ตอนที่แล้วตอนที่ 998 กวาดวายร้าย?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1000 หมอกซ่อน?

ตอนที่ 999 เมืองไป๋เหอ เฒ่าขี้เมา?


เมืองไป๋เหอ ดินแดนใจกลางภูมิภาคสวนสวรรค์

เมืองไป๋เหอเป็นเมืองที่สร้างอยู่บนผิวน้ำใจกลางเขตที่มีการสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างจักรพรรดิเสิ่นกวงจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วและจักรพรรดิฟู่โฉวทั้งสามฝ่ายมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว

เป็นเรื่องแปลกที่แม้ว่าไฟสงครามไม่เคยมอดดับลงมานานเป็นพันปีแต่เมืองไป๋เหอมีกฎที่แปลกประหลาดไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ใช้กำลังในเมืองไป๋เหอ และนักรบใดก็ตามที่เข้ามาในเมือง จะถูกถอดสถานะออกจากสนามรบในเมืองนี้คนที่โกรธเกลียดกัน สามารถนั่งร่วมโต๊ะเดียวกันได้  แต่ทันทีที่พวกเขาออกไปจากเมืองพวกเขาจะเผชิญหน้าและเข่นฆ่ากันและกัน

ในเมืองน้ำแห่งนี้แม้แต่เจ้าเมืองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ก่อสงครามนองเลือดและระบายความโกรธได้  นั่นต้องบอกว่าเป็นปาฏิหาริย์

เมืองไป๋เหอกล่าวกันว่าเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดในภูมิภาคสวนสวรรค์

แต่แม่น้ำไป๋เหอที่อยู่นอกเมือง

ความจริงเป็นดินแดนที่น่ากลัวที่สุดในภูมิภาคสวนสวรรค์

ไม่ทราบว่าที่นั่นมีทหารและนักผจญภัยถูกฝังไว้มากมายเพียงไหน  กระดูกคนตายสุมกองทับ หากมิใช่เพราะแม่น้ำไป๋เหอลึกเกรงว่าคงกองพะเนินสูงเท่าภูเขากลายเป็นที่ลือชื่อในภูมิภาคสวนสวรรค์

ตราบเท่าที่คนที่เคยไปเมืองไป๋เหอ จะเข้าใจว่าแม่น้ำไป๋เหอไม่ใช่แม่น้ำแต่เป็นทะเลที่มองแทบไม่เห็นฝั่ง

พื้นที่หนึ่งในสามของภูมิภาคสวนสวรรค์จมอยู่ใต้ทะเลสาบ เพราะผิวทะเลมักจะมีหมอกสีขาวเป็นทางและมีหมอกลับที่ยาวเป็นทางนั่นจึงเป็นที่มาของเมืองไป๋เหอ “แม่น้ำขาว”

ความลึกของแม่น้ำไป๋เหอนั้นเกินกว่าจะหยั่งถึงได้  แม้แต่ทวีปที่จมลงก็หายไปจนมองไม่เห็นนั่นมีเมืองเกือบพันเมือง เหลือแต่แนวเขามองเห็นได้ ยอดเขาโผล่ให้เห็นกลายเป็นเกาะน้อยพอเหลือให้คนรุ่นหลังได้สร้างเมืองอยู่บนผิวน้ำ ในบรรดาเมืองเหล่านั้น มีเมืองไป๋เหอรวมอยู่ด้วย

เมฆหมอกยาวจนสุดสายตา ปรากฏเรือสินค้ากำลังแล่น

เนื่องจากเรือกินน้ำลึก และมีขนาดใหญ่ใครๆมองเห็นก็รู้ว่านี่คือเรือเสบียงซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ฝ่ายใด  เพราะข่าวว่าจักรพรรดิเสิ่นกวงและจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วตายจักรพรรดิฟู่โฉวเนรเทศตนเอง ภูมิภาคสวนสวรรค์ดูเหมือนจะถูกควบคุมโดยสตรีที่ไม่มีชื่อเสียงเรียกว่าเทียนฟา  และตอนนี้มีสถานการณ์ที่สับสนจึงอนุญาตให้เรือสินค้าชักธงลงได้

แม้ว่าเจ้าเมืองก็ยังไม่รู้ว่าเจ้านายตายหรือยังอยู่จะสู้เพื่อเขาต่อไปหรือไม่

น่าขันหรือไม่?

“ยินดีต้อนรับสู่เมืองไป๋เหอ พวกท่านปลอดภัยแล้ว!” ผู้เฒ่าเถี่ยเหมาประจำการอยู่ที่ท่าเรือตะวันออกเขายกเชือกเหล็กใหญ่และพันรอบหลักอย่างชำนาญ

คนงานท่าเรือเป็นพวกแรกที่เข้ามาทักทายและอำนวยความสะดวกให้คนนอกนี่คือกฎของเมืองไป๋เหอ

ธรรมเนียมนี้สืบทอดกันมาหลายพันปีจนเป็นลักษณะเฉพาะของเมืองไป๋เหอ

เฒ่าเถี่ยเหมาถือเป็นคนงานที่ดีที่สุดในที่นี้

เขาทำงานที่นี่มาหลายร้อยปีแล้ว

เขารู้เรื่องราวทุกอย่าง

กล่าวกันว่าครั้งหนึ่งเขาเคยขึ้นเรือของเสิ่นกวง,เฟิ่นนิ่วและฟู่โฉว สามจักรพรรดิแดนดิน ไม่เคยมีใครอื่นได้รับเกียรติขนาดนี้

“โอว, นายผู้เฒ่า ขอทิปด้วย”  เฒ่าเถี่ยเหมารับเงินมาตามปกติและพบว่าเจ้าอ้วนเผ่าคางคกดึงถุงเงินเล็กๆออกมาและยักไหล่ด้วยท่าทางแปลกๆ “ดูเหมือนว่าท่านต้องการข้อมูลลับสุดยอดจากปากข้าสินะ!”

“ข้าแค่ถามปัญหาสามข้อง่ายๆหลังจากถามแล้วก็จบกัน ตราบเท่าที่เจ้าตอบตามตรง ไม่ว่าเจ้าจะตอบได้หรือไม่ เงินถุงนี้จะเป็นของเจ้า”  พ่อค้าเผ่าคางคกยิ้ม

เขาแกว่งถุงเงินล่อเฒ่าเถี่ยเหมา

เฒ่าเถี่ยเหมารอมองดูอีกฝ่ายมีบุคลิกท่าทางของผู้ประสบความสำเร็จจากนั้นเขาเปลี่ยนท่าทีทันที “ขออภัย ข้าขอปฏิเสธได้ไหม?”

นี่เป็นลูกไม้ตลกของพ่อค้าต่างถิ่นสหายของเขาที่ได้พบเห็นก่อนหน้านั้นมีขนทั้งตัวเหมือนกอริลลาชอบทุบอกตนเองทำให้อดหัวเราะอย่างมีความสุขไม่ได้ “พ่อค้าต่างถิ่น เลิกลองใจพวกเราได้แล้ว อยู่ต่อหน้าท่านเถี่ยเหมา เงินทองไม่มีประโยชน์ เจ้าคิดว่าเขาจะยอมแพ้และเป็นผู้รับใช้เพื่อเงินเจ้าหรือ?  เขาแค่ยอมแพ้ต่อสุราชั้นดีของโลกมีแต่หนอนสุราเท่านั้นที่เอาชนะเขาได้ ฮ่าฮ่าฮ่า...”

บุรุษอีกคนหนึ่งมีตาอยู่บนศีรษะเหมือนกุ้งโบกแขนผอมๆของเขาแนะนำอย่างจริงจัง  “ไม่ต้องพูดมากคนต่างถิ่น ในเมืองไป๋เหอเจ้าสามารถทำอะไรก็ได้ แม้ว่าเจ้าจะบ้าเงินทอง เจ้าก็สามารถหาเงินจากกระเป๋าทุกคนได้และข้าเองก็ไม่มีอะไรเลย  อย่างไรก็ตามเจ้าไม่ควรจะรู้ความลับที่ไม่ควรรู้เกินไป...”

“ถูกแล้ว ข้าพยายามเตือนเจ้าด้วยความปรารถนาดี นายผู้เฒ่า!  ที่นี่คนเขลาจะปลอดภัยที่สุด!” เฒ่าเถี่ยเหมาพูดจบก็หัวเราะ

“เป็นอย่างนี้นี่เอง!”  ปรากฏว่าเจ้ากบอ้วนไม่โกรธ  และยังยิ้มได้

แต่องครักษ์ที่อยู่ข้างเจ้ากบอ้วนมีสีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย

เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์โบกมือ “ฟงจี, จินหวิน กลับไปบอกคุณชายและภรรยาว่าเรามาถึงเมืองไป๋เหอแล้ว

มีคนออกมาจากห้องโดยสารอยู่ก่อนแล้ว

เป็นเย่ว์หยางและมารกฎฟ้า ราชันย์ปีศาจใต้ซึ่งคลุมหน้าด้วยชุดยาว  หลิวเย่ยังคงอยู่ในชุดเดิมที่คุ้นเคย  นางอยู่ด้านหลังเย่ว์หยางดวงตาคู่งามกวาดมองไปรอบๆ มองดูทุกอย่างด้วยความสงสัย

ใครที่ไม่รู้จักอาจจะเข้าใจผิดคิดว่านางคือสาวใช้ของเย่ว์หยาง

เจ้ากบอ้วนก็คือจั๊ดด์ผู้จัดการผลประโยชน์ใหญ่แน่นอน เขาคือผู้ดูแลการเงินและผลประโยชน์อันดับหนึ่งของเย่ว์หยางและมีความเชี่ยวชาญมากกว่าเปากู่

องครักษ์ที่อยู่ด้านหน้าก็คือฟงจีและจินหวิน ตามด้วยจงกวนเฮยถูและไป๋หม่ากลุ่มสามสหายที่ยอมจำนนไปก่อนหน้านั้น

ฮัวปันและเฟยหวงประจำการอยู่ที่ห้องโดยสารซ้ายขวา แม้แต่สองพี่น้องกระทิงเถื่อนก็สามารถเดินทางร่วมด้วยขอเพียงแต่มีอาหารให้กินมีเหล้าให้ดื่มพวกเขาจะไม่เคลื่อนไหวโดยพลการ  แม้เมื่อเทียบฮุยไท่หลางเจ้าหมาจอมตะกละ  สองพี่น้องกระทิงเถื่อนก็ไม่สามารถควบคุมตนเองได้อย่างพวกมัน  มันเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ยอดเยี่ยม  เมื่อเย่ว์หยางออกมามันก็ติดตามออกมาทันทีไม่ยอมพลาดโอกาสแสดงความภักดี

“คุณชาย!ทำไมท่านไม่นั่งเกี้ยวออกมา ที่นี่กว้างใหญ่มาก” เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์ แม้ว่าจะไม่ใช่สุนัข แต่จมูกไวมาก เขาสูดกลิ่นอากาศที่นี่ตามปกตินอกจากได้กลิ่นน้ำเค็มแล้ว ยังแฝงไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

เหมือนกับสนามรบที่เต็มไปด้วยเลือดผู้คนตายหลายพันคนแม้ผ่านไปหลายวัน แต่กลิ่นก็ยังอยู่

เย่ว์หยางยังคงเงียบ

เขาใช้จักษุญาณทิพย์ตรวจดูแล้ว จึงเข้าใจได้

กลิ่นคาวเลือดไม่ได้มาจากแม่น้ำไป๋เหอนี้  แต่มาจากเมืองไป๋เหอ

กลิ่นคาวเลือดแบบนี้ไม่ใช่ฆ่าหมูและฆ่าแพะ  แม้ว่าจะมีการปกปิดไว้บ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นเลือดมนุษย์ เย่ว์หยางแน่ใจเรื่องนี้

“น่าจะเป็นการใช้เลือดบูชายัญ”  นางเซียนหงส์ไม่ได้พูดจากปากแค่พูดผ่านสายแพรเชื่อมใจกับเย่ว์หยางและราชันย์ปีศาจใต้บอกความรู้สึกของนาง

“ดูเหมือนว่าจริงๆ แล้วเมืองไป๋เหอจะเป็นถ้ำเสือวังมังกรไม่ได้สงบสุขเหมือนดังคำเล่าลือจากตำนาน!  ใช้เลือดบูชายัญ?  ใช้เลือดบูชายัญเพื่อเปิดประตูอะไร?  ตำหนักน้ำหรือโบราณสถานอื่น?”  ราชันย์ปีศาจใต้ไม่ใช่พวกกินเจมังสวิรัติ ต้องทราบว่านอกจากเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแล้วนางคือองค์หญิงแห่งเผ่าภูตบูรพาผู้งดงามจับตามากที่สุด

“อาจเป็นการก่อเรื่องของผู้ที่โกรธแค้นกับการตายของจักรพรรดิเสิ่นกวงจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วและการออกไปจากภูมิภาคสวนสวรรค์ของจักรพรรดิฟู่โฉว  ถ้ามีความเกี่ยวข้องกันระหว่างเมืองไป๋เหอและตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีอะไรที่ทำได้ พวกเขาควรจะรู้ว่าจ้าวสุริยาวางแผนจัดการจักรพรรดิแดนดินทั้งสาม  แต่พวกเขาไม่ใช่บริวารของจ้าวสุริยา....หลังจากจ้าวสุริยาดำเนินการตามแผนมาจนถึงบัดนี้ข้าว่าพวกเขาเป็นบริวารของจ้าวสุริยาแน่  ข้าเกรงว่าการใช้เลือดบูชายัญไม่ได้อยู่ในความควบคุมของเขาแล้ว คนเหล่านี้จะมีสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าตำหนักน้ำใหม่ชางหลงหรือไม่ก็ยังไม่แน่ชัด  ลองเข้าไปดูกัน แค่คนงานท่าเทียบเรือก็ซ่อนพลังปราณฟ้าระดับหกได้แล้วนี่นับเป็นสถานที่น่าครึกครื้น!”    เย่ว์หยางสวมหน้ากากเงินใหม่ปกปิดสถานะ  ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาเพียงสื่อสารทางใจกับนางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้ก็เพียงพอแล้ว

สำหรับหลิวเย่ นางรู้ตัวว่าควรทำตัวเป็นผู้น้อยดีกว่า

เพราะนางมีจิตใจบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเกินไปจึงไม่สามารถซ่อนความคิดของนางได้  คนอื่นเพียงแต่มองหน้านางก็เข้าใจได้  ดังนั้นไม่บอกนางย่อมเป็นการดีที่สุดและคอยจัดให้นางช่วยลงมือในเวลาที่เหมาะสม

เย่ว์หยางไม่ได้ไปดูเฒ่าเถี่ยเหมาขี้เมาแค่เดินนำหน้ากลุ่มออกมาเท่านั้น

อย่างไรก็ตามทั้งนางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้ทั้งคู่เข้าใจความหมายยอดฝีมือซ่อนกายตามที่เขาพูดถึง

นี่คือตาเฒ่าขี้เมา

เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์เป็นผู้เชี่ยนชาญในการทำธุรกิจ  เป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นยอดฝีมือซ่อนพลัง ในกลุ่มผู้คุ้มกันมีแต่เพียงจินหวินตาผู้มีฉายาว่าตาไฟมองดูเฒ่าเถี่ยเหมาด้วยความสงสัยเล็กน้อย เขาส่ายหัวเล็กน้อยแล้วก็เลิกสงสัย แม้แต่นางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้ก็ยังมองออกว่าเฒ่าเถี่ยเหมาซ่อนพลังไว้เพียงแต่ประเมินพลังได้ไม่ชัด ผู้คุ้มกันอย่างจินหวินสามารถมองออก ไม่อย่างนั้นเขาจะได้ฉายาว่าตาไฟหรือ!

เย่ว์หยางและพวกที่กำลังกรอกเหล้าเข้าปากวางขวดเหล้าในมือทันทีดวงตาที่แสดงอาการเมามายกลายเป็นสุขุมลุ่มลึกและมองตามหลังนางเซียนหงส์ฟ้าเขม็งเหมือนประเมินอะไรบางอย่าง

“เกิดอะไรขึ้น พ่อค้ากลุ่มเล็กๆคนแบบนี้นำเรือสินค้าเข้าออกทุกวันอยู่แล้ว” บุรุษตาโตร่างเหมือนกุ้งมังกรถาม

“นอกจากสตรีคนกลางที่แข็งแกร่งอยู่บ้างคนอื่นที่เป็นระดับปราณดิน ไม่มีอะไรต้องพูด” มนุษย์กอริลลาไม่หยาบคายเหมือนที่แสดงออกเมื่อครู่นี้  แต่กลับดูเหมือนคนที่สุขุมระมัดระวัง

“สตรีคนกลางแข็งแกร่งมากกว่าข้าแน่นอน”  เฒ่าเถี่ยเหมาแค่นเสียง  “สำหรับเด็กหนุ่มมีพลังทั่วไปไม่ค่อยแข็งแกร่ง  เจ้าเด็กหนุ่มหน้าหล่อกินแต่ข้าวอ่อน  แต่ข้ารู้สึกผิดปกติเล็กน้อย ก่อนที่เรื่องสำคัญเหล่านี้จะประสบความสำเร็จทุกคนต้องแบ่งบทบาทอย่าปล่อยให้เกิดปัญหาในเวลานี้ถ้าเจ้ามีโอกาสก็ควรส่งคนไปสอดแนมคนกลุ่มนี้ ถ้าพวกเขามาทำธุระจริงๆ อย่างนั้นเราก็ยินดีต้อนรับ  ถ้ามาทำอย่างอื่นก็ต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด...”

“ส่งฝูโหย่วไปเป็นคนนำเที่ยว  เจ้าเด็กนั่นฉลาดและมีไหวพริบ”  มนุษย์กุ้งแนะนำ

“ข้าหวังว่าคนเหล่านี้เป็นนักธุรกิจพ่อค้าที่แท้จริง!” เฒ่าเถี่ยเหมาถอนหายใจเล็กน้อยดวงตาที่แวววาวของเขาหมองประกายลงความโกรธลดลง และเขากลับไปเป็นเฒ่าขี้เมาและกรอกสุราที่ยังเหลือเข้าปากต่อ

ในที่ไกลออกไปมีเรือสินค้าหลายลำแล่นเคียงกันฝ่าหมอกควันเข้ามายังเมืองไป๋เหอ

เฒ่าเถี่ยเหมาโบกมือ

ทุกคนกลับไปเป็นกลุ่มขี้เมาและรีบเข้ามาทักทายคณะเดินทาง  “ยินดีต้อนรับสู่เมืองไป๋เหอ!  พวกท่านปลอดภัยแล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด