2 มือใหม่
“ไม่เอาแบบนี้สิเพชร วัวเคยค้าม้าเคยขี่ ของมันเคยๆ กันอยู่ทำไมตัดสัมพันธ์ง่ายจัง”
“คุณพจน์” เพชรนภาเข่นเขี้ยวเหลือเกินกับร้ายยิ้มร้ายกาจของปพจน์ แต่ก็ต้องยอมใจเย็น
จริงอยู่ว่าเคยค้าขายกันมานานและก่อนที่แบรนด์เพชรนภาจะมาติดตลาดแบบนี้ได้ เธอต้องน้อมรับน้ำใจโรงงานของปพจน์เอาไว้อยู่หลายครั้ง
ตอนนี้กำลังชั่งใจว่าจะตัดความสัมพันธ์กับพ่อค้าหัวหมอคนนี้ทิ้งไปซะหรือจะรักษาแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น
หลับตาข้างเดียวแกล้งโง่ไปบ้างว่าราคากับคุณภาพมันต่างกันลิบโรด
“เพชรอาจจะสื่อสารผิดพลาดไปหน่อยค่ะ เพชรแค่อยากจะบอกว่า เพชรอยากไปดูตลาดผ้าจริงๆ สักครั้ง อาจจะได้แรงบันดาลใจสำหรับคอลเลคชั่นต่อไป”
“สัปดาห์หน้าผมต้องไปโรมพอดี เพชรสนใจไปเปลี่ยนบรรยากาศที่นั่นกับผมมั้ย”
“คุณพจน์หมายถึงไปดูตลาดผ้าที่นั่นรึค่ะ” แม่หม้ายสาวพราวเสน่ห์รู้ดีว่าคนมักมากต้องการสื่ออะไร
แต่สำหรับเธอเรื่องงานก็คือเรื่องงาน แต่ถ้าอยากนอกเหนือมากกว่าก็แค่พูดมาตรงๆ
“ที่ผมชวนก็เพราะอาจจะช่วยคุณเรื่องงานนะเพชร” มือหนาเลื่อนมาลูบไล้หลังมือแผ่วเบา
ลำนิ้วชี้ของปพจน์สะกิดที่อุ้งมือของเพชรนภาอย่างรู้กัน
พรึ่บ!
คนถูกล่วงละเมิดดึงมือตัวเองกลับ แม้จะอยากตบหน้าตาอุบาศว์ที่ยกยิ้มอย่างไม่มีความสำนึกผิดสักฉาดแต่เธอก็ต้องอดทน
“เพชรของเช็กตารางก่อนนะคะ”
“อยากไปด้วยก็รีบแจ้งผมมานะ เดี๋ยวให้เลขผมจัดการให้”
“ขอตัวนะคะ”
ม่ายสาวพราวเสน่ห์ตรงไปที่รถประจำตัวเมื่อขึ้นเบาะนั่งได้ก็ระบายลมร้อนออกจมูกแรงๆ
เธอยังต้องเวียนว่ายใจวงจรอุบายเหล่านี้อย่างไม่มีวันจบสิ้น
ตารางคิวงานของตัวเองเพชรนภาไม่จำเป็นต้องเช็ก เพราะใบหน้าเสี่ยแก่บ้ากามทั้งหลายลอยมาแทบไม่ซ้ำ
วันนี้ปพจน์เจ้าของโรงงานผ้าคู่ค้าเก่าแก่มานาน
พรุ่งนี้เสี่ยไพรวัลย์ออแกไนท์ที่จ้างมาดูแลงานโชว์เสื้อผ้าของเธอ
ถัดไปอีกก็ตาประสิทธิ์เถ้าแก่คนสนิท ที่ปรึกษาทีมช่างตัดเย็บ
เธอต้องผจญกับผู้ชายหื่นกระหายที่จ้องแต่เนินใต้สะดือมากกว่าเรื่องงาน ถ้าไม่เก่งจริงและมีบุญคุณต่อกันมาก่อน
สักวันเพชรนภาคงหลุดจากคนพวกนี้ได้
“โชค! ไปส่งฉันที่ร้าน”
“แล้วคุณหนูพลอยชมพูละครับ เธอรอคุณอยู่นะ”
“ลูกฉันฉันจัดการเอง ไปส่งฉันที่ร้าน”
“ครับ”
ในชีิวตท่าทางจะมีนายโชคคนขับรถเพียงคนเดียวที่ไม่เคยแสดงกิริยาก้าวล่วงเพชรนภา
เขาเป็นคนเดียวที่ทำตามคำสั่งและไม่เคยหาเศษหาเลยไม่ว่าจะช่องทางใด
สปาปันสบาย
“แหม! คิดว่าคุณเพชรจะไม่เข้ามาซะอีกคะ” เจ้าของร้านรุ่นราวคราวเดียวกับลูกค้าสาวรีบวิ่งออกมาต้อนรับทันทีที่ขาประจำก้าวเข้าร้าน
“ก็คุณศรีส่งข้อความเชิญฉันมา ไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะๆ เชิญนั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวดิฉันพาคนมาให้”
“วันนี้ดิฉันแค่จะมาผ่อนคลายเฉยๆ ของเครื่องดื่มเบาๆ ก็พอ”
“งั้นดีเลยค่ะ วันนี้มีน้องใหม่กำลังฝึกงาน ดื่มมากก็ไม่ได้เหมือนกันเดี๋ยวดิฉันพามาดูแลคุณ”
“ไม่ต้อง!” ความเครียดสะสมพาลให้เพชรนภาขึ้นเสียงใส่เข้าของร้าน
“นะคะ! คนนี้ดิฉันไม่คิดค่าบริการแล้วกัน”
คนฟังกอดอกสะบัดหน้าหนีอย่างไม่พอใจแต่พอได้ยินเจ้าของร้านบอกว่าไม่คิดค่าตัวเด็กเธอก็ยอมนั่งลง
ของฟรีใครบ้างไม่ชอบ
“สวัสดีคุณเพชรสิจ๊ะน้องจ๊อบ”
“สวัสดีครับคุณเพชร”
“คุณเพชรนี้น้องจ๊อบ คนนี้มาใหม่คอยังอ่อน ทำงานอาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไรอย่าถือโทษเลยนะคะ ฝากเนื้อฝากตัวกับคุณเพชรเข้าสิจ๊ะจ๊อบ”
“ครับ! คุณศรี”
เพชรนภามองหน้าหนุ่มน้อยวัยราวๆ ยี่สิบปี อาจจะเรียนอยู่มหาวิทยาลัยใดสักแห่ง
หรือไม่ก็ไม่ได้เรียนเลย
“หาคนที่เป็นงานมากดีกว่าค่ะ ถ้ายังทำงานไม่เป็นถึงฟรีดิฉันก็ไม่เอาหรอก”
“คุณเพชรครับ ให้โอกาสผมหน่อยนะ” หนุ่มน้อยยกมือขึ้นพนมระดับขอความเห็นใจ
แววตาใสซื่ออย่างที่เธอไม่เคยได้รับจากคนต่างเพศมาเป็นเวลานาน
“เราทำอะไรเป็นบ้าง”
“ก็ยังไม่มากครับแต่ผมหัวไว”