ตอนที่แล้วตอนที่ 18 สร้างยันต์ไฟ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 ขายยันต์ไฟ

ตอนที่ 19 ยันต์ไฟแผ่นแรก


ตอนที่ 19 ยันต์ไฟแผ่นแรก

“ทำไมเจ้ายังไม่เริ่มลงมือ” อาจารย์หมอผีไบรเซนเดินเข้ามาหยุดเบื้องหน้าของลีโอ ก้มตัวลงถามเขา

ลีโอที่หลับตากำลังครุ่นคิดอยู่ก็ได้ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะพบว่าคนที่ถามคืออาจารย์หมอผีไบรเซน เขาจึงตอบกลับไปว่า “ข้าแค่กำลังคิดในสิ่งที่เห็นอยู่”

“โอ้คิดในสิ่งที่เห็น เจ้าคิดและเห็นสิ่งใด” อาจารย์หมอผีไบรเซนถามด้วยความสนใจ

ลีโอผงะไปเล็กน้อย เมื่อโดนถามกลับถึงสิ่งที่คิด แต่เขาจึงถือโอกาสถามในสิ่งที่สงสัย “ข้าแค่คิดว่าทำอย่างไรพลังจิตจึงจะทรงพลังเช่นท่าน ดูเหมือนว่าขั้นตอนการทำให้อักขระวิญญาณสมดุลจะเกี่ยวกับคุณภาพพลังจิต พลังจิตที่ทรงพลังกว่าสิ่งที่ไร้รูปร่าง”

“หืม...” อาจารย์หมอผีไบรเซนหรี่ตามองเด็กหนุ่มอายุ 14 ตรงหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย เพราะไม่คิดว่าจะโดนถามคำถามนี้

“คำถามของเจ้าน่าสนใจมากจริง ๆ แต่ดูเหมือนมันจะเกินขอบเขตของหมอผีฝึกหัดไปเสียแล้ว” อาจารย์หมอผีไบรเซนกล่าวและยกมือจับปลายคาง

คำถามของลีโอไม่ใช่เพียงสร้างความประหลาดใจให้กับอาจารย์หมอผีไบรเซนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงซานเดอร์ที่นั่งอยู่ไม่ไกล เขาถึงกับหยุดชะงักไปทันที

“ข้าอภัยท่านอาจารย์หมอผีไบรเซนที่ข้าถามมากเกินไป” ลีโอรีบกล่าว แต่อาจารย์หมอผีไบรเซนยกมือขึ้นเพื่อหยุด

“ไม่เห็นไร เจ้าสามารถสงสัยได้ ข้าเคยพูดว่าจะตอบในสิ่งที่สงสัยตอนสร้างยันต์ให้ แต่ถึงจะไม่เกี่ยวกับการสร้างยันต์ ข้าก็จะชี้แนะให้ก็แล้วกัน พลังจิตก็เหมือนกับละอองน้ำเล็ก ๆ ถ้ามีละอองน้ำตกลงมาใส่เจ้าจะเจ็บหรือไม่” อาจารย์หมอผีไบรเซนถามลีโอกลับ

“ไม่ขอรับ” ลีโอส่ายหัว

“แล้วถ้าละอองน้ำรวมกันหยดน้ำฝน แล้วมันตกใจเจ้าจะเก็บหรือไม่”

“รู้สึก แต่อาจจะไม่ต้องขั้นเจ็บ” ลีโอคิดและตอบ

“แล้วถ้าหยดน้ำฝนกลายเป็นลูกเห็บตกโดนเจ้าจะเจ็บไหม” อาจารย์หมอผีไบรเซนถามด้วยรอยยิ้ม

ลีโอไม่ตอบ เบิกตากว้างมองอาจารย์หมอผีไบรเซน ก่อนจะกล่าว “ขอบคุณท่านอาจารย์หมอผีไบรเซนที่ชี้แนะ”

“อืม” อาจารย์หมอผีไบรเซนพยักหน้าเดินไปดูศิษย์คนอื่น ๆ ต่อ

ลีโอเหมือนจะกระจ่างมากขึ้นในการใช้พลังจิต แม้ว่าลีโอจะมีรูนจิตที่รวมกันเป็นเหมือนวัตถุ แต่ว่าพลังจิตที่เขาใช้ออกมาก็ไม่ได้ต่างจากหมอผีฝึกหัดคนอื่น ๆ

แต่หลังจากที่เห็นวิธีการเปลี่ยนพลังจิตเป็นเหมือนกับเข็มของอาจารย์หมอผีไบรเซนทำให้เขาเริ่มกลับมาคิดเรื่องวิธีการใช้พลังจิตของตนเอง

จากคำถามที่อาจารย์หมอผีไบรเซนแนะนำคำตอบของมันคือ ความหนาแน่น พลังจิตที่หนาแน่น จะทรงพลังกว่าพลังจิตที่เบาบาง

เหมือนหมอกที่พอกระทบกับตัวของเราก็ไม่เจ็บเท่ากับลูกเห็บที่มากระทบตัว

‘แม้ข้าจะมีรูนพลังจิตที่กลายเป็นวัตถุ แต่ว่าข้ากลับใช้มันไม่เป็น รูนพลังจิตของข้าสามารถส่งผ่านพลังจิตได้มากกว่ารูนพลังจิตของหมอผีฝึกหัด แต่วิธีใช้ข้ากลับใช้มันออกมาเหมือนกับหมอกที่กระจายไปทั่ว ถ้าข้าเปลี่ยนหมอกให้กลายเป็นน้ำแข็งก็จะทำให้พลังจิตนั้นทรงพลังขึ้น ว่ากันว่าหมอผีแท้จริงสามารถใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ โดยไม่จำเป็นว่าสิ่งนั้นจะมีโลหะวิญญาณผสมอยู่หรือไม่ อาจจะเพราะพลังจิตของพวกเขาหนาแน่นมากพอที่จะสร้างผลกระทบต่อวัตถุกายภาพได้’

‘นี่คงเป็นเหตุผลที่อาจารย์หมอผีไบรเซนกล่าวว่านี่คือความรู้ของหมอผีแท้จริง มันจะมีประโยชน์ต่อข้ามาก แม้ว่าตอนนี้ข้าจะเปลี่ยนพลังจิตให้หนาแน่นเหมือนหมอกที่เปลี่ยนเป็นน้ำแข็งไม่ได้ แต่ข้าน่าจะรวบมันจนกลายเป็นเม็ดฝนได้ ถ้าทำได้แบบนั้นการจะใช้พลังจิตรักษาสมดุลในโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณไฟก็คงไม่ใช่เรื่องยากอันใด’

ลีโอเริ่มลงมือแล้วเช่นกัน เขาหยิบอุปกรณ์จารึกของตัวเองออกมา แต่ไม่ได้ลงมือเขียนยัน เขากลับจับพู่กันเขียนไปที่โต๊ะแทน

ซานเดอร์ที่หยุดชะงักไปตั้งแต่คำถามของลีโอ จนกระทั่งได้ยินคำตอบของอาจารย์หมอผีไบรเซน ก็ทำให้เขาสนใจลีโอขึ้นมา ที่จริงในเรื่องของความหนาแน่นของพลังจิต เขาเคยได้รับการสอนสั่งจากอาจารย์ของตนมาก่อน จึงพอเข้าใจบ้าง

แต่ว่าไม่คิดว่าแค่ศิษย์คนหนึ่งที่ยังไม่ได้ผ้าคลุมกลับสนใจเรื่องของพลังจิตในระดับของหมอผีแท้จริงแล้วทำให้เขาสนใจอยู่พอสมควร แต่พอเห็นว่าลีโอไม่ลงมือเขียนยันต์ แต่กำลังเขียนไปบนโต๊ะแทนก็ทำให้ซานเดอร์ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเข้าไปอีก

‘เด็กผู้นั้นกำลังทำอะไร หรือว่าจะเขียนโรงสร้างแห่งพลังจิตที่นี่ เขายังไม่บรรลุโครงสร้างแห่งจิต แต่กลับมาลงทะเบียนอย่างนั้นเหรอ คงเป็นคนจากตระกูลหมอผีที่มีเงินถึงได้มาลงทะเบียนเล่น ๆ แบบนี้ ช่างเถอะ ข้าควรจะสนใจการศึกษาของตนเอง’ ซานเดอร์กลับมาสนใส่ใจการเขียนยันต์ของตนเอง

ลีโอเขียนอักขระวิญญาณไฟลงไปที่โต๊ะและในขั้นตอนนี้เขายังเปลี่ยนวิธีการปลดปล่อยพลังจิตของตนจากที่เป็นหมอก ลีโอก็บีบพวกมันเข้าหากัน เพื่อให้พลังจิตนั้นหนาแน่นมากขึ้น

ในตอนแรกนั้นก็อยากจนเขาเผลอทำลายโครงสร้างแห่งจิตไปหลายครั้ง แต่ลีโอไม่ยอมแพ้ เขารู้ว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเขา

หมึกเริ่มเปื้อนไปทั้งโต๊ะของลี เขาจึงใช้มือเช็ดคราบหมึกออกจนแขนเสื้อดำจากนั้นก็เขียนตัวต่อไป แต่ทุก ๆ ครั้งลีโอจะเว้นระยะไว้ให้ตัวเองหยุดคิดถึงความผิดพลาดทุกครั้งและลงมือเขียนอักขระวิญญาณใหม่

อาจารย์หมอผีไบรเซนเองก็เหลือบมองการกระทำของลีโอเช่นกัน

‘เด็กนั้นกำลังทำอะไรเกินตัว ถ้าเป็นหมอผีฝึกหัดระดับ 3 เขาอาจจะทำได้ แต่ว่าหมอผีฝึกหัดระดับ 1 ไม่ได้มีพลังจิตที่มากมายพอให้บีบพวกมันจนหนาแน่นมากเหมือนเม็ดฝนได้ ช่างเถอะ ไม่นานเขาก็จะค้นพบเรื่องนี้เอง’

อาจารย์หมอผีไบรเซนคิดในใจ แต่เขาไม่รู้เลยว่ารูนจิตของลีโอนั้นกลายเป็นรูนจิตที่กลายเป็นวัตถุกายภาพซึ่งมีศักยภาพมากพอที่จะทำให้พลังจิตของลีโอหนาแน่นกว่าของหมอผีในระดับเดียวกันมาก

ลีโอเพ่งความคิดทั้งหมดของเขาไปที่การเขียนยันต์และฝึกปลดปล่อยพลังจิตไปพร้อม ๆ กัน สุดท้ายเวลาเรียนก็ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว

“หมดคาบเรียน” เสียงของอาจารย์หมอผีไบรเซนดังขึ้นมา

พอได้ยินทุกคนก็หยุดมืออย่างเสียดาย ก่อนจะพากันลุกออกไปจากห้องเรียน ลีโอก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาลุกออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้นและยินดี

ขณะที่ซานเดอร์ก็ดูจะพอใจในผลลัพธ์ของตนเองเช่นกัน ตอนนั้นเองเขาก็เหลือบมองไปที่ลีโอที่เดินออกไปจากประตูอย่างรวดเร็ว

“เด็กนั้นยังอารมณ์ดีอยู่ ทั้งที่แทบไม่ได้ฝึกเขียนยันต์เลย?” ซานเดอร์พึมพำ

หลังจากหมอผีฝึกหัดจากไปหมดแล้วอาจารย์หมอผีไบรเซนก็กำลังจะจากไป ตอนนั้นเองอยู่ ๆ โต๊ะที่อยู่ในห้องตัวหนึ่งก็ลุกพรึบขึ้นมากลายเป็นเปลวเพลิง ทำเอาอาจารย์หมอผีไบรเซนต้องเหลียวกลับไปมองย่างตกใจ

โต๊ะเผาไหม้อย่างรวดเร็วกลายเป็นกองไฟกองหนึ่ง

อาจารย์หมอผีไบรเซนหรี่ตาลงมองดูกองไฟนั้น

...

ลีโอตรงกลับมาที่ห้องก่อนจะปิดประตูขังตนเอง จากนั้นก็เอากล่องอุปกรณ์จารึกที่ถือมาด้วยเปิดมันขึ้นมาจัดเรียงทุกอย่างด้านหลังและลงมือเขียนยันต์ไฟ

พู่กันที่จุ่มลงไปในหมึกพิเศษถูกเขียนไปบนกระดาษยันต์ ลีโอเปิดดวงตาผนึกเทพมองทุกรายละเอียดของการกระทำของตนเอง ไม่ว่าจะต่อพลังจิต หรือต่อ อนุภาควิญญาณ

ลีโอควบคุมพลังจิตให้หนาแน่นขึ้นและสร้างโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณไป จนถึงขั้นการใช้พลังจิตมารักษาสมดุลแห่งพลังจิตโดยที่ไม่กระทบกับอนุภาควิญญาณด้านใน

ทุกอย่างไปเป็นอย่างเชื่องช้ามาก จนราวกับว่าลีโอนั้นแข็งค้างหยุดอยู่ในถ่วงถ้านี้มาเกิน 30 นาทีแล้ว เหงื่อผุดขึ้นมาบนใบหน้าที่เคร่งขรึมของลีโอ แต่เขาไม่สนใจ แววตายังคงลากเส้นต่อไป

ขนาดของกระดาษยันต์กว้างยาวเพียงแค่ 4 นิ้วเท่านั้น แต่ลีโอใช้เวลาเขียนอักขระวิญญาณบนผืนกระดาษราวกับว่ามันใหญ่เทียบเท่าห้องทั้งห้องและในที่สุดผ่านไป 1 ชั่วโมงลีโอก็สามารถรักษาสมดุลแห่งพลังจิตด้านในได้สำเร็จ

ลีโอยกยิ้มมุมปากด้วยความดีใจต่อความสำเร็จของตนเอง มือที่สั่นไหวของเขาค่อย ๆ วางพู่กันลงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบเอายันต์ไฟแผ่นแรกขึ้นมา

ถ้าคนอื่นรู้ว่าลีโอสามารถเขียนยันต์เพียงแผ่นเดียวแล้วสำเร็จขึ้นมาจะต้องตกใจไม่น้อยเป็นแน่ แต่ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะลีโอนั้นมั่นใจจากการที่เขาฝึกโดยการวาดจากภายนอกมาก่อนที่จะลงมาเขียนในยันต์

อีกทั้งดวงตาของลีโอก็เห็นในสิ่งที่คนอื่นทำได้เพียงเหมือนลับตาสัมผัสเท่านั้น ดังนั้นลีโอจึงทำได้สำเร็จในแผ่นแรกนี้

ลีโอจ้องมองยันต์ในมือ ก่อนจะลุกขึ้นยืนและหันไปมองยังกำแพงของห้อง

“มาลองดูกัน”

เพียงลีโอใช้พลังจิตกระตุ้นเบา ๆ อักขระวิญญาณบนยันต์ก็ปลดปล่อยพลังออกมา ก่อนจะปลดปล่อยลูกไฟพุ่งเข้าไปใส่กำแพง ความร้อนของไฟทำให้ลีโอต้องหอห่างออกมาและใช้มือปิดหน้า

“พลังของยันต์สุดยอดจริง ๆ”

ลีโอพอใจกับยันต์แผ่นแรกของเขามาก มันมีพลังไม่ต่างจากตอนที่อาจารย์หมอผีไบรเซนใช้อักขระวิญญาณเผากองไฟในคาบเรียนแรก

ตอนนั้นลีโอก็รู้สึกบางอย่างและก้มหน้ามองดูแผ่นยันต์ในมือที่กำลังสลายตัวไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นผงเหมือนขี้เถ้าสีเทา

กระบวนการนี้ไม่ได้เปิดจากแผ่นกระดาษยันต์โดนเผา แต่เป็นเพราะขีดจำกัดของแผ่นกระดาษยันต์รองรับการส่งผ่านของทั้งอนุภาควิญญาณและพลังจิตได้จำกัด

เพียงครั้งเดียวก็นับว่าดีมากแล้ว

ลีโอถูมือตัวเองเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงรอให้พลังจิตฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ก่อนจะสร้างยันต์ไฟแผ่นต่อไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด