ตอนที่ 988 อาวุธเทพร่างมนุษย์!
เย่ว์หยางเรียกเพลิงบัวแดงด้วยมือข้างซ้ายและเพลิงเมฆาด้วยมือข้างขวา
ในท้องฟ้ามีเพลิงแดงสวรรค์เทลงมาเหมือนน้ำตก และไม่ทราบว่าบนพื้นมีกุ่ยหยินไฟตั้งแต่เมื่อไหร่มันค่อยๆ คลุมเท้าของจ้าวสุริยาอย่างเงียบๆ ตราบใดที่เย่ว์หยางกระตุ้นการโจมตี ทั้งสองจะทำให้เกิดการระเบิดรุนแรง จ้าวสุริยาเคลื่อนไหวไม่ได้ แต่เขาไม่กลัวไม่ว่าไฟจะทรงพลังแค่ไหนก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายตัวเขา ต่อให้ทำร้ายร่างกายของเขาได้จริงๆ แต่เขาสามารถใช้นาฬิกาสุริยะย้อนเวลา และกำจัดพลังทำลายล้างทั้งหมด เว้นแต่พลังเทพ เย่ว์หยางไม่สามารถจะทำร้ายเขาแม้แต่ผมเส้นเดียว!
จ้าวสุริยามีความมั่นใจมากพอ
เขามีร่างระดับเทียมเทพ ไม่กลัวไฟใดๆ ในโลกทั้งนั้น
แม้แต่เพลิงแดงสวรรค์ที่ทรงพลังที่สุดหรือแม้แต่พลังของกุ่ยหยินไฟ ก็อาจระเบิดได้ แต่ไม่สามารถทำร้ายเขาได้
“เสนอดาบ..!”
เย่ว์หยางไม่ใช้ไฟโจมตี
เขาเหยียดมือออกและถามเหมือนกับขอดาบจากบริวารราวกับอัศวินแก่ ดาบแบบไหนกันที่เย่ว์หยางไม่สะดวกแก่การพกพา?
จ้าวสุริยาสับสนเล็กน้อย เจ้าเด็กเย่ว์หยางนี่ครอบครองคัมภีร์อัญเชิญและมีแหวนเก็บสมบัติ เขายังจะต้องพกพาดาบอีกหรือ?
ตอนแรกจ้าวสุริยาพบว่าเขาเองมองเย่ว์หยางไม่ออก
ในท่ามกลางความประหลาดใจเขาเห็นที่ทางเข้าตำหนักม่วงทอง มีสตรีอยู่สามคน คนหนึ่งเป็นปีศาจอสรพิษและยังมีอีกสองคน แม้แต่ในข้อมูลข่าวกรองของเสี่ยวโฉ่วก็ไม่พบชื่อของพี่น้องสองสาวมังกรในเผ่าพันธุ์ภูตบูรพา สองพี่น้องเผ่ามังกรคู่นี้แตกต่างจากเผ่าภูตบูรพาทั่วไป สายเลือดของพวกนางดูเหมือนจะบริสุทธิ์มากกว่าอย่างชัดเจน
ความรู้สึกแบบนี้....
ทันใดนั้นจ้าวสุริยาเข้าใจทันที แดนสวรรค์บนมีเผ่าพันธุ์พิเศษอยู่เผ่าพันธุ์หนึ่ง บุรุษและสตรีมีความคล้ายกับพี่น้องสองสาวมังกรมาก พวกนางเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่?
อาเหยาหนึ่งในสองพี่น้องบินมายืนข้างหน้า
ร่างของนางเปล่งรัศมีเจิดจ้าและแปลงเป็นดาบมีปีกเล่มหนึ่ง
ดาบมีปีกลอยลงมาอยู่ในมือของเย่ว์หยางโดยธรรมชาติ ขณะที่เขาถือดาบในมือทั้งเลือดและเนื้อจะเชื่อมประสานกันทันที เย่ว์หยางไม่จำเป็นต้องการโชคตราบที่ใจของเขาเป็นหนึ่ง พลังงานที่ไม่จำกัดในร่างของสาวมังกรจะเปลี่ยนร่างนางเป็นดาบแล้วเชื่อมต่อกัน เมื่อเย่ว์หยางเร่งเร้าพลังเต็มที่ พลังจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า
เทพสงคราม!
อาวุธเทพร่างมนุษย์!
ตอนนี้จ้าวสุริยาเข้าใจแล้วว่า เจ้าเด็กไตตันนี้ไม่เพียงแต่มีอาวุธเทพร่างอสูร แต่ยังมีอาวุธเทพร่างมนุษย์
แม้ว่าจะมีคนมากมายในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ความลับการฝึกฝนอาวุธเทพร่างมนุษย์ ต่อให้เขาสามารถจับอาวุธเทพร่างมนุษย์มาได้ แต่เขาจะเป็นเหมือนกับเจ้าเด็กเย่ว์ไตตันได้อย่างไร ความจริงนางคือเผ่าพันธุ์อสูรอมตะสำหรับอาวุธเทพร่างมนุษย์ แย่แล้ว..เขาติดอยู่ในวงจักรนิรันดรไม่สามารถหลบหนีออกไปได้
จ้าวสุริยาไม่คิดว่านาฬิกาสุริยะและทักษะแฝงเร้นย้อนเวลาจะสามารถคืนสภาพทุกอย่างที่ถูกอาวุธเทพร่างมนุษย์ทำร้าย
ก็เหมือนกับพลังกฎสวรรค์!
เย่ว์หยางควงดาบและฟันอากาศข้างหน้าเขาไม่ได้ใช้ท่าดาบท่าแรกผ่าปฐพี ไม่ได้ใช้พลังโจมตีเต็มกำลังเป็นการฟันออกไปอย่างธรรมดา
อย่างไรก็ตามหลังคาของตำหนักม่วงทองถูกดาบผ่าเป็นสองส่วน
ปราณกระบี่ยิงแสงผ่านหลังคาทะลุขึ้นไปในอากาศ
มิติภายในวงจักรนิรันดรฉีกขาดยาวหลายสิบเมตร
เป็นครั้งแรกนับแต่สู้กับเย่ว์หยางบนไหล่ของจ้าวสุริยา ได้รับบาดแผลลึกถึงแม้ว่าไม่ทันได้หลั่งเลือดเนื่องจากผลจากวงจักรนิรันดรก็ตาม แต่จ้าวสุริยารู้ว่าดาบนี้ทำร้ายเขาจนได้รับบาดเจ็บ! แต่เดิมทีด้วยพลังของเย่ว์ไตตัน ไม่ว่าจะโจมตีทำร้ายเพียงใด ตัวเขาเองจะไม่ได้รับบาดเจ็บ อาการบาดเจ็บเล็กน้อยผิวเผินเขาสามารถใช้นาฬิกาสุริยะและทักษะย้อนเวลาได้นั่นเป็นความห่างชั้นของระดับฝีมือที่เย่ว์ไตตันมิอาจข้ามผ่านได้ แต่ตอนนี้เขามีอาวุธเทพร่างมนุษย์ เขามีคุณสมบัติต่อสู้กับเขาได้อย่างทัดเทียม
ตอนนี้ไม่เพียงแต่เขาที่สามารถฆ่าเย่ว์ไตตันได้ แม้แต่เย่ว์ไตตันก็สามารถฆ่าเขาได้เช่นกัน!
สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นก็คือจ้าวสุริยาพบว่าพลังไฟของเย่ว์หยางไม่ว่าจะเป็นเพลิงบัวแดง เพลิงเมฆาเพลิงแดงสวรรค์ และกุ่ยหยินไฟไม่ระเบิดขึ้น
แต่กลับเป็นเหมือนน้ำไหลภายใต้คำสั่งของเย่ว์หยางเปลวไฟเหล่านั้นชอนไชเข้าบาดแผลที่ไหล่ของเขาอย่างบ้าคลั่ง
ภายในเวลาไม่กี่วินาทีจ้าวสุริยารู้สึกเจ็บปวดจากเพลิงผลาญวิญญาณของเขา
ร้อน มันร้อนมาก!
เด็กเจ้าเล่ห์นี่รู้ได้อย่างไรว่านาฬิกาสุริยะและทักษะย้อนเวลาของเขาไม่สามารถกำจัดพลังงานออกจากร่างกายของเขาได้? จ้าวสุริยาไม่มีเวลาคิดมากเกินไป หลังจากเย่ว์หยางใช้พลังไปแล้วเขาดิ้นสู้อย่างหนัก วงจักรนิรันดรจึงแตกสลายหายไป เปลวไฟทั้งสี่โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งสร้างบาดแผลบนร่างของเขาได้ทำให้เจ้าสุริยาต้องพลังปิดปากแผลตนเอง
“ลูกไม้เล็กน้อยเท่านี้คิดว่าจะทำร้ายข้าได้หรือ!” จ้าวสุริยาตวาดลั่นพร้อมกับขับเพลิงทั้งสี่ชนิดที่อยู่ในตัวเขาออกมาทางคอและปาก
“เสนอธนู!”
เย่ว์หยางจะให้โอกาสจ้าวสุริยาปรับตัวขณะที่อาเหยาคืนสภาพเป็นร่างมนุษย์ เขาเหยียดมือออกอีกครั้ง
อาหยูหนึ่งในสองพี่น้องบินเข้ามาหาเขาแล้ว
อาหยูแผ่รัศมีเจิดจ้าและกลายร่างเป็นคันธนูที่งดงามไม่มีที่ใดเปรียบลอยเข้าไปอยู่ในมือของเย่ว์หยาง ทันทีที่เย่ว์หยางเริ่มใช้งานปราณก่อกำเนิดทั้งหมดมารวมตัวอีกครั้งช่วยเป็นพลังเสริมให้อาหยู เย่ว์หยางเตรียมใช้พลังปราณตามปรารถนาของตน
ตอนนี้จ้าวสุริยาเริ่มตอบโต้ เขามองดูเย่ว์หยางซึ่งมีอาวุธเทพร่างมนุษย์อยู่ในมือ
เขาถอยหลังทันทีแล้วเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมาสร้างม่านพลังงานคุ้มกัน
เขาไม่ยอมให้ร่างของเขาเป็นอันตราย
นอกจากม่านพลังจากคัมภีร์อัญเชิญแล้ว จ้าวสุริยายังใช้โล่วิเศษเพลิงเทพอสูร โล่วิเศษที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์ แต่พลังป้องกันของมันเทียบได้กับสมบัติเทพแม้ว่าสมบัติวิเศษบางอย่างอาจไม่จำเป็นต้องทรงพลัง! แต่สมบัติวิเศษนี้ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีระยะประชิดหรือระยะหมื่นเมตรโล่เพลิงปีศาจก็ยังต้านรับไว้ได้ มันสลายพลังครึ่งหนึ่งและสะท้อนพลังครึ่งหนึ่งกลับไปยังผู้โจมตีได้
ดาบและธนูธรรมดาไม่มีทางทำลายการป้องกันของสมบัติวิเศษชั้นศักดิ์สิทธิ์ได้เลย ใครก็ตามต้องการโจมตีคนที่ถือโล่วิเศษนี้จะถูกพลังสะท้อนใส่ถึงตายได้
ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยางมีอาวุธเทพร่างมนุษย์ พลังของโล่นี้นับว่าน่ากลัวเกินไป ทั้งจ้าวสุริยาก็ไม่ต้องการเอาโล่นี้ออกมาใช้ตั้งแต่แรกด้วย
นี่คือสมบัติช่วยรักษาชีวิตที่เขาไม่ยอมเอาออกมาใช้อย่างง่ายๆ
“ลองเจอนี่เป็นไง” เย่ว์หยางเหนี่ยวธนูจนโค้งดูเป็นรูปพระจันทร์เต็มดวงทั้งควบแน่นพลังสายฟ้าสีม่วง นี่คือธนูน้ำแข็งเป็นสีม่วงและมีกฎสวรรค์เพลิงศักดิ์สิทธิ์แฝงไว้เขาเล็งที่หัวใจของจ้าวสุริยา เย่ว์หยางตวาดเสียงดังลั่นยิ่งกว่ากองทัพทั้งกองทัพเหนี่ยวสายธนูเต็มที่และยิงธนูที่แฝงพลังทำลายล้างออกไปทันที!
“เฟี้ยวววว”
สายธนูสะบัดเสียงดังราวกับอัสนีบาต
เร็วกว่าเสียงภายใต้การจับตามองของจ้าวสุริยา เขาเห็นแต่เพียงประกายสายฟ้าสีม่วงหายวับทันที
รอจนมันปรากฏอีกครั้งธนูพุ่งผ่านทะลุม่านพลังของคัมภีร์ และจากนั้นทะลุโล่เพลิงเทพและทะลุผ่านปราณคุ้มกันร่างของจ้าวสุริยาทะลุหัวใจออกไปที่ด้านหลังเสียงสายฟ้าและประกายสายฟ้าดังขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของโล่
เสียงธนูยังดังต่อเนื่องทะลุเสาค้ำภายในท้องพระโรงผ่านออกไปข้างนอก
นอกจากทิ้งร่องรอยเป็นรูที่ถูกยิงแล้ว ทั่วทั้งตำหนักม่วงทองไม่มีร่องรอยสายฟ้าสีม่วง
เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
จ้าวสุริยามีสีหน้าเหลือเชื่อ
เขาใช้โล่เพลิงเทพอสูรแล้วแต่ยังปล่อยให้เย่ว์หยางยิงเข้าหัวใจได้อย่างไร?
ม่านพลังป้องกันของคัมภีร์อัญเชิญไม่ส่งผลอะไรเลยโล่เพลิงเทพอสูรก็ไม่สะท้อนพลังกลับไป ธนูนี่ไวมากขนาดนั้นเชียวหรือ? อย่าบอกนะว่าต่อให้เป็นเทพก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อพบกับธนูนี่
น่ากลัวเกินไป ไม่น่าแปลกใจที่เย่ว์ไตตันรู้ว่าเขาคือจ้าวสุริยาแห่งตำหนักเทพสุริยะเขายังกล้าต่อกรกับตัวเขาเอง เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญอาวุธเทพร่างมนุษย์ที่น่ากลัวนี่เอง!
โล่เพลิงเทพอสูรส่งเสียงร้องหึ่งๆเหมือนสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บแล้วร้องโหยหวน
“ฆ่า ต้องฆ่าเจ้าให้ตาย” จ้าวสุริยาไม่สามารถตรวจสอบและไม่คำนึงถึงโล่เพลิงเทพอสูรของเขาเขาระเบิดปลดปล่อยพลังของตนเองเต็มที่ เขาคิดว่าเย่ว์หยางยังเหน็ดเหนื่อยกับการใช้พลังจากอาวุธเทพร่างมนุษย์เพื่อเร่งเผด็จศึก! เขาจะไม่ยอมให้เด็กคนนี้ได้ใช้อาวุธเทพร่างมนุษย์อีกต่อไป นั่นเป็นเรื่องอันตรายเกินไปกับการเข้าไปใกล้เขา เขาจะต้องใช้พลังทั้งหมดในตัวบดขยี้เจ้าเด็กนี่ในตำหนักม่วงทองนี้อย่างไม่หยุดยั้ง พลังงานและระดับความแข็งแกร่งของเขาเหนือกว่าเจ้าเด็กนี่ ตราบใดที่เขาไม่มีโอกาสใช้อาวุธเทพร่างมนุษย์ ชัยชนะสุดท้ายจะต้องตกเป็นของเขา!
“ฮ่าาาาห์” เสี่ยวเหวินหลีตวาด และใช้ทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเธออย่างเต็มที่ ดวงตาของเธอมีเลือดหยาดหยด
“นี่คือสิ่งที่เจ้าสนใจไงเล่า!” เย่ว์หยางไม่สนใจพลังหมัดหนักหน่วงของจ้าวสุริยาที่ต่อยใส่หน้าอกเขาเมื่อทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลีส่งผล เขายิงวงจักรล้างโลกออกไปทันทีวงจักรตัดผ่านทะลุอกของเขา ทำให้จ้าวสุริยาบาดเจ็บสาหัส
ทันใดนั้นจ้าวสุริยารู้สึกได้ถึงเงาแห่งความตายครอบงำก้นบึ้งหัวใจเขาทันที
ความกลัวตายที่เขาไม่พบเจอมานานแล้ว
ตอนนี้ความกลัวตายปรากฏชัดเจนสั่นสะท้านวิญญาณของเขา
เย่ว์ไตตันผู้นี้มีแม้กระทั่งวงจักรล้างโลกกลยุทธ์ที่น่ากลัวเช่นนี้รอลงมือทำร้ายเขา ผู้เยาว์อย่างเขามีทักษะไร้เทียมทานตั้งมากมายได้อย่างไร? นอกจากจะมีอาวุธวิเศษ สมบัติวิเศษระดับเทพและอาวุธเทพร่างอสูรแล้ว เจ้าเด็กนี่ยังมีอาวุธเทพร่างมนุษย์นั่นก็คือสองสาวพี่น้องมังกรจากเผ่าอสูรอมตะมีกระทั่งวงจักรนิรันดรและวงจักรล้างโลก ทั้งยังเกิดมาเป็นที่รักของชาวสวรรค์ นี่นับว่าสวรรค์อยุติธรรมเกินไป!
เขาคิดว่าจีอู๋ลี่มีความภูมิใจในทักษะที่ไม่เหมือนใครในโลก คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเด็กนี่จะได้รับความรักเมตตาจากโลกและสวรรค์ขนาดนี้
วงจักรนิรันดร วงจักรล้างโลกทั้งหมดรวมอยู่ในที่เดียวกัน
หญิงสาวเผ่าพันธุ์มังกรก็ยอมรับใช้เป็นอาวุธเทพให้ เจ้าเด็กนี่เป็นใครกัน
จ้าวสุริยาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดิ้นให้หลุดจากทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลี เมื่อวงจักรทะลุผ่านร่างเขาไปเขากระโดดถอยหลังหลบหนีพลังทำลายล้างรุนแรงของวงจักรล้างโลกและไปอยู่ที่ตำหนักม่วงทอง มองดูนิ้วตนเอง
เขาสูญเสียนิ้วไปสามนิ้วนั่นพิสูจน์ให้เห็นถึงความน่ากลัวของศัตรู
ตัวเขาเองมีพลังอำนาจในฐานะจ้าวสุริยา
ถ้าพ่ายแพ้ในการต่อสู้อย่างนี้เปลี่ยนเป็นคนอื่น จะมิกลายเป็นเหยื่อโอชะของเย่ว์ไตตันหรอกหรือ?