บทที่ 46 : การเติบโตอย่างรวดเร็ว
บทที่ 46 : การเติบโตอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ชูโจวและคนอื่นๆพุ่งทะยานออกมา พวกเขาก็ถูกพบเห็นโดยหมูป่าหนามเหล็กเกือบจะทันที
"กรรรรรร..."
หมูป่าหนามเหล็กทั้งสี่ตัวเงยหน้าขึ้นมองไปที่พวกชูโจวที่วิ่งเข้ามา จากนั้นดวงตาของพวกมันแดงก่ำและคำรามลั่น
หมูป่าหนามเหล็กทั้งสี่ตัวเคลื่อนที่อย่างฉับพลันจนดูราวกับรถถังความเร็วสูงสี่คันที่มีเหล็กแหลมทิ่มแทงออกมาจากร่างของพวกมัน...เเละในพริบตาหมูป่าตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาถึงร่างของชูโจว
"มอนสเตอร์พวกนี้เร็วมาก" ชูโจวพึ่งตระหนักได้ว่าหมูป่าหนามเหล็กระดับนักรบมอนสเตอร์นั้นแข็งแกร่งกว่าหมูป่าหนามเหล็กระดับสัตว์ร้ายที่เขาเคยฆ่าในการทดสอบชั้นยอดมากเเละเมื่อมองไปที่หนามเหล็กที่หนาทึบเขาก็ไม่กล้าเสี่ยงรับการโจมตีนี้ เขาจึงใช้ทักษะย่างก้าวลวงตาทันที….ทันใดนั้นทักษะก็เเสดงผล ชูโจวก้าวออกไปหนึ่งก้าวจากนั้นดึงร่างลวงตาออกมาสองร่าง
หมูป่าหนามเหล็กคำรามอย่างดุร้ายเเละชนเข้ากับร่างหนึ่ง แต่หลังจากนั้นมันก็พบว่าร่างที่มันโจมตีเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้นเเต่ด้วยร่างที่ใหญ่โตของมันทำให้มันไม่สามารถหยุดการโจมตีได้ทันและกระแทกเข้ากับซากรถเก่าที่อยู่ใกล้ๆ
“ตายซะ” ร่างจริงของชูโจวไล่ตามมาจากอีกด้านเเละเขาถือดาบฟันมังกรไว้ในมือจากนั้นฟันเข้าที่คอของหมูป่าหนามเหล็กราวกับสายฟ้าฟาด
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะฟันคอหมูป่าด้วยดาบเล่มนี้ จู่ๆก็มีเงาสีดำพุ่งเข้าใส่ดาบฟันมังกรของเขา
เคร้งงงง!.... มีแรงกระแทกอย่างรุนแรงจากดาบฟันมังกรและร่างของชูโจวก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันที เเละเมื่อเขามองดูดีๆ เขาก็พบว่าเงาดำนั้นคือหางของหมูป่านั่นเอง
"นี่คือความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ระดับนักรบมอนสเตอร์ซินะ น่าสนใจ…..มันแข็งแกร่งมากกว่ามอนสเตอร์ในการทดสอบชั้นยอดถึงสิบเท่า"
ชูโจวมองดูหมูป่าที่กำลังคำรามต่อหน้าเขาด้วยความสนใจ และหลังจากการเผชิญหน้ากันก่อนหน้านี้ เขาสามารถประเมินความแข็งแกร่งของหมูป่าหนามเหล็กตัวนี้อย่างคร่าว ๆ….. หมูป่าหนามเหล็กตัวนี้ควรเป็นนักรบมอนสเตอร์ระดับต่ำ
นักรบมอนสเตอร์ระดับต่ำเทียบได้กับนักรบมนุษย์ผู้ปลุกพลังระดับต่ำ เเต่ในแง่ของร่างกายมอนสเตอร์จะมีความได้เปรียบมากกว่า ดังนั้นนักรบมนุษย์ส่วนใหญ่จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมอนสเตอร์ในระดับเดียวกัน
แต่……มนุษย์มีความฉลาดเเละได้สร้างสรรค์เทคนิคการต่อสู้ต่างๆ มากมายอีกทั้งยังเก่งในการใช้อาวุธและอุปกรณ์อื่นๆ….. ดังนั้นตราบใดที่คุณใช้ข้อได้เปรียบของตัวเองในการต่อสู้กับมอนสเตอร์….. การฆ่ามอนสเตอร์ในระดับเดียวกันจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
……..
หลังจากที่ชูโจวคาดเดาความแข็งแกร่งของหมูป่าหนามเหล็กได้ เขาก็เชื่อมั่นทันทีว่าเขาสามารถกำจัดหมูป่าหนามเหล็กที่อยู่ตรงหน้าเขาได้อย่างรวดเร็วด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
แต่ในเวลานี้เขาไม่ได้รีบร้อนมากนัก เเละเเผนของเขาตอนนี้คือการใช้หมูป่าหนามเหล็กตัวนี้เพื่อฝึกวิชาดาบมิเอะชิที่เขายังไม่ได้เข้าสู่ขั้นพื้นฐานเลย
"กรรรรร..." หมูป่าหนามเหล็กที่มีดวงตาสีแดงเลือดได้พุ่งเข้าหาชูโจวอีกครั้ง เเละทางด้านชูโจวก็ใช้ทักษะย่างก้าวลวงตาเพื่อหลบหลีก จากนั้นวาดดาบฟันมังกรในมือของเขาตามวิถีของวิชาดาบ "มิเอะชิ" อย่างไรก็ตามดาบของเขาครั้งนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นเดิม
แต่ชูโจวไม่ได้สนใจเเลัใช้ทักษะย่างก้าวลวงตาของเขาหลบการโจมตีของหมูป่าหนามเหล็กอีกครั้งหลังจากนั้นก็ใช้วิชาดาบ"มิเอชิ" ฟันไปที่หมูป่าหนามเหล็กอีกครั้งเเละกระบวนการนี้เกิดขึ้นซ้ำเเล้วซ้ำเล่า, เเต่หลินเป่ยไม่ได้ทำไปโดยเปล่าประโยชน์….ระหว่างการต่อสู้เขาก็ค่อยๆไตร่ตรองถึงความหมายที่ลึกซึ้งของวิชาดาบ "มิเอะชิ"ไปด้วย
เกือบจะเหมือนกับชูโจว….หลิงซาน, ซีเหมิง และหลี่ชิงฉี ต่างก็เลือกใช้หมูป่าหนามเหล็กเป็นเป้าหมายในการปรับปรุงทักษะของเเต่ละคน…. แน่นอนว่าพวกเขาทั้งสามอยู่ในระดับเดียวกับหมูป่าหนามเหล็ก ดังนั้นพวกเขาจึงค่อนข้างลำบากกว่าชูโจวมาก(ทั้งสามคนอยู่ระดับต้นอยู่)
ในขณะที่กำลังฝึกผนตัวเองด้วยความช่วยเหลือของหมูป่าหนามเหล็ก หลิงซานก็ระเบิดการโจมตีครั้งใหญ่ของเขาเป็นครั้งคราวเเละแสดง "ทักษะดาบพายุ" โปรยฝนดาบไปทั่วท้องฟ้าใส่หมูป่าหนามเหล็กอย่างเต็มกำลัง
อีกด้านรูปเเบบการต่อสู้ของซีเหมิงนั้นดุดันกว่ามาาก, หลังจากที่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักรบผู้ปลุกพลัง ร่างกายของเขาก็เหมือนกับมอนสเตอร์ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์เข้าไปทุกทีและเขาก็ชอบวิธีการต่อสู้แบบตัวต่อตัว…. เช่นเดียวกับตอนนี้ เขาถือโล่หกเหลี่ยมไว้ในมือข้างซ้ายเพื่อคอยป้องกันและใช้กำปั้นที่สวมด้วยถุงมือโลหะในการโจมตี….. ด้วยวิธีนี้ทำให้การต่อสู้ของซีเหมิงกับหมูป่าหนามเหล็กนั้นรุนแรงราวกับว่าสัตว์ประหลาดสองตัวกำลังเผชิญหน้ากันด้วยวิธีที่ดั้งเดิมที่สุด
….
สุดท้ายรูปแบบการต่อสู้ของหลี่ชิงฉีนั้นเปลี่ยนไปมากที่สุด, คราวนี้เธอไม่เพียงแค่ใช้กริชเท่านั้นแต่เธอยังใช้ปืนด้วย….. ร่างของเธอเคลื่อนที่ไปรอบๆหมูป่าหนามเหล็กด้วยความเร็วสูงมากและกริชสองเล่มมักจะปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันเหมือนสายฟ้าสองเส้น แทงเข้าที่ตา รูหู คอ และจุดสำคัญอื่นๆ ของหมูป่า….. และเมื่อหมูป่าหนามเหล็กโจมตีใส่เธอเพื่อตอบโต้, กริชสองเล่มในมือของเธอก็จะถูกแทนที่ด้วยปืนสองกระบอกทันที, ปืนพกหนึ่งอันที่ใช้กระสุนปกติอเละอีกอันคือปืนพกพลาสมาที่ใช้กระสุนพลังงาน จากนั้นกระสุนโลหะและกระสุนพลังงานจำนวนหนึ่งถูกยิงใส่หมูป่าหนามเหล็กทันที……แม้ว่ากระสุนเหล่านี้หลี่ชิงฉีพยายามจะเลี่ยงจุดสำคัญทั้งหมด แต่พวกมันก็ยังยิงหมูป่าหนามเหล็กจนกระอักเลือดและคำรามด้วยความเจ็บปวด
"พลังของอาวุธปืนนั้นรุนแรงอย่างมากต่อนักรบระดับต่ำ" ชูโจวชำเลืองมองดูสถานการณ์ของหลี่ชิงฉีและอดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจ…… อาวุธปืนยังคงเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อมนุษย์ระดับผู้ปลุกพลังหรือมอนสเตอร์ระดับนักรบเพราะหากคุณถูกลูกกระสุน…. คุณจะตายโดยทันที
อย่างไรก็ตาม ยิ่งระดับของสิ่งมีชีวิตสูงขึ้นมากเท่าไร, อาวุธประเภทปืนก็จะยิ่งส่งผลน้อยลงเท่านั้น อย่างเช่นมอนสเตอร์ระดับพิเศษ อาวุธปืนธรรมดาไม่ว่าจะเป็นอาวุธพลังงานจลน์หรืออาวุธพลังงานพลาสมาก็ยากที่จะยิงผ่านผิวหนังของมันได้เเละสิ่งนี้ทำให้ประสิทธิภาพของอาวุธปืนจะลดลงอย่างมาก, จักรพรรดิมอนสเตอร์ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของมอนสเตอร์นั้นน่ากลัวยิ่งกว่า แม้แต่ขีปนาวุธก็แทบจะไม่สามารถทำร้ายร่างกายของพวกมันได้
ดังนั้นชูโจวจะไม่อิจฉารูปแบบการต่อสู้ของหลี่ชิงฉี….. เขาเชื่อว่านักรบจะไปถึงจุดสูงสุดได้ต้องพึ่งพลังของตัวเองเพราะหลังจากที่นักรบไปถึงระดับสูงสุดแล้วพวกเขาจะน่ากลัวกว่าอาวุธพลังงานจลน์หรืออาวุธพลังงานที่ทรงพลังเหล่านั้นทั้งหมด
……
"คงต้องพอเเล้ว" หลังจากต่อสู้กับหมูป่าหนามเหล็กมาสักพัก ชูโจวเริ่มรู้สึกว่าหมูป่าหนามเหล็กที่เค้าใช้ฝึกฝนเริ่มที่จะอ่อนเเอลงเรื่อยๆเเละเเทบจะไม่เป็นภัยคุกคามของเขาได้อีกต่อไป….. เมื่อสังเกตเห็นเเบบนี้ดาบฟัรมังกรในมือของเขาก็ถูกปกคลุมด้วยชั้นของพลังงานสีเทาในทันใด และร่องรอยของออร่าที่แหลมคมและหาที่เปรียบมิได้ก็ปรากฏออกมา
ฉึบ!
แสงวาบของมีดสีเทาราวกับสายฟ้าแลบออกมา…. จากนั้นหัวของหมูป่าหนามเหล็กก็บินออกจากร่างกายของมันโดยตรงเเละร่างที่มีน้ำหนักหนึ่งตันก็ตกลงบนพื้นอย่างแรง
………..
3 นาทีต่อมาหลิงซานเเละคนอื่นๆก็สังหารหมูป่าหนามเหล็กเเล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามองมาที่ด้านของชูโจว พวกเขาตกตะลึงทันที
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ชูโจวทำการหยิบเตาย่างบาร์บีคิว, หยิบแท่งทำความร้อนอุณหภูมิสูงพิเศษออกมาเเละแม้กระทั่งกำลังนั่งย่างหมูป่าหนามเหล็กอยู่
ยิ่งไปกว่านั้น เขากำลังดูวิดีโอที่ชื่อว่า "108 วิธีในการทำอาหารจากเนื้อมอนสเตอร์" เเละจากวิดีโอ, ชูโจวทำการโรยเกลือ, ผงยี่หร่า, โป๊ยกั๊ก และเครื่องปรุงรสอื่นๆ บนเตาย่างบาร์บีคิวอย่างชำนาญ……กลิ่นหอมฟุ้งกระจายเข้าจมูกทั้งสามของพวกหลิงซาน ทำให้พวกเขาซึ่งเพิ่งใช้พลังงานร่างกายไปมากต่างเต็มไปด้วยความอยากอาหารทันที….พวกหลิงซานทั้งสามคนตกอยู่ในภวังค์อยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกว่าชูโจวในตอนนี้….ราวกับไม่ได้มาเพื่อล่ามอนสเตอร์ แต่มาเพื่อท่องเที่ยวและปิกนิกเเทน
"พวกนายรออะไรอยู่ ทำไมไม่รีบมากิน?..... ไม่รู้หรือไงว่ากลิ่นของบาร์บีคิวอาจดึงดูดมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้เคียง…. เราต้องรีบกินแล้วรีบออกไปนะ..." ชูโจวตะโกนขณะที่หยิบเนื้อบาร์บีคิวและกินมันเต็มปากเต็มคำ
นายก็รู้นี่ ว่าการทำบาร์บีคิวในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าอาจดึงดูดมอนสเตอร์เข้ามาเเต่ก็ยังทำมันอีก….. หลิงซานทั้งสามมองชูโจวด้วยสายตาว่างเปล่า เเต่หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินไปนั่งข้างๆชูโจวอย่างรวดเร็วเเละหยิบบาร์บีคิวขึ้นมาทานโดยตรง
"อร่อยมาก…. กัปตันชูรู้วิธีการใช้ชีวิตจริงๆ" ซีเหมิงกัดเนื้อชิ้นใหญ่แล้วหัวเราะออกมา
"ดูเหมือนว่าภารกิจของเราในการฆ่ามอนสเตอร์ในถิ่นทุรกันดารจะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเเท่งอาหารพลังงานสูงเพื่อตอบสนองความหิวของเราอีกเเล้ว" หลี่ชิงฉียิ้มแย้ม
เเท่งอาหารพลังงานสูงเป็นอาหารปกติสำหรับนักรบที่ต้องการไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อฆ่ามอนสเตอร์ แต่รสชาติของมันนั้น...ยากที่จะอธิบาย,
…..
"ฮ่าฮ่าฮ่า พื้นที่รกร้างเป็นขุมสมบัติจากส่วนผสมของธรรมชาติ มันน่าเสียดายที่เราจะไม่เพลิดเพลินไปกับมัน" ชูโจวหัวเราะเสียงดังและเริ่มกินเหมือนพายุ….. สำหรับเขาไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการกิน เพราะการกินสามารถเพิ่มคะแนนคุณสมบัติได้ดังนั้นการกินจึงสามารถทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น, โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมูป่าหนามเหล็กเหล่านี้ โดยพื้นฐานแล้วสิ่งที่มีค่าที่สุดมีเพียงงาสองอันเท่านั้น…..ส่วนที่เหลือจะสูญเปล่า,การกินบางส่วนตอนนี้ถือได้ว่าเป็นการชดเชยการสูญเสีย…..หลังจากกินอย่างรวดเร็ว พวกเขาก็ตัดงาของหมูป่าหนามเหล็กออกมาเเละเดินทางต่อไป
เเละในการเดินทาง พวกเขายังคงพบกับมอนสเตอร์มากมาย บางชนิดอยู่เป็นกลุ่ม แต่บางชนิดอยู่ตัวเดียว…ด้วยวิธีนี้ถ้าพวกเขาเจอฝูงมอนสเตอร์พวกเขาก็จะหาทางเลี่ยง, เเต่ถ้าหากเจอมอนสเตอร์ที่เเยกกันอยู่และเป็นมันสเตอร์ระดับนักรบ, พวกมันจะถูกใช้เป็นที่ฝึกฝนของหน่วยใบมีด
นอกจากนี้ชูโจวซึ่งเป็น "นักปรุง" ก็ไม่เคยหยุดทำงานและคอยใช้เนื้อมอนสเตอร์ปรุงอาหารรสเลิศต่างๆ อยู่เสมอทำให้หน่วยใบมีดเพลิดเพลินกับอาหารของพวกเขาได้ในทุกๆวัน…… และเมื่อต้องรับมือกับมอนสเตอร์ในทุกๆวัน, ความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งสี่ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของเขาเริ่มรุนแรงและรัดกุมมากขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดมอนสเตอร์ในระดับเดียวกันกับพวกเขาก็จบชีวิตลงได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
…….
ในวันนี้ หลังจากชูโจวรับประทานอาหารเสร็จ…..เขาได้เดินออกมาพร้อมถือเเผ่นโลหะผสมไททาเนียมชิ้นเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือและเริ่มฝึกฝน "ร่างไทเทเนียมทองคำ" อย่างเงียบๆเเละทันใดนั้นเซลล์ในร่างกายของเขาถูกกระตุ้นอย่างรุนแรงจากนั้นใบหน้าของชูโจวก็ปรากฏร่องรอยของความสุขขึ้นมาทันที
"ในที่สุด, อนุภาคโลหะก็หลอมรวมกับเซลล์เนื้อเยื่อของฉันได้สำเร็จและทักษะร่างไทเทเนียมทองคำก็ได้พัฒนาเข้าขั้นพื้นฐานเเล้ว…….อีกทั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฉันได้กินเนื้อมอนสเตอร์ไปมากมาย, ดังนั้นคะแนนคุณสมบัติที่สะสมไว้จึงมากพอที่จะอัพเกรดทักษะร่างไทเทเนียมทองคำเป็นขั้นแรกเเล้ว" จากนั้นชูโจวมองไปที่แผงคุณสมบัติทันที
…
คะแนนคุณสมบัติ: 62.15
- ร่างไทเทเนียมทองคำ (ระดับ C): ระดับพื้นฐาน (สามารถอัพเกรดได้)
…
“อัพเกรดทักษะร่างไทเทเนียมทองคำ”ทันทีที่เขาคิดเเบบนั้น เเผงคุณสมบัติก็ทำการเริ่มอัพเกรดทักษะร่างไทเทเนียมทองคำทันที
……………………….