ตอนที่แล้ว9.แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป11. การสังเคราะห์สายเลือดและสายเลือดศักยภาพระดับ 7 ดาว

10. การเดินทางของลีน่า


ตลอดทั้งเช้าวันนี้ หนิงซีมัวแต่เปิดดูฟอรั่มของผู้ปลุกพลัง จนลืมเข้าเกม

เขาเรียนรู้ว่า ราขอาณาจักรอวิ๋นเหมิงได้ยื่นมือเข้าไปจัดการกับผู้ปลุกพลังอย่างเป็นทางการแล้ว

มีการจัดตั้งหน่วยงานหลัก 2 หน่วยงาน คือ

กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ สำนักควบคุมปรากฎการณ์พิเศษ

หน่วยงานแรกเปรียบเสมือนเหมือนไม้เรียว ส่วนหน่วยงานหลังเปรียบเสมือนขนมหวานไว้หลอกล่อ

มีการใช้กลยุทธ์ทั้งอ่อนและแข็งควบคู่กันไป

จากการที่รัฐบาลยื่นมาเข้ามาจัดระเบียบ ทำให้คนธรรมดาของราชอาณาจักรอวิ๋นเหมิงอยู่ได้อย่างปรกติสุข

ต่างจากอาณาจักรหรือประเทศอื่นๆที่ ปล่อยให้นิกายที่ชั่วร้ายและองค์กรที่ชั่วร้ายต่างๆ สร้างความรุนแรงและนองเลือด

หนิงซี ตั้งชื่อบัญชีในฟอรัมว่า “แบล็คแบร์”

ไม่นานหลังจากที่หนิงซีเข้าสู่ระบบ ข้อมูลในบัญชีของเขาก็ได้รับรองอย่างเป็นทางการ

“'แบล็กแบร์”:  ผู้ปลุกพลังประเภทพละกำลัง

หลังจากตรวจดูฟอรัมคร่าวๆแล้ว หนิงซีพบว่ากลุ่มผู้ปลุกพลังประเภทพละกำลังมีความกลมเกลียวกันมากที่สุด

อาจเป็นเพราะพวกเขาจัดอยู่ในระดับต่ำสุดของผู้ปลุกพลัง

ดังนั้นผู้ปลุกพลังประเภทพละกำลังจึงรวมกลุ่มกันไว้อย่างเหนียวแน่น

และมีประสบการณ์การบ่มเพาะหลากหลายของสมาชิกในกลุ่ม

มีโพสต์คุณภาพสูงจำนวนมากปักหมุดไว้ที่ด้านบน และมีการแชร์ศิลปะการต่อสู้มากมาย

“ปาจีเฉวียน( ศิลปะป้องกันตัวของจีน ที่มีการระเบิดพลังในระยะใกล้) :  มีตั้งแต่วิธีฝึกฝนจนถึงการวิเคราะห์เชิงลึกจากการต่อสู้จริง”

“ย่างก้าวเงาเมฆา : คิดค้นท่าเท้า แบ่งปันเพื่อสร้างรอยยิ้มให้ทุกคน”

“วิเคราะห์กระบวนท่าวิชาดาบพื้นฐาน การเรียนรู้จากพื้นฐานเป็นรากฐานที่มั่นคงของดาบระดับเทพ!”

“วิเคราะห์โครงสร้างร่างกายของมนุษย์ เพื่อใช้กำลังให้ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์”

“รวบรวมวิธีฝึกอำนาจจิตไว้อย่างครบถ้วน สอนวิธีต่อสู้กับความสามารถพิเศษประเภทจิตวิญญาณ”

หนิงซีตื่นเต้นมากเมื่อเห็นศิลปะการต่อสู้ในโพสต์เหล่านี้

เขากระตือรือร้นกระหายใคร่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เขาเรียนรู้คำสอนในกระทู้

และเริ่มเรียนรู้เทคนิคกำปั้น เทคนิคการเคลื่อนไหว และทักษะดาบ

ในโลกของเกม ทักษะของนักรบสายเลือดได้รับถ่ายทอดอย่างครบถ้วนจากความสามารถทางสายเลือด

แต่ทักษะการต่อสู้ประชิดตัวส่วนต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง และไม่มีการเรียนอย่างเป็นระบบในโลกเกม

หนิงซีกำลังกลุ้มใจไม่รู้จะหาเรียนทักษะการต่อสู้ประชิดตัวได้จากที่ไหน

เขาไม่คิดเลยว่าฟอรัมผู้ปลุกพลังจะช่วยเขาได้มากขนาดนี้

หลังจากเรียนอยู่สามวันเต็ม ด้วยพลังเรียนรู้อันน่าสะพรึงจากค่าพลังวิญญาน 13 จุด

ช่วยให้หนิงได้เรียนรู้ ปาจีเฉวียน, ย่างก้าวเงาเมฆา และทักษะดาบพื้นฐาน ได้สำเร็จ

แถบทักษะบนหน้าจอตัวละครในเกมของหนิงซีก็ปรากฎทักษะใหม่ทั้งสามเช่นกัน

ปาจีเฉวียน ระดับ 1,  ย่างก้าวเงาเมฆา ระดับ 1 และทักษะดาบพื้นฐานระดับ 1

ทักษะที่เรียนรู้ด้วยตนเองสามารถใช้แต้มได้ด้วยและแต้มทักษะหนึ่งหนึ่งสามารถเพิ่มได้หนึ่งระดับ

หนิซีใช้แต้มทักษะ 6 แต้ม เพิ่ม ปาจีเฉวียน, ย่างก้าวเงาเมฆา และทักษะดาบพื้นฐาน ให้เป็นระดับ 3 ทั้งหมด

ทันใดนั้น ประสบการณ์ศิลปะการต่อสู้นับไม่ถ้วนก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวของหนิงซี

ปาจีเฉวียน ระดับ 3 ปลดปล่อยความแข็งแกร่งของเขาได้สองเท่า

ย่างก้าวเงาเมฆา ระดับ 3 ความเร็วในการเคลื่อนที่เร็วมากจนมองตามไม่ทัน

ราวกับว่าเขาเคลื่อนย้ายผ่านมิติ

ทักษะดาบถึงระดับที่ฟาดฟันได้ดังใจแล้ว เขาสามารถผ่าครึ่งแมลงวันที่เกาะบนกระจกได้

โดยปราศจากร่องรอยใด ๆเกิดขึ้นบนกระจก

หนิงซีพอใจมาก ที่ทักษะทั้งสาม ช่วยให้ความสามารถในการต่อสู้เพิ่มขึ้นหลายเท่า

หนิงซีพร้อมแล้วที่จะทดสอบพลังในเกม เขาเข้าสู่เกมและตรวจสอบข้อมูลของระบบ

[อวตารเสร็จสิ้นภารกิจ “ท้าทายลีนา” : พ่ายแพ้ต่อลีน่า : ค่าประสบการณ์ +200  : ค่าความสนิทสนมของตัวละคร +2 :  ค่าความสนิทสนมของตัวละครปัจจุบัน: 93]

[อวตารเลี้ยงอาหารเย็นลีนา 6 ครั้ง : ค่าความสนิทสนมของตัวละคร +1 : ค่าความสนิทสนมของตัวละครปัจจุบัน: 94]

[อวตารสังหารหมาป่าวายุ สัตว์อสูรเวทย์ระดับต้น : ค่าประสบการณ์ +300 : ได้รับแกนเวทย์มนตร์ธาตุวายุขั้นต้น]

[อวตารสังหารพังพอนสายฟ้า สัตว์อสูรเวทย์ระดับต้น : ค่าประสบการณ์ +300 : ได้รับสายเลือดพังพอนสายฟ้า ]

[ อวตารสังหารมดยักษ์ สัตว์อสูรเวทย์ระดับต้น : ค่าประสบการณ์ +300 :  ได้รับสายเลือดมดยักษ์]

[ค่าประสบการณ์ถึง 4,800  โหมดแฮ็คระบบนำไปเพิ่มระดับอาชีพนักล่า ระดับนักล่าได้รับการเลื่อนระดับเป็นระดับ 10 (ระดับสูงสุด) : แต้มทักษะ +2 : แต้มศักยภาพ +2.]

[อวตารได้รับจดหมายจากลีน่า ค่าความสนิทสนมของตัวละคร +1  ค่าความสนิทสนมของตัวละครปัจจุบัน: 95]

[ อวตารสังหารกระทิงดำ อสูรเวทย์ระดับต้น ค่าประสบการณ์ +200  : ได้รับแกนเวทมนตร์ธาตุปฐพีขั้นต้น]

เนื่องจากภารกิจทั้งหมดในหมู่บ้านเริ่มต้นเสร็จหมดแล้ว

ในสองสามวันที่ผ่านมาอวตารจึงออกล่าและเพิ่มระดับในป่าแห่งความมืด

โดยรวมแล้ว มันสังหารสัตว์อสูรเวทย์ระดับต้นไป 31 ตัว

นอกจากค่าประสบการณ์ 200 แต้มจาก ภารกิจ“การท้าทายลีนา”แล้ว ยังได้รับค่าประสบการณ์อีกรวม 8,000 แต้ม

ระดับนักล่าได้ถึงระดับสูงสุดของระดับ 10 แล้ว

และระดับของนักรบสายเลือดคือระดับ 2 (3200/5000)

เมื่อมีระดับสูงขึ้น การอยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้นต่อไปจะทำให้การเพิ่มระดับช้าลง

ในสามวัน ระดับนักล่าเพิ่มขึ้นได้แค่เพียงระดับเดียวเท่านั้น

หนิงซีวางแผนที่จะไปยังเมืองหลัก

หนิงซี คลิกที่มุมมองแรกและเข้าสู่เกม

เป็นเวลาเช้าตรู่ พระอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้า

แสงสว่างส่องผ่านหมอกบาง ๆ สาดส่องลงมาที่หมู่บ้านหมีดำ ก่อให้เกิดเป็นเป็นฉากที่เงียบสงบ

หนิงซีเดินออกจากบ้านหิน ตรงไปที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านกริมม์ เขาตั้งใจจะไปบอกลาลีนาชั่วคราว

"สวัสดีครับ! ลุงกริมม์ ลีน่าอยู่หรือเปล่า”

กริมม์ดูซูบซีดลงเล็กน้อย มีเศษข้าวสองสามเมล็ดติดอยู่บนใบหน้าเขา

เมื่อได้ยินหนิงซี เขาก็ตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วถามว่า

“หนุ่มน้อย ลีน่าฝากจดหมายไว้ให้คุณแล้วไม่ใช่เหรอ?  ตอนนี้เธอไปโรสซิตี้แล้ว”

หนิงซีนึกจำได้ว่ามีจดหมายของลีนาเก็บไว้ในข้อมูลระบบ เขารีบหยิบมันออกมาเปิดดู

“ถึงหนิงซีที่รัก เมื่อคุณเห็นจดหมายฉบับนี้ ฉันก็คงอยู่ที่โรสซิตี้แล้ว”

“กริมม์บอกฉันเสมอว่าทุกคนมีสิ่งที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ คราวนี้ถึงตาฉันบ้างแล้ว”

“ฉันจำเป็นต้องกลับไปที่โรสซิตี้ เพื่อนำเกียรติยศที่เป็นของฉันกลับคืนมา”

“ฉันขอให้คุณมาพบฉันอีกครั้งในวันที่ 22 ธันวาคมที่ ถนนฟราแกร็นท์ไลม์ลำดับ22 ในโรสซิตี้ ก่อนถึงวันที่ 22 ธันวาคมคุณห้ามมาที่โรสซิตี้เด็ดขาด”

“หัวใจของฉันจะอยู่กับคุณตลอดไป”

“ด้วยรัก จาก ลีนา”

หนิงซีส่งจดหมายให้กริมม์ดูและถามว่า

“ลุงกริมม์ ช่วยบอกฉันหน่อยเถอะว่าทำไม ไม่งั้นฉันคงทนไม่ไหวจนต้องไปโรสซิตี้ก่อนก่อนกำหนดแน่นอน”

กริมม์รับจดหมายมา ชำเลืองดูแล้วตอบด้วยเสียงแหบพร่า

“ลีนาไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของฉัน ฉันพบเธอที่ริมแม่น้ำ ชื่อจริงของเธอคือ ลีนา อลิซ  ลูกสาวคนสุดท้องของ ดูโบ อลิซ  ดยุคแห่งโรสซิตี้ คนปัจจุบัน”

“ลีนาเป็นลูกสาวของดยุคกับสาวใช้ เธอเป็นลูกนอกสมรส ตามกฎหมายของจักรวรรดิ เธอไม่มีสิทธิ์รับตำแหน่งขุนนาง นอกจากนั้นเธอก็ไม่สนใจยศฐาบรรดาศักดิ์”

“ฉันเคยคิดว่าจะให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในหมู่บ้านหมีดำได้

แต่โชคร้ายที่ครอบครัวของดยุค แห่งโรสซิตี้ ถูกมังกรแดงไท่คูโจมตีระหว่างทางและถูกฆ่าหมดทั้งครอบครัว

ขณะนั่งเรือเหาะไปพักร้อนที่วิลล่าในอูปีโซฟท์ ไม่มีทายาทหลงเหลือแม้แต่คนเดียว”

“ดังนั้นตำแหน่งดยุคจะถูกจักรวรรดิยึดคืน และที่ดินศักดินาก็จะถูกยึดครองโดยราชวงศ์

ผู้ใต้บังคับบัญชาและบริวารของดยุคแห่งโรสจึงนึกถึงลูกนอกสมรสของดยุค”

“พวกเขาถูกแบ่งออกเป็นสามกองกำลัง และแต่ละกองกำลังค้นพบลูกนอกสมรสรวมสามคน

พวกเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทายาทของดยุค  ผู้ที่สนับสนุนลีนาคือกลุ่มอัศวินกุหลาบ”

เมื่อเห็นว่าลุงกริมม์คิดถึงลูกสาวและดูไม่มีชีวิตชีวา หนิงซีก็รู้สึกสลดใจ เขาลืมตัวไปแล้วว่านี่คือโลกแห่งเกม

เขาพูดอย่างกระวนกระวายใจว่า

“การไปโรสซิตี้ครั้งนี้  นอกจากลีนาต้องต่อสู้กับสองกองกำลังของเหล่าพี่น้องลูกนอกกฎหมายแล้ว

เธอยังระวังการลอบกัดจากราชวงศ์ของจักรวรรดิอีกด้วย

การแย่งชิงตำแหน่งขุนนางมันอันตรายและซับซ้อนอย่างมาก

ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเธอจะรอดปลอดภัยไปได้ตลอด”

“ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยของลีน่า” กริมม์ส่ายหัว

“การตายทั้งครอบครัวของดยุคแห่งโรสครั้งนี้ สร้างความตื่นตระหนกแก่กลุ่มขุนนางใหญ่ของจักรวรรดิอย่างมาก”

“ขุนนางไม่ใช่กลุ่มคนโง่ เส้นทางเดินเรือของดยุค ดูโบเป็นเส้นทางที่ปลอดภัย

มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบังเอิญเจอมังกรแดงไท่คู?

ครั้งนี้วิธีของราชวงศ์โหดร้ายเกินไป สร้างความไม่พอใจให้เหล่าขุนนางทั้งหมดในจักรวรรดิ”

“ราชวงศ์รู้ว่าการกระทำครั้งนี้แตะขีดจำกัดความอดทนของเหล่าขุนนาง

ดังนั้นเพื่อบรรเทาความไม่พอใจของเหล่าขุนนาง

ราชวงศ์ไม่เพียงแต่จะไม่ลอบสังหารลูกนอกสมรสทั้งสามเท่านั้น แต่ต้องส่งคนไปคุ้มครองพวกเขาอีกด้วย”

“ยิ่งไปกว่านั้น ผู้นำของกลุ่มอัศวินกุหลาบที่สนับสนุนลีนา คือ ท่านเคานต์ทาเกอเร

เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีสายเลือดพยัคฆ์วายุอสนีระดับ 8   ระดับอาชีพถึงระดับ 38

ความแข็งแกร่งในการต่อสู้จัดได้ว่าเข้าขั้นทรราชเลยทีเดียว เขาต้องคุ้มครองลีน่าได้แน่นอน”

เมื่อได้ฟังเช่นนี้ หนิงซีก็รู้ทันทีว่าทำไมลีนาจึงห้ามไม่ให้เขาไปที่โรสซิตี้

“แสดงว่าลีนาปลอดภัยดี แต่คนที่กำลังตกอยู่ในอันตรายคือ ลุงกริมม์กับผมแล้วละ

ในเมื่อศัตรูโจมตีลีนาไม่ได้ พวกมันต้องใช้คนที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดมาต่อรองเพื่อข่มขู่

ลุงกริมม์ เราต้องรีบออกจากหมู่บ้านหมีดำด่วน”

ได้ยินหนิงซีเตือนเช่นนั้น กริมม์ก็ตระหนักได้ว่า ตอนนี้พวกเขากลายเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของลีนาแล้ว

“ขอบคุณที่เตือนนะหนุ่มน้อย ฉันจะรีบเก็บข้าวของวันนี้เลย

จากนั้น ฉันจะใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายไปที่ภูเขาคอปเปอร์เฟอนานซ์ ไปหาเพื่อนคนแคระชื่อ เกรซ

แถวนั่นเป็นอาณาเขตของคนแคระ น่าจะปลอดภัย”.

“คุณไม่เป็นห่วงมากนะ การมีราชวงศ์เป็นศัตรูร่วมกัน

ทำให้การต่อสู้ระหว่างกองกำลังบริวารดยุคไม่น่าจะขยายวงกว้างมาก

เพื่อรักษาความแข็งแกร่งของพวกเขาไว้ การต่อสู้เพื่อตัดสินตำแหน่งขุนนางน่าจะจัดขึ้นบนเวทีประลอง”

“ในอีกครึ่งปี วันที่ 22 ธันวาคม ลูกนอกสมรสทั้งสามคนจะต่อสู้ในเวทีประลอง

ผู้ชนะจะได้รับสืบทอดตำแหน่งขุนนาง”

“การต่อสู้ในเวทีประลอง? ไม่ยุติธรรมสำหรับลีนา เธออายุเพียง 18 ปี”

"ใช่แล้ว. ทายาทอีกสองคน คนแรกคือ เกรย์ อายุ 23 ปี สายเลือดระดับ 3 ระดับอาชีพ 12

แอลลี่ อายุ 24 ปี สายเลือดระดับ 4 อาชีพระดับ 16  แต่ลีนาเพิ่งเป็นนักรบสายเลือด ช่องว่างจึงใหญ่มาก”

“เพื่อความเป็นธรรม การแข่งขันนี้เป็นแบบทีม 3 ต่อ 3

ทายาทแต่ละคนสามารถเชิญผู้ช่วยภายนอกสองคนที่มีอายุไม่เกิน 30 ปีมาช่วยได้”

ผู้ช่วยภายนอก? นี่เป็นสิ่งที่ดี ด้วยวิธีนี้ หนิงซีจะมีโอกาสเข้าร่วม

“ลุงกริมม์ ผมอยากหาสถานที่ที่มีสัตว์อสูรเวทย์จำนวนมากมาย

และเต็มไปด้วยการต่อสู้เพื่อขัดเกลาทักษะการต่อสู้ แต่ผมไม่รู้ว่าที่ไหนเหมาะ?”

กริมม์กลับไปหยิบแผนที่ที่บ้านออกมา ยื่นให้กับหนิงซี

“นี่คือแผนที่ของจักวรรดิ์แบรดที่ฉันรวบรวมไว้ตอนที่ฉันออกผจญภัยในตอนหนุ่ม”

“สถานที่ตามที่คุณต้องการ น่าจะเป็นที่ราบสูงรกร้างทางเหนือ”

“ที่ราบสูงรกร้างทางเหนือ?”

"ถูกตัอง. ที่ราบสูงรกร้างทางเหนือ กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต เต็มไปด้วยป่าไม้และแม่น้ำ

เหมาะเป็นอย่างยิ่งต่อการอยู่อาศัยของสัตว์อสูรเวทย์ ถ้าดูตามภูมิศาสตร์แล้ว

มันตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างจักรวรรดิแบรด จักรวรรดิโอเล และจักรวรรดิเอลเว่น

เป็นมันเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายไร้เจ้าของ มีการต่อสู้เกิดขึ้นตลอดเวลา”

หนิงซีรู้สึกยินดีมาก ที่ราบสูงรกร้างทางเหนือนั้นดีจริงๆ  มีสัตว์อสูรเวทย์มากมาย

มันเป็นเครื่องผลิตค่าประสบการณ์ชั้นยอด ที่ใดมีการต่อสู้ ที่นั่นย่อมมีภารกิจ

“เราต้องเร่งความเร็วในการเลื่อนระดับแล้ว! อีกครึ่งปี

ฉันอยากขึ้นเวทีไปช่วยลีนาคว้าตำแหน่งงดยุค ในฐานะผู้ช่วยภายนอก”

หลังจากทราบภูมิหลังของลีนา  หนิงซีก็เข้าใจความรู้สึกของลีนาที่ตั้งใจจะสร้างชื่อให้โด่งดังไปทั้งทวีป

เธอแค่ต้องการต่อสู้เพื่อให้ได้การยอมรับและพิสูจน์ตัวเองเท่านั้น

ไม่จำเป็นเสมอไปที่ราชาจะต้องมาจากคนที่เกิดมาพร้อมกับอำนาจและเงินเท่านั้น?

ลูกนอกสมรสก็สามารถกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน!

“หนิงซี  ฉันจะไปแล้วนะ  ถ้าจะไปที่ราบสูงรกร้างทางเหนือ

ก่อนอื่นคุณต้องเคลื่อนย้ายไปที่ เมืองเมจิคฮอร์น ก่อน

จากนั้นไปที่ เมืองไวด์ไลอ้อน และสุดท้ายไปยังเมืองที่ใหญ่ที่สุดในที่ราบสูงรกร้างทางเหนืออย่าง เมืองโตวฮวาง!”

“โอเค ลุงกริมม์ อีกครึ่งปีเจอกัน!”

“อีกครึ่งปีเจอกัน!”

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด