ตอนที่ 32 กลับฐานโดยด่วน(อ่านฟรี03/03/2566)
ตอนที่ 32 กลับฐานโดยด่วน
ซูซี่ แฮงแมนและฮานต่างจ้องมองในจอที่ฉายภาพบริเวณปากหลุมซึ่งได้พังทลายลงมา ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ ทำให้มองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หัวหน้าพวกเขายังรอดออกมาได้หรือไม่
“แฮงแมนสแกนหาหัวหน้าเร็วเข้า” ซูซี่ตะโกนบอกและรีบวิ่งไปดูจากทางกระจกหน้ารถ
แฮงแมนรีบลงมือสแกนหาลีโอ ส่วนฮานนั้นควบคุมสองหุ่นยนต์ที่พึ่งช่วยกันขนหุ่นยนต์ที่เสียหายหมายเลข 3 ขั้นมาไปที่บริเวณปากหลุม
“เจอไหม” ซูซี่หันมาถาม
“เจอแล้ว” แฮงแมนตอบกลับ เป็นจังหวะเดียวกับที่มีการเคลื่อนไหวที่บริเวณปากหลุมพอดี
ลีโอเดินออกมาด้วยท่าทางมึนงงและหูอื้อ ทั้งตัวและหัวของลีโอมีแต่ฝุ่นอยู่เต็มไปหมดทำให้เขาสำลักฝุ่นออกมาไม่หยุด
โชคยังดีที่ตอนดินถล่มลงมาลีโอได้ขึ้นมาจนถึงปากหลุมแล้วจึงรอดจากการโดนฝังทั้งเป็นอย่างเฉียดฉิว
“หัวหน้า” ซูซี่รีบกระโดดลงไปจากรถและเข้าไปช่วยพยุงลีโอ
“ถอนตัว เราต้องรีบออกไปจากที่นี่” ลีโอพูดเตือนด้วยความร้อนใจ
แฮงแมนได้ยินก็รีบเก็บหุ่นยนต์ทั้ง 3 และกระบะโลหะอื่น ๆ กลับขึ้นรถบรรทุกทันที
ฮานรีบเข้ามาช่วยดึงลีโอขึ้นมาบนรถ ส่วนซูซี่รีบเข้าประจำที่นั่งคนขับและพาทุกคนออกจากสถานที่นี่อย่างรวดเร็ว
หลังจากรถขับออกมาแล้วลีโอก็รู้สึกผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก
“หัวหน้าเกิดอะไรขึ้นข้างล่างดินถล่มลงมาอีกเหรอ” แฮงแมนถาม
ลีโอทำเพียงส่ายหัว ซึ่งแฮงแมนเข้าใจทันทีว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับบางสิ่งที่ตนนั้นไม่ควรรับรู้ จึงไม่ได้ถามต่อ
“หัวหน้าบาดเจ็บตรงไหนไหม” ฮานเข้ามาตรวจสอบด้วยอุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉินช่วยสแกนดูอาการบาดเจ็บได้
“ไม่เป็นอะไร ข้าต้องการล้างตัวสักหน่อยระหว่างนี้อย่าพึ่งรบกวนข้า แล้วก็รีบออกไปจากชั้น 5 กลับฐานทันที” ลีโอกล่าว ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
คนอื่น ๆ รู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น แม้แต่คนเช่นลีโอยังเกือบตาย มันคงไม่ใช่ดินถล่มธรรมดาแน่นอน
ลีโอเข้ามาในห้องน้ำก็ล็อกประตูห้องน้ำทันที จากนั้นเขาก็หายเข้าไปในโลกมิติดวงตาผนึกเทพ
ก่อนหน้านั้นตอนที่ลีโอได้สติขึ้นมาหลังจากการถล่มของดิน เขารีบส่งภูติตัวน้อยเข้าไปในโลกมิติดวงตาผนึกเทพ เพื่อไม่ให้มีใครค้นพบและค่อยเดินออกมาจากม่านของฝุ่นที่ปากหลุม
เมื่อลีโอเข้ามาในโลกมิติแล้ว ก็รีบเข้าไปตรวจสอบอาการของภูติตัวจิ๋ว แต่เขาพบว่าภูติตัวจิ๋วนั้นตายไปแล้ว
“บ้าจริง” ลีโอขมวดคิ้วทันที
ตอนนั้นลีโอก็เห็นว่าร่างกายของภูติจิ๋วปรากฏเป็นอนุภาควิญญาณหลุดลอยออกมาและถูกโลกมิติดูดซับเอาไว้เป็นหลังงานต่อไป
“ข้าช่วยเจ้าเท่าที่ทำได้แล้ว น่าเสียดายจริง ๆ” ลีโอกล่าวพึมพำ เขารู้สึกอย่างที่กล่าวจริง ๆ การได้พบกับภูติที่เป็นมิตรนั้นหายากมาก โดยเฉพาะกับเหล่าหมอผีฝึกหัดแบบเขา
แต่ว่าน่าเสียดายที่ภูติตนนี้ตายจากอาการบาดเจ็บซะแล้ว
“ตัวอะไรฆ่าเจ้ากันแน่” ลีโอเริ่มคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านั้นทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจึงไม่มีเวลาให้เขาได้ทันคิดอะไรก็ต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
แต่เมื่อเริ่มคิดดี ๆ ลีโอก็พบคำตอบได้ไม่ยาก โดยเฉพาะเรื่องของสภาพร่างกาย
ร่างกายของภูตผีปีศาจนั้นต่างกัน ภูตินั้นมีร่างกายกึ่งวิญญาณ นั้นคือเมื่อมีชีวิตร่างพวกเขาจะเป็นกายภาพ เมื่อตายแล้วร่างจะสลายหายไปอย่างช้า ๆ หลงเหลือเพียงแต่บางสิ่งไว้ที่เป็นสัญญาลักษณ์ทิ้งไว้เบื้องหลังเท่านั้น
ส่วนผีนั้นจะเป็นพวกวิญญาณที่จับต้องไม่ได้ จึงสามารถทะลุกำแพงผ่านสิ่งของต่าง ๆ ไป
และสุดท้ายคือปีศาจพวกนี้โหดเหี้ยมและชั่วร้ายโดยกำเนิดพวกมันมีร่างกายจากยึดครอง คล้ายกับการปลูกฝังความชั่วร้ายลงไปในจิตใจและให้มันแตกหน่อก่อกำเนิดเป็นปีศาจ จากเหตุผลนี้จึงระบุได้ว่าปีศาจนั้นมีร่างและเลือดเนื้ออย่างแท้จริง
“ถ้าอย่างนั้นตัวที่ข้าพบเจอมีสองความเป็นไปได้คือภูติที่ชั่วร้ายหรือไม่ก็ปีศาจ แต่ภูติจะไม่กินกันเอง ต่อให้เป็นศัตรูกันมากแค่ไหนก็ไม่ใช่การกินกันทั้งเป็นแบบนี้ ดังนั้นมีความเป็นไปได้เดียวที่สรุปได้คือ ปีศาจ แถมต้องเป็นพวกที่ฟักตัวสมบูรณ์แล้วด้วย”
ปีศาจที่ยังฟักตัวไม่สมบูรณ์คือพวกที่ยังไม่ได้เข้ามาควบคุมร่างกายของสิ่งมีชีวิตนั้น ๆ โดยสมบูรณ์ จึงถูกเรียกว่าปีศาจประเภท 0 แต่ถ้าฟักตัวสมบูรณ์เมื่อไหร่ก็จะจัดเป็นปีศาจประเภท 1 ในทันที
ลีโอรู้สึกสยองเมื่อคิดว่าเขาพึ่งรอดตายจากปีศาจประเภท 1 มา ถ้าช้ากว่านี้เขาอาจจะโดนกินเป็นผีเฝ้าหลุมติดินไปแล้วก็ได้
“ศพของภูติจะสลายไปอย่างช้า ๆ แต่อย่างน้อยข้าก็ไม่ใช่คนใจดำทิ้งไว้แบบนี้”
ลีโอเอาศพของภูติฝังลงไปในดินภายในโลกมิติดวงตาผนึกเทพ ขณะที่ร่างของภูติตัวน้อยถูกฝัง เขาก็เห็นว่ามีอนุภาควิญญาณหลากสีลอยออกมาจากตัวของภูติอย่างต่อเนื่องและถูกดูดซับโดยโลกมิติดวงตาผนึกเทพ
“ภูติตายก็กลายเป็นอนุภาควิญญาณ ผีตายก็กลายเป็นอนุภาควิญญาณ ปีศาจตายจะกลายเป็นอนุภาควิญญาณด้วยหรือไม่ น่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะพวกมันทั้งสามก็นับว่ามีวิญญาณและจิตใจ แล้วมนุษย์ละถ้าตายจะมีอนุภาควิญญาณด้วยหรือไม่”
ลีโอตั้งคำถามในใจ แน่นอนว่าคำตอบก็คือมี เพราะมนุษย์ก็มีวิญญาณและจิตใจเช่นกัน
ผ่านไปสักพักหลังจากเข้ามาที่ห้องน้ำ ซูซี่ แฮงแมนและฮานพากันสลับจ้องมองไปที่ห้องน้ำด้วยสีหน้ากังวลใจ เพราะมันเงียบมากราวกับว่าไม่มีใครอยู่เลย
แต่ไม่นานลีโอก็เปิดประตูเดินออกมาจากในห้องน้ำด้วยสภาพที่ล้างหน้าล้างตาและปัดฝุ่นออกจากไปจากตัวแล้ว ส่วนใหญ่ที่เลอะเปื้อนนั้นเป็นบริเวณมือและใบหน้า ส่วนอื่น ๆ นั้นถูกผ้าคลุมปกปิดไว้จึงไม่เลอะมากนัก
เพียงเช็ดล้างสักหน่อยก็ออกจนหมดแล้ว
ลีโอเดินกลับมานั่งที่นั่งของตัวเองจากนั้นก็หันไปเร่งกับซูซี่ว่า “ขับขึ้นไปให้เร็วกว่านี้ใช้ความเร็วสูงสุดเลย”
ซูซี่หันมามอง ก่อนจะพยักหน้าตกลง รถบรรทุกวิ่งกลับไปด้วยความรวดเร็ว ใช้เวลาแค่ 2 ใน 3 ของการเดินทางมาในการเดินทางกลับไปที่ฐาน
พอมาถึงลีโอทิ้งหน้าที่ทุกอย่างให้กับทั้งสามคนจัดการส่วนเขารีบไปรายงานเรื่องของปีศาจให้กับอาจารย์หมอผีที่เข้ามาประจำการในเวลานี้ทันที
พอเรื่องการแจ้งของลีโอส่งขึ้นไปถึงใช้เวลาไม่นานก็มีคนพาลีโอไปกับอาจารย์หมอผีทันที
ลีโอเดินเข้าไปยังอาคารและได้รู้ว่าผู้ที่ตนมาพบด้วยนั้นคืออาจารย์หมอผีแกสทอน อาจารย์หมอผีที่มาที่เหมืองมรณะพร้อมกับเขา
“เจ้านั้นเอง” อาจารย์หมอผีแกสทอนจดจำลีโอได้อย่างรวดเร็ว เพราะลีโอนับว่าโดดเด่นมากที่สุดในตอนที่เดินทางมาที่เหมืองมรณะ แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะพลังของลีโอนั้นน้อยที่สุด
“ท่านอาจารย์หมอผีแกสทอน” ลีโอทำความเคารพตามมารยาทของผู้อ่อนแอที่เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งกว่า
หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มการสนทนา โดยฝ่ายที่สอบถามข้อมูลจะเป็นอาจารย์หมอผีแกสทอนซะเป็นส่วนใหญ่ ลีโอกล่าวบอกทุกอย่าง แม้แต่เรื่องของภูติตัวน้อยนั้นด้วย แต่ว่าเขาไม่ได้บอกเรื่องเอาภูติกลับมาด้วยและเปลี่ยนจุดนี้เป็นมันถูกฟังไปพร้อมกับดินที่ถล่มลงมา
ที่ต้องทำแบบนี้ เพราะลีโอไม่สามารถให้ใครรู้เรื่องของโลกมิติดวงตาผนึกเทพได้ แถมอีกอย่างข้ออ้างเรื่องศพภูติที่โดนฟังไปแล้วนั้นก็สมบูรณ์แบบ เนื่องจากผ่านไปสักพักศพของภูติจะสลายหายไป ต่อให้ไปขุดหาก็ยากจะพบเจอ
และลีโอคิดว่าพวกเขาคงไม่ไปขุดและเสี่ยงปล่อยปีศาจในหลุมออกมาเพียงเพราะศพภูติที่อ่อนแอเพียงตนเดียวแน่นอน
“เรื่องนี้ถือว่าเจ้าทำได้ดีและไม่ดี ที่ดีคือพาทุกคนถอยหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ที่ไม่ดีคือเจ้าขาดประสบการณ์และอยากรู้อยากเห็นมากเกินไปจนพาตัวเองไปอยู่ในอันตราย ดังนั้นข้าจะไม่ลงโทษหรือทำอะไร แต่ว่าสถานที่เจ้าบอกก็ถือว่ายังคงพอมีประโยชน์ เนื่องจากว่าที่นั่นอาจจะเป็นแห่งแร่สื่อสารวิญญาณที่หนาแน่น ทางฐานจะตรวจสอบอีกทีและถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะมอบผลประโยชน์ให้ตามกฎของเหมืองมรณะ แน่นอนว่าเจ้ายังคงได้รับโทษอยู่ดังนั้นเจ้าคงไม่ได้ แต่ทีม 107 คนอื่น ๆ จะได้รับมันในภายหลัง” อาจารย์หมอผีแกสทอนกล่าวอธิบายให้ลีโอฟัง
“แล้วปีศาจตนนั้นละ” ลีโอเอ่ยถาม
“ปีศาจที่เจ้าเจอน่าจะเป็นประเภท 1 ถ้ามันไม่ตาย ซึ่งก็น่าจะไม่ตายก็คงจะหนีไปตามอุโมงค์ใต้ดินแล้ว ในเหมืองนี้มีช่องทางและอุโมงค์ตามธรรมชาติมากมายยากที่จะตามล่ามันได้ แต่ข้าจะลงไปตรวจสอบอีกที เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงกลับไปได้แล้ว” อาจารย์หมอผีแกสทอนบอกถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น
ลีโอรู้ว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่อาจารย์หมอผีจะทำได้แล้ว พวกเขาไม่มีเวลาไปตามล่าปีศาจที่อยู่ใต้ดินลึกไปหลายสิบเมตร ซึ่งก็ไม่รู้ว่าหนีไปตรงไหนแล้ว แถมพื้นที่ของเหมืองมรณะนั้นกว้าง 360 กว่ากิโลเมตรมันยากที่จะตามเจอได้
‘มันไม่มีประโยชน์ที่ข้าจะเสียเวลาขอให้พวกเขาไปตามฆ่ามัน เพราะมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับข้ามากมายนัก’ ลีโอกล่าวในใจ
“หลังจากนี้เจ้าควรเปลี่ยนพื้นที่ในการขุดเจาะอย่าไปที่นั่นจนกว่าเหล่าอาจารย์หมอผีจะประกาศว่าพื้นที่แถบนั้นปลอดภัยแล้ว” อาจารย์หมอผีแกสทอนกล่าวย้ำเตือน
“ข้าเข้าใจแล้วท่านอาจารย์หมอผีแกสทอน” ลีโอกล่าวจบก็ขอตัวออกมา
กลับมาที่พักลีโอจัดการชำระล้างร่างกาย ยืนเปลือยเปล่าสายน้ำจากฝักบัวไหลตกลงมาจากด้านบนล้างร่างกายจนน้ำรอบ ๆ เปลี่ยนเป็นสีโคลนและค่อย ๆ ใส่ขึ้นมา
ลีโอรู้สึกสะอาดเป็นอย่างมาก แต่ว่าตามตัวยังฟกช้ำอยู่ไม่น้อยจึงเดินไปที่อ่างฟื้นฟู สิ่งนี้เป็นของที่มีอยู่แต่ในห้องของหมอผีที่มาอยู่ที่เหมืองเท่านั้น แม้แต่ที่สถาบันก็ยังไม่มี
นั้นเป็นเพราะว่าอ่างแช่ตัวนี้สามารถช่วยรักษาและซ่อมแซมร่างกายที่บาดเจ็บหลังจากการสู้กับภูติผีปีศาจได้ ซึ่งที่นี่อาการบาดเจ็บนับเป็นเรื่องปกติมาก จึงไม่แปลกที่ทุกห้องจะมีอ่างฟื้นฟู
ลีโอนอนลงแช่ด้วยท่าทางอึดอัดเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ หลับตาอย่างผ่อนคลาย ลมหายใจเขาแผ่วเบาเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็หลับไป
ในขณะที่หลับอยู่นั้นดวงตาข้างขวาของลีโอก็เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าประหลาดใจ มันทำให้ลีโอเห็นโลกในความฝันที่แปลกประหลาด