ตอนที่ 35 มื้อค่ำกับทีม 107(อ่านฟรี09/03/2566)
ตอนที่ 35 มื้อค่ำกับทีม 107
ลีโอเดินกลับออกมาด้านนอกด้วยท่าทางจริงจัง เพราะกำลังครุ่นคิดว่าจะเข้าใจโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณดินและลมได้อย่างไร
ที่จริงในใจก็พอมีความคิดอยู่บ้าง วิธีที่เร็วสุดนั้นคือแอบเรียนรู้จากหมอผีผู้จารึกโดยตรง แต่น่าเสียดายอยู่ไม่น้อยที่นี่คือเหมืองมรณะ ไม่มีหมอผีผู้จารึกคนใดมาที่นี่
ยกเว้นเขาที่โดนลงทัณฑ์ให้มารับภารกิจบังคับ 1 ปี
ดังนั้นลีโอตัดวิธีแลกออกไปได้เลย แต่ว่าใช่จะไม่มีหนทาง เพราะว่าเขายังมีวิธีที่หมอผีผู้จารึกก็ใช้กันมาอย่างยาวนั้น นั้นคือสังเกต
“คงต้องทำเช่นนั้นแล้ว” ลีโอพึมพำเบา ๆ เพียงคนเดียว
อักขระวิญญาณดินคือการสังเกตดิน อักขระวิญญาณลมคือการสังเกตลม ทั้งสองสิ่งเป็นของใกล้ตัวที่หาได้ง่ายดาย แต่ว่าการสังเกตของธรรมดานั้นยากมากกว่าการสังเกตของที่เป็นเอกลักษณ์
ก็อย่างเช่นไฟที่อาจารย์หมอผีไบรเซนเคยสอนให้มอง มันไม่ใช่ไฟธรรมดา แต่เป็นไฟที่เกิดจากอักขระวิญญาณที่ดูดซับเอาอนุภาควิญญาณมาเป็นตัวต้นกำเนิด ดังนั้นเหล่าศิษย์จึงศึกษามันได้ง่ายกว่าการใช้ไฟธรรมดาทั่วไป
ลีโอเงยหน้ามองท้องฟ้า ในเรื่องของอักขระวิญญาณลมที่ไม่ธรรมดาก็มีให้เขาอยู่
เหนือขึ้นไปบนท้องฟ้าของเหมืองมรณะนั้นเต็มไปด้วยพายุที่มีทั้งอนุภาควิญญาณและโลหะ ปลดปล่อยพลังรบกวนที่รุนแรงจนสถานที่แห่งนี้ตัดขาดสัญญาณจากภายนอกไปโดยสมบูรณ์
นี่จึงนับเป็นลมที่เหมาะในการศึกษาอย่างยิ่ง
“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเจ้าก็แล้วกัน” ลีโอกล่าวออกมา
“หัวหน้าหมายถึงอะไร”
ตอนนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางข้าง ๆ ลีโอ
ลีโอหันไปมองด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย
“ซูซี่?”
“ก็ใช่ไง ว่าแต่ท่านมายืนพูดอะไรคนเดียวที่นี่” ซูซี่มองลีโอย่างแปลกใจ
“ไม่มีอะไรหรอก เจ้ามาทำอะไรแถวนี้”
“ข้านัดกับคนในทีม 107 ว่าจะไปกินอาหารเย็นกัน ฉลองให้กับแร่สื่อวิญญาณที่พึ่งขุดมาได้เป็นจำนวนมาก อีกสักพักแฮงแมนกับฮานก็คงจะมาถึงแล้วถ้าท่านไปรังเกียจไปกินมื้อค่ำกับพวกเราไหม” ซูซี่กล่าวชวนลีโอ
ก่อนหน้านั้นนางเสียมารยาทกับลีโอหลายอย่าง จึงคิดอยากจะชวนไปกินอาหารเป็นการขอโทษ
“พวกเขามาพอดีเลย” ซูซี่เหลือบไปเห็นแฮงแมนกับฮานก็ยกมือโบกไปมาให้ทั้งสองเห็นตน
ฮานและแฮงแมนเดินมาพร้อมกัน พอเห็นลีโอก็รีบเข้ามาทักทายพอดี
“หัวหน้าสวัสดี”
“หัวหน้าท่านก็จะไปกินมื้อค่ำพร้อมกับพวกเราเหรอ”
ทั้งสองถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นลีโอยืนอยู่ที่นี่
ซูซี่หันไปมองหน้าลีโอเพื่อรอคำตอบ
ลีโอคิดก่อนจะตอบตกลง เพราะยังไงมันก็ไม่มีอะไรเสียหาย
“ไปกันเถอะ ข้าจะเลี้ยงเอง”
ลีโอแสดงสปิริตของการเป็นหัวหน้าทีมเลี้ยงอาหารพวกเขา
โถงอาหารที่พวกเขาไปกันนั้นคือสถานที่ของร้านอาหารทั่วไปที่มีอาหารราคาสำหรับแรงงานขุดเหมืองธรรมดา ที่ไม่ใช่เหล่าหมอผี เพราะว่าถ้าใช้การเก็บเงินแบบหมอผีคนงานเหล่านี้คงไม่มีเงินจ่าย
แม้ราคาจะคิดตามคนธรรมดา แต่ว่าบางเมนูก็มีแยกพิเศษสำหรับเหล่าหมอผีโดยเฉพาะ ที่บอกว่าแยกเป็นพิเศษนั้นเพราะว่าราคาอาหารเหล่านี้ถูกเก็บด้วยสกุลเงินดากาซ แทนที่จะเป็นเครดิต
และลีโอก็มีแต่เงินดากาซเท่านั้น ด้วยความที่มาถึงโถงอาหารแล้วลีโอไม่อยากจะเสียเวลากลับไปแลกสกุลเงิน เขาจึงเลี้ยงมื้ออาหารที่เหล่าหมอผีมักจะดื่มกินกันให้กับทั้งสามคนไปเลย
ราคาต่อเซตใหญ่อยู่แค่ 4 ดากาซเท่านั้นและเซตหนึ่งกินได้ 4 คนลีโอจึงสั่งมาทันที
หลายคนต่างเฝ้ามองทีม 107 อย่างอิจฉาที่มีหัวหน้าทีมมาเลี้ยงมื้อสุดหรูให้พวกเขา
ทุกคนเพลิดเพลินไปกับอาหารจนกินไม่หยุดปาก ขณะที่ดื่มกินลีโอก็กล่าวบอกเรื่องการเปลี่ยนที่ขุดให้กับแฮงแมนได้ไปหาสถานที่ใหม่ไว้ให้พวกเขาด้วย เนื่องจากอีกไม่กี่วันภารกิจขุดอีกรอบก็จะส่งมาแล้ว
“หัวหน้ายังจะไปชั้น 5 เหมือนเดิมไหม” แฮงแมนเอ่ยถาม
“อืม ไปชั้น 5 เหมือนเดิม แต่ใกล้จากที่นั่นสักหน่อยก็แล้วกัน” ลีโอกล่าวตอบไปตามตรง ถ้าไม่ใช่เพราะติดว่าต้องศึกษาโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณ ลีโออาจจะอยากลองลงไปชั้นลึกกว่านี้เพื่อจับวิญญาณของผีให้มากขึ้นอยู่เหมือนกัน
“แค่ก ๆ ๆ”
ตอนนั้นฮานที่กำลังกินอาหารอยู่ก็ไอออกมาเบา ๆ
“ฮานนายเป็นอย่างไรบ้าง” ซูซี่รีบหันไปถามอย่างเป็นห่วง
“ขอโทษที” ฮานกล่าวขอโทษที่ตนไอตอนกินอาหาร โดยเฉพาะเมื่อมีลีโอร่วมโต๊ะด้วย ก่อนจะหันไปตอบซูซี่
“ข้าไม่เป็นอะไร”
“มีอะไรหรือเปล่า” ลีโอถามด้วยความอยากรู้ เพราะเขาสัมผัสได้ว่าอาการของฮานนั้นดูไม่ปกติ
แฮงแมนและซูซี่มองหน้ากัน ก่อนจะหันไปมองฮาน
“ไม่เป็นอะไรหรอกหัวหน้า ก็แค่อาการทั่วไปของการอยู่ที่นี่นาน ๆ เท่านั้น” ฮานกล่าวขึ้นมา
“ฮานอยู่ที่นี่นานมากเป็นอันดับต้น ๆ ในกลุ่มแรงงานขุดเหมืองเลยกว่าได้ ทำให้เขาได้รับผลกระทบทางสุขภาพไปด้วย” แฮงแมนกล่าวเสริม
พอได้ยินลีโอก็เข้าใจทันที
สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยอนุภาควิญญาณนั้นส่งผลกระทบต่อมนุษย์ธรรมดาอยู่แล้ว พวกคนงานเหมืองก็ไม่มีข้อยกเว้น
ปกติแล้วที่ฐานจะมีพื้นที่ปลอดอนุภาควิญญาณแยกออกมาให้คนเหล่านี้ได้พักกัน แต่เมื่อเข้าไปที่เหมืองมรณะก็ยากจะหลีกเลี่ยงได้ พอสัมผัสไปนานก็จะเจ็บป่วยได้ง่าย ถ้าร้ายแรงก็ถึงตาย
ดังนั้นกองควบคุมจะมียาตัวหนึ่งที่ช่วยในการขับอนุภาควิญญาณออกจากร่างของคนธรรมดาจะแจกจ่ายให้กินในทุก ๆ ครั้งที่กลับมาที่ฐาน
ยานี้ช่วยยืดระยะเวลาจากประมาณ 1 ปีให้สามารถอยู่ได้นานขึ้นเป็นหลายปี อาจจะ 5 ปี หรือ 10 ปีแล้วแต่สภาพร่างกาย แต่ว่าขึ้นชื่อว่ายาขับอนุภาค นั้นก็หมายความว่าอนุภาคนั้นสะสมในร่างกายแล้ว พอขับออกมาก็ยังทิ้งผลกระทบที่เกิดขึ้นไว้อยู่
ยิ่งเวลาผ่านไปนานก็ยิ่งสะสมอาการไว้ด้วย งานขุดเหมืองที่นี่จึงเรียกว่า เป็นความตายผ่อนส่งก็ไม่มีผิด
ส่วนใหญ่ถ้ารู้ว่าไม่ไหวหลายคนจะเกษียณตัวเองออกจากเหมืองรับเงินที่สะสมไว้และไปช่วยชีวิตที่ด้านนอกอย่างสุขสบายแทน
แต่ว่าฮานนั้นเหมือนจะต้องการเงินมากกว่าที่คิดจึงยังไม่คิดจะเกษียณตัวเองออกไปจากเหมือง เพราะถ้าออกไปแล้วจะไม่สามารถกลับเข้ามาทำงานได้อีก
ลีโอพอรู้ก็เปิดดวงตาผนึกเทพแอบมองดูร่างกายของฮานทันที แม้ดวงตาจะมองทะลุไปภายในร่างของฮานไม่ได้ แต่เขามองเห็นอนุภาควิญญาณที่สะสมในร่างของฮานได้
“เจ้าควรจะเลิกทำงานนี้แล้วออกไปใช้ชีวิตได้แล้ว” ลีโอกล่าวเตือน เพราะเขาเห็นว่าอนุภาควิญญาณนั้นอัดแน่นอยู่ในปลอดของฮานเต็มไปหมด
มันทำความเสียหายให้กับปอดของฮานอย่างช้า ๆ เป็นเหมือนยาพิษที่ค่อย ๆ ทำให้ตาย
ฮานทำสีหน้าลำบากใจ ก่อนจะพูดว่า “ผมคงทำอีกสัก 1 ปีแล้วก็จะเลิกทำแล้ว”
ลีโอพยักหน้า จากนั้นก็ยื่นมือไปทางฮาน
ฮาน แฮงแมนและซูซี่มองการกระทำของลีโออย่างไม่เข้าใจ
ลีโอไม่พูดอะไร เขาเพียงแค่ใช้พลังจิตของตัวเองจับไปที่อนุภาควิญญาณในตัวของฮาน ก่อนจะค่อย ๆ ดึงมันออกมา
การกระทำของลีโอนั้นแม่นยำมาก เขาไม่ได้แตะต้องอวัยวะอื่น ๆ เลย นอกจากอนุภาควิญญาณที่ทำได้แบบนี้ เพราะลีโอมองเห็นมัน
อนุภาควิญญาณโดนดึงออกมา ฮานนั้นก็รู้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก
“หัวหน้า…” ฮานรู้ว่านี่คือการกระทำของลีโอ
“ข้าไม่ได้ทำอะไร” ลีโอกล่าวขึ้นมา
แน่นอนว่าฮานนั้นไม่เชื่อ เช่นเดียวกับที่ซูซี่และแฮงแมน แต่ทั้งสามรู้ว่าลีโอไม่ต้องการให้ใครมารู้เรื่องนี้มากนัก
“1 ปีหลังจากนี้เข้าควรออกไปจากที่นี่” ลีโอกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะลุกขึ้นยืนและบอกกับทั้งสามคนว่า “ข้าอิ่มแล้ว พวกเจ้ากินกันต่อเถอะ”
กล่าวจบลีโอก็วางเงินไว้ 4 ดากาซและจากไป
ทั้งสามคนมองหน้ากัน พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าหัวหน้าทีมสุดลึกลับจะยอมช่วยเหลือคนงานอย่างพวกเขาด้วย ปกติหัวหน้าทีมไม่ว่าทีมไหน ๆ ก็ไม่ค่อยจะคบค้ากับเหล่าคนธรรมดาสักเท่าไหร่ ซึ่งกรณีของลีโอนั้นแปลกมา แถมเขายังยื่นมือช่วยเหลือฮานอีกด้วย
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” แฮงแมนถามด้วยความสนใจสุด ๆ
“รู้สึกหายใจโล่งมาก” ฮานตอบ
“อย่าบอกเรื่องนี้กับใคร” ซูซี่กล่าวตอบ
ลีโอที่พึ่งช่วยฮานไปเมื่อครู่กำลังเดินกลับห้องพัก โดยไม่ได้คิดมากว่าทั้งสามจะบอกใครหรือเปล่า ที่จริงวิธีการของลีโอนั้นทั่วไปมาก ๆ ถ้าหมอผีแท้จริงลงมือก็คงทำได้เช่นกัน
เพราะหมอผีทุกคนมีพลังจิตสัมผัส เพียงแต่ว่าไม่ได้แม่นยำเท่าลีโอทำ ถ้าหมอผีคนอื่น ๆ ลงมืออาจจะทำให้ฮานบาดเจ็บได้ เพราะความไม่แม่นยำ แต่มันก็แค่อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ในการดึงอนุภาควิญญาณออกไปก็ได้เหมือนกัน
หลังจากกลับมาถึงห้องลีโอก็ไม่ได้กลับเข้าไปในโลกมิติทันที แต่ว่าเลือกจะเริ่มเขียนยันต์ เขาต้องเติมเต็มยันต์ไฟที่พึ่งใช้ไป
เช้าวันต่อมา ลีโอมียันต์ไฟปึกใหญ่อยู่ในมือ พลังจิตของเขาสูงกว่าแต่ก่อนมาก การเขียนยันต์ทีเดียว 20 แผ่นจึงไม่จัดว่ายุ่งยากอะไร ส่วนกระดาษยันต์และหมึกลีโอมีเหลือจากที่สถาบันเอลาเดียจำนวนมาก พอให้ไปได้อีกสักพักใหญ่ ๆ
ขณะที่เขากำลังจะเขียนยันต์ต่ออีกสักหน่อยก็มีการแจ้งเตือนถึงภารกิจด้านนอกเข้ามา ตามปกติการแจ้งเตือนจะมาก่อน 1 วัน เพื่อให้คนในทีมได้เตรียมพร้อมกัน
ลีโออ่านเสร็จก็ปิดมันลงและเขียนยันต์ต่อจนกระทั่งบ่ายของวันเขาจึงออกมาจากห้องและตรงไปยังร้านค้าของฐานเพื่อซื้อของสำหรับภารกิจครั้งนี้ เพราะเขาไม่อยากจะประมาทเหมือนเช่นครั้งก่อนอีกแล้ว