ตอนที่ 971 ควาฟู่ไล่ตามตะวัน?
โลกศิลา
เมื่อหมิงลี่ฮ่าวกลับมายังโลกศิลาเขารู้สึกเหมือนกับว่าการต่อสู้ผ่านไปนานสามวันสามคืน
สภาพแวดล้อมที่นี่ยังคงเป็นเหมือนเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างภายใต้การย้อนกลับของเวลาไม่มีร่องรอยการต่อสู้ปรากฏให้เห็น
อย่างไรก็ตามทั้งเย่ว์หยางและจ้าวสุริยาที่ยืนประจันหน้ากันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เย่ว์หยางล้มลงกับพื้น แขนข้างหนึ่งยันกับพื้นและเลือดยังคงไหลจากปาก ตามร่างกายมีบาดแผลเป็นร้อย และสภาพแผลก็มีขนาดแตกต่าง ดูเหมือนว่าเขาถูกทำร้ายโดยอาวุธที่แตกต่าง
เย่ว์หยางถูกจ้าวสุริยาซัดร่วงลงกับพื้นหมิงลี่ฮ่าวไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด
แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ
มือขวาของจ้าวสุริยาก็หลั่งเลือดเช่นกัน
เลือดไหลผ่านไปตามแขนเสื้อผ่านมือและง่ามนิ้วหยดลงพื้นในที่สุด
เจ้าเด็กเย่ว์หยางนี่ทำร้ายจ้าวสุริยาได้จริงๆหรือนี่? ความตกใจและความเข้าใจผิดในใจของหมิงลี่ฮ่าวพุ่งขึ้นถึงขีดจำกัด... เขาเผชิญหน้ากับจ้าวสุริยาแต่ก็ร่วงลงกับพื้นโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เย่ว์หยางเจ้าเด็กแข็งแกร่งนี่เหนือกว่าตัวเขาได้ นี่เขาทำได้อย่างไร?
มีความเป็นไปได้จริงๆหรือว่าเขาจะเอาชนะจ้าวสุริยาได้?
“เจ้ายังกลับมาอีกทำไม เจ้ามาทำอะไร?” เย่ว์หยางมองดูหมิงลี่ฮ่าวและบ่นอย่างไม่พอใจ “เจ้ามีพลังสำรองหรือรู้ว่ากลับมาตายก็ยังอุตส่าห์กลับมาอีก!”
“เออ!” หมิงลี่ฮ่าวตอบ และหัวเราะอีกครั้ง “ข้ากลับมาดูว่าเจ้าตายหรือยัง!”
“หมิงลี่ฮ่าว! ด้วยทักษะแฝงเร้นและความสามารถของเจ้าน่าจะมีพลังมากกว่าสามจอมภพแดนสวรรค์เอาความสามารถที่แท้จริงของเจ้าออกมาใช้ได้เลย ข้าอยากจะเห็นว่าฝีมือหมิงลี่ฮ่าวผู้ที่กล่าวกันว่าเป็นผู้กล้าที่สุดของตระกูลหมิงจะมีฝีมือใดบ้างที่ควรแก่การจดจำของคนรุ่นหลัง!” จ้าวสุริยาค่อยๆ ยกมือขวาที่เลือดกำลังไหลออกเหมือนกับว่าเขาเพิ่งพบว่าตนเองบาดเจ็บ แต่สีหน้าของเขายังไม่เปลี่ยนสายตาของเขาเรียบเฉยขณะหันกลับมามองหมิงลี่ฮ่าว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเบนสายตามองคนอื่นนอกจากเย่ว์หยาง
“ข้าบอกแล้ว เจ้าเด็กปากเหม็น อย่ามองข้าอย่างนั้นเจ้าคิดว่าข้าเล่าฮ่าวไม่คู่ควรผนึกกำลังเจ้าสู้ได้หรือ!” หมิงลี่ฮ่าวไม่มองจ้าวสุริยา แต่กลับพูดกับเย่ว์หยางแทน
เขาเรียกคัมภีร์อัญเชิญที่สว่างเจิดจ้าออกมาบ้าง
ลำแสงรัศมีฉายขึ้นไปในท้องฟ้า
ร่างของหมิงลี่ฮ่าวมีรัศมีสีทองเจิดจ้าเมื่อเขาคืนสู่พลังสุดยอด เขามีพลังแทบทัดเทียมกับเทพ
ในท้องฟ้าจุดสูงสุดของลำแสงกำเนิดดวงอาทิตย์ดวงหนึ่ง จากนั้นแตกกระจายออกไปทันทีมีเงาทองสายหนึ่งขยายตัวออกมาจากดวงอาทิตย์อย่างรวดเร็วจนกระทั่งเท้าของเงาทองถึงพื้นเงาทองนั้นสูงกว่าร่างของหมิงลี่ฮ่าวสิบเมตร เมื่อหมิงลี่ฮ่าวยื่นมือไปกดที่ร่างเงาทองท่ามกลางสายตาของเย่ว์หยางและจ้าวสุริยาที่มองด้วยความสนใจร่างทองนั้นขยายตัวอย่างบ้าคลั่ง และยักษ์ทองนั้นมีขนาดร่างสามสิบเมตร
เงาร่างทองขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเค้าโครงรูปร่างเริ่มชัดเจนขึ้นตามลำดับ
และค่อยๆเปลี่ยนไปจนเหมือนกับหมิงลี่ฮ่าวผู้เป็นนาย
เพียงแต่ยักษ์ใหญ่นี้สูงมากกว่าสิบเท่า
หมิงลี่ฮ่าวไม่ค่อยชอบยักษ์ทองนี่เท่าไรนักเพราะมันเคลื่อนไหวช้าเกินไป เขาใช้มือข้างหนึ่งทำท่าค้ำฟ้า อสูรพิทักษ์ที่คล้ายกับเขาก็ทำอย่างเดียวกันดูเหมือนทำท่าค้ำฟ้าด้วยมือข้างหนึ่ง
พลังงานที่ไม่เคยเห็นมาก่อนครอบคลุมร่างหมิงลี่ฮ่าวกินพื้นที่ถึงครึ่งหนึ่งของบริเวณ
ไม่มีสี และมองไม่เห็น
อย่างไรก็ตามแม้แต่จ้าวสุริยาก็ยังขมวดคิ้วเล็กน้อย
เพราะสนามพลังนี้มองไม่เห็น และไม่มีสีมันจึงป้องกันรัศมีและสนามพลังกาลเวลาที่นาฬิกาสุริยะปล่อยออกมาเกิดเป็นพื้นที่เฉพาะรอบตัวหมิงลี่ฮ่าว
หมิงลี่ฮ่าวคำรามเหมือนฟ้าร้องจากนั้นรวบกำหมัด เกิดพลังกฎสวรรค์น้อยรายล้อมมิติพลังงานทำให้พื้นที่มิตินี้ถูกควบคุมด้วยเจตจำนงของหมิงลี่ฮ่าวในสนามพลังมิติที่หมิงลี่ฮ่าวสร้างขึ้นถูกควบคุมโดยหมิงลี่ฮ่าวอย่างอิสระเงายักษ์ทองสูงถึงร้อยเมตรยืนตระหง่านต่อหน้าเย่ว์หยางและจ้าวสุริยา เย่ว์หยางยืนอยู่ที่ใกล้เท้าเงายักษ์ทองมองขึ้นไปด้านบนและเขาถามด้วยความประหลาดใจ “อสูรพิทักษ์นี้ดูแปลกประหลาดจริงๆ!”
“ข้าไม่รู้ แต่นี่คืออสูรพิทักษ์นี่เป็นประเภทอสูรร่างมนุษย์มีนามว่า ‘ควาฟู่’มีสติปัญญาพื้นฐาน ภายใต้ทักษะแฝงเร้นยักษ์ของข้าและมีสนามพลังฟ้าคอยเป็นพลังหนุนเสริม มันแทบจะไร้เทียมทานเทียบกับแม่หนูปีศาจงูน้อยน่ารักของเจ้า มันแข็งแกร่งกว่าเยอะ”หมิงลี่ฮ่าวถือโอกาสคุยทับเย่ว์หยางด้วยความภูมิใจ
“เฮอะ” คำตอบของเย่ว์หยางถือเป็นการดูถูกโดยตรงกับคำพูดที่ไร้ชั้นเชิงของหมิงลี่ฮ่าว
“...ฮึ่ม..” เสี่ยวเหวินหลีไม่พอใจคำคุยโม้โอ้อวดของหมิงลี่ฮ่าว เธอชูกำปั้นน้อยๆโบกไปมาด้วยความไม่พอใจ
“ไม่มีอะไรที่ทำได้ เด็กของเจ้าได้แต่ดูอยู่ข้างๆ! ส่วนข้าแม้แต่ดวงอาทิตย์ก็ยังทุบได้ ควาฟู่ไล่ตามตะวัน!”
ปากของหมิงลี่ฮ่าวพูดอย่างนี้
แต่ในความเป็นจริงเขาจำเป็นต้องร่วมมือกับเย่ว์หยางเพื่อเริ่มโจมตีอย่างแน่นอน อาศัยแค่คนใดคนหนึ่งต่อให้เพิ่มยักษ์ควาฟู่ที่ไม่ได้ปรากฏตัวก่อนหน้านั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะพอมือจ้าวสุริยาหรือไม่
ควาฟู่เงื้อหมัดมหึมาที่แฝงด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ร้ายกาจ
ปล่อยพลังเป็นแนวโค้งไปที่ข้างหน้าของจ้าวสุริยา
หมัดทองของหมิงลี่ฮ่าวไวกว่าหมัดของควาฟู่ต่อยทีหลังแต่ไปบรรจบกับหมัดของควาฟู่ต่อหน้าของจ้าวสุริยา
ตาของจ้าวสุริยายังคงมองเย่ว์หยางโดยไม่สนใจหมัดของหมิงลี่ฮ่าวและควาฟู่เขาค่อยๆ หลับตา
สองหมัดนั้นสามารถถล่มฟ้าทลายดินระเบิดใส่ร่างของจ้าวสุริยาพร้อมกันหมัดหนึ่งพุ่งลงมาจากฟ้า อีกหมัดหนึ่งพุ่งจากด้านล่างขึ้นบน จ้าวสุริยาไม่ได้ตอบโต้หรือต้านรับแต่อย่างใด หมิงลี่ฮ่าวไม่เพียงแต่เหน็ดเหนื่อยสาหัส แต่ยังใช้พลังออกไปแทบทั้งหมดจ้าวสุริยถูกหมัดของหมิงลี่ฮ่าวระเบิดใส่โดยตรง ผมของเขาผิดทรงร่างของเขาถูกตอกจมลงไปบนพื้นโลกศิลาแค่เข่า
เป็นพลังโจมตีที่รุนแรง
ไม่ได้ผลหรือ?
หมิงลี่ฮ่าวตกใจอย่างสิ้นเชิงแม้ว่าเขาจะใช้พลังลับของเขาร่วมกับควาฟู่ก็แค่ทำให้ร่างของจ้าวสุริยาสั่นคลอนเท่านั้น คาดไม่ถึงว่ากลับไร้ผลอย่างสิ้นเชิง
รอจนเมื่อหมิงลี่ฮ่าวรั้งหมัดออกมาจากหน้าของจ้าวสุริยาเขาพบว่า เขาทำอะไรไม่ได้เลย
หน้าของเขายังคงเหมือนเดิม
แม้แต่ผมบนศีรษะก็ไม่ยุ่งเหยิง
นี่ถ้าเขาใช้พลังแบบนี้โจมตีจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วหรือจักรพรรดิเสิ่นกวง คาดว่าพวกเขาคงทรุดลงกับพื้นกระอักเลือดแน่ แต่ถ้าจ้าวสุริยาฝีมือดีกว่านักรบระดับจักรพรรดิ ก็ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บบ้างสักเล็กน้อย!
หมิงลี่ฮ่าวถอยหลังหลายก้าวพลางตะโกนด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ “เป็นไปได้ยังไง!”
ไม่ทราบว่าเย่ว์หยางมาปรากฏตัวด้านหลังเขาตั้งแต่เมื่อใด
และประคองหมิงลี่ฮ่าว “ด้วยพลังอย่างนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะจ้าวสุริยา เขามีนาฬิกาสุริยะและสนามพลังกาลเวลา ดังนั้นจึงทำอะไรร่างกายของเขาไม่ได้ แต่สำหรับสนามพลังกาลเวลาของเขาเขาทำให้มีผลต่อร่างของเขาเอง การโจมตีทำร้ายจ้าวสุริยา เจ้าต้องใช้พลังที่นาฬิกาสุริยะและสนามพลังกาลเวลาไม่สามารถทำลายได้”
“ทำไมเจ้าไม่บอกให้เร็วกว่านั้น?” หมิงลี่ฮ่าวแทบหมดสติการโจมตีจ้าวสุริยาไร้ประโยชน์ เจ้าไม่บอกให้เร็วกว่านี้ก็คงไม่สิ้นเปลืองเรี่ยวแรงไม่ใช่หรือ?
“ข้าบอกไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่เจ้าไม่ฟังเอง” เย่ว์หยางแค่นเสียง
“ถูกแล้ว ตั้งแต่เริ่มแรกคุณชายไตตันพูดถึงจุดอ่อนของข้าไว้ชัดแล้ว แต่น่าเสียดายระดับพลังของเจ้ายังไม่พอ เจ้ายังไม่เข้าใจ เจ้าไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ” ใบหน้าของจ้าวสุริยามีรอยยิ้มของผู้ชนะ
“ตอนนี้ข้าควรจะทำยังไงดี?” หมิงลี่ฮ่าวรู้สึกว่าเขากำลังจะทรุดลงอีกครั้ง เมื่อจ้าวสุริยาลงมือโจมตี เขากับเย่ว์หยางจะต้องถูกฆ่า
“ข้ายังหาวิธีดีๆ ไม่พบ” เย่ว์หยางบอกว่าเขาต้องการเวลาอีกเล็กน้อย
“โอวสวรรค์!” หมิงลี่ฮ่าวอยากจะร้องไห้
“เจ้าถ่วงเวลาไว้สักชั่วโมงหนึ่ง หวังว่าข้าคงจะหาได้สักวิธีหนึ่ง” เย่ว์หยางใคร่ครวญและพูดถึงกำหนดเวลา
“อย่าว่าแต่ชั่วโมงหนึ่งเลย แค่สิบนาที ข้าคิดว่าเต็มกลืนเหมือนกัน” หมิงลี่ฮ่าวได้ยินกำหนดเวลาแล้วเขารู้สึกชาไปทั้งหัว
“อา..ใช่แล้ว ข้าขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง คุณชายไตตันยังพูดไม่ถูก ข้ากังวลเกี่ยวกับพลังซ่อนเร้นของเขามากไปหน่อย และเจ้าหมิงลี่ฮ่าว แม้ว่าเจ้าจะทรงพลังมากมายก็ตาม แต่นั่นสำหรับกับคนอื่น เพราะข้ามีนาฬิกาสุริยะและทักษะคืนสภาพสนามพลังและกฎสวรรค์แห่งกาลเวลา น่าเสียดายที่เจ้ายังประเมินตัวเองสูงเกินไป” จ้าวสุริยาพูดปฏิเสธด้วยน้ำเสียงจริงใจ “อย่าว่าแต่สิบนาทีเลย ต่อให้นาทีเดียวเจ้าก็ต้านไม่ได้ ในหนึ่งนาที ข้าสามารถย้อนหรือเร่งเวลาได้มากกว่าร้อยปีพันปี ต่อให้ข้าไม่ใช้ทักษะนี้ข้าก็ซัดเจ้าลงไปนอนกับพื้นได้ภายในนาทีเดียว”
“โธ่เว้ย!” หมิงลี่ฮ่าวเต้นผาง แต่เขารู้ว่าจ้าวสุริยาพูดความจริง แม้จะฟื้นฟูพลังแล้วก็ไร้ประโยชน์
“เจ้าจะไม่ใช้พลังลับสุดท้ายของเจ้าหรือ?” จ้าวสุริยามองดูเย่ว์หยาง
“ยังไม่ถึงเวลา” เย่ว์หยางยิ้ม
“ข้ามักจะมีความรู้สึกว่าถ้าข้าไม่บังคับเจ้าให้ใช้พลังสุดท้ายและไม่ได้ทำลายพลังสุดท้ายของเจ้า ข้าจะไม่สามารถฆ่าเจ้าได้จริง” จ้าวสุริยาเงียบมองดูเย่ว์หยาง เขายกมือขวาช้าๆชี้ไปทางหมิงลี่ฮ่าว “ดังนั้นเจ้าคิดว่ายังไง ข้าจะหักแขนขาของหมิงลี่ฮ่าว ขอเตือนเจ้าอย่าได้พยายามโกรธคู่ต่อสู้ที่สามารถฆ่าเจ้าได้”
“ต้องการให้ข้าทำอะไร?ก้มหัวตามที่เจ้าต้องการ?” เย่ว์หยางกล่าวเหน็บแนม เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะคุกคามขู่เข็ญกันได้
“ถ้าเจ้าไม่ใช้พลังอึดสุดท้าย อย่างนั้นข้าต้องเริ่มใช้พลังที่แท้จริง เย่ว์ไตตัน ไม่ว่าเจ้าจะฉลาดเพียงไหนก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะหลบหนีจากการไล่ฆ่าของข้าได้ เพราะฝีมือเราห่างกันมาก การฝึกฝนอย่างหนักเป็นหมื่นปีของข้าไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะเอาชนะกันได้ง่ายๆในเวลาไม่กี่ปี! ถ้าไม่มีใครช่วย...”
เมื่อจ้าวสุริยาพูดประโยคนี้เขามองเทวีเสรีภาพ
เทวีเสรีภาพส่ายศีรษะ “ไม่ต้องกังวล! ข้าจะไม่เข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ระหว่างพวกเจ้า อย่างไรก็ตาม จ้าวสุริยาด้วยร่างระดับกึ่งเทพของเจ้าเจ้าทรงพลังก็จริง แต่ร่างเสมือนเทพของเจ้าไม่ได้เป็นอมตะคุณชายไตตันอาจจะฆ่าเจ้าได้ นี่คือคำเตือนเล็กน้อยจากข้า”
จ้าวสุริยาหน้าบึ้งทันที “อะไรนะ?”
เทวีเสรีภาพส่ายหน้า “ข้าจะไม่พูดอีกข้าแค่เห็นไม่ค่อยชัดนัก”
จ้าวสุริยาหันไปหาเย่ว์หยาง และจู่ๆเขายิ้มอีกครั้ง “คุณชายไตตันมีของวิเศษหรือ? ข้าคาดเอาไว้แล้ว และนี่คือเหตุผลที่ข้ากังวลมาโดยตลอด หากมีเวลามากพอจะเติบโตอย่างเช่นหากเจ้ามีเวลาร้อยปี คุณชายไตตันได้ครอบครองสมบัติวิเศษระดับเทพคาดว่าต่อให้เป็นเจ้าตำหนักสูงสุด อาจจะตายก็ได้ แต่ตอนนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้มีโอกาสเช่นนี้อีกสามารถฝังจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ได้ สามารถฝังศิษย์ของนางพญาผู้พิชิตตามคำร่ำลือข้าเลี่ยฉางคง ต่อให้ถูกสมบัติวิเศษฆ่าตายก็ไม่เสียใจ! การล่อลวงครั้งสุดท้ายจบลงแล้ว หมิงลี่ฮ่าว เย่ว์หยาง เย่ว์ไตตันและเทวีเสรีภาพจะหายไปจากข้า”
ดวงอาทิตย์ที่มีรัศมีสว่างมากกว่าปกติเป็นหมื่นเท่า
ทั้งโลกดูเหมือนถูกดวงอาทิตย์เผาผลาญ
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกดวงอาทิตย์เผา
ไม่มีใครได้รับการยกเว้น!
**************
*** ควาฟู่เป็นตัวละครจากนิทานปรัมปราเก่าของจีน ท่านสามารถเอาชื่อควาฟู่ไล่ตามพระอาทิตย์ไปเสริชหาอ่านได้ตามเว็บค้นหาชื่อดังครับ