ตอนที่แล้วตอนที่ 982 ทักษะแฝงเร้นสุดยอด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 984 ข้าจะเปลี่ยนเจ้าให้เป็นกองไฟ

ตอนที่ 983 ตัวต่อตัว


ความสามารถในการกัดกร่อนสลายอาวุธจนหายไปทั้งที่นั่นคืออาวุธระดับแพลตตินัมทักษะความสามารถเช่นนี้ทำให้เย่ว์หยางรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้า

เย่ว์หยางไม่ขาดแคลนอาวุธที่ดีกว่านี้  แต่เขาลังเลจะเอาออกมาใช้

ต่อให้ไม่ถูกกัดกร่อน  แต่มันก็ได้รับความเสียหาย

ก็ยังเป็นเรื่องน่าเสียใจอยู่ดี!

“หมิงลี่ฮ่าว, เจ้าเป็นสหายประสาอะไร  เจ้าผีแก่นี่มีความสามารถอย่างนั้นทำไมไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้?”  นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ว์หยางถูกทำลายอาวุธอย่างเป็นทางการเขาอดบ่นไม่ได้จึงไประบายลงกับหมิงลี่ฮ่าวที่ไม่ยอมให้ข้อมูลเขา

“ข้าไม่รู้ ข้อมูลข้าผิดพลาด!”  หมิงลี่ฮ่าวพูดเบาๆ เขารู้สึกเขาเหมือนจะตายอยู่แล้วจึงคร้านทะเลาะด้วย

“โอว, อาวุธฆ่าเจ้าไม่ตายเราคุณชายจะใช้พลังลมปราณเต่าสะท้านฟ้าก็ได้!”  เย่ว์หยางไม่เคยใช้พลังเต่าสะท้านฟ้า(เข้าใจว่าอ้างอิงจากเรื่องดรากอนบอลZ)  แต่เป็นเรื่องง่ายกับการกลั่นควบพลังเป็นลูกกลมพลังงานขนาดใหญ่บอลพลังงานจะสามารถฆ่าเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ได้หรือไม่?  แน่นอน เย่ว์หยางคงไม่ทำอย่างนั้น  เขาคิดว่าพลังบอลพลังงานนั้นอยู่ภายใต้พลังกฎสวรรค์น้อยของเขาเปลี่ยนรูปไปเป็นดาบแพลตตินัมก่อนนั้นอย่างรวดเร็ว

ถ้าทักษะแฝงเร้นของเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่สามารถทำลายและสลายโลหะอาวุธได้  อย่างนั้นดาบที่สร้างจากพลังงานเขาคงไม่สามารถกินได้แน่นอน

เย่ว์หยางแค่นเสียงและจำได้ว่าต้องฟันอีกครั้ง

ท่าที่สอง: ฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย!

เมื่อดาบพลังงานฟันถึงศีรษะของเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่  อีกข้างหนึ่งของเย่ว์หยางเงื้อขึ้นกลั่นสร้างดาบพลังงานที่สองอย่างรวดเร็ว

คมดาบพลังงานที่สองนี้มีขนาดใหญ่กว่าไวกว่าดาบแรก  เมื่อก่อตัวเป็นรูปร่างมันมีพลังงานเหนือกว่าดาบพลังงานแรก นี่คือท่าดาบที่สาม ผ่าภูผามหานที

นี่คือพลังโจมตีที่ไม่ธรรมดาของเย่ว์หยางการก่อตัวของพลังงานรวดเร็วมาก นอกจากนี้ยังมีพลังกฎสวรรค์น้อยอยู่ที่แขน  จ้าวสุริยาจ้องมองไม่วางตาแม้ว่ามองอย่างผิวเผินเขายังสงบอยู่ได้ แต่เขารู้สึกทึ่งในใจเด็กหนุ่มคนนี้เป็นศัตรูที่เขาเพิ่งพบเห็นในชีวิตได้จริงๆ!  ต่อให้เป็นจีอู๋ลี่ผู้มีทักษะแฝงเร้นและความรู้สูงสุดในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ยุคนี้  ก็คงทำอย่างเด็กหนุ่มนี่ในวัยเท่าเขาไม่ได้! ใครจะเชื่อกันเล่าว่านี่เป็นนักรบมนุษย์ที่มีอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น  ก็สามารถปะทะกับเจ้าตำหนักน้ำแห่งตำหนักกลางแดนสวรรค์ได้โดยตรงเชียวหรือ?  เขาทำใหจ้าวสุริยาแห่งตำหนักเทพสุริยะต้องตกอยู่ในวิกฤติได้ขนาดนี้เชียวหรือ?

แม้ว่าการเติบโตก้าวหน้าของมนุษย์จะเร็วมาก  แต่ไม่ควรจะเร็วมากขนาดนั้น

หนุ่มสาวชาวมนุษย์ในวัยยี่สิบพวกเขาทำอะไรอยู่กันแน่?

จ้าวสุริยาได้เห็นรายงานการสืบสวนของเสี่ยวโฉ่วและพบว่าก่อนการปรากฏตัวของเย่ว์หยาง นักรบมนุษย์ในวัยยี่สิบปีสามารถประสบความสำเร็จได้ที่ชั้นนักรบสามัญระดับหกต้องบอกว่าเป็นอัจฉริยะที่พบเห็นได้ยากในรอบร้อยปี ประสบความสำเร็จเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดในวัยยี่สิบปีนั่นบางทีอาจเป็นอัจฉริยะที่พบได้ยากในรอบพันปี

อย่างไรก็ตาม ขณะที่คนอื่นในหอทงเทียนยังอยู่ในระดับปราณก่อกำเนิดพวกเขาก็เหมือนกับนักสู้ปราณดินที่ต่อสู้กับระดับปราณฟ้าอย่างสิ้นหวัง

เย่ว์หยางผู้นี้ก้าวหน้าเหนือกว่าระดับปราณฟ้าเหนือกว่าระดับปราณราชันย์ และกำลังเข้าสู่ขอบเขตระดับเทพ

ทารกวัยยี่สิบปีสามารถไล่หลังเขามาได้ติดๆ

นอกจากคำว่าผิดมนุษย์

จ้าวสุริยานึกหาคำอื่นมาอธิบายไม่ได้อีกต่อไป....สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกสงสัยมากที่สุดก็คือคนแบบไหนกันถึงฝึกให้เขามีพลังฝีมือได้จนถึงระดับวันนี้?ถ้าจะกล่าวว่าเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เกิดโดยไม่มีนักสู้ไร้เทียมทานอยู่เบื้องหลังจ้าวสุริยาไม่เชื่อเด็ดขาด คำถามก็คือผู้ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานนั้นอยู่ใกล้เย่ว์หยางหรือเปล่า?

ถ้าไม่มี  อย่างนั้นเขาต้องฆ่าเจ้าเด็กนี่ให้เร็วที่สุด

แต่ถ้ามีเล่า  เขาอยู่ที่ไหน?

นักสู้ไร้เทียมทานที่คอยปกป้องเขานั้นแข็งแกร่งเพียงไหน?

ความคิดของจ้าวสุริยาปั่นป่วนเหมือนถูกคลื่นทะเลที่ซัดสาดถาโถมเพียงแต่เวลาในโลกภายนอกผ่านไปเพียงชั่วลัดนิ้วมือ

เจ้าตำหนักน้ำคนใหม่หลอกล่อปล่อยให้เย่ว์หยางโจมตีได้สำเร็จ  เพราะนอกจากเย่ว์หยางจะมีลูกไม้แปลกๆและไม่สู้ให้เป็นไปตามกฎ ไม่มีใครที่สามารถสู้แบบนั้นได้อีก ในขณะที่เจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ยกมือขึ้นรับดาบพลังงานดาบแรกเย่ว์หยางก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวใช้ดาบพลังอีกสายหนึ่งทันที  ดาบผ่านมือข้างขวาของผู้เฒ่าผ่านแนวป้องกันเฉือนเข้าที่คอของฝ่ายตรงข้ามอย่างน่าทึ่ง

เทียบกันในเรื่องวัยแล้วเย่ว์หยางไม่อาจเทียบกับเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ได้

อย่างไรก็ตามเขาดีกว่าในทางกลยุทธ์

คาดกันว่าในเรื่องชั้นเชิงการต่อสู้ทั้งหมดเจ้าตำหนักน้ำไม่สามารถตามจินตนาการของเย่ว์หยางได้ทัน

กลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาตีฝ่าประจิมการโจมตีที่สองต่อเนื่องจากครั้งแรก ดังนั้นเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ได้แต่ดูใบมีดตัดเข้าที่คอของเขาโดยไม่มีอาการสนองตอบใดๆ

จ้าวสุริยาเกือบใช้ทักษะย้อนเวลาเพื่อสลายพลังสังหารนี้ให้กับเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่แล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นสีหน้าของเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่แล้ว เขายังมีความหยิ่งและอดทน

พลังดาบทั้งสองสายฟันเข้าที่คอและมือของเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ติดๆกัน... ภายใต้สายตาของจ้าวสุริยาและเย่ว์หยาง พลังดาบทั้งสองสายไม่ได้สร้างจากโลหะแต่ถูกสร้างด้วยเจตจำนงและพลังของเย่ว์หยาง ไม่ช้าพลังดาบนั้นก็สลาย

หายไปไม่เหลือร่องรอย

ไม่สามารถทำอันตรายเจ้าตำหนักน้ำใหม่แม้แต่เคราเส้นเดียว

ผิวหนังที่คอยังคงเหมือนเดิมไม่เหมือนกับโดนฟันด้วยท่าที่สาม ผ่าภูผามหานที

เย่ว์หยางอึ้ง

ตาของเขาเหมือนกับเห็นผี

บ้าไปแล้ว! นี่คือสิ่งที่สร้างขึ้นจากพลังปณิธานของเขาเอง ยังถูกสลายได้อีกหรือ?  ธาตุโลหะอาจบอกได้ว่าถูกกัดกร่อนได้แต่การสลายพลังงานนี่คือทักษะผีสางอันใดกัน? ยังไม่ต้องพูดถึงพลังดาบที่แฝงด้วยปณิธานปราณราชันย์!

“บัดซบจริงๆ, เทพบริษัทเกมออกแบบเกมอะไรมากันแน่น่ารังเกียจเป็นบ้า? เฮ้ย... ขอร้องเรียนหน่อยเถอะแค่กวาดล้างตัวหัวหน้าฉบับคัดลอกทำไมต้องกำหนดให้พวกนี้มีความสามารถผิดธรรมดาด้วยเล่า?ตัวข้าไม่มีเพื่อนร่วมทีมผ่านด่าน ให้เล่นอยู่คนเดียว ข้าจะผ่านด่าน (เกมส์)ได้ยังไง? ยิ่งกว่านั้นเจ้าผู้นี้ไม่ใช่ตัวหัวหน้าที่แข็งแกร่งที่สุดตัวหัวหน้าที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ข้างหลังเขา ทั้งยังไม่ได้ลงมือด้วยซ้ำ  แล้วอย่างนี้จะให้คนมีชีวิตต่อไปได้ยังไง!”  เย่ว์หยางเกือบน้ำตาร่วงเกมนี้ผ่านยากเกินไปและไม่สนุก ตัวร้ายควรจะมีตัวเดียวก็จะง่ายกว่ามิใช่หรือ?

“อะไรของมัน???”  จ้าวสุริยาไม่เข้าคำบ่นเพ้อของเย่ว์หยาง แต่เขาสามารถเข้าใจได้ว่าเย่ว์หยางกำลังโมโห  และคนที่โมโหมักจะพ่ายแพ้เป็นเรื่องธรรมดา

ความจริงแม้แต่เขาก็ไม่รู้จักทักษะแฝงเร้นของเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่เช่นกัน

เขาไม่เข้าใจชัดว่าทักษะแฝงเร้นของผู้อาวุโสชางไม่ใช่อย่างนี้แต่ทำไมเขาถึงทำให้ดาบพลังงานของเย่ว์ไตตันสลายกลายเป็นหมอกไปได้?

แม้ว่าเขาจะมีทักษะแฝงเร้นเช่นนั้นแต่เขาไม่สามารถใช้ทักษะแฝงเร้นนั้นที่นี่ได้ ทำไมผู้อาวุโสชางถึงใช้ทักษะแฝงเร้นได้ภายใต้กฎสวรรค์จำกัดพลังได้? นั่นเป็นความลับบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้แน่นอน

“จ้าวสุริยา!  คัมภีร์เทพเป็นของท่าน!  ส่วนเด็กหนุ่มนี่ เราผู้เฒ่าจะส่งเขาเองเพื่อหลีกเลี่ยงฝันในราตรีที่ยาวนาน,จ้าวสุริยาท่านยังคงเข้าสู่ตำหนักทองให้เร็วที่สุด”  เจ้าตำหนักน้ำรู้สึกภูมิใจมากรอยยิ้มที่ดูฉลาดและดูเหมือนคนใจดีปรากฏบนใบหน้า ราวกับว่าเขาคือปราชญ์ผู้รู้ในตำนานผู้สั่งสอนให้ความรู้ผู้มานับไม่ถ้วน

จ้าวสุริยาเข้าใจ

ผู้อาวุโสชางนี้ตั้งใจฆ่าเย่ว์ไตตันตามลำพังเพื่อรับความดีความชอบ

สำหรับคัมภีร์เทพตาเฒ่าเจ้าเล่ห์รู้ตัวดีว่าเขาไม่มีทางประสบความสำเร็จได้รับมาได้ ดังนั้นเขาจึงเน้นให้จ้าวสุริยาให้ความสำคัญคัมภีร์เทพส่วนตนเองเตรียมฆ่าเย่ว์ไตตัน

แน่ใจได้เลยว่านักรบในแดนสวรรค์ของตำหนักกลางยอมรับว่าชางหลงคือนักรบที่น่ากลัวที่สุดของตำหนักกลางแดนสวรรค์

จ้าวสุริยารำพึงในใจนี่เขาเชื่อมั่นตนเองขนาดนั้นเชียวหรือ?ดูเหมือนว่าพลังลับที่ซ่อนไว้ของตาเฒ่านี่ไม่เลว!

ความอยากของเขาก็ใหญ่ตามเช่นกัน!

“ขอบคุณที่ผู้อาวุโสชางช่วยเหลือข้าซาบซึ้งจริงๆ” ลึกเข้าไปในดวงตาของจ้าวสุริยามีประกายเย็นยะเยือกแฝงไปด้วยเสียงกระซิบเบา “เย่ว์ไตตันผู้นี้เก่งกาจโดดเด่น เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ต้องการให้ข้าผู้นี้ช่วยกวาดล้าง?”

“ท่านจ้าวสุริยาได้ทำสัญญากับคัมภีร์เทพเป็นเรื่องสำคัญที่สุด  จะมัวเสียเวลาล่าช้านานเกินไปได้อย่างไร?  ไม่ต้องห่วงข้างนอกเราผู้เฒ่าจะพยายามให้หนักยิ่งขึ้น!”  เจ้าตำหนักน้ำตอบพร้อมกับยิ้ม  เขาคาดไว้ว่าจ้าวสุริยาไม่ต้องการให้เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงมากเกินไปในเวลานี้  ความกังวลส่วนใหญ่อยู่ที่คัมภีร์เทพ  ส่วนการฆ่าเย่ว์ไตตัน  ส่วนใหญ่เขาจะไม่หันมาแย่งชิงความดีความชอบนี้  นอกจากนี้หากไม่มีความสามารถเช่นนั้น จ้าวสุริยาคิดจะฆ่าเย่ว์ไตตันแม้จะมีความมั่นใจ แต่ก็ต้องใช้เวลาและคนมากมายแน่นอน เจ้าสุริยาจะเสี่ยงฆ่าตัวเองภายใต้สถานการณ์อย่างนั้นหรือไม่?

“ในกรณีเช่นนี้ จุดนี้จะเป็นก้าวแรก  ข้าขอให้ผู้อาวุโสทำงานสำเร็จ” จ้าวสุริยากระซิบและจากนั้นกลายเป็นแสงสีทองพุ่งผ่านม่านพลังทองก้าวผ่านหมิงลี่ฮ่าวที่กำลังนั่งอยู่และหายวับไปในทันที

“ฮึ่ม!”  เจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ลอบแค่นเสียงเยาะเย้ย

ถ้าไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสตำหนักสนับสนุน  เจ้ายังจะได้เป็นจ้าวสุริยาอีกหรือ?

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเจ้าก็แค่มีทักษะแฝงเร้นที่ดีอยู่บ้าง และยังเป็นผู้ช่วยกวาดล้างให้จีอู๋ลี่เท่านั้น

แค่เพียงแต่เจ้ายังหมายคิดจะและเล็มคัมภีร์เทพหรือ? แม้แต่จีอู๋ลี่ผู้มีสายเลือดยอดเยี่ยมที่สุดมีเลือดคุณภาพดีที่สุดเป็นศิษย์ของเจ้าตำหนักสูงสุด ยังไม่กล้าพูดว่าจะทำสัญญากับคัมภีร์เทพ  ผู้ช่วยที่มีสายเลือดคุณภาพชั้นสามยังกล้าและเล็มคัมภีร์เทพด้วยความหยิ่งยโสอีกหรือ?  น่าขัน! กลุ่มผู้อาวุโสทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยฝึกฝนจ้าวสุริยาจนมีชื่อเสียงโด่งดังก็จริง แต่เขาสามารถแข่งขันท้าทายเจ้าตำหนักใหญ่ชั้นในทั้งสามหรือไม่?แม้ว่าเจ้าจะไล่ตามจีอู๋ลี่ทันก็ตาม แต่อนาคตเล่า? จ้าวสุริยามีแต่จะหมดศักยภาพลงเกรงว่ายังจะเทียบกับจีอู๋ลี่ผู้มีศักยภาพไม่สิ้นสุดได้อีกหรือ?

ต้องการใช้ภูมิภาคสวนสวรรค์เพื่อกำจัดข้าหรือ

ยังอ่อนด้อยเกินไป!

นอกจากเจ้าตำหนักสูงสุดแล้วไม่มีใครต้องการได้ความภักดีตนเอง กลุ่มผู้อาวุโสผู้เฒ่าเหล่านั้น  แม้จะคอยโดดขึ้นโดดลงส่งเสียงสนับสนุนเจ้าก็ยังใช้ไม่ได้! จ้าวสุริยาเจ้ามันโมฆบุรุษไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำสัญญากับคัมภีร์เทพจะต้องมีเงื่อนไขใด!

เจ้าตำหนักหนักน้ำใหม่ยิ้มอำมหิต  เขารู้คำตอบ แต่เขาไม่พูด เมื่อเห็นคนอื่นวิ่งชนกำแพงนั่นเป็นเรื่องที่ดีที่สุดไม่ใช่หรือ?

“เจ้ามีทักษะแฝงเร้นสองอย่างใช่ไหม?”  จู่ๆ เย่ว์หยางพยายามพูดบางอย่าง

“หืมม...” เจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ไม่เข้าใจ เจ้าเด็กนี่รู้ได้อย่างไร?  ตามบันทึกในตำนานพื้นที่เก็บคัมภีร์เทพนี้ ทักษะแฝงเร้นของผู้เข้ามาในพื้นที่ถูกจำกัดทั้งหมด เพื่อจะผสานพลังเข้ากับพื้นที่นี้ได้อย่างเต็มที่จะต้องมีทักษะแฝงเร้นคู่ไม่เหมือนใครในโลก...นักรบที่มีทักษะแฝงเร้นสองอย่างมาตั้งแต่แรก นับว่ามีอยู่แต่ในตำนานเท่านั้น

อย่างไรก็ตามอาจมีการฝ่าฝืนหลักการบางอย่างได้เช่นได้รับรางวัลจากเทพโบราณ

มีนักรบน้อยมากที่สามารถพัฒนาทักษะแฝงเร้นอย่างที่สองขึ้นมาได้

สวรรค์อาจเปิดทักษะแฝงเร้นอย่างที่สองที่ดูเหมือนมองอย่างผิวเผินอาจง่าย แต่ในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์มีไม่เกินห้าคนที่มีทักษะแฝงเร้นสองอย่างทั่วทั้งแดนสวรรค์รวมทั้งอัจฉริยะจากสี่ตระกูลใหญ่ของแดนสวรรค์บน ก็ยังมีไม่เกินสิบคน

นอกเหนือจากสองประเภทนี้ที่มีทักษะแฝงเร้นสองอย่างยังมีคนอีกประเภทหนึ่ง

นั่นคือทักษะแฝงเร้นเทียมที่เจ้าตำหนักสูงสุดเปิดพลังให้เองโดยใช้พลังกฎสวรรค์

ทักษะแฝงเร้นเทียมนี้มีความใกล้เคียงกับทักษะแฝงเร้นที่สองอย่างไม่มีขีดจำกัด และเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ชางหลงมีความภักดีต่อเจ้าตำหนักสูงสุดจึงเป็นผู้โชคดีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับการเปิดทักษะแฝงเร้นที่สองเพราะความภักดีของพวกเขาและเงื่อนไขเฉพาะตัว...โดยผิวเผินไม่มีใครมองเห็นได้ ไม่มีใครรู้ แต่ด้วยทักษะแฝงเร้นเทียมที่สองนี้จะช่วยให้มีความแข็งแกร่งรุดหน้าเป็นอย่างมากแน่นอน

ด้วยทักษะแฝงเร้นเทียมที่สองนี้  ผู้อาวุโสชางมักจะแข็งแกร่งคงกระพันในสภาพแวดล้อมบางอย่างได้อย่างไม่มีที่สุด

ตัวอย่างเช่นตอนนี้

คำถามก็คือเย่ว์ไตตันผู้นี้คาดเดาได้อย่างไรว่าเขามีทักษะแฝงเร้นที่สอง?

น่าแปลกเด็กคนนี้คิดได้อย่างไร?  เขาฉลาดมากจริงๆหรือ? จ้าวสุริยาไม่เข้าใจสถานการณ์ว่าเจ้าเด็กนี่จะถูกทำลายหรือ?

“ข้าคาดเดาได้ถูกต้อง”  เย่ว์หยางหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเจ้าตำหนักน้ำชางหลง  “ในเมื่อเป็นอย่างนี้  งั้นข้าก็มีวิธีแล้ว! เพียงแต่ก่อนนี้เจ้าพูดถึงข้าว่ายังไงนะ? น่ารังเกียจคือชื่อเล่นของข้า หน้าด้านคือชื่อจริงของข้าใช่ไหม? ก็ได้ข้าตัดสินใจให้เจ้าได้ดูความหน้าด้านที่แท้จริง!  ถ้าจ้าวสุริยายังอยู่ตรงนั้นข้ายังไม่กล้าใช้ลูกเล่นนี้ เดี๋ยวเขาจะจับไต๋ข้าได้ แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่ที่นี่ ข้าโล่งใจแล้ว...ตาแก่..มองลองเจอดาบของข้าก่อน เพลงดาบนี้เรียกว่าพลิกจักรวาล!”

เย่ว์หยางเรียกดาบจันทร์เสี้ยวออกมาจากในแหวนเก็บสมบัติและมองดูชางหลงเจ้าตำหนักน้ำคนใหม่

รับพลังดาบโดยตรง!

เจ้าตำหนักน้ำคนใหม่ชูมืออย่างย่ามใจเหมือนครั้งก่อนรับพลังดาบโดยตรง  อย่างไรก็ตามผลที่ได้กลับแตกต่าง พอดาบฟันลงโลหิตฉีดพุ่งกระจาย  เย่ว์หยางรั้งดาบกลับมือมนุษย์ข้างหนึ่งขาดตกลงพื้น...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด