว่าต้องตายแน่ เทียบกับฉลามอื่นหรืออสูรใต้น้ำที่อยู่แยกกัน ฉลามเสือทรายทำงานเป็นกลุ่ม พวกมันจะส่งกลุ่มพวกมันอย่างน้อยสิบตัวเข้าโจมตีศัตรูพวกมันรู้วิธีร่วมมือกัน ประสิทธิภาพในการโจมตีของพวกมันถือว่าดีที่สุดในน่านน้ำเมืองไป๋เหอ!
ที่ฉลาดที่สุดก็คือฝูงฉลามเสือทรายเหล่านี้รู้วิธีทำงานร่วมกับมนุษย์เงือกกลายพันธุ์
ถ้ามนุษย์เงือกกลายพันธุ์เอาอาหารดีๆมากมายมาล่อพวกมัน ฉลามเสือทรายเริ่มยอมตัวเป็นพาหนะให้มนุษย์เงือกกลายพันธุ์ใช้ขับขี่เป็นความร่วมมือที่แน่นแฟ้นในช่วงเวลาสั้นๆ
ตัวอย่างเช่นในตอนนี้
มนุษย์กุ้งขับขี่ฉลามเสือทรายชื่อ“เจ้าเขี้ยวหัก” ไล่ตามเจ้าอ้วนไห่อย่างย่ามใจ
เจ้าเขี้ยวหักเป็นฉลามเสือทรายมีพลังปราณฟ้าระดับสามแม้ว่าจะไม่ใช่จ้าวฉลามแต่ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกัน มีพลังแข็งแกร่งอยู่ในสิบอันดับแรกของพวกมัน มันเคยร่วมมือกับมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ฆ่าวานรทองแขนเหล็กอสูรปราณฟ้าระดับห้า มันโจมตีได้ดุร้ายเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าศัตรูและถูกวานรทองแขนเหล็กต่อยเข้าที่ฟันของมัน ดังนั้นมันจึงได้ชื่อว่า “เจ้าเขี้ยวหัก” มันร่วมมือกับสหายที่เป็นมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ผู้บ้าคลั่งจอมต่อยตีเอาชนะได้สำเร็จ เสียสละเพียงเล็กน้อยแต่ในที่สุดได้รับรางวัลเป็นแขนแหล็กที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าผิวหนังเหล็กกล้า
ในระหว่างต่อสู้มนุษย์กุ้งเจียวซีคอยช่วยเจ้าเขี้ยวหักและได้รับการยอมรับจากมันเขากลายเป็นอัศวินที่คอยคุ้มครองเจ้าเขี้ยวหัก
ทันทีที่อยู่ในน้ำมนุษย์เงือกกลายพันธุ์จะมีพลังรบเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า
เมื่อใช้ฉลามเสือทรายเป็นพาหนะมนุษย์เงือกกลายพันธุ์กล้าพูดได้ว่าในน่านน้ำนี้ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้พวกเขาได้ อย่างน้อยคู่ต่อสู้ระดับเดียวกันไม่สามารถเอาชนะเขาได้! เหมือนกับขณะที่เขากำลังไล่ล่าเจ้าอ้วนไห่ที่มองผิวเผินมีพลังปราณฟ้าระดับต้นๆเท่านั้น เจ้ามนุษย์ที่ร่างเหมือนหมูนี้ มนุษย์กุ้งเจียวซีรู้สึกได้ว่าสามารถเอาชนะได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมาย
ถ้าไม่ใช่เพราะท่านจอมพลสั่งไว้ก่อนแยกจากไปว่าต้องฆ่าเป้าหมายที่หลบหนีไปให้รวดเร็วที่สุด มนุษย์กุ้งเจียวซีอยากจะล้อเล่นกับศัตรูนี้สักชั่วขณะ
แหนเลือดเป็ดน้ำของฟูผิง?
วิชาลับของฟูผิงนั้นมนุษย์กุ้งเจียวซีเคยเห็นมาแล้ว
ถ้าเขาไม่มีเจ้าเขี้ยวหักเป็นพาหนะ คาดว่าการตามไล่ล่าคงจะยุ่งยากบ้างเล็กน้อย คงจะน่าขายหน้ากว่าจะไล่ตามได้ทัน แต่ด้วยพาหนะน้ำ ความเร็วของฉลามเสือทรายสามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายเหมือนกับแมวไล่จับหนู มนุษย์กุ้งเจียวซีรู้ว่าเขาจะต้องย้อนกลับไปหลังจากลงมือแล้วที่สำคัญมีคนต้องไล่ล่าไม่ใช่แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น เจ้าปลาหมึกยักษ์ไล่ล่าบุรุษน้ำแข็ง จิ้งหรีดน้ำไล่ล่าองค์ชาย เจ้าจระเข้ปากกว้างพอกินปราสาทได้ทั้งหลังไล่ตามเจ้าคนผอม...ฟูผิงคิดว่าใช้เลือดลับวิชาที่ดีที่สุดของนางช่วย เพื่อให้คนพวกนี้หลบหนีไปได้ นี่เป็นเรื่องน่าตลก
ทุกอย่างอยู่ในเงื้อมมือท่านจอมพลแล้ว
อย่างไรก็ตามท่านจอมพลมักจะให้โอกาสฟูผิงได้กลับมาเสมอ แต่ในที่สุดนางก็ต้องยอมแพ้
คนที่มีความสุขที่สุดเห็นจะเป็นนางแมงมุมน้ำ และคนที่เศร้าที่สุดย่อมเป็นเจ้าลิงน้ำพันปีอย่างมิต้องสงสัย อย่างไรก็ตามเรื่องเหล่านี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา เขาไม่ต้องการเป็นเจ้าเมือง ไม่ต้องการต่อสู้ทางความคิดของท่านผู้หญิงของเมืองในอนาคต เรื่องของเบื้องสูงเขาจะไม่ยุ่ง ชีวิตแบบนี้ปลอดภัยที่สุด! เหมือนกับแมงมุมน้ำและเจ้าลิงน้ำที่ลอบปล่อยคน ลอบไล่ติดตาม หลังจากรอแล้วเท่ากับว่าลูกศิษย์ที่เหมือนลูกสาวตนเองก่อกบฏและหนีไป จอมพลที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วจะไม่ให้อภัยพวกเขาแน่นอน “เฮ้..เจ้าอ้วน ข้าว่าเจ้าหนีมานานเกินไปแล้วเจ้ายังจะหนีต่ออีกหรือ? เจ้าเหนื่อยเป็นบ้างไหม?” มนุษย์กุ้งเจียวซีเห็นร่วงลงมาจากแหนเลือดเป็ดน้ำดูเขาสิ้นหวังและพลังร่างกายถึงขีดจำกัด เขายังสามารถว่ายน้ำหนีต่อโดยเชื่อมั่นว่าจะรอดได้
“หึหึหึ เจ้าน้องชาย, เจ้าดีแต่ยืนพูดประชดประชันไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไร เป็นเจ้าเจ้าจะหนีไหม?” เจ้าอ้วนไห่ทั้งเหนื่อยทั้งโกรธ แล้วทำตาเหลือก
“อย่างไรก็ตาม เจ้าก็จะตายอยู่ดีแต่ให้ข้าฆ่าเจ้าด้วยดาบไวช่วยให้เจ้าตายเร็วขึ้นโดยไม่เจ็บปวดแล้วค่อยตัดหัวของเจ้ายังจะดีกว่า แน่นอนว่าถ้าเจ้าไม่ยอมแพ้แต่โดยดีและทิ้งของมีค่าไว้เราผู้เฒ่าจะไม่ยอมพูดดีๆ เด็ดขาด ถ้าเจ้ากล้าต่อต้านหรือบังอาจหนีออกไปอีกเล็กน้อย ข้าบอกได้เลยว่าจะค่อยๆแทงและแล่เนื้อของเจ้าเหมือนแล่ปลาบางๆ เจ้าอ้วน เจ้าควรคิดให้ดี เป็นมนุษย์ที่เลือกความเป็นความตายไม่ได้ทำไมเจ้าต้องดิ้นรนให้เจ็บปวด?” ตามข้อมูลที่ฟูผิงบอกไว้ก่อนนั้นมนุษย์กุ้งรู้ว่าเจ้าอ้วนผู้นี้มีทรัพย์สิน เพื่อให้ได้ทรัพย์สินของเขาเขาแนะนำอย่างอดทนมิฉะนั้นคงฆ่าเจ้าอ้วนผู้นี้ไปแล้ว
“ข้าต้องรอจนกว่าปาฏิหาริย์จะมาถึง!” เจ้าอ้วนไห่บอกว่าเขาจะไม่ยอมละทิ้งความหวังสุดท้าย
“ท่าว่ายน้ำของเจ้า ทำให้ข้ารังเกียจแทบตายฉะนั้นไม่มีทางที่ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นได้” มนุษย์กุ้งเจียวซีหัวเราะ นี่คิดว่าปาฏิหาริย์เล็กๆ น้อยๆ จะเกิดขึ้นกับเขาหรือ? ผิดแล้ว คนอย่างเจ้าอ้วนถูกกำหนดให้ต้องพบกับโศกนาฏกรรมในชีวิตและถูกโชคชะตาทอดทิ้ง
เจ้าอ้วนไห่สบถด่ามนุษย์กุ้งเจียวซีด้วยภาษาแปลกประหลาด มนุษย์กุ้งไม่สามารถเข้าใจได้และเขาไม่รู้ว่านั่นเป็นรหัสลับที่เย่ว์หยางสร้างขึ้น เพราะผู้เฒ่าหนานกงบอกว่าเย่ว์หยางต้องรักษาสง่าราศีของจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แห่งหอทงเทียนเอาไว้ เย่ว์หยางจึงหลุดคำพูดประหลาดพิลึกออกมาและรู้กันภายในกลุ่มของพวกเขาเท่านั้นไม่เคยหลุดออกมาภายนอก ไม่เพียงแต่เย่คงเทานั้นแม้แต่เจ้าอ้วนไห่เว้นแต่เขาดีใจลืมตัวไม่เช่นนั้นเขาจะไม่หลุดคำพูดนี้ออกมาอย่างง่ายดาย
“เจ้าอ้วน, ดูสหายของเจ้าสองคนที่เพิ่งปรากฏตัว เจ้าเอาแต่ผายลมคิดจะเล่นลูกไม้ใดอีก?”
ประโยคเหล่านี้ไม่ใช่คำพูดของมนุษย์กุ้ง แต่นี่เป็นคำพูดที่มนุษย์กุ้งเจียวซีต้องการพูด
มนุษย์กุ้งตกใจ
ใครบางคนอาจโผล่มาในเวลานี้นอกจากนี้คำพูดนั้นยังสอดคล้องกับความคิดของเขาอย่างน่าประหลาดใจ นี่ไม่ใช่พี่น้องของเขาที่แยกจากกันมาหลายปีหรือไม่?
ในใจของมนุษย์กุ้งเจียวซีมีความคิดหนึ่งผุดขึ้น เขาเหลียวกลับไปมองและพบว่ามีคนห้าคนกำลังยืนอยู่ข้างหลังเขาคนหนึ่งเย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็ง คนหนึ่งยิ้มแย้มและสุภาพคนหนึ่งทำหน้าขึงขังกับเจ้าอ้วนอีกสองคนนิ่งเงียบเตรียมพร้อมโจมตี..คนเหล่านี้ไม่ใช่ว่าถูกเจ้าปลาหมึก, จิ้งหรีดน้ำ, จระเข้ปากยักษ์ไล่ล่าไม่ใช่หรือ?
ทำไมพวกเขามาอยู่ที่นี่กันทั้งหมด
เจ้าปลาหมึก จิ้งหรีดน้ำและจระเข้ยักษ์เล่า? พวกมันเกียจคร้านและหนีกลับไปเมืองไป๋เหอร่วมพิธีคืนชีพบรรพบุรุษหรือ?
หมายความว่าพวกมันทิ้งหน้าที่กำจัดคนพวกนี้ให้เขาคนเดียวอย่างนั้นหรือ?
มนุษย์กุ้งโมโห
ถ้าข้ากลับไป ข้าจะฟ้องท่านจอมพล
จ๋อม
มีบางอย่างถูกโยนออกมา เจ้าเขี้ยวหักที่มนุษย์กุ้งเจียวซีไม่รอให้เขาได้เห็นถนัด มันกลืนลงท้องทันที
มนุษย์กุ้งตะลึงดูเหมือนว่าเขาจะโยนศีรษะใครคนใดคนหนึ่งเข้ามา?
แม้ว่าศีรษะนั้นจะถูกเจ้าเขี้ยวหักกลืนกินแต่รอยและกลิ่นคาวเลือดลอยอยู่ในน้ำ
เฮ้ เฮ้!
ในมือของเย่คงก้อนเงาดำสองลูกถูกโยนออกไป มนุษย์กุ้งเจียวซีตกใจกลัวรั้งเจ้าเขี้ยวหักถอยห่างออกมาจนกระทั่งก้อนเงาสุดท้ายถูกบุรุษน้ำแข็งโยนออกมามาเขาจึงได้เห็น ก้อนเงากลมนั้นถูกแช่แข็งก็คือศีรษะคนตายอย่างเห็นได้ชัด นั่นคือผู้เยาว์ฝ่ายมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ที่มีความแข็งแกร่งมีเจ้าปลาหมึกเป็นผู้นำ คาดไม่ถึงเลยว่ายอดฝีมือที่ทรงพลังอย่างเขาก็ยังตายได้ ทั้งตายอย่างน่าสยดสยอง
เมื่อมองดูก้อนเงาดำอื่นเขาพบว่าทั้งหมดคือศีรษะทั้งนั้น
จิ้งหรีดน้ำ จระเข้ปากโตถ้ารวมกับหัวที่เจ้าเขี้ยวหักกินเข้าไปแล้วอย่างนั้นพวกเขาก็คงตายกันหมด
มนุษย์กุ้งเจียวซีไม่โง่ และรู้ทันทีว่าผิดปกติ
“หนี!”
ทันใดนั้นเขาเร่งให้เจ้าเขี้ยวหักพาหนีทันที!
ในท้องฟ้ามีเงาปีศาจที่มีร่างงดงามที่กำลังรวบปีกหลีกเลี่ยงข้อจำกัดกฎสวรรค์ห้ามบินพุ่งร่างเข้าหามนุษย์กุ้งเจียวซี มนุษย์กุ้งเจียวซีไม่มีเวลาตั้งหลักเขารู้สึกว่าร่างของเขาถูกฝ่ายตรงข้ามระดมหมัดใส่จนร่างแข็งทื่อเหมือนงูตายกระเด็นตกหลังเจ้าเขี้ยวหัก
เจ้าอ้วนผู้ว่ายน้ำช้ายิ่งกว่าหมูพลันทะยานขึ้นในอากาศ
ในท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมัดที่พุ่งเข้ามาราวกับดาวตก...
“หมัดฮิปโปดาวตก!”
นี่คือประโยคสุดท้ายที่มนุษย์กุ้งเจียวซีได้ยินก่อนตาย หลังจากนั้นเขารู้สึกว่าร่างของเขาถูกพลังฝนดาวตกบดกระแทกใส่!
ในเมืองไป๋เหอหลิวเย่เพิ่งออกมาจากสมาคมเหล็ก
นางเพิ่งจะพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจ และแลกเปลี่ยนแร่ดอกสายฟ้าสิบตันกับอัญมณีหลากสี นางยิ้มอย่างอารมณ์ดี แน่นอนอารมณ์นางดีไม่ใช่เพราะเพียงแต่พูดคุยธุรกิจเท่านั้น แต่นางยังคงบรรลุพลังระดับใหม่ นางไม่รู้ว่าอยู่กับเขาตามลำพังหรือเปล่า ถึงทำให้เข้าใจได้ดีเป็นพิเศษ ระดับพลังที่นางคิดว่าต้องใช้เวลานานกว่าจะบรรลุได้แม้ในช่วงไม่กี่วันมานี้ก็ประสบผลเพียงเล็กน้อย
หลิวเย่เตรียมจะขึ้นรถไฟที่สถานีกลับไปยังโรงแรมกางเขนเหล็ก
อย่างไรก็ตามนางพบว่ามีคนขวางหน้านางไว้
นางหยุด
คนที่ยืนขวางหน้าหลิวเย่เป็นสตรีสวมชุดดำมีดวงตาหยิ่งยโสและอำมหิต นี่คือสตรีอสรพิษ ทั้งสองฝ่ายประเมินกันและกัน
“ดูเหมือนข้าไม่รู้จักเจ้า...” แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีรังสีฆ่าฟันแต่หลิวเย่ยังคงยิ้มได้
“คนตายไม่จำเป็นต้องรู้มาก!” สตรีชุดดำแค่นเสียหยิ่งยโส
“พูดมีเหตุผล” หลิวเย่พยักหน้าและพูดอย่างอารมณ์ดี “เราจะออกไปนอกเมืองกันดีไหม? ลงไม้ลงมือในเมืองข้าเกรงว่าจะทำร้ายคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่” คำพูดของนางทำให้แมงมุมน้ำที่ยืนอยู่ด้านตรงข้ามขำแทบตาย สู้ในเมืองจะทำร้ายคนบริสุทธิ์? นางคิดว่าที่นี่คือที่ไหน? นี่คือที่ของนางหรือ? นี่คือถิ่นของนางแมงมุมน้ำ คนที่จะพูดคำนี้ต้องเป็นนางพูด
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดี ข้าจะทำตามความต้องการของเจ้าก่อนตาย ออกไปนอกเมือง” นางแมงมุมน้ำรู้สึกว่านางไม่เคยเห็นสตรีที่โง่ขนาดนั้นมาก่อนในชีวิตนาง
เรื่องที่แปลกก็คือหลิวเย่ยังคงอารมณ์ดี
นางคิดอย่างนั้น!