ตอนที่ 1017 ไม่มีประเพณีทำร้ายคนตาย!
หลังจากศัตรูจากไปแล้วเย่ว์หยางและหลิวเย่เริ่มสำรวจป้อมปราการเหล็กอย่างระมัดระวังพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติม
ป้อมรบเหล็กมีเส้นผ่าศูนย์กลางห้าร้อยเมตรภายในกว้างใหญ่จริงๆ
ภายในมีห้าตอน
ทางเดินใหญ่หรือทางเข้าห้องทำกิจกรรมรวมป้องกันอย่างดี มนุษย์เงือกกลายพันธุ์พวกนี้เข้มงวดมากใครจะผ่านเข้าไปต้องแสดงป้ายผ่านและรับการทดสอบบางอย่าง
กลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล?
ใช้กับที่นี่ไม่ได้
หลิวเย่รู้สึกประหม่า ที่สำคัญนางแอบเข้าไปในถิ่นศัตรูเพื่อรวบรวมข้อมูลแบบนี้นางไม่เคยลองทำเลย บางครั้งหน่วยลาดตระเวนของศัตรูก็อยู่ใกล้เป็นพิเศษเพียงแค่มุมห้องไม่ถึงสิบเมตร แต่การสนองตอบต้องทำให้เหมาะสมและต้องทำก่อนศัตรูจะหันกลับมาพบตัวนางเอง ถ้าไม่มีเย่ว์หยางอยู่ด้วย นางก็อยู่เพียงคนเดียว หลายครั้งที่นางกลัวศัตรูพบเจอ นางรู้ว่าต้องใช้โอกาสนี้ปรับอารมณ์ตัวเอง โอกาสที่ได้ลงมือแบบนั้นมีไม่มากนักดังนั้นนางจึงยึดโอกาสนี้ไว้ ขณะเดียวกันนางมุ่งมั่นจะแสดงฝีมือให้ดีที่สุดต่อหน้าเขา ด้วยความเอาใจใส่เต็มที่ ประสิทธิภาพของนางดีกว่าปกติถึงสิบเท่า บางครั้งมีความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆเย่ว์หยางสนองตอบได้ทันเวลาเปลี่ยนจากอันตรายให้กลายเป็นความปลอดภัย
นางประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆความมั่นใจของนางเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ใจของนางมุ่งมั่นมากขึ้น
มีเย่ว์หยางอยู่ด้วยหลิวเย่ไม่กังวลแสดงพลังอย่างสุดฝีมือและเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ
ความเครียดถูกกำจัดออกไปทีละน้อย ทั้งกายและใจเป็นสมาธิมากขึ้นความตื่นตัวของนางอยู่ในสภาวะพิเศษ...ติดตามเย่ว์หยางทำให้นางรู้สึกเหมือนมีไฟ
เมื่อมองไปที่จุดตรวจที่ศัตรูเฝ้ารักษานางผ่านศัตรูไปอย่างง่ายดายทีละคน โดยที่ศัตรูไม่รู้ ใจของนางยิ่งตื่นเต้น
นี่ไม่ใช่การต่อสู้ แต่เหมือนกับเป็นการเอาชนะศัตรูในการต่อสู้
ความรู้สึกได้ถึงความสำเร็จนั้นเหมือนกัน
หลังจากตรวจค้นภายในป้อมปราการเหล็กเย่ว์หยางส่งสัญญาณมือให้หลิวเย่หยุดพัก และปาดเหงื่อที่หน้าผากให้นางเบาๆนางทำงานได้ดี บางครั้งก็ไม่ควรฝืนมากเกินไป หลิวเย่รู้สึกเขินอาย นางก้มหน้าและรู้สึกว่าแม้บางครั้งเขาจะแข็งกร้าวแต่บางคราวก็อ่อนโยน
หลังจากได้พักช่วงเวลาสั้นๆ จิตใจที่เครียดของนางเริ่มมีความมั่นใจเตรียมเทเลพอร์ตไปต่อ
ออกจากป้อมปราการเหล็กมุ่งหน้าออกไปทิศทางตรงข้ามกับเมืองไป๋เหอ
เย่ว์หยางและหลิวเย่เดินทางต่อเนื่อง
การเดินทางรอบนี้ราบรื่นกว่าเมื่อก่อน นี่เป็นเพราะความเชื่อมั่นของหลิวเย่มากขึ้น กระบวนการเทเลพอร์ตและตำแหน่งเวลาจึงแม่นยำมากขึ้นพวกทหารที่เฝ้าทาง นอกจากจะไม่ฉลาดแล้ว ยังผ่อนคลายยิ่งกว่าเมื่อก่อนทางเดินเหล็กขนาดสิบเมตร
ทุกๆ ห้ากิโลเมตรหรือราวๆ นั้นจะมีทหารลาดตระเวนเดินกลับไปมา
ด้วยความเข้มงวดกับการลาดตระเวนขนาดนั้นตราบใดที่พวกเขาไม่มองหาเป้าหมายโดยตรงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหาเย่ว์หยางและหลิวเย่เจอ
หลังจาพวกเขาเดินทางไปอีกมากกว่าสิบกิโลเมตร ในที่สุดก็ถึงป้อมปราการโลหะยักษ์ใหญ่อีกแห่งหนึ่ง เมื่อเข้าไปในป้อมปราการนี้เขาพบว่าใหญ่กว่าป้อมปราการครั้งก่อนประมาณ 10%
นอกจากนี้แม้ว่าหลิวเย่ที่ไม่คุ้นเคยกับจักรกลก็สามารถเห็นได้
ป้อมปราการเหล็กขนาดเล็กข้างหน้าและป้อมปราการเหล็กขนาดใหญ่ด้านหลังเป็นรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงนางไม่สามารถบอกอายุที่แน่นอนได้ แต่เย่ว์หยางทำได้ คำจารึกที่เขียนลงบนผนังเหล็กภายในป้อมปราการเหล็กขนาดใหญ่ด้านหลังรวมถึงเครื่องหมายบางอย่างที่หายไปมากมายโดยเฉพาะที่ใช้ในยุคสมัยโบราณเย่ว์หยางสามารถตัดสินได้ว่าป้อมปราการเหล็กขนาดใหญ่ด้านหลังเป็นผลงานของคนโบราณ สิ่งที่เขาเห็นก่อนหน้านี้เป็นเพียงของเลียนแบบของคนรุ่นหลัง
“นี่คือที่ซึ่งมนุษย์เงือกกลายพันธุ์จะใช้คืนชีพบรรพบุรุษพวกเขาหรือ?” หลิวเย่ถามด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่” เย่ว์หยางส่ายหน้า
“นั่นคือสถานที่ที่เราจะต้องปลดผนึกโบราณใช่ไหม?” หลิวเย่ถามอีกครั้ง
“มีเหตุผลที่จะบอกว่าเป็นผนึกนั้นถูกต้องแน่ แต่การกระทำของมนุษย์เงือกกลายพันธุ์เหล่านี้ทำให้ข้าสับสน ข้าจะต้องตรวจสอบดูก่อน และสถานการณ์เฉพาะหน้ายังไม่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร?” เย่ว์หยางฉลาดมาก ในความคิดของเขาเขาไม่เข้าใจว่าทำไมการปลดผนึกโบราณสำหรับเปิดประตูเข้าสู่ขุมทรัพย์สุดท้ายจะเชื่อมโยงกับการฟื้นคืนชีพบรรพบุรุษของมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ได้?
ทั้งสองคนสงสัยและอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน
เย่ว์หยางถ่ายทอดคำจารึกและคำอธิบายที่เขียนไว้อย่างต่อเนื่องส่วนหลิวเย่คอยระวังหลังให้เขา
บางครั้งนางเป็นห่วงเขาจริงๆเพราะในบางที่มีอันตรายมาก ทหารยามเดินผ่านพวกเขาไปต่อหน้าต่อตา แต่เย่ว์หยางยังคงคัดลอกอย่างไม่สนใจอะไรทำให้นางกลัวมาก
พื้นล่างของป้อมปราการเหล็กขนาดยักษ์จมลึกลงไปใต้น้ำ
พื้นที่ฐานล่างสุดคือที่ลับสุดยอด
นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ซึ่งหลิวเย่พบว่ามนุษย์เงือกกลายพันธุ์เกือบทั้งหมดปกป้องคุ้มกันอยู่ที่นี่มีทหารยามอย่างน้อยห้าร้อยนายป้องกันประตูเหล็กอย่างแน่นหนา จากข้อมูลต่างๆที่เย่ว์หยางรวบรวมได้ก่อนหน้านี้ ที่นี่ควรเป็นสถานที่มนุษย์เงือกกลายพันธุ์ใช้ชุบชีวิตบรรพบุรุษของพวกเขา
แต่ตามแผนที่ขุมทรัพย์โบราณที่นี่น่าจะเป็นตำแหน่งสำหรับปลดผนึก
เย่ว์หยางตัดสินใจอย่างกล้าหาญจะปลอมเป็นมนุษย์เงือกกลายพันธุ์
ทุกๆชั่วโมงทหารภายในและภายนอกป้อมจะผลัดเวรกัน
เขาตั้งใจแอบอยู่ด้านหลังมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ที่เปลี่ยนกะหลิวเย่รู้ดีว่าสนามพลังสร้างโลกของเย่ว์หยางสามารถจำลองทุกอย่าง แต่เขากับนางเป็นมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด และพวกเขาลื่นไหลไปตามทางสว่างเช่นนั้นทำให้นางรู้สึกหวาดหวั่น จะเกิดอะไรถ้าถูกพบเจอ? แม้ว่าจะไม่มีใครค้นพบ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าหลังจากเข้ามาแล้วพวกเขาอยู่ตรงจุดไหน!
“ไม่ต้องกังวล พวกเราเป็นเหมือนอากาศทั้งหมดข้ารับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นเรา แม้ว่าพวกเขาจะเห็น แต่พวกเขาจะไม่มีความสงสัย ทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของข้า ขอให้เจ้าติดตามข้าอย่างวางใจ” เย่ว์หยางสามารถลอบเข้ามาได้ เขายืนยันทำตามสิ่งที่เขาต้องการ แต่สาวน้อยหลิวเย่ต้องใช้พลังความคิดมากมายที่สุดในชีวิต
“เป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือ?” หลิวเย่รู้สึกไม่สบายใจ
“เจ้าผ่านประสบการณ์ในประตูเป็นตายมาแล้วแล้วนี่อะไรเล่า?” เย่ว์หยางจ้อง หลิวเย่พยักหน้าทันที และตอบเขาจริงจัง“ใช่แล้ว!”
ติดตามขบวนหลังทหารยามมนุษย์เงือกกลายพันธุ์เครียดและไม่ง่ายจริงๆ หลิวเย่รู้สึกว่าหัวใจของนางแทบกระดอนออกมานอกตัว
แต่นางก็ยังปลอดภัยจริงๆ
ไม่มีใครพบความแตกต่างระหว่างพวกเขาและเย่ว์หยางและหลิวเย่เป็นอากาศใสไม่มีใครสังเกตเห็น
ขณะเดียวกันทหารยามเหล่านี้ยังคงเงียบและเดินไปข้างหน้าราวกับเครื่องจักรกล คาดว่าพวกเขาได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษห้ามมิให้พูดคุยกันในระหว่างผลัดเวรเพื่อไม่ให้การป้องกันผ่อนคลาย
ด้านหลังประตูเหล็กมีพื้นที่ขนาดใหญ่
เป็นโดมเหล็กสูงถึงร้อยเมตร
เสาผลึกพลังงานสีแดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางใหญ่ขนาดสิบคนยังโอบไม่รอบและเก็บกักพลังงานมากมายมหาศาลไว้ในนั้น
มีนักบวชผู้ประกอบพิธีบูชายัญหลายคนที่ฐานกำลังสาธยายมนต์เสียงทุ้มซึ่งหลิวเย่ฟังไม่ถนัด
มีผลึกพลังงานหลายขนาดแตกต่างกันอยู่บนฐานวงแหวนของเสาผลึก พลังงานระหว่างนักบวชประกอบพิธีทั้งหมดเป็นสีแดงเลือดทหารมากกว่าสิบคนร่างโชกเลือด เดินตรงไปที่เสาผลึกเลือดและแสงพลังงานสีเลือดดูดกินเลือดราวกับว่ามีชีวิต เมื่อเลือดถูกดึงออกมาจะมีสีแดงประหลาดปรากฏขึ้น
เย่ว์หยางมีขวัญกล้าเทียมฟ้าแน่นอน เขาไม่เพียงแต่จะเดินเข้าไปตามปกติเท่านั้น แต่ยังอยู่ต่อหน้ามนุษย์เงือกกลายพันธุ์มากมายเขามองดูจารึกที่ฐานเสาผลึกแดง อ่านดูคำอธิบาย
หลิวเย่กัดฟันเดินตามเขา
ความรู้สึกในการเป็นขโมยต่อหน้าสายตาทุกคนเป็นเรื่องน่ากลัวจริงๆ....เย่ว์หยางไม่รู้สึกตัวว่าเป็นขโมย นอกจากสังเกตคำจารึกที่บันทึกเอาไว้ เขายังกล่าวทักทายนักบวชเหล่านั้นราวกับว่ากลัวคนอื่นจะไม่เห็นพวกเขา
“กล้าหาญอะไรอย่างนี้?” เป็นครั้งแรกที่หลิวเย่ยกความสงสัยออกจากก้นบึ้งหัวใจ
“ไม่เป็นไร ในสนามพลังของข้า ศัตรูจะคิดว่าเราเป็นนักบวชสถานะเดียวกับพวกเขา พวกเขาจะมองไม่เห็นข้อบกพร่องอะไร” เย่ว์หยางหันไปปลอบหลิวเย่จากนั้นเขาได้พูดคุยเกี่ยวกับนักบวชมากมายและยังวิจารณ์ผู้คนอย่างรุนแรงเนื่องจากไม่เห็นด้วย หลิวเย่อดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นไม่ได้นี่เป็นขโมยที่หยิ่งยโสเกินไปหรือไม่?
นางอดสะกิดเขาไม่ได้ แสดงว่าเกือบจะเสร็จอยู่แล้ว อย่าลากเวลาเกินไปมิฉะนั้นจะมีคนพบบางอย่างที่ผิดปกติ แต่เย่ว์หยางก็แทบทำให้นางเป็นลม
สุดท้ายก็ต้องพยายามดึงเย่ว์หยางออกมาอย่างยากลำบาก
จนกระทั่งกลับมาถึงเรือท่องเที่ยว หลิวเย่จึงโล่งใจได้
การเป็นขโมยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แล้ว อย่าริเป็นขโมย แม้จะไม่มีใครพบ แต่เป็นเรื่องเจ็บปวดใจมาก
หลังจากหลิวเย่ตั้งสติได้นางมีคำถามเถี่ยวกับเสาผลึกพลังงานสีเลือด “นั่นใช่สถานที่ปลดผนึกขุมทรัพย์โบราณตามที่ระบุในลายแทงหรือไม่? มนุษย์เงือกกลายพันธุ์จะชุบชีวิตบรรพบุรุษของพวกเขาได้อย่างไร? สิ่งมีชีวิตที่ทำการผนึกที่นี่คงไม่ได้ใช้พลังงานธรรมดา? จะใช้พลังงานของเสาผลึกได้อย่างไร?”
“ฮ่าฮ่าฮ่าแม้แต่สาวน้อยอย่างเจ้าก็ยังรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เสาผลึกพลังงานนั่นใช้ผนึกสิ่งมีชีวิตไม่ได้ แต่น่าเสียดายที่มนุษย์เงือกกลายพันธุ์เหล่านั้นไม่รู้ตัว”
เย่ว์หยางหัวเราะอย่างมีความสุข“ข้าคิดว่าสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏครั้งแรกทำให้ข้าสับสนในตอนแรก แต่หลังจากข้าเข้าไปอ่านคำจารึกโบราณและพูดคุยกับพวกเขาในที่สุดก็เข้าใจ ไม่มีธรรมเนียมเกี่ยวกับการฆ่าคน! บรรพบุรุษของมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ในยุคเก่าโพ้นเคยพบเจอผนึกนี้ พวกเขาต้องการปลดผนึกโบราณ เป็นที่คาดกันว่าพวกเขาได้รับทราบข่าวลายแทงขุมทรัพย์โบราณหรือค้นพบความลับบางอย่าง แต่กลับถูกสังหารหมู่โดยนักสู้ของหอทงเทียนในอดีตรวมทั้งทำลายล้างศิลาพลังงานเหล่านั้น ในเวลานั้นนักสู้ผู้แข็งแกร่งที่ฆ่าบรรพบุรุษยุคโน้นของเผ่ามนุษย์เงือกกลายพันธุ์ได้จารึกข้อความบนฐานวงแหวนรอบเสาผลึกเตือนใจคนรุ่นหลัง เป็นผลทำให้อนุชนรุ่งหลังของมนุษย์เงือกกลายพันธุ์เกิดความเข้าใจผิดในบันทึกข้างต้นคิดว่าการรวบรวมเลือดมากขึ้นจะทำให้พวกเขาฟื้นคืนชีพได้”
“หา....” หลิวเย่ตกใจและตะลึงอยู่นานกว่าจะตั้งสติได้ “อย่างนั้นต่อไปบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วของพวกเขาจะไม่มีทางฟื้นคืนชีวิตได้ใช่ไหม?”
“พลังงานของเสาผลึกนั่นถูกใช้เพื่อการปลดผนึกประตูขุมทรัพย์โบราณ เจ้ากล้าพูดได้ไหมว่าเจ้าสามารถชุบชีวิตผู้คนได้?” เย่ว์หยางถาม
“ไม่ ไม่มีประเพณีใดน่ากลัวขนาดนี้...” หลิวเย่ได้ยินแล้วอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นมิได้
จะยกเลิกการคืนชีพที่เกินเลยไปได้หรือไม่?
แน่นอนว่าเพราะจารึกเหล่านี้ถูกจารึกมานานเกินไปจนเกิดผลผิดพลาดทางประวัติศาสตร์ เป็นไปได้ที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิด แต่มนุษย์เงือกกลายพันธุ์นั้นกระตือรือร้นจะกอบกู้ชื่อเสียงบรรพบุรุษยุคก่อนโน้นโดยไม่ค้นหาความจริง คิดแต่จะรวบรวมเลือดเพื่อคืนชีพบรรพบุรุษที่ไม่เคยมีอยู่จริง
เห็นได้ชัดว่าคำเตือนถึงอนุชนรุ่นหลังต้องไม่หยิ่งผยองมิฉะนั้นจะถูกตัดสินล้างเผ่าพันธุ์ แต่มนุษย์เงือกกลายพันธุ์คิดว่าเป็นบรรพบุรุษยุคก่อนโน้นทิ้งคำสั่งให้ชุบชีวิต
นี่เป็นเรื่องตลกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จริงๆ
ไม่มีประเพณีทำร้ายคนตาย