ตอนที่ 1018 กล้าเริ่มก้าวเท้าออกไป
“คนบนเรือ จงออกมา!” เรือลาดตระเวนที่อยู่ในระยะไกลจากเมืองไป๋เหอมีมนุษย์เงือกกลายพันธุ์สองคนส่งเสียงร้องเรียก
น่านน้ำบริเวณนี้เป็นเขตหวงห้ามสำหรับเมืองไป๋เหอ
คนในเมืองมีไม่กี่คนที่ออกมาที่นี่
โดยทั่วไปมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในที่นี่โดยเข้าใจผิดย่อมไม่รู้จักข้อห้ามนี้
เย่ว์หยางส่งสัญญาณบอกหลิวเย่ไม่ให้ตื่นเต้น หลังจากพลลาดตระเวนตะโกนสองสามครั้งเขาถอดเสื้อผ้าออกช้าๆ เหลือแต่กางเกงขาสั้นร่างกายเปียกชุ่มเหมือนเหงื่อออก หลิวเย่ตอนแรกไม่เข้าใจแต่เขาแสร้งทำเป็นเหมือนคู่รักที่มาหาความสุขอยู่บนเรือท่องเที่ยว
“ตะโกนเรียกทำบ้าอะไร?” เย่ว์หยางรีบออกมาจากเรือท่องเที่ยวทำท่าทางโมโหไม่มีที่ระบายออก
“พวกเจ้ารุกล้ำเขตหวงห้าม ให้รีบออกไปทันทีมีใครอีกคนอยู่บนเรือ?” มนุษย์เงือกกลายพันธุ์บนเรือลาดตระเวนเห็นว่าเด็กหนุ่มเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่มีฝีมือก็ถลึงตาไล่ให้เขาออกจากเรือ
“นี่คือเมืองไป๋เหอ ยังมีข้อหวงห้ามอะไรอีก? พวกเจ้าต้องการเบี้ยเลี้ยงพลตระเวนหรือเปล่า? เราคุณชายมีเงิน จะจ่ายให้เจ้าแล้วรีบไปให้พ้นหน้าเลย!” เย่ว์หยางทำตัววางมาดเป็นคุณชาย เขาโยนถุงเงินให้มนุษย์เงือกกลายพันธุ์ พวกเขาจับเขย่าดูพบว่ามีจำนวนมาก เขามีสีหน้าเปลี่ยนและพยายามห้ามสหายไม่ให้โกรธและพยายามพูดโน้มน้าว “คุณชายท่านนี้! ความจริงเนื่องจากในช่วงสองสามวันมานี้เกิดหมอกซ่อนขึ้น ทำให้พื้นที่ตรงนี้ไม่ค่อยปลอดภัยดังนั้นจะดีที่สุดก็คือหลีกเลี่ยงจากที่นี่เพื่อป้องกันการสูญเสีย”
“หมอกซ่อน?” เย่ว์หยางเมื่อได้ยินเช่นนั้นอดสวมบทบาทเป็นคุณร่ำรวยไม่ได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
“ก็อย่างที่กล่าวนั่นแหละ นี่คงเป็นเขตหวงห้าม ดีที่สุดก็คือไม่ควรอยู่นานเกินไป... ถ้าพวกท่านต้องการสนุกห่างจากที่นี่ออกไปสามสิบไมล์ทะเล มีกระแสน้ำอุ่นหมุนช้า มีปลาและกุ้งมากมาย และสภาพน้ำดีกว่าที่นี่!”
“เราคุณชายตกปลามาครึ่งค่อนวันไม่มีปลากินเหยื่อสักตัว ข้าไม่รู้และไม่รู้ว่าทำไม! เราไปกันเดี๋ยวนี้เลย!” เย่ว์หยางรีบนุ่งผ้าแล้วออกเรือ
มนุษย์เงือกกลายพันธุ์เก็บถุงเงินทำเป็นขยิบตาให้สหาย
ซึ่งหมายความว่าปล่อยอีกฝ่ายหนึ่งออกไปแล้วรับผลประโยชน์รายได้ดีกว่า ทำไมไม่ทำอย่างนั้น? ไม่มีประโยชน์อะไรกับการทะเลาะกับคุณชายนี้
ในตอนแรกมนุษย์เงือกกลายพันธุ์มีสีหน้าโกรธแต่เมื่อพบว่าสหายของเขาวางหย่อนเงินเข้ากระเป๋าของเขาเงียบๆอย่างน้อยก็แบ่งครึ่งหนึ่ง อารมณ์ของเขาดีขึ้นมาก แน่นอนว่าเขาไม่ลืมหน้าที่ของเขาเพราะกลัวว่าเย่ว์หยางจะเที่ยวเปะปะอยู่แถวๆ นี้ เขาตะโกนเสียงดัง “คุณชายท่านนี้โปรดมาพร้อมกับเรือลาดตระเวนของเรา เราจะพาท่านกลับไปอย่างปลอดภัยแน่นอน”
เขาพูดดีอย่างนี้เพื่อต้องการเห็นเรือท่องเที่ยวของเย่ว์หยางแล่นกลับเมืองไป๋เหอ
เย่ว์หยางขอบคุณเขา และบ่ายเรือกลับติดตามพวกเขากลับไปทันทีเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะทิ้งเขาไว้ในพื้นที่อันตรายแห่งนี้
หลังจากใช้ชั้นเชิงทางจิตวิทยา หลิวถอดชุดรบจันทราออกและนุ่งผ้าขนหนูและมองลอดออกมาจากประตู เมื่อเรือกำลังกลับลำนางมองเห็นมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ทั้งสอง..เป็นผลให้มนุษย์เงือกกลายพันธุ์ทั้งสองมั่นใจว่าคู่รักทั้งสองบังเอิญพลัดเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม
“เราจะทำอย่างไรกันดี?” หลิวเย่เดินเข้าอยู่ใกล้ๆ เย่ว์หยางต้องการจะหยอกล้อเขาเหมือนกับคนรัก แต่อดเขินอายไม่ได้
“เจ้าทำได้ดีมากอยู่แล้ว” เย่ว์หยางยิ้มให้นาง
ความจริงเขาไม่ได้คาดหวังว่าหลิวเย่จะให้ความร่วมมือเล่นละครตบตากับเขา
บางครั้งสาวน้อยคนนี้ก็ทำงานอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทางมองด้วยความสงสัยออกมาจากภายในประตู มันยอดเยี่ยม!
หลิวเย่ก้มหน้าด้วยความอายมองอยู่แต่พื้นอย่างเดียวแต่นอกเหนือจากความเขินอายแล้วนางรู้สึกวาบหวามใจ...นางบอกไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ แต่ตราบใดที่นางอยู่กับเขา นางรู้สึกมีความสุขมากกว่าอะไรอื่น
ตอนนี้จะปลดผนึกโบราณขุมทรัพย์ลับหรือไม่? ไม่เพราะมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ไม่มีทางทำตามประเพณีที่น่าขันของพวกเขาได้ เพราะตีความจารึกผิดแผกไป เย่ว์หยางตัดสินใจว่าอีกสองสามวันค่อยกลับไป
ถ้าเขาไม่ดำเนินการกับผนึกนี้ชั่วคราว แม้เขาจะปลดผนึก ก็ควรไปปลดผนึกในที่อื่นก่อน
เมืองไป๋เหอนี้
จะตั้งอยู่ในที่สุดท้าย
ไม่ใช่ว่าเย่ว์หยางเบื่อหน่ายและต้องการหยอกพวกมนุษย์เงือกกลายพันธุ์แต่ผนึกโบราณนั้นไม่ธรรมดาเขาต้องการปลดผนึก ขณะที่พิธีชุบชีวิตบรรพบุรุษของชาวมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ เผ่าพันธุ์ทรยศของหอทงเทียน เย่ว์หยางตัดสินใจมอบให้เจ้าอ้วนไห่ เย่คงและพวกเสวี่ยทันหลางได้มีโอกาสต่อสู้แสวงหาความก้าวหน้า
พวกเขาจะไม่สามารถทำได้ ถ้าไม่มีแรงกดดันจากภายนอก
อย่างไรก็ตามมีฮุยไท่หลางคอยดูแลคุ้มครองพวกเขา คนเหล่านี้ทนทายาดยิ่งกว่าแมลงสาบ เป็นไปไม่ได้ที่จะตายง่ายๆ
รอจนปราบเมืองไป๋เหอนี้ได้ เขาจะตามหาสมบัติลับเย่ว์หยางคาดว่าเขาจะไปยังดินแดนมิติฝึกฝีมือเพื่อตามจีอู๋ลี่ให้ทัน
ขณะนี้พลังของเขาก้าวหน้าขึ้น เย่ว์หยางมีความมั่นใจมากขึ้นว่าสู้กับจีอู๋ลี่ได้ แต่เขาต้องการบรรลุพลังกระบี่ไร้ลักษณ์ที่สี่ในช่วงเร็ววันนี้ให้ได้ กระบี่ดำกุยจ้าง กระบี่ขาวซวงหัวกระแดงชี่เสี่ยวเหลียน กระบี่ส้มเฉิงหงกวงอยู่ในมือก็จะยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น
สำหรับกระบี่ที่ห้า กระบี่เหลืองหวงหลงหยวน กระบี่ที่หกกระบี่เขียวลู่ปี่ปอ และกระบี่ที่เจ็ดกระบี่ฟ้าชิงไท่หยวน เขารู้สึกว่าไม่ควรใฝ่ฝันเกินไปตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถทำได้ สำหรับเทพธิดากระบี่ฟ้า หลังจากเขาบรรลุพลังปราณราชันย์ระดับห้านางแสดงกระบี่ไร้ลักษณ์ที่แปดกระบี่น้ำเงินหลานจางไห่ และกระบี่ที่เก้า กระบี่ม่วงจื่อซิงเฉินให้เย่ว์หยางชม เย่ว์หยางไม่สามารถจินตนาการออก หากเขาเข้าใจกระบี่ที่แปดและที่เก้าได้อย่าว่าแต่จีอู๋ลี่ที่เป็นนักสู้ระดับกึ่งเทพเลย แม้แต่ผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าตำหนักสูงสุดก็ยังต้องยอมสยบต่อหน้าเขาแน่นอน
นั่นคือกระบี่ประหารเทพ!
ในตำนานจีนโบราณไม่อาจจินตนาการได้ว่าสิ่งที่เย่ว์หยางนึกไม่ออก กระบี่อมตะ ฆ่ากระบี่อมตะได้แน่นอนนั่นเป็นเรื่องที่เย่ว์หยางจินตนาการไม่ถึงมาก่อน
ตั้งแต่เทพธิดากระบี่ฟ้าแสดงกระบี่น้ำเงินหลานจางไห่และกระบี่ม่วงจื่อซิงเฉินเขาเข้าใจได้ทันทีว่ามีกระบี่ประหารเทพอยู่จริง....แน่นอนว่าเย่ว์หยางไม่คิดว่ากระบี่น้ำเงินหลานจางไห่และกระบี่ม่วงจื่อซิงเฉินจะใช้ในการทำลายเทพได้ แต่กระบี่ที่สี่นั้นเขาใกล้จะสำเร็จได้ในที่สุด เขาจะต้องสำเร็จกระบี่ส้มเฉิงหงกวนให้ได้
ทั้งสองกลับไปยังโรงแรมกางเขนเหล็กในเวลาใกล้ค่ำ
เพราะหลิวเย่ได้ร่วมสำรวจกับเย่ว์หยางทำให้นางอยู่ในอารมณ์ที่ดีมากนางได้เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมาย
นางตัดสินใจปรุงอาหารอร่อยเพื่อขอบคุณและยินดีกับเย่ว์หยาง ส่วนเย่ว์หยางกำลังง่วนอยู่กับการทำแผนที่ภูมิประเทศภายในป้อมเหล็กทั้งสอง เขาไม่ต้องการใช้สิ่งเหล่านี้เอง แต่เจ้าอ้วนไห่ เย่คงและเสวี่ยทันหลางอีกสามวันพวกเขาจะถูกจับไปบูชายัญแน่นอน หากพวกเขาไม่มีแผนที่นี้พวกเขาอาจจะผิดพลาดเหมือนแมลงวันหัวขาดที่หนีไปอย่างไร้ทิศทางและออกไปไหนไม่ได้ โครงสร้างและเส้นทางในป้อมปราการเหล็กมองอย่างผิวเผินมีลักษณะคล้ายกันมากและอาจสร้างความสับสนได้มากหากคนภายนอกที่ไม่คุ้นเคย บุกเข้าไปในภูมิประเทศนั้น พวกเขาจะหลงทาได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือประตูเหล็กจำนวนมากที่ทางเข้ามีกลไกพิเศษหากพลั้งเผลอใช้ผิดอาจจะถูกขังอยู่ข้างใน นั่นเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด
ป้อมปราการเหล็กยุคโบราณไม่ต้องพูดอะไรอื่นมากแม้แต่เย่ว์หยางก็ทำไม่ได้
อย่างมากก็คัดลอกเลียนแบบป้อมปราการขนาดเล็ก
นั่นหมายความว่าไม่ใช่ของธรรมดา!
เย่ว์หยางคาดว่าช่างฝีมืออย่างน้อยคนหนึ่งจะต้องมีระดับฝีมือใกล้เคียงกับเย่ว์กง ครั้งหนึ่งเขาคงทำงานให้กับกลุ่มกบฏหอทงเทียนในเมืองไป๋เหออย่างน้อยมีป้อมปราการเหล็กขนาดเล็กหกแห่งที่สร้างขึ้นมาเหมือนกัน สำหรับตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่ามีป้อมเหล็กขนาดนี้อยู่ แต่เย่ว์หยางประมาณการว่าไม่ควรมีหลายแห่งถ้าจะมีก็คงไม่เกินสามแห่ง และโครงสร้างภายในจะต้องมีความคล้ายคลึงกันรวมทั้งคุณสมบัติทั่วไป
ระยะทางจากเมืองไป๋เหอจนถึงป้อมปราการใหญ่ถือว่าไม่ไกลเกินไป แต่เส้นทางที่คดเคี้ยวเหมือนเขาวงกตบางทีอาจมีป้อมปราการเหล็กขนาดเล็กอีกแห่ง!
เย่ว์หยางตัดสินใจว่าในช่วงเวลานี้จะหาโอกาสออกไปสำรวจ
ศัตรูจะลงมือในอีกสามวันแน่ เขาจะไม่ทำอะไรเลยหรือ? ถึงเวลานั้นจะได้ตั้งหลักได้ทัน
ทั้งสองกินอาหารค่ำเย่ว์หยางกลับไปที่โลกคัมภีร์และทุ่มเทฝึกฝนเพื่อให้สำเร็จกระบี่ที่สี่กระบี่ส้มเฉิงหงกวน หลิวเย่เป็นเสมือนแม่บ้านวุ่นวายกับการทำความสะอาด แม้ว่านางจะงานยุ่งแต่ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีทำให้นางมีความสุข
บางครั้งนางมองไปที่ห้องฝึกฝนของเย่ว์หยาง
กวางทะลุมิติส่งสัญญาณให้นางทราบว่ามีสัญญาณกระดิ่งประตูดังขึ้นข้างนอกหลิวเย่ออกไปดูพบว่าชิงผิงมาเยี่ยม
“ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่?” หลิวเย่รู้สึกสับสนเล็กน้อยหลังจากที่นางได้ยินความลับมากมายที่ไม่มีทางรู้ได้ง่ายสาวน้อยกลัวว่าอีกฝ่ายจะสังเกตพิรุธนางออก
“รบกวนโลกคู่รักของพวกเจ้าหรือเปล่า? อุ๊ย.. น้องสาว..ข้าขอโทษเจ้าจริงๆ เป็นยังไง วันนี้สนุกไหม ทำไมเราไม่ไปสำรวจทะเลหมอกสำรวจซากเรืออับปางบางทีเราอาจพบสมบัติที่เรืออับปางก็ได้”ชิงผิงกล่าวขณะเดียวกันสายตานางสำรวจข้างใน หลิวเย่ยืนขวางประตูบังสายตานาง ชิงผิงได้แต่ฝืนยิ้ม “ก็ได้ ไม่รบกวนพวกเจ้าแล้วขอให้มีความสุขในโลกของคู่รักนะ แล้วพบกันพรุ่งนี้!”
“เขาเป็นแค่อาจารย์ของข้า ไม่ใช่อย่างที่พี่ชิงผิงคิด” หลิวเย่อายหน้าแดง เป็นครั้งแรกที่นางควบคุมตนเองต่อหน้าอีกฝ่ายไม่ได้หลังจากนั้นชิงผิงหันหลังกลับและพูดตรงๆ “ไว้พบกันพรุ่งนี้!”
ชิงผิงยังต้องการรั้งอยู่กับหลิวเย่จากนั้นหาเรื่องสนทนาเรื่องเย่ว์หยาง
แต่พริบตาที่หลิวเย่ปิดประตู นางอดนึกเสียใจไม่ได้
เด็กหนุ่มรูปหล่อดีจริงๆ หรือ?
ดีพอจะเหลียวมองจริงๆ หรือ? เลือกบุรุษหน้ากากเงิน คาดว่าไม่อาจเทียบได้กับเสวี่ยทันหลางหน้าตายผู้นั้นยิ่งเอาไปเทียบกับองค์ชายเทียนหลัว ก็ยิ่งห่างไกลกันมาก
แปลกมาก ยิ่งนางคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าใดก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดใจมากเท่านั้น หากเห็นหนุ่มหล่อหน้าขาวที่นางคิดถึง มันอาจจะน่าผิดหวัง ตอนนี้นางไม่เห็นใครเลยนางได้แต่ปฏิเสธผู้คนโดยตรง นอกจากนี้ยิ่งนางคิดก็ยิ่งอึดอัด นางมักรู้สึกว่าสาวน้อยหลิวเย่เลือกด้วยตัวนางเอง
เย่ว์หยางฝึกได้สำเร็จแล้ว
หลิวเย่ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่นมิฉะนั้นเขาคงไม่วิ่งมากอดนางอย่างตื่นเต้นร่าเริงเป็น
บางครั้งอาจารย์ของนางคนนี้ก็เหมือนกับทารกใหญ่
เย่ว์หยางไม่เข้าใจกระบี่ที่สี่ แต่ก็ก้าวหน้าในระดับใหม่
เขารู้ว่าเขาไม่ควรกังวลวิตกเกินไปและเริ่มฝึกพื้นฐานอย่างเข้มข้นตามปกติ ในพริบตาเขาหลั่งเหงื่อออกมามาก การฝึกฝีมือต่อสู้จะไม่สมบูรณ์หากไม่มีการขัดเกลาพื้นฐาน หากไม่มีรากฐานที่ดีที่สุด อาคารใหญ่ๆก็เหมือนไม่มีอะไร
สองชั่วโมงต่อมาเย่ว์หยางที่ออกกำลังระดับพื้นฐานก็เริ่มหายใจหนักหน่วง เขาเตรียมจะโดดลงสระน้ำทันใดนั้นเขาเห็นสาวน้อยหลิวเย่ถือผ้าเช็ดตัวหน้าแดงเดินตาม เสียงของนางเบากว่ามด“สาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์ไม่อยู่ พี่อู๋เหินก็ไม่อยู่ข้าจะเช็ดตัวให้ท่านเอง ไม่น่ามีปัญหา!”
ปกติการเช็ดตัวถูหลังเป็นกิจกรรมหยอกล้อของคู่รักทำตอนอาบน้ำ
แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่อาจพูดโดยตรงได้
มิฉะนั้นสาวน้อยหลิวเย่จะต้องอับอายแน่นอน
เรื่องถูหลังเย่ว์หยางไม่ต้องรบกวนนาง และเขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะที่มีผมนุ่มสลวยของนาง เขายิ้มและกล่าว “ถูหลังเป็นเรื่องง่าย เจ้าไม่ต้องเรียนรู้”
“อืม..ข้าจะพยายามให้มากขึ้น...” หลิวเย่อายและพยักหน้า นางรู้ว่าสนิทกับเขามากเกินไปบ้างเมื่อนางมาถึงขนาดนี้เขาลังเลอยู่นาน ทำไมนางต้องฝืนใจตนเอง เห็นได้ชัดว่านางต้องการขัดถูหลังให้เขานางต้องการอยู่กับเขา นางจึงได้รวบรวมความกล้าเข้ามาหา
บางเรื่องส่วนที่ยากที่สุดก็คือก้าวแรก
ก้าวแรกต้องใช้ความกล้าหาญ จากนั้นจึงมีก้าวที่สองก้าวที่สามก็จะง่ายมากขึ้น