ตอนที่ 27 ออกเดินทางสู่สถานที่ลึกลับ
ตอนที่ 27 ออกเดินทางสู่สถานที่ลึกลับ
อาจารย์หมอผีไบรเซนที่กำลังดื่มด่ำกับชาถ้วยโปรดพร้อมกับศึกษาอักขระวิญญาณไปด้วย โดยที่นั่งฝั่งตรงข้ามนั้นมีอาจารย์หมอผีไรเกอร์ผู้ซึ่งดูแลเรื่องการลงทะเบียนเรียนของเหล่าศิษย์ ตามปกติศิษย์ใหม่จะเข้ามาสี่ถึงห้าวันครั้ง อาจารย์หมอผีไรเกอร์เลยมีเวลาว่างค่อนข้างมาก และในเวลาว่างเขาก็มักจะมาพูดคุยกับอาจารย์หมอผีไบรเซนอยู่เป็นประจำ
“ข้าได้ข่าวว่าวันนี้อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่ได้เข้าไปแทรกแซงที่กองผู้คุมกฎระเบียบด้วย” อาจารย์หมอผีไรเกอร์กล่าวขึ้นลอย ๆ
“เจ้านั่นคิดกำลังทำอะไรอีก” อาจารย์หมอผีไบรเซนกล่าวด้วยความสนใจ ปกติแล้วในสถาบันมักมีการแบ่งแยกฝ่ายกันอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติของสังคมที่ดำเนินการโดยมนุษย์
“เห็นว่าศิษย์ใหม่ที่เขาภูมิใจในช่วงนี้สร้างปัญหาขึ้น ศิษย์ส่วนตัวส่งคนสนิทไปทำร้ายศิษย์ใหม่ แต่ว่าศิษย์ใหม่ผู้นี้น่าสนใจ เพราะเขาเหมือนจะเป็นผู้จารึกตั้งแต่อายุยังน้อย แม้แต่ระดับพลังก็ยังคลุมเครือด้วย”
“คลุมเครือ แข็งแกร่งหรืออ่อนแอ” อาจารย์หมอผีไบรเซนยกถ้วยชาขึ้นจิบ
“ก็ไม่เชิง ในรายงานที่ข้าเข้าไปอ่านเห็นบอกว่าน่าจะกลายเป็นหมอผีฝึกหัดระดับ 1 แต่ว่ายังไม่ได้ไปรายงานตัวเอาผ้าคลุม แต่ที่น่าสนใจจริงคือเขาเป็นผู้จารึก” อาจารย์หมอผีไรเกอร์กล่าว
“ผู้จารึกที่มีพลังหมอผีฝึกหัดระดับ 1 ข้าขอชื่อของเขาหน่อย” อาจารย์หมอผีไบรเซนวางถ้วยชาในมือลงทันที
อาจารย์หมอผีไรเกอร์กดไปที่หน้าจอที่โต๊ะไม่นานก็ปรากฏใบหน้า ชื่อและข้อมูลของลีโอ
“เด็กคนนี้” อาจารย์หมอผีไบรเซนเผยความประหลาดใจบนใบหน้าอย่างชัดเจน
“น้อยนักที่เห็นท่านแสดงสีหน้าเช่นนี้ หรือว่ารู้จักกับเด็กผู้นี้”
“ก็ประมาณนั้น ดูเหมือนข้าจะต้องไปดูเขาสักหน่อย” อาจารย์หมอผีไบรเซนกล่าวและเตรียมจะลุกขึ้นเพื่อเดินทางไปที่แผนกผู้คุมกฎระเบียบ
อาจารย์หมอผีไรเกอร์ยกมือห้าม
“ท่านคงไม่ได้เจอตัวเขาในตอนนี้หรอก”
“หมายความว่าอย่างไร”
“เขาถูกส่งตัวไปยังเหมืองมรณะแล้ว”
“เหมืองมรณะ ไบรเซนช่างใจแคบนัก แต่ในเมื่อไปแล้วก็คงทำอะไรไม่ได้” อาจารย์หมอผีไบรเซนกล่าวอย่างเสียดาย
“ท่านคิดจะรับเขาเป็นศิษย์อย่างนั้นเหรอ” อาจารย์หมอผีไรเกอร์มองด้วยความตกใจไปทางอาจารย์หมอผีไบรเซน
“ถ้าเขารอดกลับมาข้าจะทดสอบเขาด้วยทนเอง”
“แต่เขาเป็นผู้มีพรสวรรค์ระดับ 2 เท่านั้นหรือท่านลืมไปแล้ว”
“ตอนแรกข้าก็คิดเช่นนั้น แต่ว่าเจ้าบอกว่าเขาคือหมอผีฝึกหัดระดับ 1 ที่เขียนยันต์ได้ ข้าคิดว่าเขาอาจจะเป็นเผ่านั้นก็ได้” อาจารย์หมอผีไบรเซนถามกลับ
อาจารย์หมอผีไรเกอร์เงียบไป ก่อนจะถาม “ท่านมั่นใจว่าเขาคือคนที่มีสายเลือดเผ่านั้นจริง ๆ เหรอ”
“ข้าไม่รู้ ถึงได้บอกว่าอยากจะเจอกับเขาก่อน”
ทั้งสองคนไม่พูดอะไร แต่กำลังไตร่ตรองอยู่เงียบ ๆ
...
เหนือน่านฟ้าบนดาวอังคาร ยานเหาะบินด้วยความเร็วสูงตรงไปทิศเหนือของสถาบันเอลาเดียที่ตั้งอยู่ทางสุดขอบของภูเขาไฟโอลิมปัส
ลีโอไม่รู้ว่ายานขนส่งลำที่เขานั่งมาพร้อมกับคนอื่น ๆ นั้นบินไปไกลแค่ไหน เนื่องจากรอบตัวนั้นมืดมาก เพราะเป็นเวลากลางคืน
แต่จากความเร็วและระยะเวลาคงจะแค่ไม่กี่ร้อยกิโลเมตรเท่านั้น
แม้ดาวอังคารจะเจริญมากเพราะเป็นสถานที่ตั้งของสหพันธรัฐ แต่ก็ใช่ว่าทุกที่นั่นจะมีผู้คนอาศัย ซึ่งหนึ่งในสถานที่ลีโอกำลังไปก็เป็นดินแดนรกร้างที่สหพันธรัฐไม่คิดจะเข้าไปบุกเบิกและยอมมีเหตุผลปกปิดอยู่เบื้องหลัง
ยานค่อย ๆ ลดความเร็วลง ก่อนที่จะจอดสนิทอยู่บนพื้นที่รกร้างที่มีพื้นดินมีส่วนประกอบเป็นเหล็กและนิกเกิลจึงดูแดงไปหมด
“เตรียมลงจากยาน”
เสียงนักบินสั่งการพร้อมกับสัญญาณเตรียมตัว พวกเขาทุกคนไม่มีสัมภาระอะไรมานอกจากตัวเอง ลีโอหันมองรอบกาย กำยันต์ในมือแน่น เพราะรู้สึกว่าด้านนอกนั้นน่าสยองอย่างบอกไม่ถูก
“น่ากลัวใช้ไหมล่ะ” แมงมุมดำหันมากล่าวกับลีโอด้วยรอยยิ้ม
ลีโอเพียงหันกลับไปมองด้วยใบหน้านิ่งเฉย
“เย็นชาซะจริง ๆ” แมงมุมดำบ่นเบา ๆ ด้วยท่าทางน้อยใจแต่เห็นได้ชัดว่านางนั้นแกล้งทำ
ลีโอก็ยังเฉยชา เขาจดจ่ออยู่กับประตูยานที่กำลังจะเปิดออก
การเดินทางมาในครั้งนี้มีอาจารย์หมอผีมาด้วยคนหนึ่ง เขาคือคนที่จะมาเปลี่ยนเวรกับอาจารย์หมอผีที่เฝ้าอยู่ที่นี่ ซึ่งจะคอยสลับกันไปแบบนี้
ในครั้งนี้ผู้ที่มากับลีโอและหมอผีฝึกหัดของสถาบันอีก 7 คนนั้นคืออาจารย์หมอผีแกสทอน
“พวกเจ้าฟังให้ดีสถานที่พวกเจ้าต้องไปนั้นคือเมืองมรณะที่นี่อันตรายมาก แม้แต่กับหมอผีแท้จริงเองก็ตามหลังจากลงมาจากยานแล้วให้เดินตามข้ามา อย่าได้แยกตัวออกไปลำพังโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะเจ้า”
อาจารย์หมอผีแกสทอนหันมาย้ำเตือนลีโอเป็นพิเศษเพราะว่าในบรรดาคนทั้งหมดที่นี่ลีโออยู่ระดับต่ำที่สุด
“เข้าเข้าใจแล้วท่านอาจารย์” ลีโอกล่าวเบา ๆ และแววตาระมัดระวัง ในที่สุดลีโอก็รู้ถึงสถานีที่ต้องไปแล้ว เพียงแค่ชื่อก็น่ากลัวแล้ว เมืองมรณะที่เป็นอันตรายแม้แต่หมอผีแท้จริง ดังนั้นเขาที่เป็นหมอผีฝึกหัดระดับ 1 นับว่าโคตรอันตรายจริง ๆ
“ไป ๆ ๆ” นักบินตะโกนบอกทันทีที่ประตูยานเปิด
“ไป”
อาจารย์หมอผีแกสทอนบอกกับคนด้านหลังและออกไปจากยานเป็นคนแรก
คนอื่นๆ รีบตามลงไปอย่างรวดเร็วลีโอก็ตามไปด้วยเช่นกัน
พอออกมานอกยานลีโอก็พบว่าด้านนอกนั้นลมแรงเป็นอย่างยิ่งแถมยังมีพายุฝุ่นตลอดเวลา ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นจำกัดแค่ไม่กี่เมตรเท่านั้น พวกเขาแต่ละคนนั้นดึงเสื้อคลุมของตนเองขึ้นมาปิดศีรษะและบังฝุ่นที่พัดเข้ามาใส่
ลีโอนั้นไม่มีเสื้อคลุมเขาจึงได้แต่เอามือปิดหน้าไว้และตามคนอื่นไปไม่ห่าง
ตามทางเดินที่พวกเขามุ่งหน้าไปกันนั้นมีแสงไฟที่พื้นคอยนำทาง ลีโอยังเห็นว่ามีหุ่นยนต์ที่ขนของวิ่งไปตามทางเข้าไปยังสถานที่หนึ่ง นี่เป็นของที่ขนมาพร้อมกับยาน ซึ่งเป็นเสบียงอาหารให้กับผู้คนในสถานที่ซึ่งลีโอกำลังไป
ลีโออาศัยการเดินไปแอบข้าง ๆ หุ่นยนต์เหล่านั้น เพื่อช่วยบังกระแสลมที่พัดเข้ามาโดนตัว
เหล่าหมอผีฝึกหัดระดับ 2 ก็ทำคล้าย ๆ ลีโอ แต่พวกหมอผีฝึกหัดระดับ 3 นั้นไม่ได้สะทกสะท้านต่อลมแค่นี้ ร่างกายของพวกเขามีรูนจิตจำนวนมากที่คอยขัดเกลาร่างกายมานานหลายปี ทำให้พละกำลังของหมอผีฝึกหัดเหล่านี้แข็งแรงกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า
ยิ่งไปต้องพูดถึงอาจารย์หมอผีแกสทอนเลย เขาเดินด้วยลำตัวตั้งตกราวกับว่าสายลมยังต้องหลบออกจากกายของเขา
ลีโอค้นพบว่ารอบตัวของอาจารย์หมอผีแกสทอนนั้นมีพลังจิตปกคลุมเป็นชั้นเคลือบบาง ๆ อยู่
เดินไปไม่ถึง 100 เมตรในที่สุดพวกเขาก็มาถึงประตูเหล็กขนาดใหญ่ที่ตั้งติดเข้าไปในภูเขา อาจารย์หมอผีแกสทอนเดินเข้าไปสแกนตัวตนที่หน้าประตู ทำให้ประตูเหล็กขนาดใหญ่ด้านหน้าพวกเขาแยกออกจากกัน
ทั้งหมดรีบเข้าไปด้านใน พวกเขาพบว่าด้านในนั้นมีกลุ่มคนยืนรออยู่แล้ว คนพวกนี้คือหมอผีของสถาบันเอลาเดียที่จะกลับไปพร้อมกับยาน
อาจารย์หมอผีแกสทอนเดินเข้าไปพูดคุยกับอาจารย์หมอผีคนหนึ่ง ก่อนจะพากลุ่มของลีโอเดินลึกเข้าไปด้านใน หุ่นยนต์แยกไปลงทางช่องส่งของ ส่วนพวกลีโอเข้าไปยังทางขนส่งคน
ระหว่างที่เดินสวนกันไปกับอีกกลุ่มลีโอก็สังเกตเห็นว่าในกลุ่มคนพวกนั้นเต็มไปด้วยบาดแผล บางคนก็หวาดกลัวและรีบเดินออกไปจากที่นี่ ขณะที่บางคนสายตาที่มั่นคง ลีโอแยกคนเหล่านี้ออกได้อย่างรวดเร็ว หนึ่งคือพวกที่อ่อนแอและอีกพวกคือคนที่แข็งแกร่ง
อาจารย์หมอผีแกสทอนพาทุกคนขึ้นไปนั่งยังพาหนะที่คล้ายกับรถไฟใต้ดิน
“หาที่นั่งแล้วรัดเข็มขัดให้ดีพวกเราจะนั่งรถไฟลงไปยังทางหุบเหวเพื่อไปที่เหมืองมรณะกัน” อาจารย์หมอผีแกสทอนกล่าวบอกกับทุกคน
พวกเขารีบหาที่นั่งลีโอนั่งติดขอบหน้าต่าง รถไฟวิ่งออกไปด้วยความเร็วสูงสุด ค่อย ๆ ลดระดับต่ำลงจากพื้นดินลีโอมองออกด้านนอกมันมืด มีแต่ฝุ่น แต่เขาก็ยังสามารถเห็นภูมิประเทศที่เห็นหุบเหวได้และตอนนี้พวกเขาก็ลงไปด้านล่างเรื่อย ๆ
ตอนนั้นเองลีโอก็มองออกไปนอกหน้าต่าง พริบตานั้นเขาเหมือนเห็นว่ามีเงาอยู่ด้านนอก แต่เพราะความเร็วของรถไฟที่วิ่งอยู่จึงไม่อาจจะยืนยันได้ว่าเขาเห็นจริง ๆ หรือตาฝาดไปกันแน่
‘ไม่ข้าเห็นจริง ๆ เป็นผีแน่นอน’
ตั้งแต่มาถึงลีโอใช้การมองผ่านดวงตาผนึกเทพมาตลอด เขาเห็นชัดว่าเงานั้นมีอนุภาควิญญาณจับตัวกันคล้ายกับพวกวิญญาณ
‘สถานที่นี่มีผีจริง ๆ ด้วย’ ลีโอรู้สึกกลัว แต่ก็คาดหวังขึ้นมาเช่นกัน เขาอยากจะจับพวกมันเข้ามาขังในมิติดวงตาผนึกเทพเพื่อดึงอนุภาควิญญาณมาหล่อเลี้ยงที่นี่
หลังจากนั่งรถไฟลงมาประมาณ 10 นาทีในที่สุดพวกเขาก็มาถึงพื้นเบื้องล่างสุดที่ถูกเรียกว่า ฐานที่มั่น
ทุกคนรีบลงจากรถไฟในตอนนี้มันไม่มีพายุฝุ่นที่รุนแรงเช่นด้านบนอีกแล้ว แต่บรรยากาศที่นี่ทั้งอับชื้นและหนาวมากจริง
ลีโอกำชับเสื้อของตนเองเบา ๆ แม้แต่ขนาดชุดที่ใส่กันความหนาวได้ดียังเอาไม่อยู่
หลังจากออกมาจากรถไฟลีโอก็เห็นว่าสถานที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างมากมาย และมีผู้คนเดินไปมาอยู่บ่อย ๆ แทบทั้งหมดนั้นเป็นหมอผีฝึกหัดทั้งสิ้น จะมีบ้างที่เป็นหุ่นยนต์และคนธรรมดา
“คนธรรมดา” ลีโอพูดขึ้นมาอย่างประหลาดใจ
“เอาละพวกเจ้ามาที่นี่แล้วตามข้าไปรายงานตัวและรับหน้าที่ของพวกเจ้าพร้อมกับทำความเข้าใจเมืองแห่งนี้ที่จะเป็นบ้านของพวกเจ้าไปอีกนาน” อาจารย์หมอผีแกสทอนกล่าวกับพวกเขาและพาไปยังอาคารสูง 3 ชั้นที่อยู่ไม่ไกล
หลังจากเข้ามาในอาคารก็ใช้กุญแจยืนยันตัวตนที่ห้อยกับคอเพื่อรายงานตัว จากนั้นทุกคนก็ได้รับห้องมา โดยข้อมูลงานทั้งหมดก็ได้มาด้วย
ลีโอกลับไปยังห้องของเขาเช่นเดียวกันคนอื่น ๆ ที่แยกกันไป พวกเขามีเวลาปรับตัวจนถึงเช้าของอีกวันเพื่อเริ่มงาน
ลีโอเปิดข้อมูลสิ่งที่เขาต้องทำเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว