ตอนที่ 53 บริษัท อิมมอร์ทัล กรุ๊ป จำกัด [ฟรี]
ตอนที่ 53
บริษัท อิมมอร์ทัล กรุ๊ป จำกัด
หลังจากกลับมาจากเบลารุสซูไป๋ก็บอกให้คารีน่าไปอาศัยอยู่ห้องเดียวกับเรเวน เพราะว่าพวกเธอทั้งคู่เป็นเด็กผู้หญิงในวัยเดียวกันและน่าจะเข้ากันได้เป็นอย่างดีห แน่นอนว่าซูไป๋ไม่ลืมที่จะเตือนให้เรเวนคอยระวังคารีน่าตลอดเวลา คารีน่าเป็นสายลับของห้องแดงและน่าจะมีนิสัยคล้ายกับดอตตี้ เช่น ... ใส่กุญแจมือตอนนอนหลับ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ซูไป๋บังคบไม่ให้เธอใส่มัน ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย แต่ว่าถ้าเกิดว่าเธอไม่ได้มีความคิดที่ชั่วร้ายจริง ๆ ความหวาดระแวงและความรู้สึกไม่ปลอดภัยของเธอมันก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างที่สองก็คือให้เธอปรับจิตใจของเธอให้กลายเป็นเหมือนคนปกติให้เร็วที่สุด
ในเมื่อดอตตี้ก็อยู่ที่นี่ ซูไป๋ก็เชื่อว่ามันน่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ด้วยสูตรเซรุ่ม เลือดของกัปตันอเมริกา และเจียหยิงที่หาเธอพบแล้ว
ทำให้ในตอนนี้ทุกอย่างเตรียมการพร้อมแล้ว แต่เขาก็ยังขาดเงิน
อย่างไรก็ตามความเร่งรีบก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ผลดีเสมอไป ถึงแม้ว่าซูไป๋จะกระตือรือร้นที่จะทำการวิจัย แต่ด้วยระดับการค้นหานักวิทยาศาสตร์ที่ไม่ค่อยแน่นอนและรายละเอียดไม่ค่อยชัดเจน จำเป็นที่จะต้องสังเกตพวกเขาโดยระเอียด ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงสามารถพูดขึ้นแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ผ่านโทรศัพท์เท่านั้น แต่อย่างน้อยในตอนนี้จะต้องมีเงินก่อน เพราะถ้าเกิดไม่มีเงินเขาก็จะไม่สามารถทำอะไรต่าง ๆ ได้มากขึ้น
บริษัท อิมมอร์ทัล กรุ๊ป จำกัด
นี่คือชื่อของบริษัทที่จดทะเบียนโดยซูไป๋ โดยตึกสำนักงานของบริษัทจะตั้งอยู่ใน บรองซ์ มันเป็นตึกสำเร็จรูปที่ได้รับการตบแต่งอย่างเรียบง่ายพร้อมกับป้ายที่ถูกแขวนเอาไว้ว่าบริษัทแห่งนี้จะทำธุรกิจเกี่ยวกับโทรศัพท์ ในขณะเดียวกันเขาก็ได้ซื้อโรงงาน ที่ใช้สำหรับการทำหน้าจอของโทรศัพท์ แต่ในชั้นใต้ดินของโรงงานเขาจะทำเป็นห้องวิจัยลับ
เบนนิสได้เริ่มศึกษาโครงสร้างของโทรศัพท์มือถือแล้ว ในขณะเดียวกันเขาก็ยังไม่ลืมที่จะสร้างระเบิดโมเลกุลขึ้นมาสองสามลูก
ในอีกด้านหนึ่งเพ็กกี้ก็ได้กลับมาทำงานกับทีมอีกครั้ง
อุปกรณ์ที่ถูกขโมยไปทั้งหมดของฮาวเวิร์ดถูกนำกลับมาพร้อมกับคนอีกสองคนที่ถูกพาตัวมาด้วย!
มันคือคนที่ซูไป๋พยายามที่จะตามหา แต่เขาก็ไม่พบพวกเขาทั้งสอง บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาทั้งสองคนนี้ถูกจับตัวเอาไว้ และถูกจับตามองอย่างจริงจังและเพื่อจัดการกับลิเวียธาน ทางเพ็กกี้จึงได้ช่วยเหลือพวกเขามา โดยที่ทั้งสองเห็นพ้องต้องกันโดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์ที่ได้บอกว่าครอบครัวของเขาถูกฆ่าตายและต้องการที่จะแก้แค้น แต่สภาพจิตใจของเขาก็ไม่ค่อนมั่นคงมากนัก ในขณะเดียวกันนักจิตวิทยา อีฟเชนโก ก็ยืนอยู่ข้างหลังเขาเช่นกัน
ถึงแม้ว่าคำตอบของสองคนนี้จะไม่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฮาวเวิร์ดได้อย่างชัดเจน แต่พวกเขาก็ได้ทำให้ผู้อำนวยการเริ่มเอนเอียงและเริ่มตรวจสอบเกี่ยวกับลิเวียธานอย่างจริงจัง
เพ็กกี้ยิ่งเชื่อมันในผลงานที่โดดเด่นของเธอว่า เอเจนต์ทอมสันและผู้อำนวยการจะต้องเห็นว่าเธอมีความสามารถมากพอกว่าที่จะให้ไปเสริฟชาและน้ำ และสถานะของเธอจะต้องพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าการเดินทางในครั้งนี้จะสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ได้เห็นหน่วยคอมมานโดคำรามอีกครั้งมันทำให้เธอมีความสุขมาก และมีความรู้สึกอยากกลับไปในสนามรบอีกครั้ง
เมื่อเพ็กกี้กลับมาที่บ้านเธอจึงอารมณ์ดีเป็นอย่างมากและพูดคุยกับซูไป๋
"ดูอินและคนอื่น ๆ ฝากฉันให้มาทักทายคุณ และพวกเขายังบอกอีกว่าพวกเขาอยากร่วมงานกับคุณอีกครั้งถ้ามีโอกาส"
ดูอิน ...
ซูไป๋จำชายที่ไว้เครายาวได้ เพราะอย่างไรเขาก็เป็นคนที่ช่วยคนพวกนั้นออกมาเอง ต่อมาพวกเขาก็ได้รับเลือกให้เข้าร่วมกับหน่วยคอมมานโดคำราม และแน่นอนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างดี
"ยังไงก็ตามคุณไม่ได้บอกหรอว่าคุณแค่ไปส่งของที่นั่นและทางฉันจะมีหน้าที่เอาของพวกนั้นกลับมา? แล้วทำไมพอคุณไปถึงที่นั่นถึงได้ฆ่าคนไปทั้งหมด? ยกเว้นนักวิทยาศาสตร์และนักจิตวิทยาสองคนที่ถูกขังเอาไว้ก็ไม่มีใครที่รอดชีวิตอีกเลย เดิมที่พวกฉันต้องการที่จะบุกเข้าไปด้วยอาวุธเต็มกำลัง แต่เมื่อเข้าไปด้านในและเห็นฉากที่เกิดขึ้นมันก็ทำให้ดูอินและคนอื่น ๆ หดหู่มากเลย" เพ็กกี้พูดขึ้น
"คุณกำลังพูดเรื่องอะไร? นักวิทยาศาสตร์และนักจิตวิทยา? คุณเจอพวกเขาภายในฐาน?" ซูไป๋ถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
"ใช่!
"พวกเขาชื่ออะไร?"
"นิคกับอีฟเชนโก มีอะไรอย่างงั้นหรอ? พวกเขามีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" เพ็กกี้อดถามขึ้นมาไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางที่แปลกใจของซูไป๋
เมื่อเพ็กกี้เห็นพวกเขาถูกขังเอาไว้ เธอจึงคิดว่าซูไป๋จงใจปล่อยพวกเขาทิ้งเอาไว้ให้เธอและให้เธอสอบปากคำพวกเขาเอาเองเพื่อที่จะได้อะไรบางอย่างกลับมา
"ก่อนที่ผมจะจากไป ผมได้พยายามตรวจสอบหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่พบใคร ผมเจอแค่สายลับตัวน้อยที่ถูกทิ้งเอาไว้โดยพวกลิเวียธาน และผมก็พาเธอกลับมาด้วย ส่วนคนทั้งสองคนที่คุณพูดถึง ... ผมหาพวกเขาไม่เจอ" ซูไป๋พูดขึ้น
เพ็กกี้ที่ได้ยินเช่นนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า "ดังนั้นตัวตนของพวกเขาจึงน่าสงสัย?"
"คุณจะคิดแบบนั้นก็ได้" ซูไป๋ไม่ได้บอกตัวตนของพวกเขาทั้งสองคนออกไปโดยเฉพาะ อีฟเชนโก!
การพาพวกเขากลับไปที่ SSR นั้นน่าจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ แต่ซูไป๋ก็ไม่คิดที่จะเตือนเพ็กกี้ ถึงแม้ว่าการกระทำเช่นนี้มันอาจจะนำไปสู่ผลกระทบบางอย่าง แต่มันก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับซูไป๋ ในทางตรงข้ามกันมันยังเป็นประโยชน์อีกด้วย
"ฉันจะระวังเอาไว้" เพ็กกี้พยักหน้าอย่างจริงจัง
เพ็กกี้นึกย้อนกลับไปและพยายามสังเกตรายละเอียดที่เธออาจจะพลาดไปอย่างเงียบ ๆ
คนหนึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้นเขาจึงถูกให้เข้าร่วมกับกลุ่มนักวิจัยทันทีหลังจากที่เขามาถึงและสถานการณ์ของเขาก็ค่อนข้างปกติ ส่วนอีกคน อีฟเชนโก เขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่กับผู้อำนวยการและคอยบอกเล่าเรื่องต่าง ๆ ของลิเวียธานและดูเหมือนว่าข้อมูลที่เขาบอกจะเป็นความจริง
ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่น่าจะมีปัญหา!
แต่เธอก็ยังคงเชื่อคำพูดของซูไป๋และเก็บมันเอาไว้ในใจ เพราะว่าพวกเขายังไม่ได้แสดงท่าทางอะไรผิดปกติในตอนนี้ ดังนั้นเธอคงจะต้องคอยตรวจสอบอย่างเงียบ ๆ
โปรดติดตามตอนต่อไป …