10. การเดินทางของลีน่า
ตลอดทั้งเช้าวันนี้ หนิงซีมัวแต่เปิดดูฟอรั่มของผู้ปลุกพลัง จนลืมเข้าเกม
เขาเรียนรู้ว่า ราขอาณาจักรอวิ๋นเหมิงได้ยื่นมือเข้าไปจัดการกับผู้ปลุกพลังอย่างเป็นทางการแล้ว
มีการจัดตั้งหน่วยงานหลัก 2 หน่วยงาน คือ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ สำนักควบคุมปรากฎการณ์พิเศษ
หน่วยงานแรกเปรียบเสมือนเหมือนไม้เรียว ส่วนหน่วยงานหลังเปรียบเสมือนขนมหวานไว้หลอกล่อ
มีการใช้กลยุทธ์ทั้งอ่อนและแข็งควบคู่กันไป
จากการที่รัฐบาลยื่นมาเข้ามาจัดระเบียบ ทำให้คนธรรมดาของราชอาณาจักรอวิ๋นเหมิงอยู่ได้อย่างปรกติสุข
ต่างจากอาณาจักรหรือประเทศอื่นๆที่ ปล่อยให้นิกายที่ชั่วร้ายและองค์กรที่ชั่วร้ายต่างๆ สร้างความรุนแรงและนองเลือด
หนิงซี ตั้งชื่อบัญชีในฟอรัมว่า “แบล็คแบร์”
ไม่นานหลังจากที่หนิงซีเข้าสู่ระบบ ข้อมูลในบัญชีของเขาก็ได้รับรองอย่างเป็นทางการ
“'แบล็กแบร์”: ผู้ปลุกพลังประเภทพละกำลัง
หลังจากตรวจดูฟอรัมคร่าวๆแล้ว หนิงซีพบว่ากลุ่มผู้ปลุกพลังประเภทพละกำลังมีความกลมเกลียวกันมากที่สุด
อาจเป็นเพราะพวกเขาจัดอยู่ในระดับต่ำสุดของผู้ปลุกพลัง
ดังนั้นผู้ปลุกพลังประเภทพละกำลังจึงรวมกลุ่มกันไว้อย่างเหนียวแน่น
และมีประสบการณ์การบ่มเพาะหลากหลายของสมาชิกในกลุ่ม
มีโพสต์คุณภาพสูงจำนวนมากปักหมุดไว้ที่ด้านบน และมีการแชร์ศิลปะการต่อสู้มากมาย
“ปาจีเฉวียน( ศิลปะป้องกันตัวของจีน ที่มีการระเบิดพลังในระยะใกล้) : มีตั้งแต่วิธีฝึกฝนจนถึงการวิเคราะห์เชิงลึกจากการต่อสู้จริง”
“ย่างก้าวเงาเมฆา : คิดค้นท่าเท้า แบ่งปันเพื่อสร้างรอยยิ้มให้ทุกคน”
“วิเคราะห์กระบวนท่าวิชาดาบพื้นฐาน การเรียนรู้จากพื้นฐานเป็นรากฐานที่มั่นคงของดาบระดับเทพ!”
“วิเคราะห์โครงสร้างร่างกายของมนุษย์ เพื่อใช้กำลังให้ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์”
“รวบรวมวิธีฝึกอำนาจจิตไว้อย่างครบถ้วน สอนวิธีต่อสู้กับความสามารถพิเศษประเภทจิตวิญญาณ”
หนิงซีตื่นเต้นมากเมื่อเห็นศิลปะการต่อสู้ในโพสต์เหล่านี้
เขากระตือรือร้นกระหายใคร่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เขาเรียนรู้คำสอนในกระทู้
และเริ่มเรียนรู้เทคนิคกำปั้น เทคนิคการเคลื่อนไหว และทักษะดาบ
ในโลกของเกม ทักษะของนักรบสายเลือดได้รับถ่ายทอดอย่างครบถ้วนจากความสามารถทางสายเลือด
แต่ทักษะการต่อสู้ประชิดตัวส่วนต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง และไม่มีการเรียนอย่างเป็นระบบในโลกเกม
หนิงซีกำลังกลุ้มใจไม่รู้จะหาเรียนทักษะการต่อสู้ประชิดตัวได้จากที่ไหน
เขาไม่คิดเลยว่าฟอรัมผู้ปลุกพลังจะช่วยเขาได้มากขนาดนี้
หลังจากเรียนอยู่สามวันเต็ม ด้วยพลังเรียนรู้อันน่าสะพรึงจากค่าพลังวิญญาน 13 จุด
ช่วยให้หนิงได้เรียนรู้ ปาจีเฉวียน, ย่างก้าวเงาเมฆา และทักษะดาบพื้นฐาน ได้สำเร็จ
แถบทักษะบนหน้าจอตัวละครในเกมของหนิงซีก็ปรากฎทักษะใหม่ทั้งสามเช่นกัน
ปาจีเฉวียน ระดับ 1, ย่างก้าวเงาเมฆา ระดับ 1 และทักษะดาบพื้นฐานระดับ 1
ทักษะที่เรียนรู้ด้วยตนเองสามารถใช้แต้มได้ด้วยและแต้มทักษะหนึ่งหนึ่งสามารถเพิ่มได้หนึ่งระดับ
หนิซีใช้แต้มทักษะ 6 แต้ม เพิ่ม ปาจีเฉวียน, ย่างก้าวเงาเมฆา และทักษะดาบพื้นฐาน ให้เป็นระดับ 3 ทั้งหมด
ทันใดนั้น ประสบการณ์ศิลปะการต่อสู้นับไม่ถ้วนก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวของหนิงซี
ปาจีเฉวียน ระดับ 3 ปลดปล่อยความแข็งแกร่งของเขาได้สองเท่า
ย่างก้าวเงาเมฆา ระดับ 3 ความเร็วในการเคลื่อนที่เร็วมากจนมองตามไม่ทัน
ราวกับว่าเขาเคลื่อนย้ายผ่านมิติ
ทักษะดาบถึงระดับที่ฟาดฟันได้ดังใจแล้ว เขาสามารถผ่าครึ่งแมลงวันที่เกาะบนกระจกได้
โดยปราศจากร่องรอยใด ๆเกิดขึ้นบนกระจก
หนิงซีพอใจมาก ที่ทักษะทั้งสาม ช่วยให้ความสามารถในการต่อสู้เพิ่มขึ้นหลายเท่า
หนิงซีพร้อมแล้วที่จะทดสอบพลังในเกม เขาเข้าสู่เกมและตรวจสอบข้อมูลของระบบ
[อวตารเสร็จสิ้นภารกิจ “ท้าทายลีนา” : พ่ายแพ้ต่อลีน่า : ค่าประสบการณ์ +200 : ค่าความสนิทสนมของตัวละคร +2 : ค่าความสนิทสนมของตัวละครปัจจุบัน: 93]
[อวตารเลี้ยงอาหารเย็นลีนา 6 ครั้ง : ค่าความสนิทสนมของตัวละคร +1 : ค่าความสนิทสนมของตัวละครปัจจุบัน: 94]
[อวตารสังหารหมาป่าวายุ สัตว์อสูรเวทย์ระดับต้น : ค่าประสบการณ์ +300 : ได้รับแกนเวทย์มนตร์ธาตุวายุขั้นต้น]
[อวตารสังหารพังพอนสายฟ้า สัตว์อสูรเวทย์ระดับต้น : ค่าประสบการณ์ +300 : ได้รับสายเลือดพังพอนสายฟ้า ]
[ อวตารสังหารมดยักษ์ สัตว์อสูรเวทย์ระดับต้น : ค่าประสบการณ์ +300 : ได้รับสายเลือดมดยักษ์]
…
[ค่าประสบการณ์ถึง 4,800 โหมดแฮ็คระบบนำไปเพิ่มระดับอาชีพนักล่า ระดับนักล่าได้รับการเลื่อนระดับเป็นระดับ 10 (ระดับสูงสุด) : แต้มทักษะ +2 : แต้มศักยภาพ +2.]
[อวตารได้รับจดหมายจากลีน่า ค่าความสนิทสนมของตัวละคร +1 ค่าความสนิทสนมของตัวละครปัจจุบัน: 95]
[ อวตารสังหารกระทิงดำ อสูรเวทย์ระดับต้น ค่าประสบการณ์ +200 : ได้รับแกนเวทมนตร์ธาตุปฐพีขั้นต้น]
…
เนื่องจากภารกิจทั้งหมดในหมู่บ้านเริ่มต้นเสร็จหมดแล้ว
ในสองสามวันที่ผ่านมาอวตารจึงออกล่าและเพิ่มระดับในป่าแห่งความมืด
โดยรวมแล้ว มันสังหารสัตว์อสูรเวทย์ระดับต้นไป 31 ตัว
นอกจากค่าประสบการณ์ 200 แต้มจาก ภารกิจ“การท้าทายลีนา”แล้ว ยังได้รับค่าประสบการณ์อีกรวม 8,000 แต้ม
ระดับนักล่าได้ถึงระดับสูงสุดของระดับ 10 แล้ว
และระดับของนักรบสายเลือดคือระดับ 2 (3200/5000)
เมื่อมีระดับสูงขึ้น การอยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้นต่อไปจะทำให้การเพิ่มระดับช้าลง
ในสามวัน ระดับนักล่าเพิ่มขึ้นได้แค่เพียงระดับเดียวเท่านั้น
หนิงซีวางแผนที่จะไปยังเมืองหลัก
หนิงซี คลิกที่มุมมองแรกและเข้าสู่เกม
เป็นเวลาเช้าตรู่ พระอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้า
แสงสว่างส่องผ่านหมอกบาง ๆ สาดส่องลงมาที่หมู่บ้านหมีดำ ก่อให้เกิดเป็นเป็นฉากที่เงียบสงบ
หนิงซีเดินออกจากบ้านหิน ตรงไปที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านกริมม์ เขาตั้งใจจะไปบอกลาลีนาชั่วคราว
"สวัสดีครับ! ลุงกริมม์ ลีน่าอยู่หรือเปล่า”
กริมม์ดูซูบซีดลงเล็กน้อย มีเศษข้าวสองสามเมล็ดติดอยู่บนใบหน้าเขา
เมื่อได้ยินหนิงซี เขาก็ตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วถามว่า
“หนุ่มน้อย ลีน่าฝากจดหมายไว้ให้คุณแล้วไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เธอไปโรสซิตี้แล้ว”
หนิงซีนึกจำได้ว่ามีจดหมายของลีนาเก็บไว้ในข้อมูลระบบ เขารีบหยิบมันออกมาเปิดดู
“ถึงหนิงซีที่รัก เมื่อคุณเห็นจดหมายฉบับนี้ ฉันก็คงอยู่ที่โรสซิตี้แล้ว”
“กริมม์บอกฉันเสมอว่าทุกคนมีสิ่งที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ คราวนี้ถึงตาฉันบ้างแล้ว”
“ฉันจำเป็นต้องกลับไปที่โรสซิตี้ เพื่อนำเกียรติยศที่เป็นของฉันกลับคืนมา”
“ฉันขอให้คุณมาพบฉันอีกครั้งในวันที่ 22 ธันวาคมที่ ถนนฟราแกร็นท์ไลม์ลำดับ22 ในโรสซิตี้ ก่อนถึงวันที่ 22 ธันวาคมคุณห้ามมาที่โรสซิตี้เด็ดขาด”
“หัวใจของฉันจะอยู่กับคุณตลอดไป”
“ด้วยรัก จาก ลีนา”
หนิงซีส่งจดหมายให้กริมม์ดูและถามว่า
“ลุงกริมม์ ช่วยบอกฉันหน่อยเถอะว่าทำไม ไม่งั้นฉันคงทนไม่ไหวจนต้องไปโรสซิตี้ก่อนก่อนกำหนดแน่นอน”
กริมม์รับจดหมายมา ชำเลืองดูแล้วตอบด้วยเสียงแหบพร่า
“ลีนาไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของฉัน ฉันพบเธอที่ริมแม่น้ำ ชื่อจริงของเธอคือ ลีนา อลิซ ลูกสาวคนสุดท้องของ ดูโบ อลิซ ดยุคแห่งโรสซิตี้ คนปัจจุบัน”
“ลีนาเป็นลูกสาวของดยุคกับสาวใช้ เธอเป็นลูกนอกสมรส ตามกฎหมายของจักรวรรดิ เธอไม่มีสิทธิ์รับตำแหน่งขุนนาง นอกจากนั้นเธอก็ไม่สนใจยศฐาบรรดาศักดิ์”
“ฉันเคยคิดว่าจะให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในหมู่บ้านหมีดำได้
แต่โชคร้ายที่ครอบครัวของดยุค แห่งโรสซิตี้ ถูกมังกรแดงไท่คูโจมตีระหว่างทางและถูกฆ่าหมดทั้งครอบครัว
ขณะนั่งเรือเหาะไปพักร้อนที่วิลล่าในอูปีโซฟท์ ไม่มีทายาทหลงเหลือแม้แต่คนเดียว”
“ดังนั้นตำแหน่งดยุคจะถูกจักรวรรดิยึดคืน และที่ดินศักดินาก็จะถูกยึดครองโดยราชวงศ์
ผู้ใต้บังคับบัญชาและบริวารของดยุคแห่งโรสจึงนึกถึงลูกนอกสมรสของดยุค”
“พวกเขาถูกแบ่งออกเป็นสามกองกำลัง และแต่ละกองกำลังค้นพบลูกนอกสมรสรวมสามคน
พวกเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทายาทของดยุค ผู้ที่สนับสนุนลีนาคือกลุ่มอัศวินกุหลาบ”
เมื่อเห็นว่าลุงกริมม์คิดถึงลูกสาวและดูไม่มีชีวิตชีวา หนิงซีก็รู้สึกสลดใจ เขาลืมตัวไปแล้วว่านี่คือโลกแห่งเกม
เขาพูดอย่างกระวนกระวายใจว่า
“การไปโรสซิตี้ครั้งนี้ นอกจากลีนาต้องต่อสู้กับสองกองกำลังของเหล่าพี่น้องลูกนอกกฎหมายแล้ว
เธอยังระวังการลอบกัดจากราชวงศ์ของจักรวรรดิอีกด้วย
การแย่งชิงตำแหน่งขุนนางมันอันตรายและซับซ้อนอย่างมาก
ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเธอจะรอดปลอดภัยไปได้ตลอด”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยของลีน่า” กริมม์ส่ายหัว
“การตายทั้งครอบครัวของดยุคแห่งโรสครั้งนี้ สร้างความตื่นตระหนกแก่กลุ่มขุนนางใหญ่ของจักรวรรดิอย่างมาก”
“ขุนนางไม่ใช่กลุ่มคนโง่ เส้นทางเดินเรือของดยุค ดูโบเป็นเส้นทางที่ปลอดภัย
มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบังเอิญเจอมังกรแดงไท่คู?
ครั้งนี้วิธีของราชวงศ์โหดร้ายเกินไป สร้างความไม่พอใจให้เหล่าขุนนางทั้งหมดในจักรวรรดิ”
“ราชวงศ์รู้ว่าการกระทำครั้งนี้แตะขีดจำกัดความอดทนของเหล่าขุนนาง
ดังนั้นเพื่อบรรเทาความไม่พอใจของเหล่าขุนนาง
ราชวงศ์ไม่เพียงแต่จะไม่ลอบสังหารลูกนอกสมรสทั้งสามเท่านั้น แต่ต้องส่งคนไปคุ้มครองพวกเขาอีกด้วย”
“ยิ่งไปกว่านั้น ผู้นำของกลุ่มอัศวินกุหลาบที่สนับสนุนลีนา คือ ท่านเคานต์ทาเกอเร
เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีสายเลือดพยัคฆ์วายุอสนีระดับ 8 ระดับอาชีพถึงระดับ 38
ความแข็งแกร่งในการต่อสู้จัดได้ว่าเข้าขั้นทรราชเลยทีเดียว เขาต้องคุ้มครองลีน่าได้แน่นอน”
เมื่อได้ฟังเช่นนี้ หนิงซีก็รู้ทันทีว่าทำไมลีนาจึงห้ามไม่ให้เขาไปที่โรสซิตี้
“แสดงว่าลีนาปลอดภัยดี แต่คนที่กำลังตกอยู่ในอันตรายคือ ลุงกริมม์กับผมแล้วละ
ในเมื่อศัตรูโจมตีลีนาไม่ได้ พวกมันต้องใช้คนที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดมาต่อรองเพื่อข่มขู่
ลุงกริมม์ เราต้องรีบออกจากหมู่บ้านหมีดำด่วน”
ได้ยินหนิงซีเตือนเช่นนั้น กริมม์ก็ตระหนักได้ว่า ตอนนี้พวกเขากลายเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของลีนาแล้ว
“ขอบคุณที่เตือนนะหนุ่มน้อย ฉันจะรีบเก็บข้าวของวันนี้เลย
จากนั้น ฉันจะใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายไปที่ภูเขาคอปเปอร์เฟอนานซ์ ไปหาเพื่อนคนแคระชื่อ เกรซ
แถวนั่นเป็นอาณาเขตของคนแคระ น่าจะปลอดภัย”.
“คุณไม่เป็นห่วงมากนะ การมีราชวงศ์เป็นศัตรูร่วมกัน
ทำให้การต่อสู้ระหว่างกองกำลังบริวารดยุคไม่น่าจะขยายวงกว้างมาก
เพื่อรักษาความแข็งแกร่งของพวกเขาไว้ การต่อสู้เพื่อตัดสินตำแหน่งขุนนางน่าจะจัดขึ้นบนเวทีประลอง”
“ในอีกครึ่งปี วันที่ 22 ธันวาคม ลูกนอกสมรสทั้งสามคนจะต่อสู้ในเวทีประลอง
ผู้ชนะจะได้รับสืบทอดตำแหน่งขุนนาง”
“การต่อสู้ในเวทีประลอง? ไม่ยุติธรรมสำหรับลีนา เธออายุเพียง 18 ปี”
"ใช่แล้ว. ทายาทอีกสองคน คนแรกคือ เกรย์ อายุ 23 ปี สายเลือดระดับ 3 ระดับอาชีพ 12
แอลลี่ อายุ 24 ปี สายเลือดระดับ 4 อาชีพระดับ 16 แต่ลีนาเพิ่งเป็นนักรบสายเลือด ช่องว่างจึงใหญ่มาก”
“เพื่อความเป็นธรรม การแข่งขันนี้เป็นแบบทีม 3 ต่อ 3
ทายาทแต่ละคนสามารถเชิญผู้ช่วยภายนอกสองคนที่มีอายุไม่เกิน 30 ปีมาช่วยได้”
ผู้ช่วยภายนอก? นี่เป็นสิ่งที่ดี ด้วยวิธีนี้ หนิงซีจะมีโอกาสเข้าร่วม
“ลุงกริมม์ ผมอยากหาสถานที่ที่มีสัตว์อสูรเวทย์จำนวนมากมาย
และเต็มไปด้วยการต่อสู้เพื่อขัดเกลาทักษะการต่อสู้ แต่ผมไม่รู้ว่าที่ไหนเหมาะ?”
กริมม์กลับไปหยิบแผนที่ที่บ้านออกมา ยื่นให้กับหนิงซี
“นี่คือแผนที่ของจักวรรดิ์แบรดที่ฉันรวบรวมไว้ตอนที่ฉันออกผจญภัยในตอนหนุ่ม”
“สถานที่ตามที่คุณต้องการ น่าจะเป็นที่ราบสูงรกร้างทางเหนือ”
“ที่ราบสูงรกร้างทางเหนือ?”
"ถูกตัอง. ที่ราบสูงรกร้างทางเหนือ กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต เต็มไปด้วยป่าไม้และแม่น้ำ
เหมาะเป็นอย่างยิ่งต่อการอยู่อาศัยของสัตว์อสูรเวทย์ ถ้าดูตามภูมิศาสตร์แล้ว
มันตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างจักรวรรดิแบรด จักรวรรดิโอเล และจักรวรรดิเอลเว่น
เป็นมันเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายไร้เจ้าของ มีการต่อสู้เกิดขึ้นตลอดเวลา”
หนิงซีรู้สึกยินดีมาก ที่ราบสูงรกร้างทางเหนือนั้นดีจริงๆ มีสัตว์อสูรเวทย์มากมาย
มันเป็นเครื่องผลิตค่าประสบการณ์ชั้นยอด ที่ใดมีการต่อสู้ ที่นั่นย่อมมีภารกิจ
“เราต้องเร่งความเร็วในการเลื่อนระดับแล้ว! อีกครึ่งปี
ฉันอยากขึ้นเวทีไปช่วยลีนาคว้าตำแหน่งงดยุค ในฐานะผู้ช่วยภายนอก”
หลังจากทราบภูมิหลังของลีนา หนิงซีก็เข้าใจความรู้สึกของลีนาที่ตั้งใจจะสร้างชื่อให้โด่งดังไปทั้งทวีป
เธอแค่ต้องการต่อสู้เพื่อให้ได้การยอมรับและพิสูจน์ตัวเองเท่านั้น
ไม่จำเป็นเสมอไปที่ราชาจะต้องมาจากคนที่เกิดมาพร้อมกับอำนาจและเงินเท่านั้น?
ลูกนอกสมรสก็สามารถกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน!
“หนิงซี ฉันจะไปแล้วนะ ถ้าจะไปที่ราบสูงรกร้างทางเหนือ
ก่อนอื่นคุณต้องเคลื่อนย้ายไปที่ เมืองเมจิคฮอร์น ก่อน
จากนั้นไปที่ เมืองไวด์ไลอ้อน และสุดท้ายไปยังเมืองที่ใหญ่ที่สุดในที่ราบสูงรกร้างทางเหนืออย่าง เมืองโตวฮวาง!”
“โอเค ลุงกริมม์ อีกครึ่งปีเจอกัน!”
“อีกครึ่งปีเจอกัน!”