ตอนที่ 926 แต่คําถามคือ พี่ใหญ่คนนี้ ที่ได้เรียกเก็บเงิน 50 หยวน มันแพงจริงๆ นะหรือ?

ผู้หญิงสองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกัน ในเย็นของวันนี้ทั้งคู่ก็ได้ออกไปงานเลี้ยงสังสรรค์ และได้ขับรถกลับบ้าน แต่กลับต้องมาพบเจอเข้ากับพายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนักมาก จนระหว่างทางกลับ ..รถได้เกิดดับ

ทั้งสองกําลังทุกข์ใจ และไม่รู้ว่าจะทําอย่างไรต่อไปดี เมื่อเห็นว่า สวี ฉีหมิง สามารถเข้าช่วยคนอื่นลากรถได้ พวกเธอจึงได้เริ่มคิดขึ้นทันที

ทั้งสองได้ริเริ่มที่จะเดินเข้าไปหา สวี ฉีหมิง

“พี่ชาย คุณช่วยลากรถให้พวกเราด้วยได้ไหม?” ผู้หญิงคนหนึ่งได้ถามออกไปด้วยรอยยิ้มที่ดูกรุ้มกริ่ม

“รถของพวกเรา ก็ได้ดับไปเหมือนกัน..” อีกคนหนึ่งก็ได้พูดขึ้น

เมื่อได้เห็นผู้หญิงทั้งสองคนที่มีเสน่ห์เล็กน้อย ทั้งด้วยท่าทางของพวกเธอที่แบบ… แต่ สวี ฉีหมิง ก็กลับไม่ได้รู้สึกอะไร ในเวลานี้ เขา และเพื่อนของเขา ได้จัดการลากรถไปหลายคันแล้ว และทั้งคู่ก็เหนื่อยล้าเป็นอย่างมากจนแทบที่จะเป็นตะคริว.. อยู่แล้ว

ต้องบอกเลยว่าธุรกิจนี้ทำได้ยากจริงๆ ต้องทำงานหนักท่ามกลางสายฝนที่ได้ตกลงมาตลอด ทั้งนี้พวกเขาทั้งคู่เองก็ได้ตัวเปียกโชก ตาของพวกเขาในเวลานี้ก็แทบลืมไม่ขึ้น เหนื่อยแทบตายได้เที่ยวละ 50 หยวน.. หากให้รวมค่าน้ำมันแล้ว นี่แทบไม่ได้ทำกำไรอะไรได้มาก

แล้วในเวลาแบบนี้ สวี ฉีหมิง จะยังไปสนใจเรื่องของอีกฝ่ายได้ที่ไหน? เขาแค่ต้องการทำงานให้เสร็จ แล้วก็กลับบ้าน

“ค่าใช้จ่าย คือ 50 หยวน?” สวี ฉีหมิง ได้กล่าว

และในทุกๆ ครั้ง เขาก็จะแจ้งราคาให้กับอีกฝ่าย เพราะนี่เป็นจุดสําคัญมาก เพื่อไม่ให้เกิดข้อพิพาทในภายหลัง ถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอมจ่ายเงินนี้ ธุรกิจก็จะไม่สําเร็จ เขาก็ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง และได้หันไปมุ่งทำงานอย่างแข็งขันต่อ

อย่างไรก็ตาม.. คนข้างหน้าเขาก็ได้ตอบตกลงอย่างตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตามเงิน 50 หยวน ก็ไม่ได้ถือว่ามาก แล้วยิ่งสําหรับคนที่มีรถขับเหล่านี้ เงิน 50 หยวน ไม่นับว่าเป็นอะไรจริงๆ บางครั้งการจอดรถในสถานที่ระดับไฮเอนด์ ค่าใช้จ่ายที่จอดรถ 1 คัน มันก็ยังมากกว่า 50 หยวนแล้ว

แต่.. ผู้หญิงทั้งสองคนนี้ กลับได้หันไปมองหน้ากัน

พวกเธอก็ไม่ได้บอกว่าจะให้เงินนี้อย่างชัดเจน

แต่พวกเธอกลับต้องการให้ สวี ฉีหมิง ช่วยลากรถให้..

ผู้หญิงคนหนึ่ง ได้พูดว่า “พี่ชาย แล้วเมื่อไหร่คุณจะช่วยลากรถให้พวกเราล่ะ?”

สวี ฉีหมิง กลับได้คิดไปว่าอีกฝ่ายได้ตอบตกลงแล้ว อย่างไรเสียถ้าไม่ตอบตกลง ก็คงจะไม่ถามเขาว่าจะช่วยลากรถให้เมื่อไหร่ ถูกไหม? ,บางทีคำพูดก็ไม่ต้องพูดให้เข้าใจมากก็ได้ แค่ให้ได้เข้าใจความหมาย มันก็เพียงพอแล้ว

“ต่อไปถึงตาพวกคุณแล้ว” สวี ฉีหมิง ได้กล่าว

“เยี่ยมไปเลย พี่ชาย ต้องลำบากคุณแล้ว…” ผู้หญิงคนนั้นดูมีความสุขมาก

ทั้งสองจึงได้รอ..

หลังจากที่ สวี ฉีหมิง และเพื่อนของเขาได้ลากรถคันหนึ่งออกไป ก็ได้กลับมาช่วยลากรถของผู้หญิงทั้งสองคนนี้ ขึ้นที่สูง..

การทำงานแม้จะเหนื่อยหน่อย แต่มันก็ราบรื่น,รถของผู้หญิงทั้งสองคนนี้ ก็ได้ถูกลากขึ้นมาจากน้ำ

ที่ด้านหลังก็ยังมีรถอีกสิบกว่าคันที่รออยู่.. สวี ฉีหมิง ก็ไม่ได้คิดที่จะคุยเรื่องไร้สาระกับผู้หญิงทั้งสองคนนี้ เขาได้หยิบโทรศัพท์ออกมาตรงๆ แล้วได้พูดไปว่า “รถได้ลากเสร็จแล้ว งั้นเราก็มาเคลียร์เงินกันเถอะ ทั้งหมด 50 หยวน”

ผู้หญิงสองคนได้มองหน้ากัน และได้กะพริบตาทันที จากนั้นพวกเธอก็ได้ทําหน้างงๆ แล้วพูดว่า “50 หยวนอะไร?”

สวี ฉีหมิง ได้อึ้งไปพักหนึ่ง แล้วพูดว่า “เมื่อกี้เราไม่ได้ตกลงกัน? ค่าบริการลากรถเรียกเก็บเงิน 50 หยวน แล้วเมื่อนั้นฉันจะช่วยพวกคุณลากรถออกมาให้”

ตกลงกันแล้วว่าจะจ่ายให้เขา 50 หยวน เขาเองก็ได้ทํางานเสร็จแล้ว อีกฝ่ายก็ควรจ่ายเงินมาให้เขาสิ นี่ก็ได้ตกลงกันไปแล้ว..

เมื่อผู้หญิงสองคนนี้ได้มาขอให้ สวี ฉีหมิง ช่วยลากรถเมื่อกี้ ทั้งสองก็ได้ทำตัวน่ารักมาก…

แต่กลับในเวลานี้ พวกเธอทั้งสองกลับได้แสดงท่าที ทั้งทัศนคติที่ดูไม่พอใจเล็กน้อยออกมา

“คุณช่วยเราลากรถออกมา แต่แค่นี้.. คุณกลับจะเรียกเก็บเงินจากเรา 50 หยวนเหรอ?” ผู้หญิงคนหนึ่ง ได้มีสีหน้าสงสัย

อีกคนก็ได้พูดขึ้นว่า : “ใช่ หากให้พูดเรื่องระยะทางไกลกว่านี้ก็อีกเรื่อง แต่ระยะแค่นี้ กลับเรียกเก็บตั้ง 50 หยวน นี่ก็แพงเกินไปแล้วมั้ง!”

ดวงตาของ สวี ฉีหมิง ได้มืดสนิท น้องสาวมันเถอะ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรอีก! ตกลงกันไปแล้วไม่ใช่หรือไง? ทั้งนี้พวกเธอก็ได้ตกลงให้เขาช่วยลากรถให้ ถ้าเขารู้ก่อนหน้านี้ว่าผู้หญิงสองคนนี้เป็นแบบนี้ เขาก็ไม่คิดที่จะช่วยลากรถให้กับพวกเธออย่างแน่นอน

“ทุกคนก็ได้ตกลง ทั้งก็ได้จ่ายเงินมา” สวี ฉีหมิง กล่าว

ผู้หญิงคนหนึ่ง พูดว่า “ขอโทษนะ ฉันไม่ใช่ใครอื่น และฉันกลับคิดว่าการที่คุณได้เรียกเก็บเงินจากเรา 50 หยวน มันไม่สมเหตุสมผลเลย และมันก็ดูไม่เหมาะสมด้วย!”

“ใช่!” ผู้หญิงอีกคน ก็ได้พูดออกมาอย่างเห็นด้วย..

ทั้งสองฝ่ายจึงได้เริ่มมีปากเสียงกัน

ทั้งในเวลานี้ต่างก็ยังมีเจ้าของรถที่กำลังรอให้เขาได้ไปลากรถอยู่ และดูเหมือนว่าจะเริ่มใจร้อนเล็กน้อยแล้ว

“พี่ใหญ่ ช่วยรีบลากรถให้หน่อยเถอะ”

“ทำไมถึงนานขนาดนี้ล่ะ?”

เจ้าของรถเหล่านี้ ต่างได้เร่ง อย่างไรเสียน้ำที่ได้ขังอยู่บนถนนก็ได้สูงขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาต่างก็กระวนกระวายด้วยความกลัว กลัวว่าหากปล่อยไว้นาน รถของพวกเขาเองจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ มาตอนนี้แค่อยากให้รีบๆ ลากรถออกไปโดยเร็ว

สวี ฉีหมิง ได้ถูกพวกเจ้าของรถเร่งเร้า ก็ได้ดูรีบร้อนเล็กน้อย และได้พูดว่า “ไม่เอาน่า นี่พวกคุณตั้งใจจะให้ฉันเท่าไหร่?”

ผู้หญิงทั้งสองคนได้หันไปปรึกษากันแล้ว คนหนึ่งก็ได้บอกออกมาว่า “เราปรึกษากันแล้ว และอย่างมากก็ให้คุณ 30 หยวน ยังไงระยะทางมันก็สั้นแค่นี้ คุณจะมาใจดําขนาดนี้ไม่ได้!”

จริงๆ แล้ว สวี ฉีหมิง ก็ขี้เกียจไปเถียงอะไรกับพวกเธอแล้ว 30 หยวน เขาก็ยอมรับได้ แต่เมื่อได้ยินอีกฝ่ายบอกว่าตัวเขาเองใจดํา เขาก็ได้ไม่พอใจขึ้นมา..

เดิมที เขาเองก็เหนื่อยจนแทบไม่ไหวแล้ว ซ้ำกลับยังมาโดนด่าว่าใจดำอีก แบบนี้ใครมันจะไปทนได้?

และทั้งนี้เพื่อนของเขาก็ได้ร้องเตือนอยู่ข้างๆ ว่ารับปากกับผู้หญิงสองคนนี้ไม่ได้ เหตุผลง่ายๆ ถ้าเขารับข้อเสนอจากอีกฝ่าย และเก็บอีกฝ่าย 30 หยวน เจ้าของรถคนอื่นๆ จะคิดอย่างไร?

แล้วหากเจ้าของรถที่กำลังรออยู่ข้างหลังทั้งหมด ขอให้เรียกเก็บแค่ 30 หยวนล่ะ? แล้วหากเจ้าของรถคันที่เคยจ่ายมาก่อนหน้านี้แล้ว เกิดไม่ยอม และเรียกขอคืนเงินจากเขา 20 หยวนล่ะ?

ดังนั้นประเด็นนี้จึงต้องยึดถือ และไม่สามารถประนีประนอมได้

สวี ฉีหมิง ก็รู้สึกว่าเพื่อนของเขา พูดมีเหตุผล เลยพูดไปว่า “ขอโทษนะ ก่อนหน้านี้เราได้ตกลงกันไว้แล้ว ว่า 50 หยวน และเราไม่ยอมรับในราคาที่คุณต่อรองมา”

สวี ฉีหมิง ยังยืนกรานที่จะเรียกเก็บเงิน 50 หยวน และผู้หญิงทั้งสองคนก็โกรธขึ้นมาเล็กน้อย ในมุมมองของพวกเธอ 50 หยวน มันก็มากเกินไปสำหรับในระยะทางใกล้ๆ เพียงแค่นี้

“เงินมันไม่ได้เติบโตขึ้นบนต้นไม้ เงินมันไม่ได้หล่นมาจากฟ้า และเงินมันก็ไม่ได้ถูกพัดปลิวมาตามสายลม ฉันพูดถูกไหม? และคุณก็ช่วยมีเหตุผลหน่อย เรียกเก็บเงิน 50 หยวน ด้วยระยะทางใกล้แค่นี้ นี่คุณไม่คิดว่ามันมากเกินไปหรอกหรือ?”

“นั่นสิ!”

สวี ฉีหมิง ได้กล่าวว่า “นี่คือสิ่งที่พวกเราได้คุยตกลงกันไว้นะ ถ้าพวกคุณไม่ยินยอมให้ เมื่อกี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องมาบอกให้ฉัน ช่วยลากรถให้กับพวกคุณก็ได้!”

ผู้หญิงคนนั้น ได้จ้องมองไปที่ สวี ฉีหมิง “ใครบอกว่า ตกลงกัน? คุณบอกกับพวกเรา 50 หยวน พวกเราได้ไปรับปากคุณตอนไหน? และทั้งหมดคุณก็แค่พูดมันออกมาเองทั้งนั้น!”

“ก็นั่นแหละ ไหนคุณลองบอกมาสิว่าเราได้ไปสัญญาตอบตกลงกับคุณเอาไว้ 50 หยวน ตอนไหน?”

นี่พวกเธอกำลังคิดที่จะเล่นโกง? สวี ฉีหมิง โกรธมาก ทําไมถึงได้มีคนแบบนี้ได้อีก ทั้งในเรื่องช่วยลากรถของพวกเธอ มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของเขา ให้พูดตรงๆ ก็คือ พวกเธอได้จ่ายเงินเพื่อจ้างเขาทํางาน พอเมื่อทํางานเสร็จ ก็แค่จ่ายค่าตอบแทนตามที่ได้ตกลงเอาไว้

แต่นี่.. พอเสร็จงาน อีกฝ่ายกลับไม่ยินยอมจ่าย!

หากเขารู้แต่เนิ่นๆ เขาก็จะให้อีกฝ่ายจ่ายเงินมาก่อน แล้วค่อยทำงาน ส่วนไอ้คนที่ไม่ยอมจ่าย เขาก็ขี้เกียจจะขยับ!

สวี ฉีหมิง ต้องการเรียกเก็บเงิน 50 หยวน แต่ผู้หญิงทั้งสองคนนี้ ไม่ยินยอมให้ สักพักทั้งสองฝ่ายก็ได้เกิดทะเลาะกัน

ในขณะที่พวกเขาได้กำลังโต้เถียงกัน หลินฟาน ก็ได้เดินผ่านเข้ามาพอดี

สวี ฉีหมิง จึงได้รีบเข้ามาคว้า หลินฟาน เอาไว้ และขอให้ หลินฟาน ได้ลองประเมิน และขอให้เขาได้แสดงความคิดเห็น..

หลังจากที่ หลินฟาน ได้ฟังคําพูดของ สวี ฉีหมิง แล้ว เขาก็รู้ได้ทันทีแล้วว่า.. มันได้เกิดอะไรขึ้น และจริงๆ แล้ว เรื่องนี้มันก็ง่ายมาก คือผู้หญิงสองคนนี้ ได้กลับคําพูด และได้รู้สึกว่าระยะทางมันใกล้เกินไป ไม่คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายออกไป..

แต่จากในมุมมองของ หลินฟาน สวี ฉีหมิง ก็ได้พูดถูกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งมันก็มีเหตุผล ดังนั้น หลินฟาน จึงได้แสดงความคิดเห็นของเขาออกไป

และเมื่อได้เห็นว่า หลินฟาน ได้สนับสนุน สวี ฉีหมิง ผู้หญิงทั้งสองคนก็เกิดความไม่พอใจ และต้องการอยากไล่ หลินฟาน ออกไปจริงๆ

“ใครมันขอให้คุณเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่น? ไสหัวออกไป!” ฝ่ายทางผู้หญิงสองคนนี้ ไม่คิดเกรงใจใดๆ และได้ชี้นิ้วไปที่จมูกของ หลินฟาน และได้ดุด่าออกมา

“ขอทานแบบคุณ มาจากที่ไหนก็รีบกลับไปที่นั่นเลยนะ และเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ แล้วไอ้ตัวคุณเองมันไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อรถ คุณมันมีสิทธิ์ที่จะมาพูดไหมหะ!”

หลินฟาน กล่าวว่า : “มีเหตุผลหน่อย และก็อย่าได้มาพูดจามั่วๆ แบบนี้ ถ้าพวกคุณไม่ยินยอมจ่ายเงิน 50 หยวน ในตอนแรก พวกคุณก็ไม่ควรไปขอให้พี่ใหญ่คนนี้ช่วยลากรถของพวกคุณก็ได้นะ แต่ในเมื่อตกลงกันแล้ว และงานก็ได้จบลงแล้ว งั้นคุณก็ควรรีบจ่ายเงินให้มันจบๆ”

ผู้หญิงคนหนึ่ง ได้ดุด่าออกไปทันทีว่า “คุณมันมาผายลมอะไร? ในระยะทางใกล้ๆ แค่นี้ เขาถึงกลับเรียกเก็บเงิน 50 หยวน แล้วแบบนี้จะไม่ให้เรียกว่าใจดํา แล้วให้เรียกอะไร!?”

หลินฟาน กล่าวว่า : “ท้ายที่สุดแล้ว พวกคุณกลับคิดว่าราคามันสูงเกินไป.. ถ้าพี่ใหญ่คนนี้ได้ช่วยลากรถของพวกคุณให้ฟรีๆ พวกคุณก็คงจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ แต่คําถามคือ พี่ใหญ่คนนี้ ที่ได้เรียกเก็บเงิน 50 หยวน มันแพงจริงๆ นะหรือ?”

ผู้หญิงคนหนึ่ง ก็ได้พูดขึ้นว่า : “แน่นอนว่ามันแพง เราก็ไม่ได้เห็นว่าคุณอุทิศตนอาสาเข้ามาช่วย แต่อย่างน้อยๆ ก็อย่าได้มาเห็นแก่ตัว และคิดอยากฉวยโอกาสปล้นผู้คนจากสถานการณ์แบบนี้จะได้มั้ย!”