(ฟรี) บทที่ 275 หลันหลันเด็กดี
เซิงเย่นั่งกัดฟันอยู่ในรถม้า
“น่าเสียดายที่ข้ารู้สึกประทับใจเจ้าเด็กนั่นนิดหน่อย ข้าเกือบจะตกหลุมพลางมันแล้ว!”
เขาเดินมานอกรถม้าและมองซ้ายมองขวา “หลี่หรานไปไหน?”
องครักษ์ชุดดำตอบว่า “บุตรศักดิ์สิทธิ์หลี่วิ่งไปทันทีที่เขาลงจากรถม้าพ่ะย่ะค่ะ”
“......”
องครักษ์ชุดดำถามว่า “ฝ่าบาท เราต้องตามไปจับเขาหรือไม่?”
“ไม่จำเป็น”
เซิงเย่นวดหน้าผากของเขา “ไปกันเถอะ แม้ว่าเราจะจับเขามา ข้าก็ไม่สามารถทำอะไรได้”
มุมปากของเขาโค้งเป็นรอยยิ้มขมขื่น
เดิมทีเขาต้องการที่จะโอ้อวดบารมีใส่หลี่หราน แต่เขากลับถูกอีกฝ่ายจูงจมูกตลอดเวลา นอกจากความรู้สึกหดหู่แล้ว ในใจของเขายังรู้สึกสิ้นหวังอีกด้วย
เซิงเย่เป็นจักรพรรดิของโลกมนุษย์และเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตจักรพรรดิ
ในสายตาของเขา ขอบเขตเทวะแปรผันเป็นเพียงการดำรงอยู่ที่เหมือนกับมด
แต่หลี่หรานแตกต่างออกไป
เบื้องหลังของอีกฝ่ายซับซ้อนมาก หากเขาลงมืออย่างประมาท มันอาจส่งผลกระทบต่อรากฐานของราชวงศ์เซิง
ในตอนแรกเซิงเย่เคยคิดที่จะลอบโจมตีหลี่หรานมาก่อน
ทั้งการลอบสังหาร วางยาพิษ กักขัง ทำลายการบ่มเพาะ ตัดขาดเส้นทางอมตะ... แต่สุดท้ายเขาก็ปฏิเสธพวกมันทั้งหมด
เช่นเดียวกับที่หลี่หรานพูด เขาไม่สามารถเสี่ยงได้
และเนื่องจากเขาไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ เขาจึงต้องผูกมัดไว้
เขาเปิดคลังสมบัติอย่างใจกว้างและปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าไปเลือก อีกทั้งยังมอบป้ายสลักชื่อตระกูลและสมบัติมากมายให้ตระกูลหลี่ และยังมีความคิดเรื่องการแต่งงานอีกด้วย
แต่หลี่หรานทำอะไร?
เขาฉกฉวยโอกาสทั้งหมดและไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆเลย อีกทั้งเขายังวางแผนที่จะรวบหัวรวบหางเจ้าหญิงทั้งสองอีกด้วย
“เจ้าพยายามขโมยแจ็คเก็ตผ้าฝ้ายทั้งสองของข้าไปและยังอวดดีใส่ข้าอีก?” เซิงเย่ไม่เคยขุ่นเคืองขนาดนี้มาก่อน
ในความเป็นจริง โดยไม่คำนึงถึงสถานะหรือนิสัยใจคอ หลี่หรานเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
มันมากเกินพอที่จะแต่งงานกับบุตรสาวของเขา
แต่ไม่ใช่กับบุตรสาวทั้งสองพร้อมกัน!
เช่นนั้นใครจะเป็นราชินีและสนม?
และถ้าข่าวนี้หลุดออกไป ใบหน้าของราชวงศ์เซิงจะไปอยู่ที่ไหน?
นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามของวิหารโหยวหลัวอีก เหลิงอู่เหยียนจะเปลี่ยนใจและอนุญาตให้ศิษย์ของนางแต่งงานหรือไม่?
เซิงเย่ตกอยู่ในห้วงความคิด
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็ส่ายหัว “ลืมมันซะ ข้าไม่อยากคิดถึงมันแล้ว ฉู่หลิงฉวนยังอยู่ในวังดังนั้นข้าต้องจับตาดูนาง”
“ฮ่าย ปัญหาเยอะเสียจริง...”
เซิงเย่ถอนหายใจและกลับเข้าไปในรถม้า “กลับวัง”
“พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ชุดดำตอบ
ราชรถลอยขึ้นไปในอากาศและเหาะไปยังพระราชวัง
—
ในชั่วพริบตา หลี่หรานก็มาถึงใกล้คฤหาสน์ตระกูลหลี่แล้ว
“หึ กล้าวางท่าใส่ข้างั้นเหรอ?” เขาพ่นลมอย่างเย็นชา
เขามองผ่านความคิดเล็กน้อยของเซิงเย่ตั้งนานแล้ว
เมื่อต้องรับมือกับคนประเภทนี้ หากเจ้าแสดงความอ่อนแอออกมาซ้ำๆ มันจะทำให้อีกฝ่ายเชิดหน้าชูตาได้มากขึ้น
มีเพียงความแข็งแกร่งอันเบ็ดเสร็จเท่านั้นที่จะทำให้เขาได้รับความเคารพตามสมควร
แน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมีผู้สนับสนุนที่ทรงพลังพอ
หลี่หรานหัวเราะเบาๆ “อาจารย์ชิงหลัน ข้าดีใจที่ท่านอยู่ที่นี่”
ในอีกด้านหนึ่งของด้ายสีแดง อวี้ชิงหลันกล่าวว่า “ด้วยบุคลิกของเซิงเย่ เขาจะไม่แตะต้องเจ้าอย่างผลีผลาม”
จากนั้นนางก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าเขากล้าแตะต้องเจ้าจริงๆ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะเปลี่ยนเจ้าของอาณาจักรนี้!”
เสียงของนางแฝงด้วยจิตสังหารที่เยือกเย็นและรุนแรง
หลี่หรานตกตะลึง
บุคลิกของอวี้ชิงหลันนั้นสงบและไม่แยแส นางไม่ค่อยแสดงความโกรธมากนัก
ทันใดนั้นความอบอุ่นก็เกิดขึ้นในใจเขา “ชิงหลัน ท่านดีกับข้าจริงๆ”
“ศิษย์อกตัญญู เจ้าเรียกข้าแบบนั้นไม่ได้!”
เสียงของอวี้ชิงหลันเต็มไปด้วยความเขินอาย แม้จะผ่านด้ายสีแดง เขาก็ยังจินตนาการถึงแก้มที่แดงก่ำของนางได้
หัวใจของหลี่หรานเต้นไม่เป็นจังหวะในขณะที่เขาพูดเบาๆว่า “อาจารย์ชิงหลัน ข้าอยากเจอท่าน”
ด้ายสีแดงเงียบลงครู่หนึ่งก่อนจะมีเสียงนุ่มนวลดังขึ้น “หัวขโมยน้อย นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้ก็อยากเจอเจ้าเหมือนกัน...”
พวกเขาทั้งสองอยู่ห่างกันหลายพันลี้ แต่จิตวิญญาณและหัวใจของพวกเขาเชื่อมโยงกัน
นี่เป็นความรู้สึกที่แปลกมาก
ในขณะนี้เอง อวี้ชิงหลันจำอะไรบางอย่างได้
นางรู้สึกงุนงง “เมื่อกี้เจ้าบอกว่าองค์หญิงทั้งสองปฏิบัติต่อเจ้าด้วยความจริงใจ... เจ้าหมายความว่ายังไง?”
หลี่หรานสั่นสะท้าน “ฟัก!!!”
ตอนนั้นเขาลืมปิดด้ายสีแดง และอวี้ชิงหลันก็ได้ยินคำพูดของเขาด้วย!
เรื่องมันยาวและเขาไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร
เมื่ออวี้ชิงหลันเห็นว่าเขาอึกอัก นางก็เข้าใจทันทีและพูดว่า “ไม่แปลกใจเลยที่เซิงเย่มาสร้างปัญหา เช่นนั้นเจ้าก็ทำอะไรบางอย่างกับองค์หญิงจริงๆ? และยังมีถึงสองคน?”
หลี่หรานเกาหัว “พูดให้ถูกคือพวกนางเป็นฝ่ายเริ่ม...”
อวี้ชิงหลันพูดไม่ออก “……”
นางเงียบไปนานก่อนที่จะพูดเสียงเบาว่า “เจ้าขอให้นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้ช่วยเจ้าเพราะเรื่องของสตรีอื่น?”
หลี่หรานตกตะลึงในขณะที่เขารีบตอบว่า “อาจารย์ชิงหลัน นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด เหตุผลหลักคือสตรีบ้าที่ทำให้ข้าเมา...”
อวี้ชิงหลันกัดฟันด้วยความโกรธ “นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้ไม่อยากคุยกับเจ้าแล้ว”
หลังจากพูดจบ นางก็ตัดขาดสัมผัสวิญญาณ
ไม่ว่าเขาจะเรียกอย่างไรก็ไร้เสียงตอบรับ
หลี่หรานรู้สึกมึนงง
มันจบแล้ว ดูเหมือนว่าอาจารย์ชิงหลันจะโกรธมาก
เขาไม่ได้ตั้งใจจะใช้นางเพื่อแก้ปัญหาเรื่ององค์หญิงทั้งสอง แต่สิ่งเหล่านี้เกินความคาดหมายและเขาไม่รู้จะอธิบายให้นางฟังอย่างไร
“ข้าควรทำยังไงดี?”
หลี่หรานมองไปที่ด้ายสีแดงบนข้อมือ “ดูเหมือนว่าจะมีเพียงวิธีนี้เท่านั้น... อาจารย์ชิงหลัน ข้าขอโทษ...”
—
ยอดเขาไป๋หยุน
บนยอดเขา สีหน้าของอวี้ชิงหลันเต็มไปด้วยความโกรธและความไม่พอใจ
“ศิษย์อกตัญญู การมีสัมพันธ์กับสตรีอื่นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่เจ้ากลับให้นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้ช่วยไกล่เกลี่ย?”
“นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้รู้ว่าเขามีสตรีอื่นอยู่ข้างนอก แต่เขาไม่แม้แต่จะปล่อยองค์หญิงไปด้วยซ้ำ และยังมีถึงสองคน!”
“มันน่าโมโหจริงๆ!”
อวี้ชิงหลันตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อเขาในวันนี้
ในขณะนั้นเอง ร่างกายของนางแข็งทื่อ ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว และคลื่นของการสั่นไหวก็พุ่งเข้ามาราวกับกระแสน้ำ
“กลอุบายนี้อีกแล้ว? นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้...”
นางกัดฟันด้วยความเกลียดชังแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ นางได้แต่ทนอยู่อย่างเงียบๆ
หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป หลี่หรานก็ไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด
หน้าผากของอวี้ชิงหลันเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ขณะที่นางรู้สึกว่าจิตวิญญาณของนางกำลังสั่นสะท้าน
ในท้ายที่สุดนางก็ทนไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงเชื่อมต่ออีกครั้งและพูดอย่างเกลียดชัง “ศิษย์อกตัญญู เมื่อไหร่เจ้าจะหยุด?”
หลี่หรานหยุดและพูดอย่างระมัดระวัง “อาจารย์ชิงหลัน ข้าแค่อยากอธิบายให้ท่านฟัง...”
อวี้ชิงหลันพ่นลม “นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้ไม่ต้องการฟังอะไรทั้งสิ้น!”
หลี่หรานเกาหัว “ท่านอาจารย์ นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด”
อวี้ชิงหลันไม่ตอบกลับ
“ชิงหลัน?”
“……”
“ที่รัก หวานใจ เสี่ยวหลัน หลันหลันเด็กดี?”
อวี้ชิงหลันไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและพูดอย่างเขินอาย “เจ้าอยากให้นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้โกรธจนตายหรือไง!”
หลี่หรานพูดอย่างจริงจัง “ศิษย์คนนี้รักท่านอาจารย์สุดหัวใจ ศิษย์จะทำให้ท่านอาจารย์โกรธได้ยังไง?”
“……” อวี้ชิงหลันปิดแก้มที่ลุกไหม้ของนาง “นักพรตเต๋าผู้ต่ำต้อยคนนี้ลงเอยกับศิษย์อกตัญญูแบบเจ้าได้ยังไง!”
/////