ตอนที่ 974 เสียใจด้วย ข้ายังไม่ตาย
ทะเลเลือดพลันระเบิด พลังทำลายล้างกวาดได้ทั้งสวรรค์และโลกหล้า....
เมฆสิงห์ทองในท้องฟ้าถูกพลังแสงโลหิตแทรกซึมกระจายกลายเป็นแสงสีทองหายไปในทะเลแสงโลหิต ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นอสูรพิทักษ์ที่ไม่มีวันตายมันจะไม่มีทางรอดได้ในท่ามกลางพลังทำลายล้างของทะเลแสงโลหิต
คลื่นของทะเลคลั่งโหมกระหน่ำอย่างหนัก
คลื่นเดือดพล่าน
มิอาจสงบได้อยู่เป็นเวลานาน
ที่ด้านข้างของราชาเฉินม่อแปดขุนพลบริวารรวมตัวกันอยู่โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ภายในพลังของอสูรค้ำจุนอสูรพิทักษ์ของราชาเฉินม่อและทักษะแฝงเร้นศรัทธา สนามพลังอธิษฐานพลังพิเศษสามชั้นซือเหริน ผู้เฒ่าเครายาว บุรุษอ้วน โนม จอมเกียจคร้าน คนเถื่อนและจอมหักหลังและคนอื่นพากันรอดภัยพิบัติทะเลโลหิตของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วต้องทุ่มราคาด้วยชีวิต
“ปัง!” จอมหักหลังตกใจแต่เขาพบว่าได้รับการปกป้องจากราชาเฉินม่อ หลังจากเขาปลอดภัย เขาแค่นเสียงด่าทอทันที
“ประเมินฝีมือตัวเองสูงเกินไปเสียแล้ว” โนมหัวเราะเช่นกัน
“ฮึ..” ราชาเฉินม่อเหมือนกับภูผายิ่งใหญ่คอยปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาในท่ามกลางความเงียบ เขาไม่เพียงแต่ไม่หัวเราะ ไม่แสดงอาการดูหมิ่นเหยียดหยาม แม้ขณะที่ยืนอยู่ในท่ามกลางทะเลคลั่งจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วแผดเผาพลังหยกศิลาล้วนแหลกลาญ เป็นการส่งท้าย
มีร่างคนสองคนร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
พวกเขาคือราชาจินกวนที่แขนขวาหักและพระยาราชสีห์ที่อสูรพิทักษ์ถูกฆ่า
ขณะนั้นราชาทั้งสองเนื่องจากจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วระเบิดตัวเอง พวกเขาอยู่ในรัศมีระเบิดและเป็นสองคนแรกที่ถูกแรงระเบิดจากทะเลแสงโลหิตโจมตีแม้จะไม่ถึงกับเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ทำร้ายพวกเขาจนแทบไม่เหลือพลัง
ภาพมารโลหิตเหนือท้องฟ้าค่อยๆสลายหายไปช้าๆ
ในเวลานี้ไม่มีความโกรธบนใบหน้าของเขาอีกต่อไป
มีแต่การแสดงถึงอารมณ์ที่แปลกประหลาด
นั่นคือการปล่อยวาง...การปล่อยวางเช่นนั้นเหมือนกับความปรารถนาที่ซ่อนเร้นปกปิดมานานหลายปี ในที่สุดก็สมหวังเสร็จสิ้นกล่าวให้ถูกก็คือการปลดปล่อยจิตวิญญาณ ผ่อนคลายสบายใจ มีความสุขสุดจะพรรณนาต่อหน้าหลายๆคน คนเราเมื่อใกล้จะตาย กลับได้สติก่อนตาย
สีแดงโลหิตที่ภาพปีศาจเปล่งออกมาไม่มีความโกรธชังไม่มีความกระหายเลือดอีกต่อไป
แม้ว่าหน้าของเขาจะไม่มีรอยยิ้มแต่ใบหน้าภาพฉายปีศาจโลหิตกลับมีรอยยิ้ม
ภาพนั้นค่อยๆ จางลง
จักรพรรดิฟู่โฉวถูกพลังแสงทะเลโลหิตคลุมทั้งร่าง
ร่างของเขาลอยใกล้เข้ามาทุกขณะ
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วใช้พลังแสงโลหิตป้องกันร่างของเขาไว้ทำให้เขายังไม่ตายเขาลืมตาและเห็นภาพมารโลหิตลอยเข้ามาใกล้และเปลี่ยนไปเป็นหน้าของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วดูเหมือนต้องการพูด แต่ไม่มีเสียง
ดูเหมือนว่าเขาต้องการยื่นมือเข้ามาสวมกอดจักรพรรดิฟู่โฉว
แต่ว่าเขาไม่มีร่างหยาบแล้ว
ก่อนนั้นเขาระเบิดร่างเป็นผุยผงในทะเลโลหิต ในเวลานี้ร่างพลังงานของเขาสร้างจากพลังแสงโลหิตเช่นเดียวกับพลังโลหิตที่คลุมรอบตัวจักรพรรดิฟู่โฉว แต่ขณะที่นิ้วของเขาจะสัมผัสร่างของจักรพรรดิฟู่โฉวร่างพลังงานของเขาก็สลายหายไปกับสายลมทะเลคลั่งพอไม่มีสนามพลังกดดันคอยข่มจำกัดพลัง จึงสะท้อนพลังเสียงดังกึกก้องสายลมพัดกระชากร่างพลังงานของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วร่างของเขาเริ่มเลือนรางและหายใจ สิ่งสุดท้ายจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วใช้พลังเจตปณิธานรักษาภาพศีรษะ ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อยเหมือนกับต้องการจะพูดความในใจกับจักรพรรดิฟู่โฉวที่เขาไม่เคยบอกมาก่อน
“น่ารำคาญจริงๆ อย่างไรก็ตามพวกเจ้าอย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดออกไปจากทะเลคลั่งนี่ได้เลย” พระยาราชสีห์หงุดหงิดเมฆสิงห์ทองอสูรพิทักษ์ของเขาแม้ว่าไม่อาจฆ่าตายได้จริงๆ แต่พลังรบของเมฆสิงห์ทองได้ลดลงอย่างมากภายใต้แรงระเบิดทำลายล้างรุนแรง และไม่อาจเรียกใช้มันได้อีกเป็นเวลานาน
“ตายซะเถอะ” ราชาจินกวนยิ่งไม่พอใจมากกว่า
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วได้หักเขนของเขาต่อหน้าทุกคน
เขาสูญเสียแขนที่ผสานเข้ากับดาบทองศักดิ์สิทธิ์ของเขาการสูญเสียแขนทำให้พลังของเขาลดลง 30% พลังเดิมของเขาเทียบได้กับพระยาราชสีห์ตอนนี้พลังของเขาตามหลังพระยาราชสีห์
พระยาราชสีห์สูญเสียเมฆสิงห์ทอง แต่ยังดีที่นั่นเป็นอสูรพิทักษ์ และมันจะฟื้นฟูได้ในไม่ช้า
ถ้าท่านสูญเสียแขนไป พลังของท่านจะลดลงอย่างมาก
เรื่องที่ราชาจินกวนกังวลที่สุดก็คือราชาสองหน้ามีพัฒนาการที่เร็วมากและพลังจะไล่ตามเขาทันในเวลาไม่กี่ปี ถ้าพลังของเขาได้รับความเสียหายต่อเนื่องอีกราชาสองหน้าจะต้องแทนที่เขาอย่างมิต้องสงสัย
ราชาจินกวนใช้แขนซ้ายที่เหลือวาดรูปเครื่องหมายโล่อักขระรูนในอากาศว่างเปล่า ปากของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วเหมือนกับพยายามจะพูดอะไรบางอย่างกับจักรพรรดิฟู่โฉวเขาหมุนตัวกลับมาป้องกันโล่ทองที่ราชาจินกวนกระแทกลงมาหมายจะฆ่าทั้งสองคน โล่ปะทะที่ศีรษะของร่างพลังงานของจักรพรรดิ
จักรพรรดิฟู่โฉวมองดูจากด้านล่างโดยเขาไม่อาจป้องกันได้
เขาไม่พูดอะไร
ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น
หางตาของเขาปรากฏน้ำตารินไหล
เป้าหมายที่เขาเกลียดชังมากที่สุดที่เขาต้องการแก้แค้นได้ตายไปต่อหน้าต่อตาเขา แต่เขากลับไม่มีความสุขหรือพอใจเลย กลับมีแต่ความเสียใจ เจ็บปวดจนพูดไม่ออก!
“ฆ่าเขาซะ...” ดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ข้างที่จมลงในทะเลสาบพุ่งออกมาจากน้ำเหมือนกับปลาและเหมือนกับปลาที่ถูกชาวประมงตกขึ้นมาจากน้ำและตกอยู่ในมือของราชาจินกวนโดยมิผิดพลาด ดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ไม่ยอมรับเจ้านายเช่นนี้มันส่งเสียงสั่นสะเทือนเล็กน้อย แต่มันไม่อาจต้านทานพลังของราชาจินกวนได้ มันดิ้นรนส่งเสียงหึ่งๆเป็นครั้งคราวเหมือนกับปลาใหญ่ที่ตกไปอยู่ในเงื้อมมือชาวประมงจากนั้นจึงค่อยสงบลงทีละน้อยไม่ดิ้นรนอีก แต่ปิดผนึกปณิธานเอาไว้ และมันปฏิเสธจะยอมรับเจ้านายใหม่ ราชาจินกวนไม่สนใจมัน เขารู้ว่าตราบเท่าที่มันถูกพลังข่มเป็นเวลานานดาบแสงศักดิ์สิทธิ์นี้ จะช้าจะเร็วจะต้องถูกครอบงำ! เขาคาดดาบแสงไว้กับเข็มขัดโบกมือสั่งแปดขุนพลบริวารให้ฆ่าจักรพรรดิฟู่โฉวเจ้าของเก่าดาบแสงอย่างไร้ความปราณี
“ขอรับ” จอมหักหลังและจอมโฉดกระโดดออกมารับคำสั่งตั้งใจชิงความดีความชอบ
ถ้าจักรพรรดิฟู่โฉวไม่อยู่ในสภาพปางตายอย่างนั้น พวกเขาต่อให้มีหลายคนย่อมไม่กล้าเคลื่อนไหวแน่นอน แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่นักสู้ฝีมือดีระดับขุนพลเลยแม้แต่นักสู้ปราณฟ้า แม้กระทั่งนักสู้ปราณดินก็ยังสามารถโจมตีระเบิดโล่แสงโลหิตที่คลุมร่างและฆ่าจักรพรรดิฟู่โฉวได้!
จักรพรรดิฟู่โฉวค่อยๆ หลับตา
สำหรับการตายเป็นเรื่องที่เขาคาดไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาหวังว่าจะได้ตายจากทะเลแสงโลหิตของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วแทนที่จะตายด้วยน้ำมือคนพวกนี้
แม้ว่าจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วจะสามารถยืดชีวิตให้เขาหนึ่งนาทีจะมีความหมายอะไร? แทนที่จะตายอย่างทรมานในเงื้อมมือของพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ ตายในทะเลแสงโลหิตยังจะดีกว่า แน่นอนว่าความตายนั้นเลือกไม่ได้ นอกจากนี้การรอคอยนี้ ก็คงไม่นานเกินไป ศัตรูคงไม่ยอมเสียเวลาและคงจะลงมือในทันที
“อ๊ะ..เดี๋ยวก่อน, เด็กคนนี้เป็นหนี้เงินข้ามากมาย พวกเจ้าถามเจ้าหนี้อย่างข้าก่อนหรือยัง?” ในทะเลคลั่งมีคนผู้หนึ่งปรากฏตัวคลื่นทะเลคลั่งดูเหมือนจะกลัวเขาสงบลงทันทีเหมือนกับลูกสุนัขหลบอยู่ที่มุมห้องด้วยความกลัว
“อะไร, อะไรกัน?”อย่าว่าแต่ทะเลคลั่งเท่านั้นที่กลัว แม้แต่พระยาราชสีห์และราชาจินกวนก็หวาดกลัวด้วยเช่นกัน
“เจ้าเด็กนี่......”ราชาเฉินม่อหรี่ตาจนแคบเท่าเข็ม
ซือเหรินและขุนพลบริวารอื่นงงจนทำอะไรไม่ถูก
ตกตะลึง
พวกเขาไม่อยากเชื่อกับการปรากฏตัวของคนข้างหน้า
แน่นอนว่าผู้มาก็คือเย่ว์หยางที่จ้าวสุริยาเรียกว่าจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่!
ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเขายิ้มด้วยริมฝีปากแดงฟันขาวผ่อนคลายสบายๆ เฉิดฉันเหมือนดวงอาทิตย์ เหมือนกับว่าเขาเพิ่งไปดื่มกินงานเลี้ยงแล้วเพิ่งกลับมา
เมื่อเย่ว์หยางปรากฏตัว ด้านหลังของเขาปรากฏร่างบุรุษผมงู ราชาจื่อฟงหญิงงามจูกวง ราชาชิงหลางและคนอื่นๆ ปรากฏตัวโดยไม่มีการขาดหายไป
กลับกลายเป็นว่าพวกเขาตั้งมากมายหลายคน
ไม่มีใครตาย
ตาของราชาเฉินม่อยังคงเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง
มีแต่เพียงเขาเท่านั้นที่รู้จักความน่ากลัวของบุรุษคนนี้ ตอนนี้เด็กหนุ่มผู้นี้ไม่เพียงแต่หนีพ้นจากการโจมตีของจ้าวสุริยาเท่านั้น แต่ยังช่วยกลุ่มสหายได้ต่อหน้าต่อตาของเขา จุดที่สำคัญที่สุดก็คือข้อวิตกกังวลนี้สามารถพิสูจน์ได้ไหม? พิสูจน์ว่าจ้าวสุริยายังจะไม่ยอมแพ้ในตอนนี้ แม้ว่าราชาเฉินม่อจะไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเด็กหนุ่มนี้ล้มจ้าวสุริยาได้อย่างไร? อย่างไรก็ตามรอยยิ้มอันผ่อนคลาย ราชาเฉินม่อมีความเข้าใจ แม้ว่าราชาเฉินม่อจะค้นไม่เจอว่าเด็กหนุ่มนี้ไม่ถูกจ้าวสุริยากักตัวไว้ได้อย่างไร แต่เขายังมีรอยยิ้มที่ผ่อนคลาย ราชาเฉินม่อเข้าใจว่าเจ้าเด็กนี่ไม่เป็นไร เขาเกรงว่าเขาจะปรากฏตัวในเวลานี้
“เสียใจด้วย ข้ายังไม่ตายทำให้พวกเจ้าผิดหวัง” เย่ว์หยางยังยิ้มและกล่าวขอโทษอย่างดูจริงใจ
“ราชาสองหน้าเล่า?” ราชาจินกวนตกใจ เขาถามถึงราชาสองหน้าที่ไปตามจับมารสัมฤทธิ์ฟ้า ความจริงเขาต้องการถามถึงจ้าวสุริยามากกว่า แต่เขาไม่กล้าคิดถึงความล้มเหลวของจ้าวสุริยา
“หา, เจ้าคิดหรือว่าคนใช้สถานะต่ำอย่างเขาจะต้องให้เราคุณชายไปรับหน้าเขาด้วยตัวเอง? แค่คนคุ้มกันข้ากับสุนัขเฝ้าบ้านของข้าก็เพียงพอแล้ว ข้าไม่อยากทำอะไรรุนแรงเกินไป” ไม่ทราบว่าเย่ว์หยางล้วงพัดจีบออกมาจากไหน เขาคลี่พัดพูดพลางส่ายหัวพลางท่าทางเหมือนกับคุณชายเจ้าสำราญเดินตามท้องถนน
พระยาราชสีห์ต้องการจะพูดแต่ราชาเฉินม่อยื่นมือห้ามทันที
เขายืนอยู่หน้าเย่ว์หยางโดยตรง
นอกจากเขาแล้วไม่มีคนอื่นเป็นคู่ต่อสู้เย่ว์หยางได้
แม้แต่พระยาราชสีห์ผู้กล้าที่สุดราชาจินกวนผู้หยิ่งภูมิใจที่สุดก็ยังแอบรู้สึกกลัวเด็กหนุ่มผู้เจ้าเล่ห์นี้ไม่ได้
แต่เด็กหนุ่มนี่แม้แต่จ้าวสุริยาก็ยังกักตัวเขาเอาไว้ไม่ได้หรือนี่คือเด็กหนุ่มที่เอาชนะซิวคงและจิ่วเซียวในสามจอมภพแดนสวรรค์นี่คือเด็กหนุ่มผู้รบชนะเผ่าเก้าแสงและสังหารจักรพรรดินีฟ้าได้โดยตรงเสี่ยวเหวินหลีปรากฏตัวด้านหลังราชาจินกวน
ราชาจินกวนสวมทั้งเกราะทองมีทั้งโล่ทอง
เขาหมุนตัวอย่างรวดเร็ว
และโจมตีทันที
แม้ว่าราชาจินกวนจะถูกปีศาจอสรพิษน้อยจ้องมองด้วยดวงตากลมโตและถูกพันธนาการด้วยทักษะแฝงเร้นของเธอแต่เขาก็หลุดพันธนาการได้
เสี่ยวเหวินหลีเอื้อมมือดึงดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เอวของราชาจินกวนออกมาได้อย่างสบายไม่เร่งร้อนความเคลื่อนไหวสบายๆ ของเธอเหมือนเป็นการตบหน้าของราชาจินกวนโดยตรง
หลังจากดาบแสงศักดิ์สิทธิ์ได้รับอิสรภาพมันได้รับพลังงานสนับสนุนจากเสี่ยวเหวินหลี
กลายเป็นดาบแสงสีเงิน
มันฉายรัศมีออกมา
มันทะลุโล่พลังแสงโลหิตและพาจักรพรรดิฟู่โฉวเจ้านายมันบินไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยด้านหลังเย่ว์หยาง
บุรุษผมงูกระโดดสุดกำลังรับร่างจักรพรรดิฟู่โฉวและกลับมา ขณะที่ราชาจื่อฟงราชาชิงหลางและคนอื่นไม่รู้จะทำอะไร เขาตวาดด่า “พวกเจ้าโง่หรือเปล่า, รีบกลับไปที่ทางผ่านมิติ ออกไปจากตรงนี้อย่าเพิ่มภาระให้เย่ว์ไตตัน...”
คราวนี้ราชาจื่อฟงและราชาชิงหลางค่อยรู้สึกตัว
และรีบหนีไปที่ทางเข้ามิติทันที
พระยาราชสีห์เงยหน้ามองดูราชาเฉินม่อและพบว่าราชาเฉินม่อคล้ายกับจ้าวสุริยาตอนที่มองเย่ว์หยางเขารีบไปยืนข้างราชาจินกวนที่กำลังฟื้นฟูพลังต่อสู้ และรับหน้าที่ต้านทานศัตรูตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าปีศาจอสรพิษน้อยซึ่งเงียบสงบอยู่นานนั้นไม่ใช่อสูรเทพธรรมดาอย่างที่เห็นแต่เป็นนางพญาผู้พิชิตในร่างเด็ก
ขุนพลคนโฉดคำรามลั่นท้องฟ้าและวิ่งเข้าหานักสู้ปราณฟ้าอย่างราชาชิงหลาง
แม้ว่าจะไม่มีทางทำอะไรคุณชายไตตันได้ แต่ฆ่าราชาชิงหลาง พวกเขาทำได้ไม่มีปัญหา คนตัวใหญ่ คนตัวผอมนี้จะเลือกคู่ต่อสู้เอง
เฟี้ยว!
ธนูทองดอกหนึ่งปักเข้าที่ต้นขาของคนโฉด
ในทันใดนั้นต้นขาที่หนาใหญ่เหมือนกับขาช้างกลายเป็นเสาศิลาทันที
ไม่รู้ว่าด้านหลังของเสี่ยวเหวินหลีมีสี่อสูรพิทักษ์ปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อใด, สี่อสูรพิทักษ์? อสูรพิทักษ์แต่ละตนมีระดับพลังใกล้เคียงอสูรเทพ อย่าว่าแต่นักรบระดับแปดขุนพลนี้เลย แม้แต่พระยาราชสีห์ ราชาจินกวนเมื่อเห็นเมดูซาศิลา นางเงือกวายุ นาคาสายฟ้าและปีศาจอสรพิษน้ำแข็งหัวใจพวกเขาตกวูบ
ศึกนี้หนักหนาสาหัสจริงๆ!