ตอนที่ 1008 มิตรภาพ? ไปลงนรกซะ!
ตอนนี้ในใจของกุ่ยหลางรู้สึกเลื่อมใสชื่นชม
ราชินีเว่ยฟงน่าเกรงขามเหลือเกิน
แค่เพียงสาวใช้สองคนก็มีพลังเพียงพอเอาชนะนักสู้ปราณฟ้าเกินกว่าพันคน นักสู้ปราณฟ้าระดับราชาผู้เคยอยู่ในตำแหน่งสูงกลับอ่อนแอสั่นสะท้านเมื่ออยู่ต่อหน้าสาวใช้ของราชินีเว่ยฟง
ราชากิ้งก่าปีศาจผู้ขี้ขลาดก็ยังไม่มีโอกาสทราบนามของนางและถูกฆ่าโดยตรง
นี่มันแนวคิดอะไรกัน?
นี่คือแนวคิดของคนมองโลกในแง่ดี!
การตัดสินใจเข้าร่วมกับราชินีเว่ยฟงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเช่นกัน
ความรู้สึกท่าทีชื่นชมยำเกรงของนักสู้ปราณฟ้าเบื้องล่างทำให้กุ่ยหลางอดยืดเอวมิได้
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่กลุ่มทหารรอบตัวที่ตอนแรกกดดันและตื่นเต้น แม้แต่คนตาบอดก็ยังบอกได้ว่าพวกเขารู้สึกเป็นเกียรติภาคภูมิใจ
“พี่กุ่ยหลาง เลิกงานแล้วพี่ข้าอยากเชิญท่านร่วมดื่มกินกัน นึกว่าเห็นแก่หน้าข้าเถอะนะ” คนผู้หนึ่งที่ปกติมักจะเชิดหน้าใส่กุ่ยหลางตีสนิทเหมือนกับว่าคบหากันมาหลายปี ราวกับว่าทั้งสองเพิ่งจะดื่มกินกันมาเมื่อคืนนี้ หากกุ่ยหลางจำไม่ผิด เขาเคยดูถูกตัวเขาและเกือบคิดว่าเขามีมิตรภาพกับคนผู้นี้ผิดธรรมดา
“ว้าย...พี่กุ่ยหลางรูปหล่อ!” มีสาวใช้นักสู้ปราณฟ้าผู้แข็งแกร่งเหมือนวัวถึก นางเหมือนดอกไม้ที่ถูกขยำปาทิ้งเสียมากกว่า
“.......”
กุ่ยหลางจะพูดอะไรได้เมื่ออยู่ต่อหน้าคนงี่เง่าเหล่านี้?
ในช่วงบ่ายซานเย่าม่อเยี่ยนและขวงลี่ก็ตื่นตัวในที่สุดพวกเขาทุกคนวิ่งมาที่เกิดเหตุทางประตูตะวันออกเพื่อตรวจสอบความจริง
อย่างนี้ไม่ดีแน่ เพียงแค่เหลือบมองพวกเขาตกใจอย่างหนัก เป็นสาวใช้ที่ฆ่ากิ้งก่าปีศาจและขวงเลี่ยวจริงๆหรือ? โลกนี้มีสาวใช้ที่ทรงพลังแข็งแกร่งแบบนี้ได้อย่างไร? ด้วยความแข็งแกร่งขนาดนี้เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าสามารถอยู่ในภูมิภาคสวนสวรรค์กลายเป็นราชาในอาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่งได้หรือได้ทั้งในแดนสวรรค์ ไม่ต้องพูดถึงระดับราชา แม้เป็นเขตแดนกว้างใหญ่ก็ปกครองได้...
มีบางคนยกประเด็นที่น่าสงสัย
หรือว่าอาจไม่ใช่สาวใช้ของราชินีเว่ยฟง แต่เป็นตัวจักรพรรดินีเทียนฟาและราชินีเว่ยฟงเอง?
ถ้าพวกนางเป็นเช่นนั้นนี่ถือเป็นเรื่องปกติมาก น้องสาวเป็นราชินีเว่ยฟงย่อมลอบโจมตีเอาชนะขวงเลี่ยวที่ไม่ทันระมัดระวังตัวได้สำเร็จ และจักรพรรดินีเทียนฟาแข็งแกร่งยิ่งกว่าสามารถฆ่าทั้งสองได้ทันที ถ้าเป็นจักรพรรดินีเทียนฟาก็ไม่น่าประหลาดใจเพราะนางสามารถเป็นจักรพรรดิแดนดินได้!
“ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน” ความสงสัยนี้กระตุ้นให้เกิดการเห็นด้วยยอมรับจากคนจำนวนมาก
“ถ้าจักรพรรดินีเทียนฟามีพลังเพียงแค่นี้ อย่างนั้นก็แค่ฝีมือธรรมดา!” ซานเย่าแค่นเสียงฆ่านักสู้ระดับราชาได้ทันที สำหรับจักรพรรดิแดนดินนั่นเป็นเรื่องง่าย ถ้าจักรพรรดินีเทียนฟาแสดงพลังได้แค่นั้นจริงๆอย่างนั้นก็พิสูจน์ได้ว่านางไม่มีคุณสมบัติเป็นจักรพรรดิแดนดินเพราะนักสู้ระดับจักรพรรดิที่แท้จริงมีพลังทำลายล้างที่ร้ายกาจมากกว่านี้
“ฮึ่ม...ก็ลองดู” ขวงลี่ยิ่งโมโหมากขึ้น น้องชายของเขาตาย อารมณ์ของเขาย่อมไม่ดี แต่ในฐานะนักสู้คนหนึ่ง นั่นไม่เป็นไรเขาระงับความโกรธได้
“อาจมีคนอื่นจับตาดูอยู่ ระวังไว้ก็ดี” ม่อเยี่ยนระมัดระวังตัวมากกว่า
เขาคิดเช่นนั้น
แม้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะมีพลังระดับจักรพรรดิแดนดินอาจจะไม่แสดงให้เห็นอย่างสมบูรณ์ใครเล่าเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขว่านักสู้ระดับจักรพรรดิแดนดินจะออกมาสู้ได้หรือไม่?พวกเขาต้องการแค่ฆ่ากิ้งก่าปีศาจในเวลาไม่กี่วินาทีไม่ใช่หรือ นอกจากนี้จักรพรรดินีเทียนฟาต้องยืนยันว่านางต้องการชิงตำแหน่งจักรพรรดิแดนดิน ถ้าไม่มีพลังที่แข็งแกร่งเพียงพอ นางจะกล้าออกโองการจักรพรรดิเรียกรวมตัวนักรบทั่วภูมิภาคสวนสวรรค์หรือ
ไม่ว่าคำตอบจะเป็นยังไงก็สามารถรู้ได้ทันที
ขณะที่กำหนดเวลาราชินีเว่ยฟงก็ขึ้นสู่บัลลังก์
แม้ว่าการขึ้นครองบัลลังก์ของราชาก็ยิ่งได้รับการยอมรับเทิดทูนจากบริวารมากขึ้นและการประกาศปกครองอย่างเป็นทางการไม่จำเป็นต้องมีพิธีกรรมซับซ้อนอะไรมาก
ในแดนสวรรค์ตราบใดที่ท่านมีพลังอำนาจมากพอ ต่อให้มีคนปฏิเสธไม่ยอมรับพวกเขาไม่สามารถต้านทานได้ นี่คือโลกที่ความแข็งแกร่งเป็นเรื่องสำคัญ ตราบใดที่ท่านมีพลัง ท่านก็มีทุกอย่าง
สมมติว่าราชินีเว่ยฟงขึ้นครองบัลลังก์ราชาจริงคาดว่าจะสร้างศักดิ์ศรีฐานะอย่างเป็นทางการทั้งเป็นการปรามการคุกคามรอบด้านได้
จะต้องทำแบบนี้อย่างเป็นทางการ
เปลี่ยนเป็นราชาอื่นมานั่งบัลลังก์ในวังหลวงเจ้าแคว้น เจ้าเมืองผู้ติดตามก็ต้องแสดงความเคารพ
ถือว่าการเปลี่ยนอำนาจของราชาเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วถ้าเกิดสงคราม คาดว่าสามารถตั้งค่ายทหาร หรือเข้าสมรภูมิรบ ก็สามารถประกาศได้เป็นการประกาศที่มีมงกุฎ คทา ธรรมรงค์หรือเครื่องราชกกุธภัณฑ์ไม่ก็ได้ ทุกอย่างเรียบง่าย...อาจกล่าวได้ว่าราชายากจนขึ้นครองตำแหน่ง แต่ยังหิวในสนามรบและแม้แต่อาหารแห้งก็ยังหาไม่มี
ราชินีเว่ยฟงออกมาแล้ว
ในเมืองลู่หลิวมีคลื่นเสียงโห่ร้องดังขึ้น
ซานเย่าม่อเยี่ยนและขวงลี่พวกเขาเห็นว่าฉากภาพนี้ยิ่งใหญ่นี้งดงามทรงพลังยิ่งใหญ่กว่าการปรากฏตัวของจักรพรรดิเสิ่นกวงซึ่งเป็นการแสดงที่ใหญ่ที่สุดประจำปี
มังกรบินร้อยตัวระดับปราณฟ้าเป็นอสูรทองระดับสิบ ควบคุมโดยมนุษย์มังกรแดนสวรรค์ และบนหลังของมังกรบินแต่ละตัวจะลากแถบริบบินสายรุ้งยาว สายรุ้งนั้นจะโปรยปรายผงหอมแปลกประหลาดและมีสีประหลาดดูราวกับสะพานรุ้งร่วงลงมาจากอากาศ มีมังกรบินตามหลังไม่น้อยกว่า 3000 ตัว แม้ว่าจะมีพลังระดับปราณดินแต่พวกมันมีพลังระดับเตรียมปราณฟ้า เนื่องจากมีเป็นจำนวนมากจึงไม่อาจประเมินพวกมันต่ำได้
อัศวินมังกรสามพันคนที่ขับขี่มังกรตามหลังประกอบไปด้วยบุรุษสตรีมากกว่าสิบเผ่าพันธุ์
พวกเขาเป็นหนุ่มสาวเกือบทั้งหมดและมีศักยภาพยิ่งใหญ่
อัศวินผู้ขับขี่มังกรในท้องฟ้าจัดขบวนเป็นรูปราชินีเว่ยฟงและเป็นรูปตราสัญลักษณ์ของนางบินผ่านไป
ตามหลังมาเป็นมังกรบินเกินหมื่นและอสูรหลายชนิด ผู้คนที่สามารถเห็นดูลายตาไปหมดมังกรยักษ์ใหญ่คำรามราวกับฟ้าผ่าดังอยู่ในท้องฟ้าบินอยู่ในระดับสูงและโฉบลงมาทันที
ทุกที่ที่เขาผ่านไป นักขับขี่จะเปิดทางให้พวกเขาได้สัญจรสะดวก
ศักยภาพของมันไร้เทียมทาน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่อยู่บนหลังของจ้าวมังกรทองเป็นเพียงหมาป่าหลังเหล็กระดับสามมันอ้าปากหาวอย่างเกียจคร้าน จนคนตกตะลึงเมื่อเห็นมัน
เจ้าเมืองและเจ้าแคว้นระดับปราณฟ้าที่ทรงพลังหลายร้อยคนแยกออกเป็นสองฝั่งนักรบเผ่าภูตบูรพามาพร้อมกับเกี้ยวสีแดงขนาดใหญ่ที่ต้องใช้นักรบปราณฟ้าสิบหกคนช่วยแบก การตกแต่งบนเกี้ยวนั้นงดงาม นักสู้ปราณฟ้าผู้ดูอยู่ด้านนอกเมือง ไม่มีใครรู้จักต่างตกตะลึงและสงสัยหวั่นเกรงราชินีเว่ยฟงว่าจะเกี่ยวข้องกับเผ่าภูตบูรพา
“ดู!”
คนบางคนตาดีพบว่ามีสตรีหลายคนสวมหน้ากากเงินอยู่หน้าเกี้ยว
ในนั้นมีสตรีสองคนผู้ฆ่ากิ้งก่าปีศาจและขวงเลี่ยวไปก่อนหน้านั้นพวกนางบินขนานมากับเกี้ยวเห็นได้ชัดว่าพวกนางเป็นสาวใช้เพียงแต่ไม่แน่ว่าเป็นของราชินีเว่ยฟงหรือของจักรพรรดินีเทียนฟา
หมายความอย่างไร?
ถ้าพวกนางเป็นเพียงสาวใช้ ราชินีเว่ยฟงและจักรพรรดินีเทียนฟายิ่งมีพลังเหลือเชื่อมากกว่าไม่ใช่หรือ?
เกี้ยวแดงอยู่เหนือป้อมประตูเมืองทิศตะวันออกแม้ว่าราชินีเว่ยฟงยังไม่ออกมาแต่นักสู้ปราณฟ้ามากกว่าหมื่นที่มาดูการต่อสู้ประทับใจกับความน่าเกรงขามของพวกนางแล้ว!
จักรพรรดิแดนดินอื่นไม่มีพิธีกรรมดีๆเช่นนั้น นางเป็นเพียงราชินีเว่ยฟงที่มีตำแหน่งเล็กน้อย ที่ได้ขึ้นสู่บัลลังก์ราชาทำไมต้องทำให้ตกใจด้วยเล่า? สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือราชินีเว่ยฟงมีสัมพันธ์กับเผ่าภูตบูรพาด้วยหรือ? ทำไมชนเผ่าภูตบูรพาถึงร่วมฉลองด้วยเล่า?
ถ้าไม่ใช่เพราะเผ่าภูตบูรพามักจะไม่สนใจโลกภายนอกดังนั้นซานเย่าจึงสงสัยว่าราชินีเว่ยฟงเป็นเจ้าหญิงเผ่าภูตบูรพาหรือไม่
ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นจะมีผู้คนจากเผ่าภูตบูรพาออกมามากมายได้อย่างไร?
ภูมิภาคสวนสวรรค์ดินแดนที่ทรุดโทรมนี้พวกคนเผ่าภูตบูรพาหาได้ยาก มีแต่แดนสวรรค์บนเท่านั้นที่ติดตามหาคนเผ่าพันธุ์นี้
ก็ได้ไม่สำคัญว่าราชินีเว่ยฟงนี้จะเป็นใคร แต่นางมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเผ่าภูตบูรพาแน่นอน....ราชินีเว่ยฟงสนิทกับเผ่าพันธุ์ภูตบูรพา แล้วจักรพรรดินีเทียนฟาเล่า?จักรพรรดินีเทียนฟาผู้ตั้งใจจะปกครองภูมิภาคสวนสวรรค์เป็นราชินีของเผ่าภูตบูรพาหรือไม่?
ถ้าเป็นอย่างนั้นทุกคนสามารถกลับไปนอนได้เลย
“สถานการณ์แบบนี้ชักจะแย่” ซานเย่ามองดูขวงลี่สหายเขา แต่พอเหลือบมองดูผู้คน มันอันตรายมาก ทิศทางลมไม่ถูกต้อง ควรรักษาชีวิตไว้ก่อนดีหรือไม่?
“ก่อนอื่น ดูนั่น” ขวงลี่หลั่งเหงื่อเยียบเย็นนานแล้ว
ถ้าเขารู้ว่าราชินีเว่ยฟงมีพลังขนาดนั้นและมีสัมพันธ์ขนาดนั้น เขาคงไม่มาเมืองลู่หลิวให้เสี่ยงถูกฆ่าแน่
หรือแม้ว่าเขามาเขาจะไม่ออกหน้าเป็นผู้นำเลย แต่ทั้งสามพูดคำก้าวร้าวออกไปแล้วทำให้ราชินีเว่ยฟงถูกหมิ่นศักดิ์ศรีท้าทายนาง แต่ตอนนี้คนนับหมื่นกำลังมองดูอย่างตื่นเต้น
เขาควรจะทำอย่างไร?
ขวงลี่นึกเสียใจแต่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร เขารู้แต่เพียงว่าเขาไม่อาจถอยไม่อาจหนีได้ ถ้าเขาถูกราชินีเว่ยฟงฆ่าบางทีชื่อเสียงเขาในโลกนี้จะถูกทำลายไปด้วย แม้ว่าราชินีเว่ยฟงจะไม่ฆ่า หลังจากหนีกลับพวกของเขาจะไม่ไว้ใจเขา
ตอนนี้ เขาแค่หวังว่าราชินีเว่ยฟงจะพูดอะไรบางอย่างเปิดโอกาสให้เขาถอยเพื่อให้เขาได้ยอมแพ้!
“วันนี้เป็นวันที่ข้าราชาขึ้นปกครองอาณาจักรเว่ยฟงในขณะที่พี่สาวข้าประกาศไปแล้วว่านางจะปกครองภูมิภาคสวนสวรรค์”เสียงไพเราะล่องลอยดังออกมาจากเกี้ยวแดงแม้ว่าจะเหมือนกับเบาแต่ว่าดังชัดอยู่ในโสตประสาทของทุกคนไม่ว่าจะอยู่ไกลอยู่ใกล้แค่ไหนก็ตาม “เราสองพี่น้องขอใช้คำพูดเข้าใจง่ายๆถ้าไม่ใช่มิตร ก็เป็นศัตรูของเรา พวกท่านจงเลือกเอาเอง!”
“ฝ่าบาทจงเจริญ มีพระชนม์ยืนนาน!” หัวหน้าพ่อบ้านเย่และหัวหน้าจินฟันทองและสมาชิกที่ทำงานในวังหลวงพากันคุกเข่าและขานคำอวยพร
แดนสวรรค์ไม่มีพิธีการเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม หอทงเทียนมี
หัวหน้าพ่อบ้านเย่และหัวหน้าจินฟันทองรู้สึกว่าธรรมเนียมการแสดงออกเช่นนั้นเป็นการสนับสนุนและแสดงความเคารพสำหรับราชาใหม่ของพวกเขาได้ดีขึ้น พวกเขายินดีใช้ธรรมเนียมมารยาทนี้และเตรียมพร้อมดำเนินการอย่างลับๆต่อมาเมื่อจักรพรรดินีเทียนฟาขึ้นครองบัลลังก์ ธรรมเนียมพิธีที่ใช้มีแต่จะยิ่งใหญ่ขึ้น
ทั้งในเมืองและนอกเมืองเสียงตะโกนโห่ร้องขานแสดงความเคารพดังสนั่นราวกับแผ่นดินถล่มทลาย
ซานเย่าและพวกหน้าซีด
มีผู้คนให้การสนับสนุนราชินีเว่ยฟงมากมาย ถ้าเขาลุกขึ้นท้าทายก็ไม่ต่างอะไรกับตั๊กแตนที่พยายามหยุดล้อรถ ไม่ต่างอะไรกับการหาที่ตายไม่ใช่หรือ?
แต่ถ้าเขาไม่ลุกขึ้นท้าทายนับแต่วันนี้พวกเขาทั้งสามจะกลายเป็นตัวตลกให้ผู้คนหัวเราะเยาะทั่วภูมิภาคสวนสวรรค์....นอกจากนี้ต่อให้เขาไม่ออกไปท้าทาย ราชินีเว่ยฟงจะยอมปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ หรือ?
ไม่มีทาง
นางเตรียมจะฆ่าคนโชคร้ายทั้งสามเพื่อส่งเสริมบารมีนางให้ดูน่ากลัว!
เมื่อคิดว่าตนเองเป็นผู้โชคร้ายที่กำลังจะถูกฆ่า หัวใจของซานเย่ารู้สึกขื่นขม! เห็นได้ชัดว่าราชินีแห่งอาณาจักรจื่อฟงขึ้นครองบัลลังก์เหมือนกับเป็นจักรพรรดิแดนดิน ราชินีจื่อฟงนี้ทรงอำนาจมาก นางเข้ามาครอบครองณาจักรจื่อฟงที่เล็กอย่างนี้ทำไม?นางไม่มีอะไรจะทำแล้วหรือ? นางควรจะปกครองภูมิภาคสวนสวรรค์เหมือนอย่างพี่สาวนาง ทำให้พวกเขาเข้าใจนางผิดว่าพลังไม่เพียงพอและจัดการปัญหาอย่างเลินเล่อ!
“ซานเย่า ม่อเยี่ยนและขวงลี่ เรื่องการท้าทายก้าวร้าวของพวกเจ้าถ้าเราผู้เป็นราชาไม่รับเอาไว้ คนอื่นจะหัวเราะเยาะได้ว่าเราขลาดเขลา แต่เจ้าต้องลงมือด้วยตนเอง บางทีเจ้าอาจรู้สึกว่าพลาดคิดว่าข้าผู้เป็นราชาข่มเหงรังแกเจ้า ชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่ทางการทหารแต่เป็นการสู้ส่วนตัว นี่คือสาวใช้และองครักษ์ส่วนตัวที่พิทักษ์บัลลังก์ของข้าพวกเจ้าเลือกสู้ได้หนึ่งคน ถ้าพวกเจ้าต้านรับได้สามท่าโดยไม่พ่ายแพ้ ข้าจะอภัยให้กับอาการสามหาวล่วงเกินของพวกเจ้า” เสียงไพเราะดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่มีใครสงสัยในคำพูดของราชินีเว่ยฟง
“สาวใช้หรือองครักษ์ส่วนตัวก็ได้หรือ?” ขวงลี่มองดูซานเย่า
“ลองดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน...” ซานเย่าคิดว่าจะตอแยนางไม่ใช่เรื่องง่ายในเมื่อฝ่ายตรงข้ามกล้าพูดว่ารับมือได้สามกระบวนท่าจะยกโทษให้ อย่างนั้นเห็นได้ชัดว่าคนที่อ่อนแอก็สามารถเอาชนะได้หรือจะรอให้ม่อเยี่ยนขึ้นไปตาย
เมื่อม่อเยี่ยนพยายามหารายละเอียดดูแล้วเป็นไปไม่ได้จริงๆ เพื่อช่วยชีวิตเจ้าหลานเต่า เขาต้องลองดูสักตั้ง
เขาเต็มใจจะคุกเข่าขอความเมตตาและกล่าวขออภัย
ราชินีเว่ยฟงมีสถานะที่โดดเด่นมีเกียรติไม่มีเหตุผลที่จะฆ่าทุกคน ดังนั้นรอดูสถานการณ์ไปก่อน.... ในเวลานี้พวกที่ยืนอยู่ใกล้เกี้ยวแดนอกจากสาวใช้ที่สวมหน้ากากหลายคนแล้ว บุรุษที่ดูเหมือนมีรัศมีสามคนคนหนึ่งดูหยิ่งผยองมีประกายไฟฟ้าอยู่รอบตัวลักษณะท่าทางราวกับจะกลืนฟ้าได้ทั้งหมด ถ้าสู้กับคนผู้นี้ซานเย่าคิดว่าฝ่ายตรงข้ามคงใช้พลังไฟฟ้าหรือสายฟ้าตัดร่างเขาเป็นชิ้นๆ แน่นอนบุรุษคนกลางร่างสูงใหญ่ทรงพลังมั่นคงราวกับภูผา ถ้าเลือกคนผู้นี้มาสู้ด้วย คาดว่าฝ่ายตรงข้ามคงเหยียบย่ำเขาจมพื้นธรณีเป็นแน่และเขาคงไม่อาจฟื้นฟูจากความล้มเหลวได้ตลอดชีวิต คนที่สามมองดูเลือนรางเหมือนเงาภูตพรายเก็บงำพลังได้ดีพลังสูงส่งเทียบได้กับนักสู้ผู้มีสำนึกเทพสู้กับคนผู้นี้ตายแน่นอน ทั้งยังต้องตายอย่างน่าอนาถ
ตามข้อมูลข่าวกรองที่พวกเขาได้รับ ทั้งสามคนน่าจะเป็นมารสัมฤทธิ์ฟ้าจักรพรรดิมังกรและ จักรพรรดิใต้พิภพเผ่าโยวหมิง
สถานะที่เป็นรูปธรรมยังไม่ชัดเจนคาดว่าเป็นผู้ปกป้องสองพี่น้องจักรพรรดินีเทียนฟาและราชินีเว่ยฟง
สามคนนี้ไม่เหมาะที่พวกเขาจะท้าสู้
ข้างหน้าเกี้ยวแดงยังมีบุรุษหนุ่มหน้าตาดีอีกคนหนึ่ง
แม้ว่าจะสวมหน้ากากเงินปิดหน้าไว้ครึ่งหนึ่งแต่ก็จดจำได้ง่ายว่าเด็กหนุ่มหน้าตาดีนี้มีพลังและอาวุธอานุภาพไม่สูงน่าจะเป็นนักสู้ปราณฟ้า ตามข่าวกรองรายงานว่าเจ้าผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าองครักษ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดโปรดปรานที่สุดของราชินีเว่ยฟง? ถ้าประลองกับเจ้าหนุ่มหน้ามนผู้นี้จะต้องปลอดภัยที่สุดอย่างมิต้องสงสัย
สมองของซานเย่าฉลาดที่สุดและมีปฏิกิริยารวดเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามสู้กับเจ้าเด็กหัวหน้าองครักษ์สามกระบวนท่าโดยไม่พ่ายแพ้ก็สามารถออกไปได้ แน่นอนว่าการฆ่าเขาไม่ใช่เรื่องดี ราชินีเว่ยฟงต้องกริ้วแน่ แต่ไม่ใช่เรื่องยากกับการรับมือเขาสามกระบวนท่า พลังนักสู้ระดับปราณฟ้าแค่นี้เขาสามารถสู้ได้โดยไม่ต้องป้องกันพลังเจ้าผู้นี้ “ข้าเลือกสู้กับสาวใช้ผู้นี้!” ม่อเยี่ยนยืนขึ้นคนแรก เขาแสดงมารยาทเล็กน้อยกับเด็กสาวที่ฆ่าขวงเลี่ยว
“เจ้าเล่ห์เหลือเกินนะที่รู้ว่าข้าอ่อนด้อยที่สุดในหมู่พี่น้อง” เด็กสาวบินออกมาด้วยความกล้าหาญและลงยืนบนเวทีอย่างนุ่มนวล.
กุ่ยหลางรีบเข้ามาคุยกับหัวหน้าจินฟันทอง หัวหน้าจินฟันทองกระซิบบอก “องค์หญิงน้อยเว่ยหลายความจริงนางคืออสูรพิทักษ์ของคุณชาย คนที่อยู่กับนางเมื่อตอนบ่ายน่ะหรือ?นั่นคือท่านหญิงหง องค์ราชินีก็ยังมีมารยาทต่อนางต่อไปห้ามสอบถามเรื่องของคุณชายอีก องค์หญิงเว่ยหลายน่ารักมากสำหรับเราองค์ราชินีไม่ได้ให้กำเนิดองค์หญิงน้อย เจ้าต้องปฏิบัติต่อนางเหมือนกับเป็นองค์หญิงน้อย นางเป็นองค์หญิงที่น่ารักและใจดี ครั้งก่อนนางยังช่วยรักษาอสูรที่กำลังจะตายได้เลย... เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้วจำไว้ต่อไปต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ!”
กุ่ยหลางรีบพยักหน้าและเขารู้ว่าเขาเป็นคนใหม่ยังไม่มีคุณสมบัติตรวจสอบผู้มาใหม่ชั่วคราว
หัวหน้าจินฟันทองไม่บอกอะไรเขา
นี่ต้องเป็นบริวารที่มีความสำคัญถึงจะมีคุณสมบัติรู้ความลับนี้
ขณะอยู่บนเวทีภูตน้อยตั๊กแตนมัจจุราชและม่อเยี่ยนกำลังเตรียมตัวสู้กันทันใดนั้นซานเย่าลุกขึ้นตะโกน “รอก่อน สู้กันรอบต่อไปข้าหวังว่าจะได้ประลองกับหัวหน้าองครักษ์”
เขาเห็นขวงลี่เตรียมจะพูดจึงรีบชิงออกมาข้างหน้าก่อนโดยไม่รู้สึกเขินอาย ยังไงก็ตามชีวิตย่อมสำคัญที่สุด
ถ้าเขาปล่อยให้ขวงลี่เลือกเจ้าหนุ่มหน้าขาวหัวหน้าองครักษ์เขามิต้องร้องไห้หรอกหรือ?
นี่เป็นเพียงโอกาสเดียว
ซานเย่าตัดสินใจปลดเปลื้องตัวเอง มิตรภาพบ้าบออะไรกัน ช่างแม่งประไร