ตอนที่ 1016 ความลับใต้น้ำ
เย่ว์หยางดึงหลิวเย่เข้ามาใกล้ตัวและว่ายวนดูพบว่า เจ้าสิ่งนี้ดูเหมือนเนินเขาใต้น้ำ แต่ความจริงไม่ใช่เลย
นี่คือเนินเขาอำพรางเป็นบอลโลหะขนาดมหึมา
นอกจากนี้หลังจากเย่ว์หยางตรวจสอบ
ทราบว่าข้างในกลวง
ที่รอบๆมันมีท่อเหล็กขนาดใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลางสิบเมตรเชื่อมคดเคี้ยวเข้าไปในเมืองไป๋เหออีกเส้นทางหนึ่งไปทางเส้นทางที่เย่ว์หยางกับหลิวเย่จะไปสำรวจผนึก หลิวเย่ไม่จำเป็นต้องคาดเดา นางเข้าใจนี่ต้องเป็นมนุษย์เงือกกลายพันธุ์แห่งเมืองไป๋เหอที่มาพบความลับใกล้ผนึกขุมทรัพย์และพยายามจะปลดผนึก
ตอนนี้จะไปปลดผนึกอีกครั้งนั่นคงไม่ดีแน่นอน
ควรทำอย่างไรดี?
หลิวเย่อดเงยหน้ามองดูเย่ว์หยางอย่างช่วยไม่ได้และรอให้เขาตัดสินใจ
“เราจะเข้าไปสำรวจข้างใน บางทีอาจได้ผลลัพธ์ใหญ่ก็ได้!” เย่ว์หยางเป็นคนที่ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน เกี่ยวกับการปลดผนึกของมนุษย์เงือกกลายพันธุ์เขาเองก็จะปลดผนึกและค้นหาสมบัติลับโบราณ เขาสามารถรับสมบัตินั้นไว้ด้วยตนเอง ในแดนสวรรค์ ผู้ใดแข็งแกร่ง ผู้นั้นเป็นเจ้า
“เอาอย่างนั้นก็ได้!” หลิวเย่เป็นคนจิตใจดี ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยาง นางคงไม่ยอมเป็นนางโจรสาวแน่ ดังนั้นนางยังคงกังวลเล็กน้อย
มีเย่ว์หยางอยู่ใกล้นาง นางตัดสินใจลงมือและเพื่อเป็นการรายงานเขาเกี่ยวกับผลการฝึกฝนเร็วๆ นี้ของนาง
กวางทะลุมิติ
นางเรียกอสูรพิทักษ์ของนางออกมาเงียบๆ
หลังจากผ่านการฝึกฝนและต่อสู้มานับไม่ถ้วนด้วยการฝึกฝนอย่างระมัดระวังจากเย่ว์หยาง กวางทะลุมิติซึ่งเป็นอสูรที่ยกระดับได้ยากมากตอนแรกเป็นแค่อสูรเงินระดับสองตอนนี้เติบโตจนอยู่ในชั้นแพลตตินัมระดับห้าแม้ว่ากวางทะลุมิติจะไม่ใช่อสูรชนิดใช้สู้รบแต่มันสามารถเคลื่อนย้ายระยะไกลช่วยเหลือเจ้านายในการต่อสู้ได้
สมคำที่กล่าวว่าทักษะแฝงเร้นสวะอสูรขยะไม่มีในโลก มีแต่เจ้านายสวะที่ใช้ไม่เป็นเท่านั้น
กวางทะลุมิติถ้าตกอยู่ในมือคนอื่นมันอาจถูกทำลายความสามารถได้
อย่างไรก็ตามภายใต้การฝึกฝนของเย่ว์หยางและหลิวเย่ มันไม่เพียงเติบโตอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นอาวุธที่เอาชนะในสนามรบหรือในการผจญภัยได้
เช่นเดียวกับการฝึกตามปกติ เมื่อกวางทะลุมิติทะลุผ่านเข้าไปในสิ่งก่อสร้างโลหะกลมขนาดยักษ์ผ่านพื้นผิวเข้าไปข้างใน เมื่อกวางทะลุมิติเข้าไปในพื้นที่ภายใน หลิวเย่ก็หายตัวเข้าไปด้วย
เทเลพอร์ตเพียงครั้งเดียว
นี่คือพื้นฐานที่เย่ว์หยางฝึกให้หลิวเย่
ไม่ต่างอะไรกับการฝึกฝนตามปกติกวางทะลุมิติผ่านทะลุเข้าไปในวัตถุธาตุเหล็กขนาดมหึมา ขณะที่กวางทะลุมิติผ่านเข้าไปหลิวเย่ก็นำเย่ว์หยางผ่านเข้าไปได้สำเร็จ
ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ในดินแดนของศัตรู
สาวน้อยหลิวเย่คงร่าเริงดีใจ
ในช่วงเวลาปกตินางสามารถเทเลพอร์ตด้วยตนเองซึ่งทำได้ง่ายทุกเวลาทุกสถานที่ แต่เมื่อนำพาผู้คนไปด้วยนี่เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ที่สำคัญนั่นเป็นสองแนวทางที่แตกต่างกัน ในช่วงเวลาปกตินางมีโอกาสพาเย่ว์หยางเทเลพอร์ตไปด้วยพร้อมกันมีโอกาสสำเร็จได้เพียงหนึ่งในสิบ คาดไม่ถึงว่าภายใต้แรงกดดันในวันนี้สามารถทำได้สำเร็จในครั้งเดียว และทำได้สมบูรณ์แบบมากกว่าการฝึกตามปกติ
หลิวเย่ไม่กล้าส่งเสียงดังจนระงับใจไม่ได้อดยื่นมือไปกอดเย่ว์หยางไม่ได้
เมื่อนางกอดไปแล้วถึงได้รู้สึกตัวทันที
นางก้มหน้าด้วยความอาย
เย่ว์หยางสังเกตเห็น
เขาลูบหน้านางเบาๆแทนคำชม และจากนั้นควบแน่นความชื้นลมหายใจของนางกลายเป็นบอลเล็กใส่เข้าไปในมิติว่างป้องกันไม่ให้ศัตรูใช้ความสามารถพิเศษในการหาตัวนางพบ
สำหรับตัวของเขาเองเว้นแต่จะเป็นยอดฝีมือระดับเดียวกับจ้าวสุริยา มิฉะนั้นอย่าหวังว่าจะหาตัวเขาพบโดยไม่ใช้สายตาโดยตรงได้ ต่อให้เป็นชางหลงเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ก็ตามก็ต้องยอมแพ้กับความคิดค้นหาตัวเขา แค่ทักษะแฝงเร้นอำพรางไม่ต้องพูดถึงสนามพลังสร้างโลกไม่จำเป็นต้องอธิบายกันมาก เพราะเพิ่งยกระดับขึ้นมาสองระดับ จากเดิมตอนสู้กับจ้าวสุริยายังเป็นนักสู้ปราณราชันย์ระดับสามจนปัจจุบันนี้พลังเพิ่มเป็นระดับห้า เย่ว์หยางกล้าพูดได้ว่าเหนือกว่านักสู้ระดับเดียวกับชางหลง
เมื่อมองสภาพแวดล้อมอย่างใกล้ชิดเย่ว์หยางและหลิวเย่พบว่าไม่ง่ายเหมือนกับเป็นบอลเหล็กกลวง
นี่คือป้อมปราการเล็กที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำ
สถานที่มาถึงนี้
คือห้องๆหนึ่ง
นี่ควรจะเป็นที่พำนักชั่วคราวหลังจากทหารปฏิบัติหน้าที่ มีสี่เตียงและตู้หลายใบตั้งไว้เต็มไปด้วยกลิ่นคาวปลาและเหงื่อ ของหวานและเหล้าที่หมดอายุ หลิวเย่รีบเปลี่ยนคุณสมบัติของชุดรบจันทราเป็นคุณสมบัติลม นางสร้างโล่ลมอากาศอิสระเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์
เย่ว์หยางเตรียมจะเปิดประตูแต่ก็ต้องหยุดทันที
เขาทำสัญญามือบอกหลิวเย่ว่านางไม่ควรแปลกใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้ทำใจสงบ อย่าตื่นเต้น
หลิวเย่รีบพยักหน้าเข้าใจ จากนั้นนางจับมือเย่ว์หยางด้วยอาการประหม่าเล็กน้อย
ตราบใดที่เขาอยู่ที่นั่นนางไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
เย่ว์หยางแง้มประตูเบาๆ ด้วยการถ่ายทอดพลังพิเศษของเย่ว์หยางทำให้ได้ยินเสียงคนหลายคนหนึ่งในนั้นเป็นเสียงสตรีที่นางคุ้นเคยมาก
เมื่อหลิวเย่ได้ยินเช่นนี้นางเข้าใจเหตุผลที่เขาต้องการให้นางสงบจิตใจ! แต่ทำไมนางถึงอยู่ที่นี่.... หลิวเย่สงสัยและฟังอย่างระมัดระวังและฟังเสียงสตรีผู้นั้นอย่างงงงัน เสียงนั้นพูดอย่างไม่พอใจ “ข้าพูดไปกี่ครั้งแล้วคนพวกนั้นไม่ใช่ศัตรูของพวกเราพวกเขามาเมืองไป๋เหอเพื่อทำธุรกิจ! เราไม่อาจลงมือกับพวกเขาได้เพราะแค่ขาดเลือด เพราะเบื้องหลังพวกเขาอาจมีคนแข็งแกร่งทรงพลังแฝงตัวอยู่ เราไม่สามารถตอแยศัตรูเช่นนั้นได้โดยไม่มีเหตุผล”
“ข้าคิดว่าเจ้าหลงรักพวกเขา เจ้าจำได้ไหมว่าเจ้าคือฟู่ผิงแห่งเมืองไป๋เหอ?อย่านึกว่าเจ้าได้สถานะใหม่แล้วเจ้าจะลืมบทบาทของเจ้าได้!” มีเสียงบุรุษแหบแห้งชั่วดังคัดค้านขึ้น
“ลิงน้ำ! เจ้าหมายความว่ายังไง? ความแตกต่างของเจ้าก็คือ เจ้าหึงหวงเจ้าเป็นคนที่ส่งข้าไปเป็นสายลับก่อนตอนนี้เจ้ามาสงสัยว่าข้ามีความสัมพันธ์กับพวกเขา นั่นเป็นเรื่องไร้สาระเกินไป ทุกคนก็รู้ เผ่าพันธุ์เราต้องคำสาป จะแต่งงานกันในเผ่าพันธุ์เดียวกันเท่านั้น ข้าจะปะปนกับพวกเขาไปทำไม นั่นข้าทำไปเพื่อจุดประสงค์สอบถามข่าวกรอง นอกจากนี้ ลิงน้ำ! เจ้าต้องแยกเรื่องส่วนตัวให้ออก เจ้าไม่อาจสงสัยข้าได้เพราะเพียงข้ามีสัญญาว่าจะแต่งงานกับพี่ชายของเจ้า! ข้าไม่กลัวกระทั่งเงานั่นไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาทะเลาะกับข้า” หลิวเย่คุ้นกับเสียงนั้นมาก
“ข้าไม่สงสัยเจ้า แต่การแสดงออกของเจ้าทำให้ข้าสงสัย! ทำไมเจ้าห้ามข้าไม่ให้ฆ่าพวกเขา? ไม่ใช่เพราะพวกเขาหล่อหรอกหรือ พวกเขาทำให้เจ้าตื่นเต้นไม่ใช่หรือ” บุรุษเสียงแหบหัวเราะเยาะเย้ย
“เจ้ามีหลักฐานอะไรบ้าง? มันไร้สาระที่เจ้ามาประจานข้าแค่เพียงเพราะความสงสัยส่วนตัว ข้ารู้ว่าลิงน้ำเจ้าเป็นเช่นนี้เพราะเหตุใด เจ้าขอพ่อแม่ข้ายกข้าให้แต่งงานกับเจ้า แต่ข้าปฏิเสธ เจ้าก็เลยอิจฉาพี่ชายของเจ้า นั่นเป็นเหตุผลให้เจ้าเกลียดข้า ลิงน้ำเจ้าไม่ดีเท่ากับพี่ชายเจ้า เจ้าไม่ดีเทียบเท่าเขาเจ้าเป็นเหมือนโคลนใต้เท้าของเขาเท่านั้น ข้าไม่ผิด เจ้าไม่กล้าย่างเท้าเข้าเมืองไป๋เหอ ได้แต่อยู่ที่นี่ทั้งวันน่านน้ำเมืองไป๋เหอเป็นกำแพงคุ้มตัวให้กับคนอ่อนแออย่างเจ้า เอาไว้ให้เจ้าปลอบใจตัวเองลิงน้ำเจ้าไม่กล้าออกจากสวรรค์ของเจ้าเหมือนกับกบก้นบ่อ! ถูกต้องแล้ว ข้าดูถูกเจ้า เจ้าไม่อาจเทียบกับพี่ชายของเจ้าได้ เจ้าก็ได้แต่ว่าเขาลับหลัง! และนั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าต้องทำให้ข้าเสียชื่อเสียง เลวทรามเจ้าทำอย่างนั้นมานานแล้วไม่ใช่หรือ? ลิงน้ำ เจ้าก็แค่คนอ่อนแอไร้ราคาเป็นสุนัขกลายพันธุ์”
“หุบ,, หุบปาก ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเจ้า...”
“พวกเจ้าพอได้แล้ว สิ่งที่ข้าต้องการมากที่สุดคือข้อมูลข่าวสาร ตอนนี้เนื่องจากการปรากฏของหมอกซ่อนทำให้พ่อค้าทาสชะลอการเดินทางของพวกเขา ไม่มีการส่งมอบทาสที่มีชีวิตได้ทันเวลา พวกเจ้าบอกทีว่าข้าควรทำอย่างไร? เราต้องการเลือดของมนุษย์ปริมาณมาก และนี่คือปัญหาที่เราต้องการแก้ไข” บุคคลที่มีเสียงดังกึกก้องมีอำนาจอย่างแปลกประหลาดนี้ หลิวเย่รู้สึกว่าคุ้นคล้ายเคยได้ยินมาจากที่ใดมาก่อน
“ก็รีบๆ ฆ่าเจ้าหนุ่มรูปหล่อพวกนี้เร็วๆและกวาดล้างเมืองอีกครั้ง รอเวลาจนกว่าทาสชุดใหม่จะถูกส่งมา” ลิงน้ำเสนอความเห็น
“เจ้ากำลังหาศัตรูที่น่ากลัวมาให้เรา ข้าขอคัดค้าน!” เสียงสตรีคัดค้านดังขึ้น
“สำหรับในตอนนี้จะให้ข้ารออีกสามวันคงทำไม่ได้ เราต้องใช้เลือดพวกเขาเป็นการด่วน ฟู่ผิง! ข้าเข้าใจว่าเจ้าต้องการพูดอะไร แต่เจ้าฟังข้าให้ดี คืนชีพบรรพบุรุษสำคัญที่สุด หากเจ้ามีวิธีที่ดีกว่านี้เจ้าบอกข้าได้ แต่ถ้าไม่มีอย่างนั้นก็จงร่วมมือกับเจ้าลิงน้ำ สามวันจากนี้ต้องพาพวกเขามาที่นี่ ที่สำคัญคนนอกไม่อาจเชื่อถือได้ เจ้าไม่ควรรู้สึกดีกับพวกเขา เพียงเพราะพวกเขาใจดี จงจำไว้เสมอว่า เราคือเผ่าพันธุ์ทรยศ เราเป็นกบฏผู้ต้องสาปจากเทพ มนุษย์ไม่สามารถอยู่ร่วมกับเราได้ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ชาวหอทงเทียนหรือมนุษย์แดนสวรรค์ไม่มีมนุษย์ใดจะเห็นใจเรามนุษย์เงือก ดังนั้นเจ้าจงลืมเสียเถอะ! สำหรับลิงน้ำ เจ้าอย่ามากเกินไป เจ้าควรทำงานส่วนของเจ้าให้ดี อย่าคิดไม่ดีกับคนเผ่าเดียวกัน เมื่อทุกคนออกไปข้างนอก ข้าไม่อยากได้ยินเรื่องทะเลาะกันอีกต่อไป หวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย คิดว่าที่ข้าพูดออกไปนี้ ชัดเจนเพียงพอแล้ว” เสียงที่ทรงอำนาจตัดสินใจครั้งสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นลิงน้ำ หรือสตรีไม่มีใครโต้แย้งได้ ต้องเก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจและออกไปอย่างเงียบๆ
หลิวเย่ประหลาดใจ
นางคิดไม่ออกจริงๆ
นางสามารถได้ยินเสียงข้างในนี้โดยมิได้คาดคิด
ยังไม่ต้องพูดถึงนางแม้แต่เย่ว์หยางก็ยังรู้สึกคาดไม่ถึงเช่นกัน อาจกล่าวได้ว่าย่ำหาจนรองเท้าสึกไม่พบเจอยามได้มาแทบไม่ต้องใช้ความพยายาม บางครั้งโลกก็เป็นเช่นนี้ ตั้งใจจะปลูกไม้ดอก แต่กลับแทรกต้นหลิวไปด้วยโดยไม่ได้ตั้งใจ
“?” เจ้าของเสียงมากอำนาจนั้นดูเหมือนรู้สึกถึงความผิดปกติได้
เขารวดเร็วกว่าสายฟ้า
ตรงไปยังจุดที่หลิวเย่และเย่ว์หยางอยู่
เมื่อเขาเตะเปิดประตูเตรียมจะโจมตีศัตรูให้เต็มที่ เขาพบทันทีว่าไม่มีใครอยู่ข้างใน
ไม่มีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในอากาศ นอกจากกลิ่นคาวดั้งเดิม ที่สำคัญที่สุดไม่มีพลังงานที่ผันผวนในห้อง
เป็นเขาเข้าใจผิดไปเองหรือ?
คนผู้นี้ไม่รู้ว่าโลกมีสิ่งมีชีวิตอย่างกวางทะลุมิติและการเทเลพอร์ตผ่านมิติได้ ขณะที่เขาเข้ามาในห้องพัก หลิวเย่ได้นำเย่ว์หยางเทเลพอร์ตไปที่ตำแหน่งดั้งเดิมที่เขายืนอยู่ เย่ว์หยางพยายามทดสอบเด็กสาวผู้นี้ให้นางรับหน้าที่เป็นผู้นำโดยไม่ดำเนินการใดๆ หลิวเย่ลงมือภายใต้แรงกดดันจากการโจมตีของศัตรูนางลงมืออีกครั้งโดยใช้กวางทะลุมิติสลับตำแหน่งกับศัตรู
บุรุษผู้มีเสียงน่าเกรงขามรู้สึกสงสัยอย่างมากแต่ไม่ใส่ใจ เขาค้นหาโดยละเอียด
เขาเตะเปิดห้องที่เหลือและค้นหาดูทั้งหมด
ในที่สุด เขาจากไปด้วยความสงสัย
เมื่อเขาจากไปหลิวเย่พาเย่ว์หยางเทเลพอร์ตกลับมายังตำแหน่งเดิม
สิบวินาทีต่อมา ดูเหมือนหลิวเย่จะคิดอะไรได้ นางพาเย่ว์หยางเทเลพอร์ตไปที่ห้องรับรองสุดทางเดิน แทบจะทันทีที่นางจากไปมีคนปรากฏตัวที่นอกประตู บุรุษผู้นั้นรู้สึกระแวงที่หายไปและกลับมาอีก...ถ้าไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาของหลิวเย่ เขาคงจับนางได้
นี่ยังคงไม่ได้อะไร บุรุษผู้ช่างระแวงเชื่อว่าเป็นความรู้สึกไปเอง เขาออกไปอย่างทำอะไรไม่ได้
หลิวเย่เทเลพอร์ตกลับมาที่ห้องรับรองเป็นครั้งสามและตอนนี้ปลอดภัยอย่างแท้จริง
ศัตรูจากไปแล้วจริงๆ
สาวน้อยถอนหายใจโล่งอกและเห็นเย่ว์หยางยกนิ้วให้ นางอดแลบลิ้นมิได้