ตอนที่ 18 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
ตอนที่ 18 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
หลังจากที่ได้ศึกษาคุณสมบัติของต้นไม้แห่งปัญญาแล้ว หลิน ยู ก็เริ่มใช้พลังเวทย์ที่เขาได้มาอัญเชิญทหารออกมาเพิ่ม
วันนี้เป็นวันที่ 5 ที่เขามาถึงโลกนี้
ระยะเวลาปลอดภัย 7 วันอยู่ห่างออกไปไม่ถึง 3 วัน
ดังนั้นเขาต้องรีบอัญเชิญทหารให้ครบทั้ง 40 ตัวโดยเร็ว
ในเวลาเดียวกัน เขายังต้องเสริมการป้องกันบริเวณโดยรอบของอาณาเขต มิฉะนั้นรั้วเหล่านี้ คงอยู่ได้อีกไม่นาน
ในเวลานั้น มันเป็นจะเป็นเรื่องใหญ่ถ้าหากมีมอนสเตอร์หลุดเข้ามา และต้นไม้แห่งชีวิตได้รับความเสียหาย พลังชีวิตของเขาก็จะหายไป เขาไม่อยากตายในเร็วๆ นี้
ต้องรีบตัดสินใจ!
หลิน ยู นำกองกำลังพืชออกจากดินแดนและเริ่มขุดกับดักและเพิ่มรั้ว วิญญาณดอกไม้ที่ไม่สามารถทำงานหนักได้บินไปมาเพื่อฟื้นฟูความเหนื่อยล้าให้เหล่าพืช
แม้แต่จอมเขมือบทั้ง 6 ต้นที่ทำหน้าที่เฝ้ารั้วก็ข้ามรั้วมา และใช้ปากจับช่วยการซ่อมแซ่ม
ความร้อนอบอ้าวภายนอกอาณาเขตทำให้เหล่าพืชดูมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก
หลังจากทำงานหนักจนถึงเย็น ในที่สุดป้อมปราการทั้งหมดก็เสร็จสมบูรณ์ รั้วถูกยกระดับและเสริมความแข็งแกร่งขึ้น
“เอาล่ะเยี่ยมมาก ทุกคนทำงานหนักแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ”
เมื่อเห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมืดลง หลิน ยู ก็โบกมือและกลับไปที่ดินแดนพร้อมกับเหล่าต้นไม้ทั้งหมด จากนั้นก็ปิดประตู ทางเข้า
ในช่วงเวลานั้น เขายังใช้ซากศพของมอนสเตอร์ที่นำกลับมายังดินแดน เติมเต็มคลังเสบียรของเขา
สำหรับกองกำลังทหาร โดนพื้นฐานแล้วพวกมันเหมือนพืชทั่วไป พวกมันต้องการเพียงดินที่ดีและแสงแดด เขาไม่ต้องกังวลกับมันมากนัก
หลังจากที่ทานอาหารง่ายๆ หลิน ยู กลับเข้าห้องของเขาเพื่อพักผ่อน
.....
ในชั่วพริบตา
ค่ำคืนผ่านไป
สิ่งที่ หลิน ยู คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น
ในเช้า ตรู่วันต่อมา มีแขกไม่ได้รับเชิญสองคนอยู่ที่ด้านนอกอาณาเขตของเขา ราชัน 2 คนพร้อมกำลังมากมายอยู่ข้างพวกเขา
“พี่ใหญ่ ที่นี้มีดินแดนอยู่!”
ในบรรดาสองคนนี้ เด็กหนุ่มที่ผอมกว่าตะโกนบอกด้วยความประหลาดใจ และพบว่าอาณาเขตของ หลิน ยู
พวกเขาออกมาจากป่า บนภูเขาใกล้ๆ ดูโทรม ราวกับพวกเขาเพิ่งผ่านการต่อสู้มา
“ฉันไม่นึกเลยว่าสถานที่ๆ ห่างไกลแบบนี้จะมีอาณาเขตอยู่ เข้าไปดูกันเถอะ”
คนที่เด็กหนุ่มเรียกว่าพี่ใหญ่เป็นชายวัยกลางคนมีในหน้าเคร่งครึม มีทหารออร์คนับสิบรายล้อมตัวเขา ผสมกับฝูงสัตว์ร้ายที่เด็กหนุ่มพามา
เมื่อเห็น อาณาเขตของ หลิน ยู ทั้ง 2 ก็พาทหารเขาใกล้อย่างระมัดระวัง
แต่ในวินาทีนั้น เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นราวกับงูกำลังแวกว่ายน้ำ และโอบล้อมพื้นที่นี้เอาไว้
“เผ่าพืช?”
ชายหนุ่มคนนั้น ตกใจ มีเถาวัลย์แหลมคมจำนวนมากมายพวกมันอย่างน้อยพวกมันอยู่ระดับ 3 ในบรรดาราชันเผ่าพืชที่พวกเขารู้จัก ไม่เคยมีใครก้าวขึ้นสู่ระดับ 3 สำเร็จ
เขาไม่กล้าทำอะไร ตะโกนเข้าไปในอาณาเขตทันที
“สหายพวกเขาแค่ผ่านทางมา ไม่ได้มีเจตนาร้าย”
เสียงตระโกนดังกึกก้องเข้าในอาณาเขต
แน่นอน ในเวลาไม่นานเถาวัลย์จำนวนมากที่อยู่บนพื้นดินก็หยุดลงและล้อมรอบพวกเขาไว้ห่างออกไปไม่ถึง 10 เมตร
“เมื่อพวกเจ้าแค่บังเอิญผ่านมา ก็จงออกไปซะ”
ประตูไม้บานยักษ์เปิดออก หลิน ยู ก็ค่อยๆ เดินออกมา
ตอนนั้นเองที่พวกเขาทั้ง 2 คนเห็นสภาพภายในอาณาเขตของ หลิน ยู พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
เขาเห็นพืชที่น่าสำพรึงกลัวมากมายเดินเตร่อยู่ในอาณาเขตอันกว้างใหญ่ ต้มไม้ทุกต้นพ่นลมหายใจอันทรงพลังดูน่าหวาดกลัวออกมา แม้แต่เจ้าจอมเขมือบที่มีหน้าที่เฝ้ากำแพงยังดูดุร้าย สามารถกลืนกินพวกเขาได้ในคำเดียว
สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงมากที่สุด คือ ต้นไม้แห่งชีวิตที่ตั้งใจกลางอาณาเขต
มันดู สูงส่งและยิ่งใหญ่กว่าอาณาเขตพืชที่เขารู้จักหลายเท่า
ตั้งตรงอยู่ตรงกลางอย่างภาคภูมิราวกับเป็นต้มไม้ยักษ์โบราณากาล
นี้มัน....!
เป็นดินแดนระดับ 3 จริงหรือ ?
อาณาเขตระดับ 3 ของเผ่าพืชจะน่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ ?
ทั้ง 2 ไม่กล้าที่จะจินตนาการ สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่ หลิน ยู ที่ออกมาจากบ้านต้นไม้ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หลังจากที่มึนงงอยู่ครู่หนึ่ง ชายวัยกลางคนเป็นคนแรงที่ตอบสนองพูดเข้าไปในอาณาเขต “สหาย พวกเราเพิ่งได้ผ่านเข้ามาในดินแดนรกร้างนี้และอยากสอบถามว่ากำแพงที่กั้นแสสัตว์ร้ายอยู่ที่ไหน สหายพอจะทราบไหม?”
“กำแพงใส? แค่ผ่านข้ามป่านี้ไป”
หลิน ยู ชี้ไปยังทิศทางของป่า
เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนรีบเดินทางมาที่ดินแดนรกร้างเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของฝูงสัตว์ร้ายในกำแพง และเมื่อสังเกตุไปที่กองทหารที่อยู่รอบๆพวกเขา ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้อ่อนแอเลย อย่างน้อยพวกมันก็เป็นระดับ 3 ทั้งหมด ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาจะมาได้ไกลขนาดนี้
หลังจากที่ได้รับการตอบกลับ ทั้ง 2 คนอยู่ในนอกอาณาเขตก็ขอบคุณอย่างรวดเร็ว
“ขอบใจสหาย พวกเราไม่รบกวนแล้ว”
เมื่อพูดออกไป ชายหนุ่มและเด็กหนุ่มก็มองกัน และหันหลังจากไปทันที เดินลึกเข้าไปในป่าด้านข้าง หายไปจากระยะการมองเห็นของ หลิน ยู
หลังจากที่เขามองไม่เห็นอาณาเขตของ หลิน ยู ในที่สุดเด็กหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่ใหญ่ ทำไมเราไม่ลองหยั่งเชิงชายคนนั้นดูหล่ะ เขามันก็เผ่าพืชโง่ๆ”
“เผ่าพืชโง่ๆ? นี้นายเคยเห็นเผ่าพืชโง่ๆแบบนั้นเหรอ? ไม่ต้องพูดถึงกองกำลังเหล่านั้น แม้แต่ฉันเองก็ยังไม่เคยเห็น”
เด็กหนุ่มจ้องหน้าเขาเขม็ง
เด็กหนุ่มตอบสนองอย่างรวดเร็วและพูดอย่างลังเลว่า “พี่ใหญ่ นี้คุณหมายถึง... นั้นคุณทหารระดับ 3 ทั้งหมดใช่ไหม”
ชายหนุ่ม สูดหายใจลึก “นั้นเป็นไปได้มาก แต่จากการสังเกตของฉัน ชายหนุ่มคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา เขาไม่ได้กลัวพวกเราเลย”
“มันก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละพี่ใหญ่! คงเพราะพวกเราไม่สามารถทำอะไรเขาได้เพราะอยู่ในระยะปลอดภัย” เด็กหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“คงจะดีถ้ามันเป็นแบบนั้น”
ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม เมื่อเขาหันกลับไปมองยังทิศทางดินแดนของ หลิน ยู
“อย่างไรก็ตามพวกเราควรระวังไว้หน่อยดีกว่า เผ่าพืชที่ไปถึงระดับ 3 ในเวลาสั้นๆ นี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดา แน่นอน อย่างไรก็ตามพวกเรามาที่เพื่อที่จะตรวจสอบสถานการณ์ของกระแสสัตว์ร้ายเท่านั้น อาณาเขตของผู้ชายคนนั้นอยุ่ใกล้มาก แปลมาก เขาดูไม่หวาดกลัวเลย และยังสร้างป้อมปราการขึ้นมากมายนัก”
“แปลกตรงไหน ฉันคิดว่าคุณคิดมากเกินไป พี่ใหญ่ ฉันรับประกันได้ว่าหลังจาก 7 วันผ่านไป สิ่งแรกที่จะถูกทำลายคือดินแดนของเขา บางทีดินแดนนี้อาจจะไม่อยู่ที่นี้แล้วเมื่อเรากลับมาในครั้งหน้า”
“อาจจะ....”
ชายหนุ่มไม่คิดจะพูดอะไรอีก
หลังจากที่รู้ทิศทางแล้ว พวกเขาก็รีบวิ่งไปที่กำแพง ขณะเดียวกันก็ค่อยแอบระวังรอบด้าน
เขาได้ยินมาว่าเหล่ามอนสเตอร์ในป่านั้นดุร้ายเป็นอย่างมาก ต้องระมัดระวังตัวเสมอ
ใช้เวลาไม่นานทั้ง 2 ก็ออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ หายเข้าไปในป่าลึก
....
ณ ด้านอื่นๆ
หลังจากที่ส่งแขกไม่ได้รับเชิญทั้ง 2 ออกไปแล้ว หลิน ยู ก็เริ่มงานของเขาต่อ
แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคืออัญเชิญกองกำลังพืชเพิ่มด้วยพลังเวทย์ที่สะสมไว้โดยบัวเพลิงโลกันต์เพื่อเติมเต็มอาณาเขตของเขา
และภายใต้การกลายพันธุ์ครั้งแล้วครั้งเล่า กองทหารระดับ 4 ใหม่เอี่ยมก็ปรากฏตัวขึ้นทีละตัว
สิ่งที่ทำให้ หลิน ยู ประหลาดใจก็คือ ในบรรดาพืช 10 ชนิดที่กลายพันธุ์ในครั้งนี้ มี 2 ชนิดที่กลายเป็นเห็ดระเบิดระดับสูง!