ตอนที่ 54 บริษัทถูกทำลาย? [ฟรี]
ตอนที่ 54
บริษัทถูกทำลาย?
ไม่มีอะไรเกินขึ้นในด้านของเพ็กกี้ แต่มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับซูไป๋แทน
พูดให้ชัด ๆ ก็คือมีเรื่องเกิดขึ้นที่บริษัท
บริษัทเพิ่งจะได้รับการจดทะเบียนสำหรับการทำธุรกิจและเริ่มจัดการเกี่ยวกับติดตั้งโทรศัพท์ แต่มันก็มีความผิดพลาดอะไรบางอย่างในคำสั่งซื้อครั้งแรก
บริษัทของเขาถูกทำให้เสียหาย!
ในช่วงบ่ายที่ผ่านมากระจกที่ประตูชั้นหนึ่งของบริษัทถูกทุบจนแตก และเห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เกิดจากมีคนจงใจทำมันแตก ซึ่งเขาก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีใครที่กล้ามาหาเรื่องบริษัทที่ใหญ่โตแบบนี้ และซูไป๋ก็ไม่ได้ปิดซ่อนตัวตนของเขาด้วย ดังนั้นแล้วคนพวกนั้นก็น่าจะรู้ว่าใครเป็นเจ้าของบริษัทแห่งนี้และเป็นเจ้าของคฤหาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในบรองซ์!
ใครที่มันกล้ามาสร้างปัญหาให้เขาแบบนี้?
ซูไป๋ขับรถมุ่งหน้าที่ไปบริษัทและในเมื่อใกล้จะถึงเขาก็มองเห็นจากระยะไกลว่ามีผู้คนยืนอยู่บริเวณโดยรอบจำนวนมาก และดูเหมือนว่าตำรวจจะมาถึงที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้วและกำลังคุยกับดอตตี้อยู่ ซูไป๋ขับรถผ่านผู้คนขับเข้ามาด้านใน โดยผู้คนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ก็หลีกทางให้อย่างอัตโนมัติ ก่อนที่รถจะหยุดลง
"ในเมื่อคุณซูไป๋มาถึงแล้ว ดังนั้นพวกคุณสามารถมอบผลการสอบสวนให้กับเขาได้โดยตรง แต่ ... ฉันขอแนะนำให้พวกคุณพูดกับเขาดี ๆ และถ้าเกิดยังใช้น้ำเสียงและคำพูดแบบนี้กับเขาระวังเขาจะโกรธ" ดอตตี้พูดขึ้นมาเบา ๆ
ตำรวจทั้งสองคนรีบมองไปยังซูไป๋ที่ก้าวลงมาจากรถด้วยสีหน้าตื่นตระหนกเล็กน้อย
พวกเขามองหน้ากันเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปหาซูไป๋พร้อมกับยื่นมือออกมา "สวัสดีคุณซูไป๋ ผมเป็นรองผู้กำกับการตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลบรองซ์ ชื่อของผมคือ ... "
"แทนที่จะมัวแต่แนะนำตัวเอง มันจะดีกว่าไหมที่จะบอกว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่? เพราะไม่งั้นแล้วมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ชื่อของคุณ" ซูไป๋ไม่ได้ยื่นมือออกไปจับด้วยพร้อมกับพูดขึ้นมาเบา ๆ ในขณะที่เดินผ่านตำรวจสองคนนั้นไป
รองผู้กำกับมีสีหน้าเขินอายเล็กน้อย หลังจากตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเขาก็รีบเดินตามและพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า "หลังจากการตรวจสอบเบื้องต้น ทางเราคิดว่าน่าจะมีใครที่จงใจทำให้กระจกแตก ... "
"ขนาดคนตาบอดยังรู้เลยว่ามันจะต้องมีใครบางคนที่จงใจทำมันแตก ถ้าเกิดว่าพวกคุณมีความสามารถกันแค่นี้ก็กลับไปเถอะ ... เก็บไปเก็บของและย้ายไปอยู่ที่อื่นซะ" ซูไป๋พูดขัดจังหวะขึ้นมาอีกครั้ง
ลมหายใจที่เต็มไปด้วยความโกรธทำให้รองผู้กำกับถึงกับเหงื่อออก เขารีบมาที่นี่ทันทีเมื่อได้รับการแจ้งเหตุ และเขาก็ไม่มีสิทธิ์หรืออำนาจมากพอที่จะไปเอาเรื่องบริษัทอิมมอร์ทัลได้อีกด้วย เห็นได้ชัดว่าการเป็นรองผู้กำกับไม่ใช่งานง่าย ๆ เลย
ที่นี่คือ บรองซ์ ย่านที่อันตรายและวุ่นวายที่สุด
เดิมที่เขาต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างเพื่อหลอกล่อทิศทางของคดี แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้สถานการณ์มันจะ ... ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
"เกิดเรื่องอะไรขึ้น?" ซูไป๋หันไปถามกับดอตตี้
ดอตตี้พูดขึ้นมาเบา ๆ ว่า "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่จากที่ฟังพวกพนักงานเล่าให้ฟังพวกเขาบอกว่ามีคนบุกเข้ามาและทุบกระจกด้วยก้อนหิน คนพวกนี้สวมหน้ากากอนามัยเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะมีภาพจากกล้องวงจรปิดแต่ก็ไม่สามารถตรวจจับใบหน้าของพวกเขาได้อย่างชัดเจน พวกเขาระมัดระวังตัวเป็นอย่างดี และน่าจะมีการเตรียมพร้อมมาก่อนและคนที่ลงมือจะต้องมีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนอย่างแน่นอนไม่งั้นพวกเขาคงไม่รู้วิธีการปิดบังตัวเอง"
"คุณหมายความว่าอย่างไร?"
"บริษัทเบลล์จะตามหาคนที่ทำมันได้ไหม?" ดอตตี้วิเคราะห์และถามขึ้น
ท้ายที่สุดแล้วเทคโนโลยีหลักของโทรศัพท์ก็ได้มาจากบริษัทเบลล์ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ชอว์เอามันมาได้อย่างไร แต่ในเมื่อไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาให้เห็นต่อหน้าดังนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีนี้? ท้ายที่สุดแล้วบริษัทของเขาก็มีขนาดใหญ่และถือได้ว่ามีความร่วมมือกับ SSR ดังนั้นคนที่กล้าทำสิ่งนี้น่าจะไม่ใช่คนธรรมดา เพราะไม่งั้นพวกเขาคงจะไม่กล้าแบบนี้!
ดังนั้นจากมุมมองทั้งหมดสิ่งนี้เป็นไปได้มากที่สุด
ซึ่งในระหว่างทางก่อนหน้านี้ซูไป๋ก็ได้คิดมันมาตลอดทาง และสงสัยว่าบริษัทเบลล์อาจจะเป็นคนทำ แต่เขาก็ไม่มีหลักฐาน
และในตอนนี้ชอว์ก็ได้ออกมาในโลกเบื้องหน้าแล้ว ไม่ว่าจะเขาจะใช้วิธีใดในการจัดการเรื่องนี้มันก็น่าจะได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์แน่นอน และถ้าเกิดว่าชอว์ไม่สามารถแก้ไขได้ ซูไป๋ก็รู้สึกว่ามันคงจะถึงเวลาที่เขาจะต้องจัดการบางอย่าง
"คุณซูไป๋เราสามารถเดินไปคุยไปได้ไหม?"
ในขณะเดียวกันรองผู้กำกับก็เดินเข้ามาหาซูไป๋พร้อมกับถามขึ้นมาด้วยความกังวล
ซูไป๋เหลือบมองเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า "ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันเสียเวลา อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทของฉันเปิดทำการ และในตอนนี้ฉันก็อารมณ์ไม่ดีอย่างมาก หวังว่า ... คนที่โชคร้ายจะไม่ใช่คุณ!"
"ไม่แน่นอนๆ" รองผู้กำกับรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็วก่อนจะพูดว่า "ผมค่อนข้างคุ้นชินเกี่ยวกับมันแล้ว นอกจากนี้ผมอยากจะบอกกับคุณว่าในบรองซ์มีกองกำลังใต้ดินมากมาย และวิธีการที่คล้ายกันนี้มันก็ปรากฏให้เห็นเกือบทุกบริษัทหรือร้านค้าเปิดใหม่ พวกเขาจะพบกับสถานการณ์แบบนี้ทั้งหมด ดังนั้น ... คุณซูไป๋อาจจะเริ่มสืบจากคนพวกนี้ได้"
"กองกำลังใต้ดิน? พวกอันธพาล?"
เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ซูไป๋ก็เริ่มรู้สึกว่าเรื่องมันเริ่มปะติดปะต่อกัน
เรื่องพวกนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องและสไตล์การทำงานแบบแก๊งมากกว่า โดยสามารถตัดสินได้จากความสามารถในการปิดบังตัวตนจากกล้องวงจรปิดได้ราวกับมืออาชีพ
"ผมคิดว่าอีกไม่นานพวกเขาคงจะกลับมาหาคุณอีกครั้ง" เมื่อผู้กับเห็นสีหน้าตกตะลึงของซูไป๋ เขาก็รู้ว่าซูไป๋เข้าใจมันแล้ว
"แล้วถ้าตอนนี้ฉันอยากรู้ว่ามันเป็นใคร ... คุณช่วยบอกฉันได้ไหม?" ซูไป๋จ้องมองไปที่รองผู้กำกับ
รองผู้กำกับแสดงสีหน้าเขินอายขึ้นมาทันที พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเหยเกว่า "คุณซูไป๋อย่าทำให้ผมอึดอัดใจเลย ผมก็เป็นแค่รองผู้กำกับตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มีอำนาจมากมายขนาดนั้น ในความเป็นจริงการพูดออกไปมันอาจจะทำให้ผมต้องมีปัญหากับแก๊ง ซึ่งผมไม่สะดวกจริง ๆ"
"คุณชื่ออะไร" ซูไป๋ถามขึ้นมาอีกครั้ง
"ริชาร์ด ริชาร์ด ปาแลร์โม" รองผู้กำกับรีบพูดขึ้นมาอย่างร้อนรน
"ฉันจะจำคุณเอาไว้ เอาล่ะ! ฉันจะไม่ทำให้คุณอึดอัดใจอีกต่อไป" ซูไป๋โบกมือเล็กน้อย ก่อนที่จะรองผู้กำกับจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
โปรดติดตามตอนต่อไป …