ตอนที่ 2 ยาอันล้ำค่า
อย่างไรก็ตามวิธีนี้เป็นไปได้ยากมาก
เพราะในตอนนี้เส้นลมปราณส่วนใหญ่ของเขาถูกทําลายและกระดูกทั้งหมดในร่างกายของเขาก็อยู่ใสภาพที่ยิ่งแย่ลงไปอีก
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมอบทักษะการฝึกของเขาไปให้ลูกศิษย์ของเขาได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้นการฝึกฝนจํานวนมากที่จําเป็นสําหรับครั้งนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายที่แตกสลายของเขาสามารถจะทนได้
ในกรณีนี้เขาต้องเลือกทางเลือกที่สองเท่านั้น
เขาจะมอบยาแก้พิษให้แก่ลู่เหยียนหรัน และด้วยวิธีนี้เขาจะได้รับยาครอบจักรวาลที่มีคุณภาพสูงกว่าอย่างแน่นอน
โชคดีที่ระบบตอบแทน 10,000 เท่านั้นไม่ได้เป็นการตอบแทนด้านปริมาณเท่านั้น
ระบบจะแปลงการซ้อนทับของปริมาณเป็นการเพิ่มคุณภาพโดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน
น่าเสียดายที่ยาแก้พิษส่วนใหญ่ในตอนนี้ของยื่อซวนถูกใช้ไปจนหมดแล้ว
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือยาเม็ดสีขาวที่เขาเพิ่งมอบให้กับลู่หยานรันไปเท่านั้น
ยาเม็ดนี้เป็นยาฟื้นวิญญาณขั้นสาม ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งของล้ำค่าในสายตาของยื่อซวน
แต่ในทางกลับกันนั้น ลู่หยานรันกําลังจ้องมองยาฟื้นวิญญาณขั้นสามในมือของเธอด้วยสายตาที่เป็นประกาย
ในสายตาของเธอนั้นยาเม็ดนี้มีค่ากับเธอมาก
เพราะฟื้นวิญญาณขั้นสามนั้นสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของปรมาจารย์ในขอบเขตการก่อตัวขั้นกลางได้
ทำไมปรมาจารย์ถึงได้มอบยานี้ให้แก่เธอได้อย่างง่ายดายแบบนี้?
ร่างกายของลู่เหยียนหรันสั่นเล็กน้อย เธอรู้สึกถึงเหงื่ออุ่นที่ออกมาจากร่างของเธอได้
เพราะสิ่งนี้เองมันทำให้เธอประทับใจอย่างมาก
หลังจากยื่อซวนให้คําแนะนําง่ายๆแก่เธออีกสองสามอย่างเขาก็รีบกลับไปยังสถานที่แห่งความสันโดษของเขา
เช่นเดียวกับที่ยื่อซวนกําลังจะจากไปเสียงที่ชัดเจนของระบบก็ดังขึ้นในใจของเขา
[ติ๊ง! ตรวจพบว่าท่านได้มอบยาฟื้นฟูระดับสามแก่ลูกศิษย์ของท่าน ท่านได้รับการตอบแทน 10,000 เท่า ท่านได้รับยาเม็ดนิพพานระดับเจ็ด!!]
หลังจากได้ยินเสียงของระบบ ยื่อซวนก็ตั้งสติอย่างรวดเร็วและมองไปที่จอของระบบ
เขาเห็นว่ายาเม็ดสีม่วงอมแดงนั้นลอยอยู่ในพื้นที่ของระบบอย่างนิ่งๆ
แม้ว่ายื่อซวนจะยังไม่ได้กินยาแต่เขาก็ได้กลิ่นยาฉุนของมันแล้ว
ยื่อซวนจ้องมองไปและเห็นว่ามันเป็นคําอธิบายผลของยาเม็ดนิพพานระดับเจ็ด
[ยาเม็ดนิพพานระดับเจ็ด: ยาเม็ดนี้สามารถทำได้โดยปรมาจารย์ด้านยาชั้นยอดเท่านั้นและอัตราการสร้างยาเม็ดนี้ก็มีความล้มเหลวที่สูง]
[ยาเม็ดนี้ไม่เพียงแค่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บและพิษทั้งหมดที่ต่ำกว่าระดับเจ็ดได้ แต่ยังมีผลต่อชีวิตและความตายอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของผู้ใช้ได้อย่างมาก ซึ่งพลังของยาเม็ดนั้นแบ่งออกได้เป็นเจ็ดส่วน]
[หลังจากที่ได้กินเข้าไปความแข็งแกร่งของผู้ใช้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและหลังจากพลังของส่วนที่เจ็ดถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ผู้ใช้สามารถครอบครองได้แม้กระทั่งพลังของกษัตริย์]
หลังจากอ่านคําอธิบายของยาเม็ดนิพพานระดับเจ็ดแล้วความหวาดหวั่นที่เป็นกังวลของยื่อซวนก็ผ่อนคลายลงในที่สุด
ด้วยเหตุนี้ในที่สุดเขาก็สามารถรอดจากความตายได้แน่!
เขามอบเหรียญให้กับลู่หยานรันและพูดว่า "จากนี้ไปข้าจะเข้าสู่ความสันโดษ เจ้าจะต้องยืนเฝ้าอยู่นอกประตูโดยที่ไม่มีใครมารบกวนข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากข้าก่อน!"
ยื่อซวนได้โยนเหรียญของเขาให้ลู่เหยียนหรัน
ตราบใดที่มีเหรียญนี้แม้ว่าปรมาจารย์แห่งนิกายชิงหยุนต้องการพบเจอกับเขา เขาก็ไม่สามารถไปหาเขาได้
"ได้ค่ะท่านปรมาจารย์!"
ลู่หยานรันถือเหรียญนั้นด้วยมือทั้งสองข้างและเฝ้าดูยื่อซวนจากไปด้วยความเคารพ
"ยาเม็ดนิพพานระดับเจ็ดงั้นเหรอ หวังว่าคงไม่ทำข้าผิดหวังหรอกนะ!"
หลังจากยื่อซวนเดินเข้าไปในห้องโถงเขาก็ปิดประตูด้านหลังเขาอย่างแน่นหนา
ร่างกายของเขาทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะล้มลงไปกับฟูก
ตอนนี้ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อเต็มร่างกาย
ตอนนี้เพื่อรักษาสภาพของเขาในฐานะผู้อาวุโสเขาจะต้องรวบรวมพลังให้ได้เสียก่อน
นั่นจึงส่งผลให้อาการบาดเจ็บของเขาเริ่มรุนแรงขึ้น
โชคดีที่ตอนนี้เขามียาเม็ดนิพพานระดับเจ็ดดังนั้นการบาดเจ็บเหล่านี้จึงไม่เป็นปัญหากับเขาอีกต่อไป
เขาใช้พลังเฮือกสุดท้ายของเขาเพื่อนํายาเม็ดนิพพานระดับเจ็ดออกจากพื้นที่ของระบบ
บนเม็ดยานั้นมีลวดลายที่สวยงามอยู่
อย่างไรก็ตามทันทีที่ยาอยู่ในมือของเขา ยื่อซวนสังเกตเห็นพลังงานที่น่ากลัวที่มีอยู่
แต่ยื่อซวนไม่มีเวลาลังเลอีกต่อไป เขานำยาเม็ดนั้นเข้าปากของเขาทันที
ตอนแรกเขาคิดว่าพลังยาของยาเม็ดนิพพานจะแสดงพลังทันที แต่ความเป็นจริงก็คือหลังจากที่เขากลืนลงไปพลังยาก็เหมือนหยดน้ำที่เข้าไปบํารุงแขนขาและกระดูกของเขาอย่างต่อเนื่อง
ยื่อซวนรู้สึกสบายใจมาก
เส้นลมปราณที่ฉีกขาดและกระดูกที่หักในร่างกายของเขาค่อยๆฟื้นตัวด้วยพลังของยาที่อ่อนโยนแต่ทรงพลัง
ในขณะที่ร่างกายของเขากําลังฟื้นตัวจากยานี้ มันก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
กระดูกเนื้อและพังผืดของเขากำลังเปลี่ยนแปลงไปในเชิงของคุณภาพ
ในระหว่างกระบวนการนี้เริ่มขึ้น ยื่อซวนที่กำลังให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขาจึงไม่ได้สนใจว่าเวลาได้ผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว
ในตอนนี้ลู่หยานรันยังคงถือเหรียญของผู้อาวุโสที่ยื่อซวนมอบให้เธอโดยที่รออยู่นอกประตู
ในตอนนี้เธอได้หายจากอาการช็อกและสับสนแล้ว
เธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่ยาฟื้นวิญญาณระดับสามในมือของเธอ
เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าปรมาจารย์ยื่อซวนจะมอบยาที่ล้ำค่าแบบนี้แก่เธอ
สําหรับนิกายชิงหยุนทั้งหมดนั้น ยาฟื้นวิญญาณระดับสามอาจถือว่ามีค่ามาก ผู้อาวุโสคนอื่นๆอาจไม่เต็มใจที่จะมอบให้กับลูกศิษย์ของพวกเขาได้ง่ายๆ
แต่เมื่อตอนที่ยื่อซวนมอบยาเม็ดนี้ให้แก่เธอ เขาไม่ได้มีอาการเสียดายอะไรเลยแม้แต่น้อย
ลู่หยานรันรู้ดีว่าเธอเป็นเพียงผู้ฝึกตอนระดับย่อยที่กําลังอยู่ในสถานะการปรับแต่งเท่านั้น
ถ้าเธอใช้ยาฟื้นวิญญาณเม็ดนี้ตอนนี้มันจะการใช้ที่เปล่าประโยชน์
ดังนั้นลู่หยานรันจึงตัดสินใจว่าถ้าเธอไม่ได้พบกับสถานการณ์ที่เธอไม่สามารถทำอะไรได้จริงๆ เธอจะไม่ใช้ยาเม็ดนี้อย่างแน่นอน
เธอเก็บยาลงในกระเป๋าอย่างระมัดระวัง
จนถึงตอนนี้หัวใจของเธอยังไม่หยุดเต้นด้วยความตื่นเต้น
สําหรับเธอแล้วยาฟื้นวิญญาณระดับสามเป็นสิ่งที่มีเพียงปรมาจารย์จากขอบเขตหลักเท่านั้นที่สามารถทำยากเม็ดนี้ได้ ซึ่งมันเป็นเหมือนกับสมบัติล้ำค่าของเธอในตอนนี้
ในภูมิภาคเทียนหยวนนั้น ระดับการฝึกตนของผู้ฝึกตนนั้นจะได้รับการจัดอันดับจากต่ำไปสูง: รูปแบบการปรับแต่ง, รูปแบบการเปลี่ยนแปลงฉี , รูปแบบแก่นแท้จริง, รูปแบบจิตวิญญาณสีม่วง, รูปแบบการก่อตัวหลัก, รูปแบบเอกภาพ, รูปแบบการควบแน่นและอื่นๆ
ภายในแต่ละระดับใหญ่จะมีสิบขั้นเล็กๆอยู่
ซึ่งลู่หยานรันอยู่ในขั้นตอนที่สี่ของรูปแบบการปรับแต่งเท่านั้น
สําหรับคนธรรมดานั้นระดับของเธอถือว่าทรงพลัง
แต่ในสายตาของปรมาจารย์ของเธอนั้นเทียบไม่ได้เลยแม้แต่น้อย