ตอนที่ 987 เพื่อเสี่ยวซาน ข้าจะฆ่าเจ้า!
ที่ป้อมประตูทางเข้าอีกด้านหนึ่งของอุทยานหลวง
เย่ว์หวี่ อาหง อาหมัน ภูตฟ้าปั่นป่วนภูตน้อยตั๊กแตนมัจจุราชพบเจอศัตรูอีกคนหนึ่งเช่นกัน
ถ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยู่ที่นี่นางคงประหลาดใจกับรูปลักษณ์ของคนผู้นี้ เพราะสตรีผู้ยืนขวางหน้าเย่ว์หวี่ดูคล้ายกับอูหลานแห่งเผ่ากาทองสามขาที่ป้อมประตูตะวันตก
ต่างกันอย่างเดียวก็คือเผ่าพันธุ์ของศัตรูผู้นี้
นางไม่ใช่เผ่ากาทองสามขา แต่เป็นเผ่าคางคกทองสามขา ทั้งสองเป็นเผ่าพันธุ์ภูตบูรพาแดนสวรรค์ อย่างไรก็ตามทักษะแฝงเร้นและรูปแบบการสู้ของพวกนางแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”
“ข้าไม่มีความอดกลั้นเหมือนอูหลาน พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันเถอะ ข้าขี้เกียจเล่นเกมแมวจับหนู!” หญิงงามจากเผ่าคางคกทองไม่ว่าจะเป็นลักษณะหรือการแต่งตัวล้วนแต่คล้ายกับอูหลานนอกจากแนวคิดที่แตกต่างกัน แม้แต่เสียงพูดก็ยากจะบอกได้ว่าใครจริงใครเท็จ นางสะบัดแขนเสื้อยาวและชี้ไปทางเย่ว์หวี่อย่างไม่ใส่ใจ “เจ้าเป็นคนแรกจะต้องตายด้วยน้ำมือของข้า”
“เพื่อเสี่ยวซาน ข้าจะฆ่าเจ้าภายใต้ป้อมประตูเมืองแห่งนี้” เย่ว์หวี่เป็นคนที่จิตใจมีเมตตา แม้แต่มดตัวเล็กๆ นางก็ไม่ต้องการฆ่า แต่เพื่อน้องชายนางนางตัดสินใจฆ่าศัตรูที่เบื้องหน้า
ดวงตาของนางแสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
นางกัดริมฝีปากล่างโดยไม่รู้ตัวเพื่อคลายความเครียด
เย่ว์หยางให้ดาบนางฟ้าซึ่งพอกางขยายออกเป็นเหมือนปีกเงินขณะเดียวกันนางเรียกคัมภีร์อัญเชิญปรากฏขึ้นมาอย่างเงียบๆ อสูรพิทักษ์ปีศาจสึนามิเป็นแสงสีทองบินออกมานางเหยียดแขนและรวมร่างกับเย่ว์หวี่เตรียมพร้อมสู้ร่วมกับเจ้านายของนางนอกจากนี้ร่มชี่หลัวของวิเศษระดับกึ่งเทพที่ได้รับตกทอดมาจากภูตไหมฟ้าหมุนควงอย่างรวดเร็วและลอยเข้ามาอยู่ในมือของเย่ว์หวี่
เดิมทีร่มวิเศษนี้เย่ว์หวี่ต้องการมอบให้อี้หนานแต่นางบอกว่านางมีกระจกวิญญาณอยู่แล้ว และนางไม่ต้องการรับร่ม เจ้าเมืองโล่วฮัวคิดว่านางมีพลังแสงอุษาและทานตะวันอมฤตอยู่แล้วเย่ว์หวี่ต้องการให้นางเซียนหงส์ฟ้า แต่เทียนฟากำลังฝึกฝนอยู่ที่บันสวรรค์และเย่ว์หวี่ไม่มีเวลาส่งมอบให้
ตอนนี้ร่มชี่หลัวสมบัติวิเศษระดับกึ่งเทพยอมรับเย่ว์หวี่มากขึ้น
ในการต่อสู้มันไม่รอให้เย่ว์หวี่เรียกมันออกมา
แต่กลับบินออกมาช่วยเองโดยอัตโนมัติ
“บ้าจริงๆ!” อาหงพอได้ฟังว่าศัตรูเป็นเผ่าคางคกทองสามขา รู้สึกใจหายวูบ นี่มันบ้าไปหน่อยแล้ว เราจะทำอะไรได้?
“ฮึ่ม!” อาหมันคือขุนพลเทพธาตุดินต่างจากอาหง นางไม่ชอบใช้ปากแต่ลุยก่อนแล้วค่อยเจรจา!
ภูตน้อยตั๊กแตนมัจจุราชเพิ่งจะผ่านประตูหวนกำเนิดกลายเป็นอสูรร่างมนุษย์ทั้งยังได้รับผลปัญญาศักดิ์สิทธิ์ทำให้มีสติปัญญามากขึ้นเป็นทวีคูณทำให้นางมีความเฉลียวฉลาดสูงเป็นพิเศษ นางเห็นว่าอาหมัน อาหงล้อมคุ้มกันเย่ว์หวี่ นางจึงขยับถอยไปข้างหลังเงียบๆภูตฟ้าปั่นป่วนที่เตรียมจะบุกจู่โจมตีพร้อมกันแต่ภูตฟ้าปั่นป่วนถูกสั่งให้บินไปที่ประตูเล็ก นางพร้อมจะข้ามแนวป้องกันของศัตรูและลอบเข้ามา ภูตฟ้าปั่นป่วนไม่ค่อยเต็มใจทำ นางชอบต่อสู้โดยตรง แต่ภูตฟ้าปั่นป่วนมักจะถูกเย่ว์หยางดุบ่อยที่สุดเขากำหนดเงื่อนไขไว้กับนาง “ไม่ว่าจะนานเพียงไหน อาหง เจี้ยงอิงยังอยู่ใกล้นางจะต้องฟังความเห็นของคนอื่น เว้นแต่ไม่มีใครอยู่ด้วย นางจึงตัดสินใจเองได้”
หญิงงามเผ่าคางคกทองดูเหมือนเห็นการอ้อมไปของภูตตั๊กแตนมัจจุราชและภูตฟ้าปั่นป่วนนางแค่นเสียงเย็นชา “หนูสองตัวอยากถูกทำลายนักใช่ไหม?ก็ดีเหมือนกัน”
นางสะบัดแขนเสื้อยาว
ที่ป้อมประตูมีคางคกทองปรากฏสามตัว
คางคกทองตัวกลางใหญ่ที่สุดสูงเกินร้อยเมตรขณะอ้าปากเหมือนกับมันจะกลืนโลกได้ทั้งใบ
คางคกทองข้างๆ ตัวที่อยู่ใกล้ประตูเล็กแม้ว่าตัวหนึ่งจะเล็กกว่าแต่มีขนาดห้าสิบเมตรเกือบหกสิบเมตร เมื่อภูตน้อยตั๊กแตนมัจจุราชเห็นเข้าก็ตกใจ “ตัวใหญ่มาก” ภูตฟ้าปั่นป่วนสงสัยอย่างเห็นได้ชัด ก็เห็นอยู่ว่าคางคกมีสี่ขา แต่เรียกว่าคางคกสามขาได้อย่างไร?
ด้วยสติปัญญาของนางคิดว่าปัญหาเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปนางต้องค้นหาคำตอบ และรู้ว่าต้องใช้พลังบังคับ
“ไปตายซะเถิด!” ขณะนั้นมีเสียงคำรามด้วยความโกรธของอาหงดังมาจากท้องฟ้า นางผนึกพลังกับอาหมันร่วมกันโจมตีโดยไม่ลังเล
นางร่อนลงมาด้วยความเร็วสูงและมือข้างหนึ่งกดลงที่หน้าอกของหญิงงามเผ่าคางคกทอง
พลังศักดิ์สิทธิ์สั่นสะเทือน
หญิงงามเผ่าคางคกทองสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเพราะตอนนี้นางพบว่าสตรีที่โจมตีตัวนางอาจเป็นเทวทูต? นางรู้สึกเจ็บปวดที่กระดูกหน้าอก แต่พลังป้องกันของเผ่าคางคกทองและทักษะแฝงเร้นที่สุดยอดสลายพลังโจมตีส่วนใหญ่ของอาหง
ฝ่ามือที่สองของอาหงกดลงมาอีกครั้ง หญิงงามเผ่าคางคกทองกระโดดขึ้นไปในอากาศด้วยพลังที่น่าทึ่ง
อาหมันบุกพุ่งเข้าหาเหมือนหัวรถจักร
ที่ไม่มีอะไรหยุดได้
นางกระแทกเข้ากับร่างของหญิงงามเผ่าคางคกทอง เวลานั้นหญิงงามเผ่าคางคกทองถึงกับกรีดร้องศีรษะนางกระแทกกับหน้าของฝ่ายตรงข้ามที่จมูกโดยตรง
นางกระเด็นออกไปเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ปะทะเข้ากับกำแพง กำแพงที่ไม่มีวันพังสั่นสะเทือนเป็นรอยแตกร้าวเพราะพลังของอาหมันนางมีทั้งพลังหัวใจธรณีสารและพลังเสาห้าธาตุที่ทำให้อาหมันมีพลังเทพ? ว่ากันด้วยเรื่องทักษะรบต่อสู้อาหมันไม่ใช่อสูรอันดับหนึ่ง แต่ว่ากันที่พลังเถื่อน ถ้าบอกว่านางอยู่อันดับสองรับรองไม่มีใครกล้ารับว่าเป็นอันดับหนึ่ง!
หญิงงามเผ่าคางคกทองจมเข้าไปในกำแพงเมืองจนไม่สามารถขยับได้
อาหมันวิ่งเข้าหาอีกครั้ง
ขณะนั้นพลังเทพแห่งขุนพลเทพห้าธาตุสามารถมองเห็นได้ ไม่อาจปกปิดอีกต่อไป พลังที่ไร้เทียมทานกระแทกใส่คางคกทองขนาดร้อยเมตรและตัวห้าสิบเมตรจนลอยไปกระแทกกักบหญิงงามเผ่าคางคกทองอีกครั้ง
บึ้ม บึ้ม บึ้ม
ลิ้นของหญิงสาวเผ่ากบทองห้อยออกมายาวถึงครึ่งฟุตตาของนางแทบถลนจากเบ้า
กระดูกหน้าอกนางยุบแทบจะถูกอาหมันฆ่าในทันที
ถ้านางไม่ใช่คนจากเผ่าคางคกทองซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์พิเศษเผ่าพันธุ์นางคงถูกเผ่าพันธุ์อื่นแทนที่ไปแล้ว อาหมันคงจะได้รับความนิยมแทนที่อย่างมิต้องสงสัย!
“มันเจ็บนะ! เจ้าบังอาจนัก บังอาจทำร้ายบรรพบุรุษของพวกเจ้าได้ยังไง! ดีล่ะถ้าเป็นอย่างนี้ข้าจะไม่เห็นแก่รูปลักษณ์ที่สวยงามอีกแล้ว ข้าจะให้พวกมันกินเจ้า! หญิงงามจากเผ่ากบทองค่อยๆลุกออกมาจากรอยแตกของกำแพง นางตวาดเสียงดัง ท้องของนางขยายอย่างรวดเร็วจนมองเห็นได้ชัดใบหน้าของนางน่าเกลียดอย่างรวดเร็วน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิมที่ถูกอาหมันเอาหัวกระแทกจมูกยุบถึงร้อยเท่ามีปุ่มปมสีแดงขึ้นอยู่ตามผิวหนังแขนขา ผิวหนังหยาบกร้าน ชั้นผิวหนังเปลี่ยนแปลงเหมือนกับมีหนูนับแสนรัวว่ายน้ำมารวมตัวกันอย่างบ้าคลั่ง
การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดก็คือขณะที่ท้องของนางใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาทีกลายสภาพเป็นท้องของมนุษย์คางคก
เพราะท้องของนางใหญ่โตมากแขนขาใหญ่แทบไม่สามารถรับน้ำหนักยืนได้
ทำได้เพียงคุกเข่าอยู่กับพื้น
ขณะที่กรามล่างของนางสูดอากาศกระดูกหน้าอกที่ถูกพลังเทพของอาหมันทำร้ายแตกหักก็กลับคืนสู่สภาพเดิมทันที
อาหงเห็นศัตรูเปลี่ยนร่างไปในสภาพที่ไม่ธรรมดานางรีบบินกลับมาอย่างรวดเร็วคอยลอบคุ้มกันเย่ว์หวี่ที่เร่งระดับพลังรออยู่แล้ว อาหมันไม่ตระหนักรู้ถึงเรื่องนั้น นางถอยกลับมาสองสามก้าว และบุกโจมตีต่อ
คางคกทองตัวที่ใหญ่ที่สุดเข้ามาต้านรับการบุกของอาหมัน
คางคกทองอีกตัวหนึ่งอ้าปากใหญ่มหึมาและพ่นควันสีน้ำเงิน
อาหมันกระแทกหมัดใส่คางคกทองที่น่าเกลียด และนางพบว่าพลังของนางดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับศัตรูผู้นี้
“อาหมัน, ข้ามาแล้ว!” เย่ว์หวี่รู้ได้ทันทีว่าศัตรูนี้ไม่อาจเอาชนะได้ด้วยพลังแกร่งกร้าว หากต้องการฆ่าศัตรูนี้ต้องมีความแข็งแกร่งถึงที่สุด แม้ว่านางจะเป็นคนใจดีมีเมตตา แต่นางกังวลห่วงใยความปลอดภัยของน้องชายนาง นางจะไม่มีทางหยุดมือ
“ข้าจะกินเจ้า!”
หญิงเผ่ากบทองพบว่าเย่ว์หวี่เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มสตรี
แทนที่จะสู้กับขุนพลเทพผู้ดุร้ายนางคิดว่าฆ่าสตรีมนุษย์ผู้อ่อนแอเปราะบางนี้ก่อนดีกว่า
ร่างของนางขยายใหญ่ขึ้น ยิ่งร่างขยายปากนางก็ขยายใหญ่ขึ้นนางอ้าปากและยิงลิ้นฉกไปที่ร่างเย่ว์หวี่หมายจะตวัดลิ้นรัดนางกลับมากลืนลงท้อง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เมื่อเข้าไปอยู่ในท้องกบทองอย่าหมายว่าจะรอดชีวิตออกไปได้ นี่คือความสามารถที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของเผ่ากบทอง
ดาบนางฟ้าของเย่ว์หวี่ฟันสวนกลับไปทันทีโลกสั่นสะเทือน
ลิ้นยาวขาดเป็นสองท่อน
ร่วงลงพื้น
ขณะที่หญิงเผ่ากบทองไม่อยากเชื่อว่าลิ้นที่แข็งทนทานที่สุดของพวกเขาจะถูกตัดได้เย่ว์หวี่บินออกไปราวกับสายฟ้า
นางหมุนปั่นร่มชี่หลัวป้องกันควันพิษที่กบทองพ่นออกมาอย่างบ้าคลั่ง ปลายแหลมของร่มชี่หลัวปักเข้าไปในหัวของศัตรูจากนั้นนางกวาดร่มกระแทกใส่หญิงเผ่ากบทองกรีดร้องอยู่ในอากาศ
อาหงบินอยู่ในอากาศรออยู่แล้วใช้พลังคลื่นเสียงหวีดสั่นสะท้านโลกทันที
หญิงเผ่ากบทองแก้วหูแตกระเบิดทันที
เลือดกระเซ็นออกมาเป็นสายนับไม่ถ้วนราวกับอสรพิษสีขาว
แม้ว่าคลื่นเสียงหวีดของอาหงจะไม่รุนแรงถึงตาย แต่ตาของสาวเผ่ากบทองถึงกับเหลือกขาวและลิ้นที่ขาดยังห้อยออกมานอกปาก
อาหมันต่อยคางคกยักษ์ใหญ่จนปลิวขึ้นไปในอากาศจากนั้นนางโดดขึ้นไปในอากาศคว้าคางคกทองที่ค่อยๆ ล้มลงกับพื้น คางคกอีกหนึ่งพยายามไล่งับเย่ว์หวี่ เย่ว์หวี่กางร่มชี่หลัวหมุนหนึ่งรอบคางคกทองกระเด็นห่างออกไปร้อยเมตร
“กลับสู่ดิน” อาหมันระเบิดพลังเทพห้าธาตุโจมตีใส่คางคกทองที่ถูกเย่ว์หวี่ใช้ร่มชี่หลัวแทงก่อนนั้น
“อ๊า...” สาวเผ่าคางคกทองอัปลักษณ์ไม่อาจต้านทานพลังหมัดนี้ได้แม้จะนางจะมีผิวหนาก็ตาม
ศีรษะแตก สมองกระจาย
อาหมันทุบจนศีรษะบี้แบน
คางคกทองยักษ์รีบเข้ามาช่วยเหลือ
มันกระโดดลอยตัวในอากาศอ้าปากขนาดยักษ์และตวัดยิงลิ้นคิดจะจับเย่ว์หวี่และอาหมันกิน
อาหมันจ้องมองด้วยความโกรธตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงเปลวเพลิงลุกพรึ่บอย่างรวดเร็วในร่างอาหมันและพุ่งเข้าไปในตาของคางคกทองยักษ์ ราวกับว่ามันตายในทันทีดวงตาของมันเปลี่ยนสีในทันใด ร่างมหึมาล้มลงอย่างอ่อนแรงต่อหน้าอาหมันลิ้นยักษ์ยาวเหยียดของมันไม่สามารถยืดออกมาอยู่ห่างอาหมันไม่ถึงครึ่งเมตร
หญิงเผ่าคางคกทองกำลังจะตาย
นางกรีดร้องอย่างน่าสมเพช
ศีรษะของนางแตกและเลือดทะลักออกตามแผล
ดวงตาทั้งสองเหลือกถลนหัวใจหยุดเต้นทันที เนตรประหารของอาหมันไม่ได้ใช้ออกมานานแล้ว วันนี้นางใช้กระทั่งเนตรประหารสองชั้นรวดเดียวโดยไม่คาดคิด ต้องบอกว่าสาวเผ่าคางคกทองนี้เคราะห์ร้ายจริงๆ
ภูตน้อยตั๊กแตนมัจจุราชและภูตฟ้าปั่นป่วนไม่สามารถหาคางคกทองตัวเล็กในทิศเหนือเจอ และคางคกทองอีกตัวหนึ่งปล่อยเย่ว์หวี่ถอยออกไปพร้อมกับร่มชี่หลัว
ขณะเดียวกันมันกรีดร้องอย่างน่าสมเพชล้มลงกับพื้น
คัมภีร์อัญเชิญชั้นทองระเบิดออกมาจากร่างของหญิงเผ่าคางคกทองและสลัวลงทันที
ขณะนี้จ้าวสุริยากำลังบุกโจมตีเย่ว์หยางในตำหนักทองม่วง จู่ๆ ก็หยุดทันทีและคำรามด้วยความโมโห “เย่ว์ไตตัน! เจ้า..เจ้าเล่ห์นัก จื้อจุนอยู่ข้างตัวเจ้าตลอด นางฆ่าราชินีของข้านี่มันพลังอะไรกัน? นั่นคือพลังของจือจุนหรือ? พลังศักดิ์สิทธิ์และละเอียด...”
เย่ว์หยางปาดเลือดที่มุมปากเบาๆและยิ้ม “ถ้าจื้อจุนอยู่ที่นี่เจ้าแพ้ไปแล้ว เจ้านึกว่าข้อมูลที่เสี่ยวโฉ่วได้มาเมื่อปีที่แล้ว ยังจะมีประโยชน์อยู่อีกหรือ?เราไม่เหมือนปีที่แล้ว!”
จ้าวสุริยาก้าวเท้าขึ้นมาข้างหน้าแล้วตะปบเจ้าเด็กผู้นี้ด้วยความโมโห
“ทันใดนั้นเขาพบว่าใต้เท้าเย่ว์หยางมีวงเวทอักขระรูนขนาดใหญ่เป็นรูปวงจักรหมุนอย่างช้าๆ ”นี่คือวงจักรนิรันดรหรือ?”
“เจ้าไม่คิดซ่อนไม้เด็ดของเจ้าไว้แล้วหรือ? ข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมาน เจ้าจะได้ลิ้มรสพลังหมัดของข้า เย่ว์หยางผายมือกางแขนออกวงจักรนิรันดรยืดขยายออกไปห้าสิบเมตร เจ้าสุริยาพบว่าพลังกฎสวรรค์ที่เขากระตุ้นใช้ไม่มีประโยชน์เขาถูกตรึงอยู่กับพื้น ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้