ตอนที่แล้วตอนที่ 976 ข้าอยากแสดงฝีมือบ้าง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 978 จุมพิต

ตอนที่ 977 คุกเข่า เจ้ามดแมลงน้อย


แท่นบูชายัญ

ปากขนาดมหึมาของพระยาราชสีห์พ่นลมกรดราชสีห์อย่างต่อเนื่องในท่ามกลางสนามพลังอธิฐานของราชาเฉินม่อ พลังลำแสงคอยช่วยเสริมพลัง  สีของพลังเป็นสีทองเข้ม เหมือนกับคำสั่งนักสู้ปราณฟ้าคนใดมีระดับต่ำกว่าราชา อาจถูกฆ่าตายทันทีที่ถูกโจมตี  แค่นั้นยังไม่พอ อสูรพิทักษ์วิญญาณนามว่าเคร่งครัดจะช่วยเสริมพลังทักษะแฝงเร้นและช่วยเพิ่มพลังทำลายล้างให้กับพลังลมกรดสิบเก้าราชสีห์

พลังลมกรดสิบเก้าราชสีห์โจมตีเข้าตัวของเย่ว์หยาง

ไม่มีความผิดพลาด

ปังปัง ปัง ปัง ปัง ปัง... เสียงระเบิดดังต่อเนื่อง... รอบแท่นบูชายัญแรงระเบิดฉีกพื้นที่โดยรอบ

ภูเขาในหุบเขาถล่มทลายหินก้อนใหญ่มหึมาปลิวขึ้นฟ้าจนคลุมฟ้าคลุมดิน จุดใจกลางระเบิดเหมือนกับมีดวงอาทิตย์เจิดจ้าจนไม่อาจลืมตาได้

มีลูกไฟเผาผลาญเต็มท้องฟ้าเป็นเวลานาน

ประกายไฟฟ้าราวกับงูสีทอง

หากพลังโจมตีที่น่ากลัวนี้ใช้กับคนอื่น พระยาราชสีห์ไม่สงสัยเลยว่าศัตรูของเขาจะไม่มีทางรักษาชีวิตไว้ได้  เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องดี!

อย่างไรก็ตามพลังลมกรดสิบเก้าราชสีห์โจมตีใส่เย่ว์หยาง จักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่  แต่พระยาราชสีห์ไม่กล้ามั่นใจเต็มร้อย  สำหรับบุรุษผู้พลิกมือก็สลับพื้นฟ้าพื้นดินได้อย่างง่ายดายทำให้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว  เพราะจ้าวสุริยาถูกหลอกไปโดยไม่รู้ตัวทำให้เขาหลบหนีออกมาจากพื้นที่เก็บคัมภีร์เทพกลับออกมาที่ทะเลคลั่ง  และหลอกราชาเฉินม่อ (ราชาเงียบ) และตัวเขา คนกลุ่มใหญ่อีกครั้งด้วยพลังลับที่ไม่รู้จักพาเทเลพอร์ตมายังหอทงเทียนและบันไดสวรรค์...เด็กหนุ่มที่ร้ายกาจอย่างนั้น ลมกรดสิบเก้าราชสีห์จะฆ่าเขาได้หรือ?

แค่ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว!

พระยาราชสีห์ปลอบใจตนเอง

ถ้าไม่ใช่เพราะราชาเฉินม่อเขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อลากถ่วงเด็กหนุ่มนั่นไว้เขาคงไม่มีโอกาสใช้ลมกรดสิบเก้าราชสีห์แน่ โชคดีที่ลมกรดสิบเก้าราชสีห์โจมตีถูกเป้าหมาย

แม้ว่าพลังของเขาจะไม่ธรรมดา  แต่ร่างของเขาก็ยังเป็นร่างมนุษย์  ตราบใดที่เป็นร่างมนุษย์ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ได้รับบาดเจ็บ

ร่างกายมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบางที่สุด

ก่อนเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งร่างมนุษย์มีความเปราะบาง

เย่ว์หยางผู้ถูกลมกรดสิบเก้าราชสีห์โจมตีอย่างจังเงียบไปเป็นเวลานานไม่มีเสียงแม้แต่น้อย และไม่มีความรู้สึกถึงการหายใจ  หรือว่าเขาจะถูกฆ่าด้วยพลังโจมตีนี้จริงๆ?

อย่างนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร!

พลังเทพของราชาเฉินม่อยังคงใช้ได้ดี  ร่างของเจ้าเด็กนี่จะต้านทานพลังโจมตีได้หรือทั้งยังป้องกันพลังลมกรดของเขาได้หรือ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร?

จุดอ่อนของเขาก็คือเขาไม่สามารถต้านทานผลกระทบจากการเผาผลาญพลังงานไม่ใช่หรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้าเด็กนี่เอาตัวรอดจากพลังพายุสุริยะของจ้าวสุริยาได้อย่างไร?

“ตายจริงหรือ?” ราชาจินกวนและพระยาราชาสีห์มองหน้ากันเองอย่างงงงวย

ทั้งสองคนเดินขึ้นไปข้างหน้าเล็กน้อยและถูกราชาเฉินม่อผลักออก

เขาประกบมือด้วย

ฝ่ามือของเขาสร้างพลังลมรุนแรง

พลังลมกวาดไปทั่วบริเวณราวกับพายุหมุนพัดผ่าน  แรงลมกวาดเอาควันและกรวดออกไปในทันทีเผยให้เห็นท่านบูชายัญว่างเปล่า

บนแท่นบูชายัญสีแดงไม่มีใคร ดูเหมือนเป็นการพิสูจน์อย่างเงียบงันกับความจริงที่ว่าเด็กหนุ่มนั่นคงถูกฆ่าแน่นอน...ผลลัพธ์เช่นนี้ทำให้พระยาราชสีห์และราชาจินกวนประหลาดใจและดีใจทั้งคู่  เหมือนฝัน นี่เป็นความจริงหรือเปล่า?

“ร่างกายมนุษย์เปราะบางเกินไปหรือเปล่า?”  ราชาจินกวนตัวสั่นด้วยความดีใจ

“ไม่แน่ใจ!”  พระยาราชสีห์มีความสุข  แต่ยังออกปากถ่อมตัวและนั่นเป็นผลงานของราชาเฉินม่อ

ขณะที่ทั้งสองเดินขึ้นไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบร่องรอย  ราชาเฉินม่อใจหายวูบราวกับเห็นบางอย่างที่น่ากลัว

เขาหันกลับไปช้าๆ

หน้าของเขาถอดสี

ใบหน้าของเขามีแววหวาดกลัวราวกับคนธรรมดาถูกผีหลอก

พระยาราชสีห์และราชาจินกวนเห็นท่าทีสนองตอบที่ผิดปกติของราชาเฉินม่อ  พวกเขาตกใจวิ่งออกไปสองสามก้าวจากนั้นหันหลังกลับราวกับว่ามีบางคนจะโจมตีด้านหลัง

ไม่มีใครโจมตีและไม่มีมนุษย์อยู่ข้างหลัง มีแต่เพียงโลกที่ว่างเปล่า  มีแต่เศษหินหักพังอยู่ทั่วทุกที่ มีความเย็นยะเยือกที่อธิบายไม่ถูกยามเมื่อสายลมพัดผ่าน

“มีสิ่งใดผิดปกติ?”  พระยาราชสีห์มองไม่เห็น

“ทุกอย่างปกติ!”  ราชาจินกวนมองซ้ายมองขวามแต่ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ

“......” ราชาเฉินม่อไม่บอก  แต่ทันใดนั้นเขาเตะอสูรสุนัขนำทางที่อยู่ใกล้ๆอย่างไร้น้ำใจ มันลอยคว้างและกระแทกเข้ากับภูเขาที่อยู่ห่างออกไปหลายพันเมตร

“แต่..นั่นมันอสูรสุนัขนำทางไม่ใช่หรือ?”  พระยาราชสีห์รู้สึกผิดหวังกับราชาเฉินม่อ  อสูรสุนัขนำทางมีแต่ระดับเจ้าตำหนักขึ้นไปเท่านั้นจึงจะได้ครอบครองเป็นเจ้าของเขาเตะมันออกไปได้ยังไง? และด้วยพลังขนาดนั้น อสูรสุนัขนำทางจะไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก  ถึงแม้ราชาเฉินม่อจะจริงจังมากเพียงไหน  แต่เขาก็รักอสูรที่อยู่ในความดูแลของเขามาก  และอสูรสุนัขนำทางก็เป็นอสูรที่เขารัก  ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะต้องทำเช่นนี้  เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

“หือ?” ราชาจินกวนตกใจอย่างหนักเช่นกัน แต่ไม่ช้าเขาก็พบปัญหา

อสูรสุนัขนำทางกระแทกเข้าไปในภูเขา

พื้นผนังหินสั่นสะเทือนภูเขาถล่มทลาย

อย่างไรก็ตามไม่มีเสียงร้องโหยหวนตามที่คาดว่าจะได้ยิน.... อสูรสุนัขนำทางไม่ส่งเสียง  มันพังทลายกลายเป็นกองหิน

อสูรสุนัขนำทางที่อยู่แทบเท้าของราชาเฉินม่อกลายเป็นอสูรปลอม  ถ้ามันเป็นศัตรู นั่นจะอันตรายไม่ใช่หรือ?  พระยาราชสีห์และราชาจินกวนไม่เข้าใจ  สิ่งมีชีวิตอย่างอสูรสุนัขนำทางเย่ว์หยางเอาหินมาเปลี่ยนแทนมันได้ออย่างไร?

อสูรสุนัขนำทางหายไปไหน?

โฮ่งโฮ่ง โฮ่ง!

มีเสียงเห่าดังขึ้นสองสามครั้ง

ภายใต้สายตาของพระยาราชสีห์และราชาจินกวนมีอสูรสุนัขนำทางอีกตัวหนึ่งมาอยู่แทบเท้าราชาเฉินม่อ

เจ้านี่ตัวจริงหรือตัวปลอม?

ราชาเฉินม่อสีหน้าเปลี่ยนเขาหงายฝ่ามือทั้งสองขึ้นและแยกออก  อสูรพิทักษ์‘เคร่งครัด’รวมพลังกับเขาสร้างบอลพลังสำนึกเทพขนาดมหึมา เมื่อบอลสำนึกเทพขนาดใหญ่ถูกปล่อยออกมา มันกระแทกกับพื้นอย่างน่ากลัว  พระยาราชสีห์และราชาจินกวนต่างตกใจยังไม่ต้องพูดถึงว่าศัตรูซ่อนตัวอยู่หรือไม่ แต่ตัวพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน!

ขณะที่พวกเขาเหาะหนีขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหลีกพลังแรงระเบิด

ทันใดนั้นโลกเปลี่ยนไป

เหมือนกับม่านที่ค่อยรูดเปิดฉากภาพที่ถูกปิดบังบนเวทีแสดง และเหมือนกับมีสายลมโชยพัดไล่ควันที่คลุมพื้นโลกให้กลับคืนสู่สภาพปกติอีกครา

ในช่วงเวลาสั้นๆโลกเปลี่ยนลักษณะภายนอกไปอย่างสิ้นเชิง หุบเขาที่พังทลายดั้งเดิมสายลมพัดเย็นยะเยือก และแท่นบูชายัญ รูปสลักเทพธิดาหายไป

พระยาราชสีห์พบว่าตัวเขาและสหายลอยอยู่ในอากาศ

พื้นด้านล่างเป็นทุ่งหิมะกว้างใหญ่

ดูเหมือนจะมีก้อนน้ำแข็งแปลกประหลาดมากมายลอยอยู่ในท้องฟ้าและน้ำแข็งเหล่านั้นกำลังละลายด้วยความเร็วช้าอย่างน่าเหลือเชื่อ....ราชาเฉินม่อยกแขนตนเองดูและพบว่าผิวของเขากำลังละลายต่อเนื่อง จนถึงบัดนี้เขาพบว่าร่างกายของเขากำลังถูกพลังเทพอย่างหนึ่งกลืนกินอย่างน่ากลัว

ความเร็วในการกลืนกินนี้ช้า  แต่ไม่สามารถต้านทานได้

พลังงานในตัวของเขาเทียบกับมิติที่กลืนกินนี้ช่างน้อยนิดเหมือนโคดินปั้นที่ถมทิ้งทะเล

“เฉินม่อ!ข้านึกว่าใครเสียอีกที่เหิมเกริมบังอาจบุกหอทงเทียน  เป็นเจ้านั่นเอง!” เสียงไพเราะราวเสียงสวรรค์ดังออกมาจากวังน้ำแข็งบนทุ่งน้ำแข็งเสียงนี้ไม่ดังมาก แต่กึกก้องไปทั่วโลกน้ำแข็งแต่ดังก้องสะท้อนไปทั่วโลกหิมะน้ำแข็ง ขณะที่ราชาเฉินม่อ,พระยาราชสีห์และราชาจินกวนกลับได้ยินชัดราวถูกค้อนสายฟ้าหวดอยู่ในหัวใจ  มีความมั่นใจอย่างหนึ่งที่อธิบายไม่ถูก  เหมือนกับธนูปักอยู่ในหัวใจของราชาเฉินม่อ

“......” หลังจากได้ยินเสียงนี้แล้วราชาเฉินม่อตกใจสั่นสะท้านหลั่งเหงื่อเยียบเย็นทางหน้าผาก

“เจ้าคือจื้อจุนอย่างนั้นหรือ?”พระยาราชสีห์เคยได้รับข้อมูลข่าวกรองหอทงเทียนจากเสี่ยวโฉ่ว รู้ว่าหอทงเทียนนอกจากเย่ว์หยางที่เป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แล้วยังมีสตรีผู้แข็งแกร่งที่สุดเรียกว่าจื้อจุน!

“รู้สึกว่าเสียงคุ้นๆ”  ราชาจินกวนพยายามอย่างหนักเพื่อนึกให้ได้เขารู้สึกว่าเสียงนี้เขาคุ้นเคยว่า เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน

“ข้าจะแนะนำให้เอง”  เย่ว์หยางไม่ทราบว่าโผล่ออกมาจากที่ใด  เขาปรบมือเรียกความสนใจให้ทุกคนมองดูเขา  ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มกวนประสาท จนคนที่เห็นนึกอยากจะทุบเขา  เย่ว์หยางออกมาตามด้วยเสี่ยวเหวินหลีเธอโบกมือเบาๆ ก็โยนอสูรสุนัขนำทางลงบนพื้นหิมะ อสูรสุนัขนำทางต้องการรีบกลับไปอยู่ข้างตัวราชาเฉินม่อเจ้านายของมันทันที

อย่างไรก็ตามครั้งนี้ไม่เหมือนเหตุการณ์ที่แท่นบูชายัญอีกต่อไป

เมื่ออสูรสุนัขนำทางกระโดดขึ้นจากพื้นหิมะน้ำแข็ง

มันกลายเป็นน้ำแข็งทันที

อย่างไรก็ตามพลังการเคลื่อนไหวยังไม่เปลี่ยนแปลง

แม้แต่มันก็ตายในทันทีร่างกายเป็นน้ำแข็งแต่แรงเหวี่ยงยังคงอยู่มันปลิวกลับมาที่แทบเท้าราชาเฉินม่อเจ้านายของมันกลายเป็นตุ๊กตาน้ำแข็ง  มองจากผิวน้ำแข็ง พระยาราชสีห์สามารถเห็นว่ามันยังมีสีหน้าดีใจขณะวิ่งกลับไปหาเจ้านายของมัน  เขารู้สึกประหลาดใจตกใจเพราะอสูรสุนัขนำทางจะมีความคล้ายคลึงกับอสูรพิทักษ์มาก  พวกมันตายยาก

แต่ตอนนี้พระยาราชสีห์มีความมั่นใจเต็มร้อยอสูรสุนัขนำทางตายแล้ว

ไม่มีทางช่วยเหลือได้แน่นอน!

มันตายภายใต้พลังกฎสวรรค์น้อย  ภายใต้พลังกฎสวรรค์นี้อย่าว่าแต่อสูรสุนัขนำทางเลย ต่อให้เทวดาลงมาช่วย มันก็ยากจะรอดชีวิตได้

สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดก็คืออสูรสุนัขนำทางที่ถูกแช่แข็งด้วยพลังกฎสวรรค์เริ่มละลายไม่ถูกแช่คงอยู่ตลอดกาล

พลังกฎสวรรค์อีกสายหนึ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่ากลืนกินพลังงานในร่างของมันโดยตรง

ในกรณีนี้ทำให้มันสูญเสียพลังค้ำจุนชีวิตของมัน

ซากน้ำแข็งหายไปอย่างรวดเร็วมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า  ตอนแรกกลายเป็นผงธุลีและหายไปไม่เหลืออะไร เป็นการหายไปตลอดกาลอย่างแท้จริง

“อะแฮ่ม...ดูเหมือนว่าข้าจะแนะนำช้าไปเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไร ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าก็เห็นได้เช่นกัน  ที่นี่คือมิติหลุมดำ  ใช้สำหรับผนึกเทพเจ้าโบราณทุ่งหิมะน้ำแข็งข้างล่างคือที่อยู่ของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีเพราะโลกหิมะน้ำแข็งยังสร้างไม่แล้วเสร็จ ปราสาทน้ำแข็งก็เลยสร้างอย่างง่ายๆ อย่างไรก็ตามเมื่อมีการกล่าวหาว่าข้าเป็นศิษย์ของนาง  ไม่มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะไม่ต้อนรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ...”  เย่ว์หยางขออภัยอย่างจริงใจ  “ที่บันไดสวรรค์ชั้นห้าข้าไม่ค่อยมีมารยาทนักข้าเพิ่งได้เป็นจักรพรรดิอวี้ได้ไม่นาน ยังไม่เข้าใจธรรมเนียมมารยาทเท่าใดนัก  หวังว่าจะอภัยให้ข้าสักครั้งนะ ฝ่าบาท”

ใครไม่รู้จะคิดว่าเย่ว์หยางพูดเหมือนล้อเล่นสนุกสนาน

ความจริงใจนั่นเป็นเรื่องดี

อย่างน้อยก็ควรเป็นเช่นนี้

ราชาเฉินม่อหลั่งเหงื่อเต็มหน้าและตอนนี้เขาตระหนักถึงผลร้ายแรงของสถานการณ์

ตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนกับสู้ตาย...  ถ้านางพญาผู้พิชิตปรากฏตัวออกมาเขาเกรงว่าเขาจะไม่สามารถรักษาความลับของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้อย่าว่าแต่พระยาราชสีห์และราชาจินกวนเลยนางพญาผู้พิชิตเตรียมจะทำลายผนึกมิติหลุมดำ และปรากฏตัวขึ้นใหม่

เขาส่งสัญญาณมือทำลายตัวเองให้พระยาราชสีห์และราชาจินกวน

พระยาราชสีห์และราชาจินกวนตกใจอย่างหนัก

ทำลายตัวเอง

ยังไม่ทันเห็นนางพญาผู้พิชิตเลยก็คิดจะระเบิดทำลายตัวเองหรือ?

แม้ว่านางพญาผู้พิชิตนั้นจะแข็งแกร่งแต่นางสูญเสียพลังงานในพื้นที่ผนึกมิติไปแล้ว และตอนนี้บางทีนางอ่อนแออย่างมาก พวกเขาไม่เข้าใจว่าจะกลัวนางไปทำไมกัน ถึงกับต้องระเบิดทำลายตนเองอย่างไรสาระ?

“ต้องการตาย? ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก!”

รังสีทองฉายวาบเร็วกว่าเสียง  ขณะที่คำพูดนั้นดังกึกก้องสะเทือนแก้วหูของพวกเขานัยน์พวกเขาเบิกค้างตกตะลึง พวกเขาเห็นภาพที่น่ากลัว ขณะที่ราชาเฉินม่อเตรียมจะระเบิดร่างศีรษะของเขาถูกสตรีในชุดรบเกราะแก้วผลึกกดลงไปในพื้นน้ำแข็งและเปลี่ยนสภาพกลายเป็นตุ๊กตาน้ำแข็ง สตรีนางนั้นเอาชนะราชาเฉินม่อในท่าเดียว นางค่อยๆหันหน้าเผยให้เห็นวงหน้าที่งดงามจนโลกตะลึง... ต่อให้พระยาราชสีห์และราชาจินกวนไม่รู้จักพ่อแม่ตนเองแต่พวกเขาจะต้องจำใบหน้านี้ได้ เพราะนี่คือใบหน้าของยอดฝีมือผู้สั่นสะเทือนแดนสวรรค์และเอาชนะตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้  เมื่อพวกเขาเห็นหน้านางหัวใจของพวกเขาสะท้านราวกับถูกสายฟ้าฟาด พวกเขาตกใจร้องอุทานพร้อมกัน“นางพญาผู้พิชิต!”

นางพญาเฟ่ยเหวินหลีกวาดตามองผ่านพวกเขาราวกับว่ากำลังมองมดแมลงน้อยสองตัว

รังสีฆ่าฟันแผ่ออกจากร่างของนาง

เสียงเยือกเย็นของนางดังขึ้น  “เจ้าต้องการให้ข้าลงมือก่อนหรือเจ้าจะลงมือเอง?”

พระยาราชสีห์ขุนพลผู้แกล้วกล้าที่สุดในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์  แต่ในขณะนั้นเขากลัวจนขวัญหนีดีฝ่อแทบจะไม่มีแรงคุกเข่า เขาพยายามกลืนน้ำลายเพื่อขอความเมตตาแต่เขากลับพบว่าไม่มีเสียงออกมา

“คุกเข่า!พอข้าไม่ออกไปข้างนอกหมื่นปีพวกแมลงเล็กน้อยอย่างพวกเจ้านึกว่าหอทงเทียนไม่มีผู้คนอย่างนั้นหรือ?”  นางพญาเฟ่ยเหวินหลีกริ้วมาก  ผลร้ายที่ตามมานับว่าร้ายแรงจริงๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด