ตอนที่แล้วบทที่ 279 แนวคิดเรื่องเวลาของหลี่หราน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 281 มีเพียงเด็กที่ต้องลือก หลี่หรานต้องการพวกมันทั้งหมด!

(ฟรี) บทที่ 280 ภารกิจใหม่ของระบบ!


แท่นแสวงดาราเงียบสนิท

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ชายผู้นั้น

รูปร่างสูงตรง ใบหน้าหล่อเหลา การแสดงออกดูเกียจคร้านและไร้กฎเกณฑ์ ดวงตาของเขากระเพื่อมไหวเล็กน้อยราวกับซ่อนดวงดาราที่ลึกล้ำไว้

หลี่หรานมาถึงแล้ว

เขามีชื่อเรียกมากเกินไป: ปีศาจบุตรศักดิ์สิทธิ์ อันดับหนึ่งในการจัดอันดับปีศาจสวรรค์ ปีศาจสวรรค์ปราบโลกา อัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งดินแดนอันกว้างใหญ่...

ทุกสิ่งที่เขาทำล้วนน่าตกตะลึง

ทุบตีเหล่าศิษย์วิถีธรรม บดขยี้หลินหลางเยว่ ขัดขวางคลื่นสัตว์อสูร และบุกทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเทวะแปรผันตอนอายุยี่สิบปี...

ชายคนนี้เป็นเหมือนเมฆดำที่กดทับเหนือศีรษะของอัจฉริยะทั้งหมด

เมื่อเผชิญกับอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้นี้ พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะเปรียบเทียบหรืออิจฉา มันมีแต่ความเคารพยำเกรง

และเนื่องจากไม่มีใครสามารถแข่งขันกับหลี่หรานได้ มันเลยไม่มีอะไรน่าละอายเกี่ยวกับเรื่องนี้

สามัญชนก็ค่อนข้างกระสับกระส่าย

หลี่หรานมีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวงไม่ได้ด้อยไปกว่าราชวงศ์เซิง

“นี่คือปีศาจบุตรศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน?”

“เจ้าเรียกคนแบบนี้ว่าปีศาจงั้นเหรอ?!”

“เขาหล่อมาก เขาหล่อกว่าในรูปเยอะเลย!”

“ใช่ ข้าไม่สามารถบอกได้เลยว่าเขาเป็นคนจากวิถีมาร”

“เพื่อประโยชน์ของบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่ ข้าต้องเข้าร่วมวิหารโหยวหลัว!”

“เป็นความคิดที่ดี แต่ถ้าเจ้าต้องการเข้าร่วมนิกายระดับสูง อย่างน้อยที่สุดเจ้าต้องเริ่มต้นด้วยพรสวรรค์ระดับสูงเข้าใจไหม?”

ศิษย์ของตระกูลต่างๆที่ด้านล่างกำลังคุยกันอย่างเงียบๆ

ภายใต้การจ้องมองของทุกคน ร่างของหลี่หรานค่อยๆลอยขึ้นไปในอากาศ เสื้อผ้าสีขาวปลิวไสวไปตามสายลมขณะที่เขาร่อนลงบนแท่นสูงอย่างสง่างาม

“ว่าไง ทุกคนมากันเร็วจริงๆ” หลี่หรานยิ้ม “โทษที ข้ากินมากเกินไปในตอนเช้า ข้าจึงเดินเร็วมากไม่ได้”

ฉินหรูเหยียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ข้าไม่ได้คาดหวังว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่จะดูแลสุขภาพดีขนาดนี้”

“หากสตรีศักดิ์สิทธิ์ฉินสนใจในรายละเอียด เราสามารถพูดคุยกันได้” หลี่หรานกระพริบตาให้นาง

ใบหน้าของฉินหรูเหยียนเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยขณะพูดด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ “ข้ารับใช้คนนี้พร้อมไปกับเจ้าเสมอ มันขึ้นอยู่กับว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่มีเวลา...”

“ฉินหรูเหยียน!” เยว่เจียนหลี่พูดอย่างเย็นชา “โปรดยับยั้งตัวเองด้วย ที่นี่คืองานชุมนุมสวรรค์อมตะ ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าสร้างปัญหาได้”

นางเคยฟังคำพูดของแม่มดคนนี้มาบ่อยครั้ง แต่ตอนนี้นางรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังยั่วยวนหลี่หรานจริงๆ

ฉินหรูเหยียนดูเหมือนจะไม่สนใจในขณะที่นางหัวเราะเบาๆ “หัวหน้าศิษย์เยว่ วิถีธรรมเกี่ยวข้องยังไงกับการที่ข้าพูดคุยกับบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่หรือ?”

เยว่เจียนหลี่ขุ่นเคืองมากแต่ทำอะไรไม่ได้

นางไม่สามารถประกาศความสัมพันธ์กับหลี่หรานต่อคนทั้งโลกได้ใช่ไหม?

ฉินหรูเหยียนมั่นใจอย่างชัดเจนในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงกล้ายั่วยวนเขา

ใบหน้าของหลินหลางเยว่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง “สตรีศักดิ์สิทธิ์ฉิน งานชุมนุมกำลังจะเริ่มขึ้น เจ้าควรหักห้ามใจตัวเอง”

ฉินหรูเหยียนมุ่ยหน้าและพูดอย่างน่าสงสาร “บุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่ดูพวกนางสิ พวกนางกลั่นแกล้งข้า...”

สตรีอีกสองคนก็จ้องมองมาที่หลี่หราน

“……” หลี่หรานเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก ‘จิตสังหารอย่างกะทันหันนี่มันอะไรกัน?’

เขากระแอมและพูดขึ้น “เอาล่ะๆ ทุกคนนั่งลงและให้ความสำคัญกับงานดีกว่า”

พูดจบเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้

ได้ยินเช่นนี้ทั้งสามก็พูดอะไรไม่ได้ พวกนางพ่นลมหายใจและนั่งลง

เมื่อหลี่หรานนั่งลง ผู้ฝึกตนและคนที่เหลือก็นั่งลง สถานะและอิทธิพลของเขาเป็นที่ประจักษ์ในเวลานี้

องครักษ์ของราชวงศ์ถามว่า “ฝ่าบาท เราจะเริ่มกันเลยหรือไม่?”

เซิงจื่อเซี่ยพยักหน้า “ได้”

ขณะพูด ดวงตาที่สดใสของนางก็จ้องมองหลี่หรานโดยไม่กะพริบ

ครั้งล่าสุดนางหุนหันพลันแล่นและริเริ่มที่จะจูบเขา มันทำให้หัวใจของเจ้าหญิงอย่างนางหวั่นไหวไม่รู้จบ

ริ้วสีแดงพาดผ่านใบหน้าของนาง นางกัดริมฝีปากของเบาๆด้วยดวงตาเป็นประกาย

หลังจากเสียงระฆังอันไพเราะ งานชุมนุมสวรรค์อมตะก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

ศิษย์ของตระกูลที่ลงชื่อไว้ล่วงหน้าจะขึ้นมาทดสอบตามลำดับ ส่วนนิกายจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะรับพวกเขาหรือไม่ตามพรสวรรค์ที่พวกเขามี

ถ้ามีสองนิกายขึ้นไปต้องการพวกเขา การตัดสินใจก็จะตกเป็นของคนๆนั้น

จากนั้นทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาว่าจะเลือกเข้าร่วมกับนิกายใด

“ศิษย์ของตระกูลเฟิงขึ้นไปบนเวทีเพื่อทดสอบพรสวรรค์ของพวกเจ้า!”

สมาชิกในตระกูลทั้งประหม่าและกังวล นี่เป็นช่วงเวลาที่สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตพวกเขาได้

ตัวแทนของนิกายต่างๆก็ให้ความสนใจเช่นกัน

ความสนใจของหลี่หรานไม่ได้อยู่บนเวที

เขากำลังตกที่นั่งลำบาก

เขาไม่รู้ว่ามีการจัดที่นั่งอย่างไร วิถีธรรมและวิถีมารถึงไม่ได้แยกจากกัน และที่นั่งทั้งหมดก็เรียงกันเป็นแถว

หลี่หรานนั่งตรงกลาง

ด้านซ้ายคือหลินหลางเยว่และด้านขวาคือฉินหรูเหยียน

จิตสังหารของพวกนางลอยขึ้นมาในอากาศ

จู่ๆเขาก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่มางานชุมนุมครั้งนี้...

ฉินหรูเหยียนโน้มตัวเข้ามาใกล้หูของเขาและกระซิบว่า “ก่อนหน้านี้ข้าทำให้หัวหน้าศิษย์เยว่ ขุ่นเคือง บุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่คงไม่โกรธข้าใช่ไหม?”

หลี่หรานกลอกตาใส่นาง “เจ้าก่ออาชญากรรมทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว?”

ฉินหรูเหยียนอดไม่ได้ที่พูดว่า “ข้ารับใช้คนนี้เพียงต้องการใกล้ชิดกับบุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่เท่านั้น...”

“เข้าใกล้น้องสาวเจ้าสิ…” เขาสามารถบอกได้ว่าแม่มดคนนี้จงใจทำ

อะแฮ่ม!

เสียงของหลินหลางเยว่เย็นชา “โปรดสำรวมด้วย อย่ารบกวนผู้อื่น”

จากนั้นนางก็จ้องไปที่หลี่หราน

หลี่หรานลูบจมูกอย่างกระอักกระอ่วน

เมื่อเห็นนางนั่งตัวตรงและดูเย็นชา รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา เขาจับมือเล็กๆของนางอย่างเงียบๆ

“……” หลินหลางเยว่ตกตะลึงและใบหน้าปลี่ยนเป็นสีแดงทันที “ละ...หลี่หราน เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง!”

หลี่หรานพูดอย่างจริงจัง “โปรดสำรวมด้วยหัวหน้าศิษย์หลิน อย่ารบกวนผู้อื่น”

“……” หลินหลางเยว่จ้องเขม็งใส่เขา

ศิษย์ของสถาบันเทียนซูยังคงยืนอยู่ข้างหลัง ผู้ชายคนนี้กล้าจับมือนางได้ยังไง?

ถ้าพวกเขาถูกเห็นล่ะ?

ในใจของนางทั้งลุกลี้ลุกลนและเขินอาย นางอยากจะหาโพรงบนพื้นและมุดลงไปให้ได้

แต่นางก็ลังเลที่จะปล่อยมือ...

ดวงตาของหลี่หรานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง การแจ้งเตือนที่รอคอยมานานก็ดังขึ้นในใจ

ติ๊ง!

【ภารกิจใหม่】

【โปรดรับสมัครอัจฉริยะจากงานชุมนุมสวรรค์อมตะเพื่อพัฒนานิกาย!】

เขาผงะเล็กน้อย “มันกลับมีภารกิจจริงๆ?”

ด้านล่างของส่วนแนะนำภารกิจ มีบางสิ่งที่คล้ายกับแถบความคืบหน้า

พรสวรรค์และจำนวนของศิษย์ที่รับสมัครได้เป็นตัวกำหนดความคืบหน้าของภารกิจ

ตราบใดที่แถบความคืบหน้าเต็ม เขาจะได้รับรางวัลสูงสุด

มุมปากของหลี่หรานโค้งขึ้น

“ดูเหมือนว่าข้าไม่ได้มาที่งานชุมนุมสวรรค์อมตะนี้อย่างเสียเปล่า!”

ไม่เพียงแต่เขาสามารถรับสมัครอัจฉริยะสำหรับนิกายเท่านั้น แต่เขายังสามารถได้รับรางวัลจากระบบอีกด้วย!

ในเวลานี้เอง เสียงดังมาจากแท่นด้านล่าง

“เฟิงอวี้เยว่ พรสวรรค์ระดับสูง!”

เด็กสาวตัวเล็กๆคนหนึ่งยืนอยู่กลางแท่นแสวงดารา ศิลาวัดที่อยู่ตรงหน้านางเปล่งแสงแพรวพราว

นิกายชั้นหนึ่งและสองกลายเป็นกระสับกระส่าย

“หุบเขากิเลนยินดีต้อนรับเจ้า!”

“นิกายปิงซวนยินดีรับเจ้าเป็นศิษย์สายตรง!”

“นางต้องเป็นของสำนักหมอกเมฆา!”

“นิกายฮ่าวเทียนของข้า...”

นี่เป็นพรสวรรค์ระดับสูงคนแรกของวันนี้ นิกายทั้งหมดไม่อยากที่จะพลาดโอกาส

หลี่หรานสะบัดนิ้วและผู้ดูแลของวิหารโหยวหลัวที่อยู่ด้านหลังก็เข้าใจทันที เสียงของเขากังวานและชัดเจน: “วิหารโหยวหลัวต้องการนาง!”

ทันใดนั้นเสียงรอบข้างก็หยุดลง

/////