ตอนที่แล้วตอนที่ 5 ผู้ฝึกยุทธที่น่าเกรงขาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 องค์ชายเก้า

ตอนที่ 6 จักรพรรดินีสิ้นพระชนม์


“ท่านแม่ จักรพรรดินีทรงตรัสว่าท่านกำลังจะเป็นอิสระในอนาคตอันใกล้นี้ ข้าคิดว่าท่านจะมีสถานะที่ดีกว่าปัจจุบันนี้ได้”

องค์ชายดูตื่นเต้นมากขณะที่พวกเขาคุยกันในห้องโถง

“อย่าเพิ่งดีใจเกินไป องค์ชายน้อย ช่วงเวลาเช่นนี้ที่เราต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น” หญิงชราแนะนำ

เฮ้อ~ “ข้าไม่คาดหวัง….ข้าไม่อยากสร้างปัญหาให้จักรพรรดินีด้วยปัญหาของข้า” นางสนมจิงพูดเสริม

“จักรพรรดินีตรัสว่าท่านลงเอยแบบนี้ก็เพราะเธอ”

“ข้าสงสัยว่าองค์รัชทายาททรงเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้ เขายังดื้อรั้นเหมือนเดิมหรือเปล่า?” สนมจิงถาม

เธอไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกเนื่องจากการถูกคุมขังใน ตำหนักจิงหนิง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

แม้แต่หญิงชราในราชสำนักและหลี่มู่ก็ถูกห้ามไม่ให้ออกไปข้างนอก

“องค์รัชทายาท เอ่อ…ก็ มีคนไม่กี่คนที่สนับสนุนเขา”

องค์ชายเก้าเงียบไปหลังจากพูดเรื่องนี้

ห้องโถงก็เงียบสนิทเช่นกัน

คืนนั้น หลี่มู่ เปลี่ยนเป็นชุดสีดำสนิท

เขาเปิดหน้าต่างและเขาลอยออกไปทางหน้าต่าง

หน้าต่างปิดโดยอัตโนมัติทันทีที่เขาออกไป

“ลงชื่อเข้าใช้”

หลี่มู่พึมพำเมื่อมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง

“ลงชื่อเข้าใช้สวนพระราชวังเรียบร้อยแล้ว ได้รับรางวัล ทักษะทะลวงเมฆา”

“ลงชื่อเข้าใช้ที่หอสมุดเรียบร้อยแล้ว ได้รับรางวัลการบ่มเพาะ 50 ปี”

……

เขาเยี่ยมชมพระราชวังอย่างระมัดระวัง

เขาหลบเลี่ยงทุกอย่างทันทีที่เขาสัมผัสได้ว่ามีผู้ฝึกยุทธที่น่าเกรงขามอยู่รอบๆ

เขารวบรวมรางวัลจำนวนมากจากการลงชื่อเข้าใช้ตลอดทั้งคืน

การบ่มเพาะ 50 ปีทำให้เขาทะลวงผ่านไปยังอาณาจักรควบคุมวิญญาณได้ในทันที และในไม่ช้าเขาก็ไปถึงอาณาจักรครึ่งก้าวเหนือมุษย์

ครึ่งก้าวเหนือมุษย์ แทบไม่มีในจักรวรรดิเซี่ย

แม้แต่คนที่อยู่จุดสูงสุดของอาณาจักรควบคุมวิญญาณก็ยังน้อยมากในจักรวรรดิ

อย่างไรก็ตาม เขาไม่อยากจะเชื่อว่าไม่มีใครในจักรวรรดินี้ที่ไม่ก้าวข้ามอาณาจักรควบคุมวิญญาณ

เขาสัมผัสได้ถึงตัวตนที่คลุมเครือหลายครั้งเมื่อเขาเคยออกไปนอกเขตพระราชวังมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ เขาไม่กลัวอะไรอีกแล้ว

แม้ว่าสนมจิงจะตายในวันรุ่งขึ้น แต่ก็ไม่มีใครสามารถหยุดเขาไม่ให้ออกจากวังได้

ทำไมข้าถึงอยากจะออกไปล่ะ? มันคงเป็นการเสียเปล่าหากปล่อย สถานที่ลงชื่อเข้าใช้ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ไป

เขาเชี่ยวชาญทักษะทะลวงเมฆาในไม่กี่วันต่อมา

ทักษะทะลวงเมฆาทำให้การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อใช้พร้อมกับย่างก้าวเทพวายุ

ความคืบหน้าในการบ่มเพาะช้าลงเรื่อยๆ

ในอดีต รางวัลบ่มเพาะ 30 ปีสามารถเพิ่มขอบเขตขนาดใหญ่ได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ รางวัลบ่มเพาะ 50 ปีนั้นสามารถเพิ่มขอบเขตขนาดเล็กได้เท่านั้น

สองเดือนต่อมา...

วันหนึ่งหญิงชราในตำหนักมาหาหลี่มู่พร้อมกับข่าวร้าย

ดวงตาแดงก่ำของเธอทำให้หลี่มู่ตกใจ

“จักรพรรดินีสิ้นพระชนม์แล้ว”

"อะไร?"

หลี่มู่ ตกตะลึง

จักรพรรดินีทรงสบายดีมาตลอดไม่ใช่หรือ? นางตายกระทันหันเช่นนั้นได้อย่างไร?

เขารู้ว่าสิ่งต่าง ๆ อาจซับซ้อนกว่าที่เห็น

“สนมจิงขอให้ตำหนักจิงหนิงไว้ทุกข์จักรพรรดินีเป็นเวลาสามเดือน”

เธออธิบายรายละเอียดขณะที่เธอส่งชุดเสื้อผ้าสีขาวให้หลี่มู่

หลี่มู่สวมชุดไว้ทุกข์ ในขณะฟังการสนทนาของสตรีในราชสำนักจากพระราชวังโดยรอบ

ด้วยระดับบ่มเพราะของเขา เขาก็สามารถสัมผัสทุกสิ่งภายในขอบเขตหกลี้ได้

ตราบเท่าที่เขาต้องการ เขาอาจจะตรวจสอบได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นห่างออกไปกว่าสิบลี้

เขาสงสัยว่าจักรพรรดินีสามารถสิ้นพระชนม์ในทันใดได้อย่างไร

เขาตระหนักว่าพระราชวังไม่ปลอดภัยอย่างที่เขาคิดไว้ในตอนแรก

“ข้าได้ยินว่ามีตระกูลขุนนางทรงอำนาจนอกพระราชวัง? ว่ากันว่ามีผู้อาวุโสซ่อนเร้นบางคนในตระกูลนั้นไม่ได้อยู่ใต้อำนาจของราชวงศ์? เป็นไปได้ว่าว่าการตายของจักรพรรดินีเกี่ยวข้องกับตระกูลขุนนางเหล่านั้นจริงๆ”

หลี่มู่ได้ข้อมูลมากมายจากการสนทนาของสตรีในราชสำนัก

มีตระกูลขุนนางมากมายทั่วทั้งจักรวรรดิเซี่ย

ตระกูลขุนนางบางตระกูลแอบสะสมอำนาจอย่างลับๆ ซึ่งไม่ด้อยกว่าราชวงศ์

เหตุผลเดียวที่ทำให้ จักรวรรดิเซี่ย สามารถรักษาเสถียรภาพทางการเมืองได้ก็เพราะบรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ได้สังหาร

ปรมาจารย์ยุทธอื่น ๆ จากตระกูลขุนนางเมื่อหลายปีก่อน

ฟังดูคล้ายกับประวัติศาสตร์ของราชวงศ์สุยและราชวงศ์ถัง

หลี่มู่ลูบไล้คางของเขาในขณะที่เขาครุ่นคิดทั้งหมดนี้

การเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์หลายครั้งที่ผ่านมาไม่มีใครอื่นนอกจากตระกูลขุนนาง

ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของจักรวรรดิยังคงไม่แน่นอน

“ใคร?”

เขาหรี่ตาลงในทันใด

เขาสัมผัสได้ถึงร่างที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วผ่านสวนใกล้ๆ มุ่งหน้าไปยังหอสมุด

มีใครบางคนเคลื่อนไหวไปมาราวกับปีศาจในความมืด

ร่างนั้นหายไปอย่างรวดเร็วในความมืด

ยามด้านล่างไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีใครบางคนกำลังบินผ่านเหนือหัวของพวกเขา

ร่างนั้นไม่ทิ้งร่องรอยในขณะที่เขาเคลื่อนไหว ราวกับว่าเขาไม่เคยอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก

เห็นได้ชัดว่าร่างนี้แข็งแกร่งมาก อย่างน้อยเขาต้องอยู่ในช่วงปลายของ อาณาจักรควบคุมวิญญาณ

ตามความรู้ของเขา ขันทีอาวุโสของจักรพรรดินั้นอยู่ในระดับที่เก้าของอาณาจักรควบคุมวิญญาณ คนผู้นี้กล้าบุกเข้าไปในวังเพียงลำพัง เห็นได้ชัดเขาไม่ได้เห็นขันทีอาวุโสอยู่ในสายตา

“คนผู้นี้อยู่ในระดับที่เก้าของอาณาจักรควบคุมวิญญาณเป็นอย่างน้อย”

หลี่มู่เริ่มตามหลังร่างนั้นไปทางหอสมุดเช่นกัน

เขารู้สึกโชคดีที่มีคนมาให้ทดสอบพลัง

เขาไม่เคยลงชื่อเข้าใช้สถานที่ใด ๆ ใกล้กับหอสมุด เนื่องจากเขาระวังขันทีอาวุโสในพระราชวัง

ทั้งคู่เข้าไปในหอสมุดทีละคน

ขันทีที่เฝ้าสถานที่ไม่สังเกตเห็นผู้บุกรุกเหล่านี้

ดิง! “ลงชื่อเข้าใช้หอสมุด รางวัล การบ่มเพาะ50 ปี”

50 ปีอีกครั้ง

จำนวนปีนั้นไม่เพียงพอสำหรับเขาในระดับบ่มเพาะปัจจุบันอีกต่อไป

แม้แต่เขตแดนเล็กๆ ก็ไม่สามารถยกระดับได้

เขารู้สึกไม่พอใจ

มาดูกันดีกว่าว่าผู้ชายคนนี้กำลังทำอะไร

เขากวาดตามองรอบๆ อย่างระมัดระวัง

มีปรมาจาย์อาณาจักรควบคุมวิญญาณในหอสมุดจักรพรรดิ

แต่เขาไม่สังเกตเห็นว่ามีคนอื่นเข้ามาในสถานที่นี้

ชั้นบนสุดของหอสมุดเป็นสีดำสนิท

ผู้ฝึกยุทธที่บุกรุกเข้าไปในหอสมุดก่อนหน้าเขากำลังพลิกหน้าหนังสือบางเล่มภายใน

หลี่มู่เฝ้าดูชายอีกคนอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่าคน ๆ นั้นกำลังทำอะไร

กำลังมองหาทักษะบ่มเพาะ?

ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น

ชายคนนั้นอยู่ในจุดสูงสุดของ อาณาจักรควบคุมวิญญาณ แล้ว มีอะไรอีกที่เหนือกว่าสิ่งที่เขาฝึกฝนอยู่แล้ว?

กำลังมองหาความลับที่ซ่อนอยู่ของราชวงศ์หรือไม่?

หลี่มู่เองก็พลิกหน้าหนังสือเล่มนั้นเช่นกัน

เขากำลังจะหมดความอดทน

เขาลงชื่อเข้าใช้ที่หอสมุดเสร็จแล้ว และเขายังคงรอให้คนคนนี้พาเขาไปสถานที่อื่นๆเพื่อลงชื่อเข้าใช้

โชคดีที่มีปรมาจารย์ยุทธเช่นชายผู้นี้ที่สามารถทำหน้าที่นำทาง

โอกาสนั้นยากที่จะได้มา

“สิ่งนั่นอยู่ที่นี่จริงหรือ?”

ปรมาจารย์ยุทธพึมพำบางอย่างหลังจากมองอยู่นาน

หลี่มู่อยู่ข้างหลังเขาเป็นเวลานาน

ผู้ชายคนนั้นกำลังมองหาอะไร?

เขาควรไปหาที่อื่นดีไหมถ้ายังหาที่นี่ไม่เจอ?

ทำไมเขาถึงยืนกรานที่จะอยู่รอบๆ?

หลี่มู่วนรอบหอสมุดเพื่อปรมาจาย์ยุทธมาระยะหนึ่งแล้ว

รุ่งอรุณใกล้เข้ามาแล้ว

เขาตัดสินใจไม่รออีกต่อไป

“เฮ้ เจ้าน่าจะ…”

ร่างที่สวมชุดดำซึ่งกำลังพลิกหน้าหนังสือตกใจ เขาฟาดฝ่ามือใส่หลี่มู่ก่อนที่เขาจะวางหนังสือที่ถืออยู่เสียด้วยซ้ำ

บูม~

หลี่มู่หลบอย่างรวดเร็ว

เจ้านี่..

“เฮ้…ข้าแค่…เอาอีกแล้ว!”

บูม~

ร่างในชุดดำโจมตีจุดที่สำคัญของหลี่มู่อย่างต่อเนื่อง

หลี่มู่หลบเลี่ยงการโจมตีทุกครั้ง

ชายอีกคนไม่แม้แต่จะให้โอกาสหลี่มู่ได้อธิบาย

“ข้าชักโมโหเข้าแล้ว?”

หลี่มู่เหวี่ยงหมัดสวนกลับไป

บูม~

กำปั้นและฝ่ามือประสานกัน และคลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นได้ส่งหนังสือทั้งหมดที่อยู่ในสถานที่นั้นปลิวว่อน

ชายอีกคนถูกส่งออกไปนอกหอสมุดด้วยหมัดเดียวจากหลี่มู่

หลี่มู่เดินตามหลังเขาทันที

“ขันทีชั้นต่ำ!”

ในที่สุดชายคนนั้นก็สามารถมองเห็นหลี่มู่ได้ดีเมื่อพวกเขาอยู่นอกสถานที่

ชายอีกคนหนึ่งเป็นขันทีชุดเทา

ความประหลาดใจของเขาถูกเขียนขึ้นทั่วใบหน้าของเขา

ปรมาจารย์ยุทธเช่นนี้ควรเป็นอัจฉริยะที่ได้รับการฝึกฝนนานถึงหนึ่งศตวรรษ

แต่สิ่งที่เขาเห็นก็คือเด็กหนุ่มที่เป็นขันทีชั้นต่ำหน้าตาดีแทน

อาจเป็นขันทีอาวุโสที่ฟื้นคืนความเป็นหนุ่มสาว?

เป็นไปไม่ได้!

หากว่ามีปรมาจาย์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ทำไมราชวงศ์ถึงยอมให้ตระกูลขุนนางพัฒนาแบบนั้น?

อั๊ก~

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงจากท้องของเขา เลือดไหลออกจากปากของเขา

ในตอนเวลานี้ ร่างที่สวมชุดดำตระหนักว่าเขาได้รับบาดเจ็บ

“เดี๋ยวก่อน…เจ้า…”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด