ตอนที่ 998 กวาดวายร้าย?
เมืองลู่หลิว
วันนี้วังหลวงมีการเปลี่ยนมือเจ้าของ
เดี๋ยวนี้ไม่ได้เรียกว่าอาณาจักรจื่อฟงอีกต่อไป แต่เรียกกันว่าอาณาจักรเว่ยฟงราชาแห่งอาณาจักรเว่ยฟงคือราชินีผู้งดงาม นี่เป็นข่าวแรกที่พลเมืองผู้อยู่อาศัยในเมืองลู่หลิวได้รับรู้ ในภูมิภาคสวนสวรรค์ไม่มีอะไรประหลาดเกี่ยวกับการเปลี่ยนเจ้าเมืองเจ้าแคว้น หรือราชาของอาณาจักร ที่สำคัญตราบใดที่ยังมีการสู้รบอย่างดุเดือด จะมีโอกาสเปลี่ยนคนได้ แม้ว่าราชาจื่อฟงจะปกครองมาเป็นเวลานาน แต่ทุกคนรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึง พวกเขาเตรียมตัวเตรียมใจไว้นานแล้ว พูดให้ถูกก็คือมีเจ้านายคนใหม่เข้ามาอยู่ในวังเมืองลู่หลิว นี่เป็นเรื่องที่ดี เพราะราชาใหม่เพิ่งมาถึงเขากำหนดนโยบายที่เอื้อเฟื้อมากมายเช่นการลดภาษี เพื่อเรียกความนิยมโดยเร็วที่สุด
แต่เมื่อพลเมืองชาวเมืองลู่หลิวได้ยินข่าวที่สอง พวกเขาตกใจอย่างสิ้นเชิง
เพราะข่าวที่สองมีการกล่าวกันว่าจักรพรรดิเสิ่นกวงจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วตายแล้ว ส่วนจักรพรรดิฟู่โฉวเนรเทศตนเองออกจากภูมิภาค บัดนี้จักรพรรดินีเทียนฟาไม่มีใครไม่รู้จักอีกต่อไป
ความสับสนของภูมิภาคสวนสวรรค์ก็คือนักสู้ผู้มีคุณสมบัติพอเป็นจักรพรรดิมีมากเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงต้องต่อสู้เอาชนะกันและกันให้ได้
ดังนั้นนั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
แต่ไม่ว่าจะวุ่นวายเพียงใด ทุกคนไม่มีทางนึกภาพออก ภูมิภาคสวนสวรรค์มีจักรพรรดิแดนดินถึงสามคน แต่ในช่วงเวลาไม่กี่วันจักรพรรดิแดนดินตายไปสอง อีกคนหนึ่งจากไปสิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดก็คือภูมิภาคสวนสวรรค์เกิดจักรพรรดินีเทียนฟาขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว จักรพรรดิแดนดินอยู่ที่ไหน? นอกจากนี้ใครคือจักรพรรดินีเทียนฟา?
ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างลึกลับ
ไม่มีใครสามารถชี้แจงได้
แม้แต่หัวหน้าสมาคมทหารรับจ้างสาขาเมืองลู่หลิวในแดนสวรรค์ก็รู้ข้อมูลภายในเพียงเล็กน้อยว่าจักรพรรดินีเทียนฟาอาศัยอยู่ในวังหลวงในเมืองลู่หลิว นางกับราชินีเว่ยฟงที่เพิ่งมาถึงเป็นพี่น้องกัน
“ภูมิภาคสวนสวรรค์กำลังจะวุ่นวายอีกครั้ง” หัวหน้าสมาคมทหารรับจ้างสาขาถอนหายใจ
วันนี้หัวหน้าพ่อบ้านเย่มิทราบต้องต้อนรับอาคันตุกะมากมายเท่าใด เขารู้สึกว่าต่อให้เขามีสามเศียรหกกรก็ไม่สามารถเผ่นหนีหายไปได้
หลายเรื่องในภายนอกวุ่นวายและจะต้องดำเนินการทันที
ปรากฏว่าภรรยาและนางสนมของราชาจื่อฟงหลายสิบนางไม่อาจอยู่ในวังหลวงได้อีกต่อไปพวกนางจะต้องได้รับการจัดสรรที่อยู่ใหม่ทันที เรื่องเหล่านี้สำหรับองครักษ์ผู้ภักดีราชาจื่อถือว่าเป็นปัญหาที่คลี่คลายยากเช่นกัน โชคดีที่ทุกคนยอมรับได้กับการตายของราชาจื่อฟง มิฉะนั้นจะถูกกวาดล้างกำจัดจากราชาใหม่และคงมีการนองเลือดกันอีก เรื่องเหล่านี้ไม่สำคัญสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเจ้านายใหม่ งานอดิเรกของนางจะแตกต่างจากราชาจื่อฟง หากนางชอบเมืองลู่หลิวและอาณาจักรเว่ยฟงเล่า? หัวหน้าพ่อบ้านเย่คิดว่านี่เป็นปัญหาอย่างหนึ่ง
เย่ว์หยางไม่สนใจการจัดการปกครองประเทศ เขาเป็นคนที่มีหญิงงามคอยเอาใจใส่อยู่แล้ว
คนอื่นๆ มีวิถีชีวิตเป็นของตนเองและพอใจอยู่แค่จัดการตัวเองเท่านั้น
แน่นอนว่าเขาไม่ได้คัดค้านนางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้ยืนยันจะแบ่งเบาภาระให้เขา
“ภูมิภาคสวนสวรรค์ตราบเท่าที่พวกท่านไม่สู้รบกันภาพเช่นนั้นก็นับว่าไม่เลว และยังมีพื้นที่ลับอยู่อีกหลายที่ซึ่งควรแก่การสำรวจ เช่นทวีปลอยอยู่ใต้เมืองไป๋เหอ ไม่ใช่มีแค่เพียงตำหนักน้ำนอกเหนือจากความลับใต้น้ำแล้วยังมีทะเลหมอกลึกลับและคลื่นหมอกที่กลืนกินสรรพสิ่ง”นางเซียนหงส์ฟ้านอนอยู่ในอ้อมกอดเย่ว์หยางขณะสำรวจแผนที่อย่างเฉื่อยชาขณะที่นางเพลิดเพลินกับองุ่นหยกม่วงแช่เย็นที่นางพญาซัคคิวบัสจัดให้นางอย่างสวยงาม แต่นางพบว่าเย่ว์หยางกำลังศึกษาอักขระรูนโบราณ นางหันกลับมาหาเขาและคาบองุ่นป้อนเขาปากต่อปากทันที
“ที่จริงแล้ว การเป็นราชานั้นง่ายมากขอเพียงประชาชนมีใช้มีกินได้ก็พอ” ราชันย์ปีศาจใต้นั่งอยู่ข้างๆ แต่นางไม่กล้าเลียนแบบนางเซียนหงส์ฟ้า อย่างน้อยก็ไม่กล้าสนิทสนมกับเขาต่อหน้าทุกคน
“ปัญหาก็คือเรามีอาหารไม่มาก” พ่อบ้านเย่และหัวหน้าจินฟันทองนั่งอยู่ข้างล่างพวกเขาไม่กล้าเงยหน้า
สำหรับนโยบายใหม่ที่เสนอโดยราชันย์ปีศาจใต้ให้พลเรือนทั่วไปได้รับยกเว้นภาษีและให้จ่ายค่าแรงทาส ทหารได้มีวันหยุดพักแม้ว่าพวกเขาจะคิดว่านี่เป็นนโยบายที่ไร้ค่า ยังไม่ใช่ทางออก แต่ในฐานะประชาชน พวกเขาไม่กล้าเกลี้ยกล่อมโน้มน้าวพวกเขาได้แต่พูดอ้อมว่าไม่เพียงแต่อาณาจักรเว่ยฟงเท่านั้น แม้แต่เมืองลู่หลิวก็ยังไม่สามารถใช้นโยบายนี้ได้
คนธรรมดาได้รับยกเว้นภาษีและพวกทาสได้รับค่าจ้างนั่นเป็นเรื่องดี
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีทหารติดอาวุธไว้ต่อสู้คุ้มกันทันทีที่พวกเขากลับบ้านในช่วงพักร้อน จะมีพวกบ้าเลือดกระหายสงครามรวมตัวกันปล้นสะดม จากนั้นเมื่อสงครายแผ่ขยายออกไปไม่เพียงแต่กระจายออกไปแนวหน้าเท่านั้น แม้แต่แนวหลังของอาณาจักรเว่ยฟงก็จะถูกไฟสงครามลามใส่ไปด้วย
นอกจากนี้ภูมิภาคสวนสวรรค์มีการเข่นฆ่ากันและกันมานานหลายพันปีแล้ว ความเกลียดชังระหว่างเมืองต่อเมือง ประเทศต่อประเทศเผ่าพันธุ์ต่อเผ่าพันธุ์และอื่นๆ จะคลี่คลายกันได้อย่างไร แม้ว่าจักรพรรดิแดนดินผู้ทรงอำนาจจะออกคำสั่งก็เกรงว่าต้องใช้เวลาหลายร้อยหลายพันปีกว่าสงครามจะค่อยๆ สงบลง
“เมล็ดพันธุ์เรามีอยู่มากมายอยู่แล้ว” ราชันย์ปีศาจใต้โบกมืออย่างไม่แยแส
หอทงเทียนในยุคปัจจุบันนี้นับเป็นยุครุ่งเรืองการสู้รบระหว่างหัวหน้าชาติพันธุ์ต่างๆสงบลงอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่เผ่าปีศาจแดนนรกซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งอาณาเขตกว้างไกลก็ยังหยุดโจมตีรุกราน ดังนั้นจึงมีอาหารและเสบียงมากมายที่แต่เดิมใช้สำรองไว้ในยามสงคราม ถ้าบอกว่าวัตถุดิบในหอทงเทียนไม่เพียงพอ อย่างนั้นรอบๆแคว้นมรกตซึ่งเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลของแดนสวรรค์ใต้ ได้กลายเป็นดินแดนทำการพาณิชย์เพราะการมาถึงของเย่ว์หยาง ราชาใจสิงห์และราชาในอาณาจักรใกล้เคียงแคว้นมรกตต่างควบคุมกองกำลังของตนไม่มีความคิดตั้งตัวเป็นศัตรูกับกองกำลังที่หนุนหลังเมืองอู๋เย่
ตอนนี้ไม่มีกระแสวัตถุสินค้าผ่านเมืองอู๋เย่หากไม่มีแนวทางจัดการที่ดี เชื่อได้ว่าความรุ่งเรืองจะลดลง ความสนใจจะลดลงกลายเป็นสถานที่ซึ่งมีการค้าซบเซา
ภูมิภาคสวนสวรรค์มีความต้องการอาหารและเสบียงอย่างเร่งด่วนซึ่งเป็นจุดระบายสินค้าที่ใหญ่ที่สุด
ไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาความยากลำบากของชาวภูมิภาคสวนสวรรค์เท่านั้นแต่ยังช่วยให้ธุรกิจของหอทงเทียนและแคว้นมรกตดำเนินการพัฒนาก้าวหน้าไปได้อย่างต่อเนื่องและกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาที่เป็นประโยชน์
ถ้าเย่ว์หยางขยันทำงานให้หนักมากขึ้น
ด้วยการใช้เข็มทิศสามภพหลายครั้งหลายสถานที่ไม่ว่าจะเป็นที่อาณาจักรเว่ยฟง หอทงเทียนและแคว้นมรกตทั้งสามเขตดินแดนจะได้รับประโยชน์มากมายผู้นำของหอทงเทียนและแคว้นมรกตทั้งสองฝ่ายจะต้องเตรียมพร้อมให้ดี ตราบใดที่เย่ว์หยางคุณชายไตตันพยักหน้า อย่างนั้นเรือสินค้าบรรทุกเมล็ดพันธุ์พืชสามารถบรรจุเข้าในแหวนเก็บสมบัติแล้วเดินทางโดยใช้เข็มทิศสามภาพขนส่งมายังอาณาจักรเว่ยฟง
ภูมิภาคสวนสวรรค์เริ่มสงบจากสงคราม และพ่อค้าในดินแดนภูมิภาคใกล้เคียงเริ่มได้ทราบข่าว
ดังนั้นนางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้จึงไม่เคยกังวลว่าภูมิภาคสวนสวรรค์จะพบกับวันที่ไม่ดี การได้เลื่อนตำแหน่งโดยอาณาจักรเว่ยฟงถ้าใครไม่ยอมรับคำสั่ง ย่อมมีวิธีจัดการง่ายมากนักรบจากหอทงเทียนจะเข่นฆ่าตลอดทางโดยไม่สนใจว่าเป็นฝ่ายจักรพรรดิเสิ่นกวงจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วและจักรพรรดิฟู่โฉวไม่มีการสร้างความลำบากใจจากเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ชางหลงและจ้าวสุริยา ใครจะกล้าเป็นปฏิปักษ์ต่อนักรบหอทงเทียนที่นำโดยมารสัมฤทธิ์ฟ้าจักรพรรดิมังกรและพวกเล่า?
“อย่างนั้น ข้าคงต้องทำงานหนักสักระยะ” เย่ว์หยางมองนางเซียนหงส์ฟ้า พวกเขาตัดสินใจลงไปยังหอทงเทียน และผู้อาวุโสของเขาเช่นแม่สี่ จุนอู๋โหย่วอาจารย์จิ้งจอกและผู้เฒ่าเย่ว์ไห่เห็นด้วย เขาคงต้องพักภารกิจหลักไว้ชั่วคราว
มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรจักรพรรดิใต้พิภพและนักสู้คนอื่นไม่ได้กลับมาด้วย
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การนำของเย่ว์หยางเหล่านักรบฝีมือดีจากหอทงเทียนอาทิเช่น สมาชิกวังมาร จ้าวปีศาจ แม่ทัพปีศาจเผ่าภูตบูรพา เผ่าใต้พิภพและนักรบฝีมือดีจากหอทงเทียนล้วนเดินทางมายังเมืองลู่หลิวพวกเขานำเสบียงมายังเมืองลู่หลิวและหาโอกาสแสวงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ที่เมืองลู่หลิวอาณาจักรเว่ยฟงภูมิภาคสวนสวรรค์เป็นฐานประจำการถาวรในแดนสวรรค์ตะวันตกอย่างถาวร พวกเขาสามารถฝึกฝนฝีมือแสวงหาความก้าวหน้าอย่างค่อนข้างปลอดภัย
เพราะมีการค้าขายในวงกว้างหอทงเทียนจึงได้รับทรัพยากรที่หอทงเทียนหาไม่ได้
สำหรับเผ่าพันธุ์ต่างๆจะใช้ทรัพยากรเหล่านี้ยังไง นั่นไม่ใช่เรื่องที่เย่ว์หยางต้องไปจัดการ
ทางฝ่ายแคว้นมรกตก็มีเสบียงอาหารนับไม่ถ้วน
ด้วยการทุ่มตลาดในภูมิภาคสวนสวรรค์อย่างไม่อั้นทำให้ผู้เข้าร่วมค้าขายฝ่ายแคว้นมรกตถึงกับตาโตพวกเขาไม่เคยเห็นการค้าที่ต้องการทุกอย่าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมมากน้อยเพียงไหนก็ตาม....หลังจากนั้นสองสามวันแคว้นมรกตกลายเป็นเหมือนขุมทองทางธุรกิจของแดนสวรรค์ใต้ภายใต้คำกล่าวที่ว่าสำหรับที่นี่หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด
แม้แต่ราชาใจสิงห์สุดยอดฝีมือก็เข้ามาขอพบเย่ว์หยางเพื่อขอมีส่วนร่วมมือด้วย
“ข้ากำลังยุ่งมาก ความร่วมมือนั้นทำได้ แต่ข้าไม่สามารถทำได้ทุกวัน!” เย่ว์หยางไม่สนใจเรื่องหาเงินเท่าใดนัก
เหตุผลก็คือเขาร่ำรวยมหาศาลอยู่แล้ว
เงินทองไม่มีความหมายสำหรับเขา
หากไม่ใช่เพราะมีเงินเขาสามารถแลกเปลี่ยนของวิเศษ หินผลึกดอกไม้ใบหญ้าสมุนไพรวิเศษที่ดีต่อใจของเขา เขาก็คงคร้านจะวิ่งไปมาที่หอทงเทียนและแคว้นมรกตวันละหลายๆ ครั้ง เขาคงไม่ต้องลำบากรับขนส่งสินค้าที่ทุกคนจัดเก็บในแหวนเก็บของและทุกฝ่ายยินดีจะแบ่งปันผลประโยชน์ให้เย่ว์หยางครึ่งหนึ่ง นอกจากเย่ว์หยางแล้วไม่มีใครมีความสามารถเดินทางจากแดนสวรรค์ใต้มาถึงแดนสวรรค์ตะวันตกในพริบตา แน่นอนว่าประตูเทเลพอร์ตไม่ใช่ว่าจะไม่มี แต่ค่าธรรมเนียมใช้เส้นทางก็เสียไปครึ่งหนึ่งแล้วทั้งต้องใช้เวลาเดินทางถึงครึ่งปี และถ้าพบเจอการปล้นชิงอาจต้องเสียเลือดเสียเนื้อกันบ้าง
ด้วยความสะดวกสบายนี้ใครจะยอมไปเป็นพ่อค้าเดินทางผู้โชคร้ายกันเล่า!
เปากู่แห่งเมืองอู๋เย่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของคุณชายไตตันมีสถานะทุกวันนี้ได้ ใครเล่าไม่รู้ว่าเขามีแคว้นมรกตหนุนหลัง?
สำหรับหอทงเทียนไม่ต้องพูดถึง พ่อค้าของหอทงเทียนอาจไม่รู้จักพ่อแม่ตนเองได้ แต่พวกเขาต้องรู้จักคุณชายสามตระกูลเย่ว์ซึ่งเป็นที่รู้จักของราชาทุกชาติพันธุ์ในอีกนามหนึ่งว่าจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่..อยากรุ่งไหม?
คิดไปเปิดหูเปิดตาในแดนสวรรค์? ต้องการให้นักรบชั้นสูงและอัจฉริยะของตระกูลมีโอกาสเติบโตก้าวหน้าอย่างดีที่สุดไหม?
ไปเลย คุณชายสามตระกูลเย่ว์หยางกำลังรอท่านอยู่ที่แดนสวรรค์ ตราบเท่าที่พวกเจ้าไปหาเขาเจ้าอาจกลายเป็นเสวี่ยทันหลางคนที่สอง มีโอกาสเป็นเย่คงคนที่สอง ไห่ต้าฟู่คนที่สอง...
พวกเจ้ายังจะรออะไรอยู่อีก?
สมาคมนักรบ สมาคมขโมย(สายลับ-นักสืบ)และสมาคมทหารรับจ้างแห่งหอทงเทียนต่างก็ใช้คำโปรยเชิญชวนเช่นนี้
ดังนั้นภายใต้การนำของเย่ว์หยางในช่วงสองสามวันมานี้เมืองลู่หลิวมีพวกฝีมือดีและผู้แทนการค้าจากหอทงเทียนหลายพันเดินทางเข้ามาทำให้เมืองลู่หลิวที่ไร้ชีวิตชีวากลับมามีชีวิตชีวาและเจริญรุ่งเรืองจนชาวท้องถิ่นอย่างพ่อบ้านเย่และหัวหน้าจินฟันทองต้องตะลึง
ราชันย์ปีศาจใต้ไม่จำเป็นต้องปกครองอะไรมากเลยนางแทบไม่ต้องทำอะไร
ผู้มีพรสวรรค์จากทุกชาติพันธุ์ในหอทงเทียนจัดการให้ทั้งหมด
สิ่งเดียวที่นางต้องทำคือไปเป็นเพื่อนเย่ว์หยางวันละสามครั้งเพื่อศึกษาหนังสือโบราณและแผนที่ขุมทรัพย์ที่เขียนไว้ในหนังสัตว์โบราณ
นางเซียนหงส์ฟ้า?
สาวมารกฎฟ้าได้ออกจักรพรรดิโองการของจักรพรรดิแดนดินเป็นครั้งแรกนางสั่งให้ราชาทั่วทั้งภูมิภาคหมื่นกว่าคนและผู้นำเผ่าพันธุ์ในภูมิภาคสวนสวรรค์ของจักรพรรดิเดิมทั้งสามกลุ่มจะต้องมารายงานตัวกับจักรพรรดิแดนดินคนใหม่ภายในหนึ่งเดือนให้ได้
มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นกบฏและต้องถูกปราบปรามทั้งหมด
“ข้าต้องอยู่ที่นี่อีกเดือนหนึ่ง เบื่อมากจริงๆ!” เย่ว์หยางส่งจดหมายไปหาหมิงลี่ฮ่าว ต่อว่าที่เขาแล้งน้ำใจ
“งั้นเราไปสำรวจตำหนักน้ำที่จมอยู่ภายใต้เมืองไป๋เหอกันดีกว่า? บางทีอาจมีสมบัติเทพเหลืออยู่ที่นั่น!” ราชันย์ปีศาจใต้นึกสงสารเย่ว์หยาง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการต้องรับภาระเป็นแรงงานหาเงินหาสินค้าสร้างรายได้นานถึงหนึ่งเดือน ดังนั้นนางจึงเสนอให้ไปสำรวจตำหนักน้ำตามตำนานเพื่อเลือกหาดูของวิเศษเป็นการปลอบโยนหัวใจที่บอบช้ำของเย่ว์หยาง
“เจ้าควรจะพาหลิวเย่ไปด้วย นางมีกวางทะลุมิตินั่นจะช่วยเหลือเจ้าได้มาก” นางเซียนหงส์ฟ้ารู้สึกว่าการล่าสมบัติเป็นแผนที่ไม่เลว
“สำรวจตำหนักน้ำ?” เย่ว์หยางคันหัวใจทันที
ทันใดนั้นเขารู้สึกได้ว่าบางทีขุมทรัพย์ที่เขียนไว้ในหนังสัตว์ในทวีปลอยถ้าเขาได้สำรวจตำหนักน้ำ บางทีอาจพบเจอขุมทรัพย์โบราณก็ได้
นอกจากนี้มีทะเลหมอกลึกลับในตำนานซึ่งจะต้องเข้าใจให้ชัด
นั่นจะเป็นพลังเทพมรดกตกทอดเหมือนอย่างที่เทพมังกรตกทอดให้สาวมังกรเจี้ยงอิงหรือไม่?หรืออาจเป็นพลังกฎสวรรค์อย่างอื่น?