ตอนที่ 1000 หมอกซ่อน?
วันต่อมา
เย่ว์หยางพานางเซียนหงส์ฟ้าราชันย์ปีศาจใต้และหลิวเย่ผ่านท่าเรือตะวันออก
การเดินแยกจากไปของเขาทำให้เฒ่าเถี่ยเหมาซึ่งแต่เดิมก็สงสัยอยู่แล้วยิ่งสงสัยมากขึ้น เขารู้สึกว่านั่นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เขาแยกจากไปได้ยังไง? นี่คือนักธุรกิจผู้มาทำธุรกิจในเมืองไป๋เหอหรือ? อย่างไรก็ตามมีนักธุรกิจในโลกนี้ที่ทรงพลังอย่างมากได้ยังไง?
“พวกเขามาทำธุรกิจอะไร?” เฒ่าเถี่ยเหมาอดไปถามคนสอดแนมที่ตามสืบดูเย่ว์หยางมิได้
“ธุรกิจอัญมณี พวกเขามีอัญมณีมานับไม่ถ้วน ในเมืองไป๋เหอพวกเขาไปพบกับหอการค้าขนาดใหญ่มากกว่าสิบแห่งเพื่อขายอัญมณีที่งดงามหลากสีในราคาที่สูงกว่าโลกภายนอก30% อ่า..นอกจากขายอัญมณีหลากสีสันจากมาตุภูมิของพวกเขาพวกเขายังรับซื้อแร่หายากและสูงค่าเป็นพิเศษ เช่นแร่ดอกสายฟ้าแร่หยดเพลิงเป็นต้น แต่ว่าให้ตายเถอะเจ้าหนุ่มน้อยหน้าขาวสวมหน้ากากเงินแม้ว่าหัวหน้าผู้คุ้มกันของเขาจะมีพลังที่ไม่สูง แต่ดวงตาของเจ้าเด็กนั่นร้ายกาจมาก เขาได้ค้นคว้าอัญมณีและแร่ต่างๆ มามาก พ่อค้าเร่หลายรายยากจะแยกแยะระหว่างอัญมณีจริงและปลอมแต่เจ้าเด็กนั่นแยกแยะได้อย่างรวดเร็ว” ฝูโหย่วนำทางเขาไปยังหอการค้าในเมืองไป๋เหอมากมายหลายแห่ง แม้ว่าจะแค่เพียงวันเดียว แต่ก็ได้รับข้อมูลมาเป็นจำนวนมาก
“เขาบอกไหมว่าจะไปที่ใดต่อ?” เฒ่าเถี่ยเหมาลูบคางไตร่ครองชั่วขณะและถาม
“ตารางเวลาของคนพวกนี้แทบไม่มีเป้าหมายชัดเจนคือบรรดาสาวๆ ของเขาอารมณ์เกรี้ยวกราดข้าไม่กล้าสอบถามเป้าหมายที่ต่อไปของพวกเขา แต่ข้าได้ยินมาจากพวกหอการค้าว่า พวกเขามาจากภูมิภาครกร้างที่แปด” เฒ่าเถี่ยเหมารับฟังรายงานอย่างละเอียด
“ภูมิภาครกร้างที่แปดเป็นพื้นที่มีภูเขาสูงใหญ่กว้างไกลหลายสิบลูก เป็นแหล่งผลิตอัญมณีสีสันต่างๆ” คนผู้เหมือนกอริลลาดูเหมือนจะมีความเข้าใจพื้นที่บางส่วนในภูมิภาครกร้างที่แปด
“แต่ดูเหมือนจะไม่มียอดฝีมือสตรีที่มีชื่อเสียงที่นั่น!” มนุษย์กุ้งรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
“อาจจะเป็นตระกูลเร้นลับก็ได้ แค่เหลือบมองก็รู้ว่าเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงจะแตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป!” บุรุษหัวโล้นผู้มีมือเหมือนปลาหมึกสรุป
“เป็นไปได้ไหมว่านั่นคือจักรพรรดินีเทียนฟานางเพิ่งจะออกจักรพรรดิโองการไปได้ไม่นาน?” บางคนกระซิบขึ้น เพราะข้อสงสัยนี้ไร้เหตุผลรองรับ ในที่สุดเขารู้สึกขัดเขินและพูดเสียงอ่อยลง จักรพรรดินีเทียนฟาตอนนี้อยู่ที่เมืองลู่หลิวที่บึงหยุดลมรอพบกับราชาในเขตภูมิภาคสวนสวรรค์ เป็นไปไม่ได้ที่จะมายังเมืองไป๋เหอ
ประการแรกนางไม่มีเป้าหมายอยู่ที่นี่ นางจะมาทำอะไร?
ชื่อจักรพรรดินีเทียนฟาไม่เคยปรากฏในภูมิภาคสวนสวรรค์ นางต้องเป็นคนนอกคิดว่านางจะรู้เรื่องในภูมิภาคสวนสวรรค์สักเท่าใด?
คาดว่านางเป็นนักสู้ผู้แข็งแกร่งที่ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ฝึกไว้อย่างลับๆ เพราะจักรพรรดิเสิ่นกวงและจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วตายแล้ว จักรพรรดิฟู่โฉวเนรเทศตนเองออกไปก่อนนั้น จากนั้นนางจึงเข้าควบคุมเขตนี้ สตรีนางหนึ่งแม้ว่านางจะแข็งแกร่งแต่ถ้าไม่มีสุดยอดนักสู้ฝีมือดีหนุนหลังนาง นางจะยึดภูมิภาคสวนสวรรค์ที่ใหญ่โตกว้างขวางขนาดนั้นได้อย่างไร
ถ้าไม่มีตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์หนุนอยู่ด้านหลังนางจะอยู่ในตำแหน่งจักรพรรดิแดนดินได้หรือ?
ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นคนของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ นางจะกล้าหยิ่งผยองมากนักหรือ ก่อนที่จะมีคนยอมรับ จักรพรรดิแดนดินมีคำสั่งเรียกประชุมราชาทั่วภูมิภาคสวนสวรรค์?
ประการที่สองจักรพรรดินีเทียนฟาไม่มีเวลามายังเมืองไป๋เหอ
แม้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ราชาทั้งหมดจะยอมเชื่อฟัง จะต้องมีราชาจำนวนมากมาชมดูความสนุกยอมรับจักรพรรดิแดนดินคนใหม่ที่มีตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์หนุนหลัง นางจะต้องอยู่ที่เมืองลู่หลิวเพื่อเป็นเจ้าภาพรับสถานการณ์เมืองไป๋เหอไม่ได้อยู่ในใจกลางศูนย์กลางของอำนาจ ต้องบอกว่าอยู่แนวหลัง เป็นแผ่นดินสันติภาพ ทำไมจักรพรรดินีเทียนฟาจะต้องมายังเมืองไป๋เหออย่างไม่มีเหตุผล? จุดที่สำคัญที่สุดก็คือเมื่อเมืองไป๋เหอที่นี่เป็นสถานที่ที่คนในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องการตกเป็นที่สนใจ ความลับของเมืองไป๋เหอจะถูกซ่อนอยู่ในหมอกลึกลับเสมอและนางไม่ควรเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้หรือไม่ควรย่างเท้าเข้ามาที่นี่ควรปล่อยให้ที่นี่เป็นดินแดนที่ถูกลืม
“ผลของการคาดเดาไม่จำเป็นต้องถูกต้อง แต่การกล้าคาดเดานั้นคุ้มค่า บ่อยครั้งที่ความจริงเป็นเรื่องที่คาดคิดไม่ถึง ถ้าทุกอย่างเป็นไปไม่ได้อย่างนั้นนับเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่”ใบหน้าของเฒ่าเถี่ยเหมามีทั้งรอยย่นสลับกับรอยยิ้มมองดูไม่ต่างจากคนแก่ทั่วไป เขาตบไหล่กระตุ้นคนอื่น “แม้ว่าจะไม่ถูก แต่ต่อไปเจ้าต้องกล้าคิด ใช้สมองอย่างยืดหยุ่นจึงจะหาคำตอบเจอ...”
หือ?
ระหว่างที่พูดคุยจู่ๆมนุษย์กุ้งมังกรก็ร้องลั่น
เขายกแขนผอมๆชี้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และตะโกน “กลับมาแล้ว เรือกลไฟที่เพิ่งจากไป กลับมาแล้ว!”
เฒ่าเถี่ยเหมาหน้าบึ้ง
ในท่ามกลางหมอกจางที่ห่างไกลบนผิวน้ำทะเลเรือสินค้ารูปพระจันทร์เสี้ยวแหวกผ่านหมอกตรงมายังเมืองไป๋เหอเหมือนกับว่ามีสัตว์ประหลาดไล่หลังพวกเขา
หลังจากนั้นไม่นานเรือสินค้าของหญิงสาวที่ขายอัญมณีหลากสีสันและเรือสินค้ามากกว่าสิบลำแล่นตามหลังด้วยความเต็มที่จนกระทั่งถึงเมืองไป๋เหอ เฒ่าเถี่ยเหมาเห็นเช่นนี้ตอนแรกเขาขมวดคิ้ว จากนั้นค่อยผ่อนคลายมากขึ้นเล็กน้อย เขารีบพากลุ่มของเขาเหาะขึ้นไปรับหน้าพลางตะโกนเสียงดัง “พวกท่านปลอดภัยแล้ว โปรดอย่าตื่นเต้น ยินดีต้อนรับสู่เมืองไป๋เหอ พวกท่านปลอดภัยแล้ว....เกิดอะไรขึ้นข้างหน้า? มีเรือโจรสลัดหรืออสูรทะเล?”
เจ้ากบอ้วนยืนคำนับ แต่สีหน้าของเขาดูย่ำแย่
เหมือนไม่อยากจะตอบ
เหล่าพ่อค้าเรือยาวแคบแล่นมาเทียบท่าโดยตรงและเฒ่าเถี่ยเหมามองเห็นรวมทั้งสตรีสองพี่น้องลึกลับที่คาดกันว่าน่าจะมาจากตระกูลสูงส่งใบหน้าคลุมด้วยผ้าคลุมที่มองทะลุผ่านได้นับว่าไม่ธรรมดา ยกเว้นพวกสตรีอีกคนหนึ่งและผู้คุ้มกันทั้งหมดมีสีหน้าตื่นตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะเผชิญกับสัตว์ประหลาดที่ไม่สามารถสู้ได้
คำตอบนี้ได้รับการเฉลยโดยซือตงพ่อค้าทาสที่หนีกลับมาได้
ซือตงมีรูปลักษณ์ที่ประหลาดแขนขาสั้นแต่ท้องมีขนาดใหญ่กว่าสตรีมีครรภ์ ใบหน้าของเขาดูทรงพลังพอๆ กับราชาที่มีอำนาจ โดยเฉพาะหนวดของเขาโค้งงอ หากมองหน้าจะรู้สึกว่าบุคคลผู้นี้ไม่ธรรมดา แต่น่าเสียดายที่ความสูงเป็นโศกนาฏกรรมของเขา ถ้าเป็นธรรมดาหน้าตาเขาอาจจะดูดี แต่พอเป็นเช่นนี้ทำให้เขาดูตลกมาก
“ไอ้หมอกซ่อนบ้าบอนี่ หมอกซ่อนที่ไม่เคยปรากฏนอกเมืองไป๋เหอ แต่ตอนนี้ช่องปลอดภัยสุดท้ายหายไปแล้ว”
เจ้ากลุ่มค้าทาสสบถด่าลั่น
เขาได้ทำการนัดหมายกับหอการค้าใหญ่หลายแห่งในเมืองไป๋เหอใช้เรือความเร็วสูงสุดบรรทุกทาสหมื่นคน
ตอนนี้เพราะหมอกซ่อนที่น่ากลัวกลืนกินทุกอย่าง เขาจะต้องกลับไปยังเมืองไป๋เหอในอีกวันหรือสองวันให้ได้ ดวงตาของเฒ่าเถี่ยเหมามีแววลึกซึ้ง
ไม่ได้ฉายแววประหลาดใจออกมา
บุรุษมนุษย์กุ้งคนหัวโล้นแขนปลาหมึกและมนุษย์กอริลลา หลังจากได้ยินคำว่าหมอกซ่อนแล้วพายิ้มด้วยสีหน้าแปลกประหลาดดูเหมือนว่าพวกเขาไม่เชื่อว่าจะเป็นความจริง แต่พวกเขาไม่ได้คัดค้านแก้ไขให้ถูกต้อง หัวหน้าค้าทาสใหญ่ซือตงระบายความโกรธที่อัดแน่นในอก ในที่สุดเฒ่าเถี่ยเหมายิ้มและตอบอย่างใจเย็น “ท่านซือตง ท่านแน่ใจนะว่านั่นเป็นหมอกซ่อน? ท่านรู้ไหมเราไม่เคยเห็นหมอกซ่อนเข้ามาใกล้เมืองไป๋เหอเลย ที่นี่ปลอดภัยราวกับสรวงสวรรค์”
“เจ้าคิดว่าข้าโกหกหรือ? ทำไปแล้วมีอะไรดีสำหรับข้าเล่า?ข้าไม่เคยเจอหมอกซ่อนมาเหมือนกันเจ้ารู้ไหมว่าข้าต้องจ่ายเงินไปมากเท่าใดในหลายวันมานี้? โธ่เว้ย ข้าใช้เรือขนส่งทาสหมื่นคนอย่างรวดเร็วที่สุด ทุกๆ วันข้าทำรายได้ให้ถึง 5% รู้ไหมว่าเป็นรายได้เท่าใด นั่นจำนวนเงินมากที่สุดที่เจ้าไม่สามารถหาได้เลยตลอดชีวิตมันเป็นเพราะหมอกซ่อนทำให้ข้าต้องอยู่ในที่แบบนี้ นี่พวกเจ้าคิดว่าข้ากลัวมันหรือ ไม่ว่าพวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ที่ผิวทะเลห่างจากที่นี่ไม่ถึงสองหมื่นเมตรข้าเห็นเรือสองลำแล่นเข้าไปในหลุมดำ และถูกหมอกซ่อนกลืนกินทันทีไม่เหลือแม้แต่กระดูกให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นชาวเรือหรือนักเดินทางทุกอย่างหายไปหมดเจ้ากล้าบอกว่าหมอกซ่อนไม่มีอะไรหรือเปล่า?” ซือตงยิ่งพูดก็ยิ่งโมโหและตะโกนใส่เฒ่าเถี่ยเหมา
“ท่านซือตง เราจะส่งคนออกไปค้นหาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะหาได้เพื่อให้สัญจรไปมาได้อย่างปลอดภัย โปรดอย่างกังวล” เฒ่าเถี่ยเหมายิ้มถ่อมตน
“ต่อให้เจ้าบอกข้าว่าหมอกซ่อนสงบลงข้าคงไม่กล้าไป ใครจะรู้เล่าหมอกซ่อนเป็นสิ่งที่เอาแน่นอนไม่ได้ แม้ว่าข้าผู้นี้จะชอบเงินเป็นที่สุด แต่คำพูดของพวกบ้านนอกอย่างพวกเจ้าไม่กี่คำจะให้ข้าเอาชีวิตมาเสี่ยงนั่นเป็นไปไม่ได้!” ซือตงไปทันที
เฒ่าเถี่ยวเหมาไตร่ตรอง
เขาเงียบอยู่นานโดยไม่พูดอะไร
มนุษย์กุ้งกระซิบ “นั่นไม่ใช่หมอกซ่อนแน่ นั่นต้องเป็นผลอะไรสักอย่าง...”
นอกจากบุรุษหัวโล้นแขนปลาหมึกและมนุษย์กอริลลาพวกเขาทำงานกันหนัก พวกเขาพยักหน้าพร้อมกัน ใบหน้าของพวกเขาแสดงออกว่ามีความสุขเหมือนกับว่าเป็นวันที่ดี
ผู้เฒ่าเถี่ยเหมาถลึงตา “หุบปาก เจ้าไม่ควรพูดต่อหน้าคนอื่น นี่เป็นความลับสุดยอด อย่างไรก็ตามหากผลบังคับที่มีประสิทธิภาพจริง ก็ต้องเพิ่มการปกป้องความลับนี้ เราต้องรายงานให้ทันเวลาเพื่อที่หลีกเลี่ยงการสูญเสียโดยไม่จำเป็น พวกเจ้าอยู่ที่นี่คอยเตือนพวกเดินเรือทุกคน จำเอาไว้อย่าพูดคำเหล่านั้นออกมาอย่างเด็ดขาด!”
ฝูโหย่วกล่าว “แล้วข้าจะทำยังไงต่อ สองสาวพี่น้องกลับมา พวกนางสังเกตว่าข้าอยู่ในกลุ่มของพวกท่าน พวกนางอาจสงสัยได้”
“รอบนี้เจ้าไม่ต้องไปอีกแล้ว ไปตามฝูผิงน้องสาวของเจ้ามาเป็นมัคคุเทศก์ให้พวกเขา พวกนางเป็นสตรีด้วยกันน่าจะระมัดระวังตัวน้อยลง หากพวกเขาไม่ได้มาเพื่อสิ่งนั้นเราไม่ต้องไปกระตุ้นความสนใจของพวกเขา ในอีกวันหรือสองวัน ข้าจะหาคนไปคุยกับพวกเขาเพื่อพูดคุยธุรกิจเพิ่มเติมกับพวกเขา พวกเขาชอบทำเหมืองดอกสายฟ้า เราจะรวบรวมแร่ดอกสายฟ้าไปขาย เพื่อไม่ให้พวกเขามีความสนใจมากเกินไป” ในที่สุดเฒ่าเถี่ยเหมา ก็ยังไม่ลืมย้ำ “ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาต้องรายงานข้าตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีผู้แข็งแกร่งที่สุด อย่ามองข้ามนางเด็ดขาด”
“แล้วเจ้าหนุ่มหน้าขาวนั่นเล่า?ไปอยู่ไปที่ไหน?” คนแขนเหมือนปลาหมึกถามอย่างระมัดระวัง
“ถ้าเขาเป็นพวกเจ้าสำราญก็ให้ส่งหญิงงามคนหนึ่งไปให้เขา! ไม่ว่าจะเป็นสาวงามหรือทรัพย์สินเงินทองตราบใดที่เขายินดีจะรับสินน้ำใจไว้ เราจะพยายามเอาใจเขาให้มากที่สุด” เฒ่าเถี่ยเหมาสั่งเสร็จ ลักษณะคนเจ้าปัญญาเดิมหายไปทันที กลับกลายเป็นบุคลิกเฒ่าขี้เมาช่างฝันผู้ใช้แรงงานเข้ามาแทนที่
เขากรอกเหล้าเข้าปากและไปที่ท่าเรือตะวันออก
ท่าทีเหมือนคนเมานี้
เขาเดินอย่างนี้มาหลายร้อยปีแล้ว