ตอนที่แล้วตอนที่ 74 นายคิดว่าลู่เซิงทําลายสถิติของฉันได้ไหม?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 76 เทคนิคเคลื่อนไหวทะลวงสู่ขอบเขตลึกซึ้ง!

ตอนที่ 75 เวร! ด่านที่สองทำไมจบเร็วจัง?


ตอนที่ 75 เวร! ด่านที่สองทำไมจบเร็วจัง?

"เฟี๊ยวว—" วินาทีต่อมา ลำแสงสีแดงก็ยิงตรงไปที่ที่ลู่เซิงยืนอยู่

"อย่างนี้นี่เองฉันแค่ต้องหลบแสงเลเซอร์พวกนี้ใช่ไหม?" ลู่เซิงเอี้ยวตัวหลบข้างเล็กน้อยและลำแสงสีแดงพุ่งผ่านเขาไป

ตั้งแต่ที่เขาเข้ามา เขาก็สังเกตเห็นว่าทั่วกำแพงห้องฝึกร่างกายแห่งนี้มีรูกลมๆขนาดเท่าหัวแม่มืออัดแน่นไม่ต่ำกว่าหมื่นที่และตอนนี้ดูเหมือนว่ารูกลมๆเหล่านี้จะมีหน้าที่ในการยิงแสงเลเซอร์

"การไม่สามารถคาดเดาได้ว่าแสงเลเซอร์จะมาจากทิศทางใดถือเป็นหนึ่งในความยากลําบากในการฝึกเทคนิคเคลื่อนไหวมาก"

"แต่ความยากลําบากนี้สําหรับฉัน—ไม่มีอยู่จริง"

ลู่เซิงคิดพลางเอียงศีรษะและลำแสงสีแดงก็พุ่งเฉียดหูของเขาไปที่กำแพงตรงข้าม

พลังจิต!

พลังจิตของลู่เซิงปกคลุมห้องฝึกร่างกายทั้งหมดทำให้รับรู้ทุกการเคลื่อนไหวของแสงเลเซอร์ได้อย่างแม่นยําก่อนที่ลำแสงสีแดงจะถูกยิงออกมา เขาสามารถรู้ได้อย่างง่ายดายว่าลำแสงทั้งหมดมาจากไหน

มันเหมือนกับการโกง!

"การคาดเดาการโจมตีของศัตรูด้วยการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อและสีหน้าในระหว่างการต่อสู้ยังคงเป็นเรื่องยากสําหรับฉันในตอนนี้... แต่ถ้าเป็นเครื่องจักรพวกนี้มันไม่ยากเกินไป" ลู่เซิงยืนอยู่กลางห้องพลางคิดเรื่องนี้ในขณะที่ขยับร่างกายของเขาเพื่อหลบเลี่ยงแสงเลเซอร์ที่พุ่งมา

ท่าทางสบายๆราวกับว่าเขาไม่ได้ฝึกเทคนิคเคลื่อนไหว แต่เพิ่งตื่นเช้ามาออกกําลังกายในสวนสาธารณะ

....

นอกห้องฝึกร่างกาย กลุ่มผู้ชมมองหน้ากัน พวกเขาต่างเห็นความตกใจอย่างสุดซึ้งในดวงตาของกันและกัน

เหลือเชื่อ!

"เขาทําได้ยังไง!?"ใครบางคนอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

แต่ไม่มีใครตอบเขา

แม้แต่เหมิงจินเหอผู้ซึ่งภาคภูมิใจในการเป็นอัจฉริยะด้านเทคนิคเคลื่อนไหวและทะนงตนอย่างมากยังตกตะลึง

ห้องฝึกร่างกายใครบ้างที่เข้าไปแล้วไม่ตื่นตกใจและประหม่า?

มีเลเซอร์หลายหมื่นตัวซ่อนอยู่ในห้องฝึกร่างกายและไม่มีใครรู้ว่ามันจะยิงลำแสงออกมาเมื่อไหร่ หากไม่ระวังตัวจะถูกแสงเลเซอร์ยิงเข้าใส่และการฝึกจะหยุดลงทันที

แม้ว่าเหมิงจินเหอในตอนนี้จะผ่าน 80% ของด่านที่สองแล้ว มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถเดินเล่นแบบสบายๆเหมือนลู่เซิงได้

แค่อาจจะผ่อนคลายมากกว่าคนอื่นๆเล็กน้อยเท่านั้น

แต่ลู่เซิงในตอนนี้?

"แน่ใจนะว่าเขาเข้าห้องฝึกร่างกายครั้งแรก?" เหมิงจินเหอถามเด็กชายข้างๆเขาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

เด็กชายพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง"แน่นอนพวกเราทุกคนตามเขามาตลอดทาง"

เหมิงจินเหอหยุดพูด เมื่อมองไปที่ร่างในห้องที่เดินชิวๆภายใต้แสงเลเซอร์มากมาย เขาเริ่มสงสัยกับชีวิตของตัวเอง

ตอนนั้นเองที่เขาได้ยินใครบางคนพูดขึ้น

"ด่านแรกใกล้จะจบแล้-" ก่อนคำพูดจะจบลงเสียง"บิ๊บ"ก็ดังขึ้น

ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอนอกห้อง "เตรียมพร้อมเข้าสู่ด่านที่สอง"

ทุกคนเงียบ

....

"เด็กคนนี้ทําได้ยังไง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าห้องฝึกร่างกายจริงๆเหรอ?"

ดวงตาของฉินเส้าชุนจ้องมองลู่เซิงอย่างใกล้ชิดและพูดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ "ทำไมเขาทำเหมือนกับว่าเคยฝึกมาหลายร้อยครั้งแล้วยังไงยังงั้นเลย... อ้ะ! ไม่ๆ แม้จะฝึกมาหลายร้อยครั้งก็ไม่สามารถทําแบบนี้ได้ง่ายๆ แม้ว่าการฝึกด่านแรกจะไม่ยาก แต่ลำดับการยิงแสงเลเซอร์ของการฝึกแต่ละรอบจะไม่เหมือนกันและเขาดูเหมือนจะรู้ว่าแสงเลเซอร์ทั้งหมดมาจากทางไหน... อ้ะ! นี่ไงอีกแล้ว!"

"แปลก..." ตงชิงเสวี่ยจ้องมองไปที่หน้าจอ

สําหรับการกระทำของลู่เซิง การคาดเดาบางอย่างได้เกิดขึ้นในใจของเธอ แต่ก็ถูกเธอหยุดอย่างรวดเร็ว

"นี่ต้องเป็นสัญชาตญาณต่อสู้ สัญชาตญาณต่อสู้ของเด็กคนนี้แข็งแกร่งมาก การทําสิ่งนี้คงไม่ยากสำหรับเขา..." ตงชิงเสวี่ยอธิบายอย่างช้าๆ

ฉินเส้าชุนสาบานว่าสัญชาตญาณต่อสู้คือสัญชาตญาณต่อสู้ การรับรู้คือการรับรู้เขาสามารถแยกแยะสิ่งเหล่านี้ได้

แต่ก่อนที่เขาจะทันพูดอะไร เด็กสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาทั้งสองคน

"สวัสดีค่ะหัวหน้าผู้สอนและรองหัวหน้าผู้สอน"

เมื่อตงชิงเสวี่ยเห็นเด็กสาว ดวงตาของเธอก็อ่อนลงเล็กน้อย "เธอมาตรงนี้ ฉันจะให้เธอเห็นบางอย่าง"

หลังจากนั้นตงชิงเสวี่ยก็ทักทายฉินเส้าจุน "เข้ามาใกล้ๆ เราจะได้มองเห็นชัดๆ"

ตงชิงเสวี่ยใช้พลังจิตของเธอรับรู้สถานการณ์ในห้องฝึกร่างกายทั้งหมด

....

"ด่านแรกจบแล้วหรอ?" เมื่อได้ยินเสียงเตือนในหูของเขา ลู่เซิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ด่านแรกจบเร็วเกินไปและยังง่ายเกินไป เขายังไม่ได้ใช้เทคนิคเคลื่อนไหวจริงๆเลยด้วยซ้ำ

แล้วยังงี้ยังฝึกฝนได้อยู่ไหม?

"เอ่อสงสัยฉันคงไม่สามารถใช้พลังจิตโกงแบบนี้ได้อีกต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นห้องฝึกร่างกายนี้คงไร้ประโยชน์.."

ลู่เซิงครุ่นคิดเขาดึงพลังจิตที่ปกคลุมทั้งห้องกลับเข้ามาอย่างช้าๆ

ทันใดนั้นสีหน้าของลู่เซิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

เขาสังเกตเห็นว่าหลังจากที่เขาถอนพลังจิตออกไป พลังจิตของใครบางคนก็เข้าปกคลุมห้องฝึกร่างกายทันทีและสำรวจร่างกายของเขาอย่างไร้ยางอาย

พิจารณาจากความแข็งแกร่งของพลังจิตควรเป็นของตงชิงเสวี่ย

จู่ๆความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในใจของลู่เซิง

"ถ้าตงชิงเสวี่ยอยู่ที่นี่ ฉันสามารถใช้แผนนั้นได้..."

ในเวลาเดียวกันนอกห้องฝึกร่างกาย

ร่องรอยของความสับสนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของตงชิงเสวี่ยและเธอก็แอบพูดในใจอย่างเงียบๆ "ฉันคิดมากเกินไปจริงๆ"

จากนั้นเธอหันศีรษะไปพูดกับเซี่ยหลินข้างๆ "เธอควรสังเกตความแข็งแกร่งของลู่เซิงให้ดี เขาจะกลายเป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอในค่ายฝึกนี้..."

จากนั้นเธอก็ใช้พลังจิตแทรกซึมเข้าไปในห้องฝึกร่างกายทีละน้อย ภายใต้การรับรู้ของพลังจิตร่างของลู่เซิงดูเหมือนจะยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

เซี่ยหลินอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

"สู้ๆ เซี่ยหลินเธอทําได้! ผู้ชายคนนี้ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด จงเอาชนะเขาและปิดช่องโหว่ในใจ! สู้ๆ เธอทําได้!"

เซี่ยหลินให้กําลังใจตัวเองอย่างสิ้นหวังและมองลู่เซิงอย่างตั้งใจพลางคิดว่ารูปร่างหน้าตาของผู้ชายคนนี้ดีมาก

เธอเห็นกล้ามเนื้อที่เพรียวบางและสมส่วนกับหน้าตาที่หล่อเหลาของลู่เซิงและอดไม่ได้ที่ความคิดนี้จะผุดขึ้นในใจ

"ให้ฉันดูหน่อยเถอะ!ว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน!"

แค่แป๊บเดียว! ครั้งเดียวก็แค่สังเกตความแข็งแกร่งของลู่เซิง

เซี่ยหลินปลอบโยนตัวเองจากนั้นก็ส่งพลังจิตไปที่ลู่เซิงอย่างระมัดระวัง

ในขณะนั้นเองกระแสไฟฟ้าช็อตก็ถูกส่งกลับมาอย่างรุนแรง

เซี่ยหลินส่งเสียง"อ่า" และรีบดึงพลังจิตของเธอกลับมาอย่างรวดเร็ว

จากนั้นเธอเห็นลู่เซิงในขอบเขตสายตามองมาในทิศทางที่เธอยืนอยู่อย่างลึกซึ้งและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยคําเตือน

"ข-เขาเห็นฉันไหม? เขารู้ไหมว่าฉันกําลังสังเกตเขา?" เซี่ยหลินตกตะลึงทันทีและยืนนิ่งอยู่กับที่

"เกิดอะไรขึ้น?" เสียงสงสัยของตงชิงเสวี่ยดังขึ้นในหูของเธอ

เซี่ยหลินกลับมารู้สึกตัวและส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว"ไม่... ไม่มีอะไรค่ะ"

เซี่ยหลินไม่กล้าบอกตงชิงเสวี่ยเพราะเธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอเห็นเมื่อกี้เป็นภาพลวงตาหรือไม่

ในสายตาของเธอ ลู่เซิงยังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"หรือว่าฉันตาฝาดไป?" เซี่ยหลินคิดกับตัวเอง

แต่ว่า....

เซี่ยหลินเหลือบมองลู่เซิงและใช้พลังจิตอีกครั้ง

ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมากและยังดูน่ากลัวกว่าเมื่อก่อน ฉันควรจะอยู่ห่างจากเขา....

.....

"อะไรเนี่ย! ใช้พลังจิตกับฉันหมายความว่าอะไร? หยาบคายเกินไปแล้ว..."

มันเป็นพฤติกรรมที่ไม่สุภาพมากที่ใช้พลังจิตสังเกตผู้อื่น ในกรณีที่อีกฝ่ายเป็นผู้แข็งแกร่งและยังอารมณ์ร้ายมีแนวโน้มมากที่จะแสวงหาความตายโดยไม่รู้ตัว

ดังนั้นลู่เซิงรู้ว่าจําเป็นต้องเตือนสาวน้อยคนนี้ การใช้พลังจิตอย่างประมาทเช่นนี้เขาเดาได้ทันทีว่าต้องเป็นเซี่ยหลิน

จากนั้นเขาไม่สนใจตงชิงเสวี่ยกับเซี่ยหลินอีกต่อไปและกลับมาให้ความสนใจกับห้องฝึกร่างกายเพราะ....

ด่านที่สองได้เริ่มขึ้นแล้ว

"ฟิ้ว—" แสงเลเซอร์สีแดง 6 ดวงยิงออกไปหาลู่เซิงพร้อมกัน

เมื่อเทียบกับด่านแรกแสงเลเซอร์ของด่านที่สองมีจํานวนที่เยอะกว่าและเร็วกว่ามาก

แสงเลเซอร์สีแดงพุ่งเข้ามาอย่างเงียบเฉียบไม่มีแม้แต่เสียงส่งผ่านอากาศทำให้คาดเดาได้ยากมาก

หากไม่มีการเตือนล่วงหน้าจากพลังจิต ลู่เซิงทำได้แค่พึ่งปฏิกิริยาการตอบสนองของประสาทสัมผัสและความเร็วของร่างกายเพื่อหลบเท่านั้น

ผ่าน 10%...

ผ่าน 20%...

ผ่าน 30%...

ลู่เซิงผ่าน 80% แรกของด่านที่สองอย่างใจเย็น

จนกระทั่งหลังจาก 80%

สีหน้าของเขาเริ่มจริงจังขึ้นเล็กน้อยแต่แค่เล็กน้อยเท่านั้น

เทคนิคเคลื่อนไหวที่ยังติดอยู่ในคอขวดที่สองสามารถผ่านด่านที่สองนี้ได้อย่างสบาย ท้ายที่สุดการต่อสู้กับซอมบี้ที่ทรงพลังเหล่านั้นในโลกความฝันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

การเดินไปมาท่ามกลางฝูงซอมบี้ยังน่าตื่นเต้นกว่าการหลบแสงเลเซอร์ในห้องฝึกร่างกายนี้เสียอีก

เมื่อจํานวนแสงเลเซอร์เพิ่มขึ้น เขาก็ยิ่งเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเช่นกัน

ลู่เซิงค่อยๆรู้สึกว่าเทคนิคเคลื่อนไหวที่ติดอยู่คอขวดที่สองคลายลงราวกับว่าแค่เพิ่มแรงกดดันอีกเล็กน้อยเขาสามารถทะลวงมันได้อย่างง่ายดาย

แต่ในขณะที่ลู่เซิงกำลังคาดหวังอย่างตื่นเต้นอยู่นั้น

แสงเลเซอร์หยุดลงกะทันหัน

"ติ๊ง-" ลู่เซิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว

เวร! ด่านที่สองทำไมจบเร็วจัง....

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด