ตอนที่ 17 บรรลุอักขระวิญญาณไฟ
ตอนที่ 17 บรรลุอักขระวิญญาณไฟ
เวลาแห่งการเรียนรู้นั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว
มีเพียงไม่กี่คนที่นับด้วยนิ้วมือข้างเดียวที่เหมือนจะเริ่มสัมผัสถึงโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณได้อย่างเบาบางนับเป็นสัญญาณของผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านจารึก
ขณะที่หมอผีฝึกหัดส่วนใหญ่นั้นยังคงมึนงงแม้จะจดจ้องกองไฟนานหลายชั่วโมงจนตานั้นแสบแห้งก็ไม่ค้นพบอะไร
แต่สำหรับลีโอเขานำหน้าคนอื่น ๆ ไปได้ไกลกว่านั้นลีโอเฝ้ามองโครงสร้างของอักขระวิญญาณไฟครบทุกส่วนตั้งแต่เมื่อสามชั่วโมงก่อนแล้ว เขายังอาศัยเวลาที่เหลืออยู่แอบมองโครงสร้างของอักขระวิญญาณลวงตาที่อาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนหลบซ่อนอยู่ ทำให้เห็นทุกส่วนของอักขระวิญญาณเกือบจะทั้งหมดแล้ว
อักขระวิญญาณลวงตานั้นซับซ้อนกว่าอักขระวิญญาณไฟอย่างน้อยก็เกือบ 2-3 เท่า ลีโอเพียงแค่จดจำเพื่อเอาไว้ทำความเข้าใจอีกทีในภายหลังเท่านั้น
“เอาละหมดเวลาแล้ว” อาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนปรากฏตัวขึ้นมาข้าง ๆ ก่อนไฟ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่กองไฟได้ดับลง
“พวกเจ้าหลายคนทำได้ดี และข้าหวังว่าในคาบเรียนอื่น ๆ จะได้เห็นศักยภาพของพวกเจ้า ใครที่สนใจโครงสร้างของอักขระอื่นให้เตรียมตัวมาด้วย เพราะจะไม่ใช่วิชาพื้นฐานอีกต่อไป แต่เราจะเรียนในเรื่องของอักขระวิญญาณและการจารึกลงไปในรูปแบบยันต์อาคม” อาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนกล่าวทิ้งท้ายไว้ ก่อนจะให้ทุกคนออกจากห้องเรียนไป
ในตอนที่ออกมาลีโอสังเกตว่าอาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนยังหันมาเหลือบมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มีวี่แววของความสนใจมากนัก
...
หมอผีฝึกหัดเดินออกมาจากห้องเรียนด้วยสีหน้าหดหู่ใจ โดยเฉพาะเหล่าคนที่สัมผัสถึงโครงสร้างแห่งอักขระวิญญาณไม่ได้เลย
แต่ที่น่าสงสารมากกว่านั้นคือ คนที่ไม่มีพรสวรรค์ด้านอักขระวิญญาณใด ๆ แต่ยังลงทะเบียนในคาบเรียนอื่น ๆ ไปแล้ว พอได้ยินว่าต้องเตรียมตัวในด้านการเข้าใจโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณนั้น ๆ มาก็ทำให้พวกเขาเหล่านั้นถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง
เพราะต่อให้ไปเรียนพวกเขาก็คงไม่ได้อะไรกลับมา แต่ลงไปแล้วก็ไม่สามารถเรียกเงินที่เสียไปคืนมาด้วย
ต่างกันกลับลีโอ เขาเองก็มีสีหน้าแห่งความเสียดาย ไม่ใช่เพราะเขาเสียดายเงินที่ลงทะเบียนไป แต่เป็นเพราะเสียดายที่มีเงินไม่มากพอในการลงทะเบียนเรียนคาบเรียนอื่น ๆ
‘ข้าได้โครงสร้างอักขระวิญญาณไฟและอักขระวิญญาณลวงตามาแล้ว ถือว่าคุ้มค่าแล้ว’ ลีโอปลอบใจตนเอง ก่อนจะรีบเดินกลับไปยังห้องพัก
ลีโออยากจะทำความเข้าใจโครงสร้างเหล่านั้นในขณะที่ความทรงจำยังคงสดใหม่
...
หลังจากเข้าในห้องพักลีโอก็คว้าเอาชุดอุปกรณ์จารึกเข้าไปในโลกมิติดวงตาผนึกเทพ จากนั้นก็เริ่มเปิดพวกมันออกมา
ลีโอหยิบของสามสิ่ง หนึ่งคือพู่กัน อีกหนึ่งคือหมึกออกมาจากกล่องอุปกรณ์
ลีโอยังไม่มีความสามารถเหมือนกับอาจารย์หมอผีเฒ่าไบรเซนที่ใช้ดาบเป็นพู่กันดึงดูดหมึก
หมอผีแท้จริงนั้นสามารถใช้พลังจิตของตนเองเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ กับแค่หมึกพวกเขาจึงทำมันได้อย่างไม่มีปัญหาแต่นั่นไม่ใช่กับลีโอที่เป็นเพียงหมอผีฝึกหัดระดับ 1
ลีโอยังต้องใช้พู่กันที่จุ่มหมึกในการเขียน ส่วนการเขียนที่พื้นนั่นที่จริงไม่ได้แปลกประหลาด แต่เพียงแค่ไม่ค่อยมีให้เห็นในเหตุการณ์ทั่วไปก็เท่านั้น
ส่วนในเรื่องของการเขียนอักขระวิญญาณ แท้จริงไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษยันต์ เนื่องจากว่ากระดาษยันต์นั้นใช้สำหรับกักเก็บโครงสร้างแห่งจิตของอักขระยันต์เท่านั้น
“ในเมื่อข้ายังไม่ได้จะสร้างยันต์เช่นนั้นก็เขียนมันบนพื้นห้องแทนแล้วกัน”
ลีโอยืนอยู่ใจกลางห้องฝึกฝนที่มีพื้นราบเรียน เหมาะกับการขีดเขียนเป็นอย่างมาก ในตอนแรกลีโออยากจะเข้าไปฝึกฝนที่โลกมิติดวงตาผนึกเทพ เพียงแต่ว่าในโลกมิตินั้นไม่มีอนุภาควิญญาณให้เขาใช้
พู่กันและหมึกถูกวางอยู่เบื้องหน้าของลีโอ เขานั่งลงหลับตาผ่อนลมหายใจสมาธิเริ่มตั้งมั่นจิตใจเริ่มสงบลงอย่างช้า ๆ ภายในจิตค่อย ๆ จำลองโครงสร้างที่เห็นของโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณไฟที่อาจารย์หมอผีไบรเซนพึ่งจะแสดงให้เห็นในคาบเรียน
โครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณไฟเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ทันใดนั้นลีโอก็ลืมตาขึ้นมา มือยื่นไปหยิบขวดหมึกขึ้นมาเปิดฝา กลิ่นของหมึกชัดเจนว่าคาวเหมือนโลหิต แต่ก็หอมเหมือนดอกไม้
เขาวางขวาลงและหันไปหยิบพู่กันขึ้นมา มือของลีโอสัมผัสได้ถึงความเย็นจากด้ามของพู่กันที่มีส่วนผสมของโลหะสื่อวิญญาณที่ใช้กันในอาวุธอาคม
แน่นอนว่าพู่กันด้ามนี้มีโลหะสื่อวิญญาณผสมเจือจางอยู่น้อยนิดจนแทบจะไม่มีค่ามากมายอะไร แต่มันคืออุปกรณ์ฐานของหมอผีผู้จารึกที่ต้องมี
รูนจิตของลีโอปลดปล่อยพลังจิตของเขาผ่านปลายนิ้วที่สัมผัสกับพู่กัน ลีโอค่อย ๆ จุ่มขนพู่กันลงไปในหมึก จากนั้นก็ปาดเอาหมึกส่วนเกินออกที่ขอบของปากขวด
มือของลีโอเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า เนื่องจากความไม่คุ้นเคย ค่อย ๆ ย้ายพู่กันลงมาที่ใจกลางพื้นห้อง หัวพู่กันที่ขนชุ่มไปด้วยหมึกถูกกดลงไปที่พื้นพร้อมกันนั้นก็มีพลังจิตของลีโอได้ร่างโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณไฟเจ้าไปในลายเส้นน้ำหมึก
มือของลีโอเคลื่อนไหวและเขียนด้วยภาษาสากลแห่งอวกาศ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ภาษาอวกาศ ที่มีใช้มา 300 กว่าปีแล้ว เขาเขียนคำว่า “ไฟ” ที่มีสองอักษรในภาษานี้และโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณไฟก็ถูกใส่เข้าไป
ในระหว่างที่เขียนลีโอได้มองดูอนุภาควิญญาณในอากาศรอบตัว มันค่อย ๆ ตอบสนองต่อโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณไฟของเขา
ในที่สุดเส้นสุดท้ายก็เสร็จสิ้น พริบตานั้นอักขระวิญญาณไฟก็ตอบสนองทันที โดยการเผาไหม้อักขระด้วยความรวดเร็วกลายเป็นเปลวไฟ
“สำเร็จ” ลีโอตะโกนออกมาด้วยความดีใจ เบื้องหน้าของเขาปรากฏเปลวไฟขนาดหัวไม้ขีด
“แต่มันเล็กไปสักหน่อย ถ้าพอจุดไฟเผาขยะก็พอได้ แต่ถ้าใช้โจมตีผู้คนคงยาก ดูเหมือนข้าต้องฝึกต่อไปจนกว่าจะทำให้มีขนาดเท่ากับของอาจารย์หมอผีไบรเซนได้ ถึงจะใช้งานได้จริง ๆ”
คิดได้แบบนั้นลีโอก็ลงมือเขียนอักขระไปทั่วทั้งห้อง ยิ่งเขียนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทิ้งร่องรอยของหมึกไว้ที่พื้นมากเท่านั้น
แววตาของลีโอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ผมเริ่มยุ่งเหยิง เมื่อเขารู้สึกง่วงก็จะนอนมันในห้องฝึก ลีโอเริ่มจมดิ่งและหมกมุ่นมากขึ้น แม้กระทั่งอาหารและน้ำก็กินน้อยลงจนถึงขั้นหยุดกิน
ลีโอเขียนอักขระวิญญาณตั้งแต่หมึกมีเต็มขวดจนมันหมดลงไปจนเหลือไม่ถึง1 ใน 10 ของขวดแล้ว แต่พอใกล้จะถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว ตอนนั้นเองอักขระวิญญาณไฟที่เขาพึ่งเขียนไปด้วยมือที่สั่นเทาก็เริ่มดึงดูดเอาอนุภาควิญญาณเข้าไปมากกว่าอักขระวิญญาณไฟตัวอื่น ๆ หลายเท่า
แม้แต่อนุภาควิญญาณหายนอกห้องของลีโอก็โดนดูดเข้ามาด้วย ทำให้ศิษย์สองคนที่ห้องติดกับลีโอยังรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของอนุภาควิญญาณในอากาศพวกเขาเพียงไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรก็เท่านั้น
อนุภาควิญญาณเข้าไปในโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณไฟ
พรึบ!
อักขระวิญญาณไฟก็ลุกโชนกลายเป็นเปลวเพลิง ก่อนจะลอยตัวขึ้นมาพร้อมกับมีโครงสร้างแห่งอักขระวิญญาณไฟอยู่ด้านใน มันดูดซับอนุภาควิญญาณและยังขยายต่อเนื่องจนมีขนาดเท่าลูกบอล
ตอนนี้ลูกไฟของลีโอนั้นเหมือนกับของที่อาจารย์หมอผีไบรเซนเคยสร้างขึ้นมาให้ดู ที่จริงแล้วมันจะยังทรงพลังกว่าเล็กน้อยด้วย นั้นเพราะโครงสร้างแห่งจิตของอักขระวิญญาณไฟที่ลีโอทำมันขึ้นมาอย่างมั่นคงและละเอียดมากกว่าของอาจารย์หมอผีไบรเซนเสียอีกยังไงละ
“ฮ่า ๆ ในที่สุดข้าก็ทำสำเร็จ ข้าบรรลุอักขระวิญญาณไฟแล้ว” ลีโอหัวเราะออกมาอย่าอ่อนล้า แต่พอเขาจะควบคุมมันก็พบว่าพลังจิตของตนเองนั้นหมดแล้ว
ทันใดนั้นลูกไฟก็เริ่มขยายขึ้นเรื่อย ๆ ลีโอรู้ว่าปล่อยไว้จะเกิดอะไรมันจะระเบิดเปลวเพลิงออกมา
ลีโอรีบคว้าชุดอุปกรณ์เครื่องมือออกมา ทันทีที่ประตูปิดก็มีเสียงดังบึม! มาจากด้านในห้องฝึก
“โชคดีที่ข้าออกมาทัน ไม่อย่างนั้นคงโดนไฟของตนเองเผาไปด้วย อันตรายจริง ๆ ทำความสะอาดห้องฝึก” ลีโอพูดกับตัวเองและส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะสั่งให้ระบบจัดการทำความสะอาดห้องฝึกฝน
ตัวเลขปรากฏขึ้นที่หน้าประตูทันทีคือ 30 นาที นี่คือตัวเลขบ่งบอกถึงการทำความสะอาดจะเสร็จสิ้นใน 30 นาที
ลีโอเดินไปที่ตู้เย็นเปิดหาน้ำดื่มและอาหารที่ซื้อเป็นกล่องไว้ แต่ก็พบว่าอาหารนั้นหมดเหลือน้ำเพียงขวดเดียว เขาส่ายหัวอย่างมึน ๆ เล็กน้อย ก่อนจะเหลือบไปเห็นเงาของตนในกระจกและพบว่าสภาพของตัวเองตอนนี้ราวกับแรงงานทาสในบริษัท ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าและริมฝีปากซีดเซียว มีรอยดำคล้ำรอบขอบตาพอ ๆ กับชุดที่เปื้อนไปด้วยสีดำของการเผาไหม้ของอักขระวิญญาณไฟ
“ผ่านมา 4 วันแล้วอย่างนั้นเหรอ” ลีโอมองดูเวลา มันคือ 4 วันแห่งการฝึกฝนตั้งแต่วันที่เลิกเรียนช่วงเย็นจนถึงเย็นของวันที่ 4 แล้ว
ลีโอจึงไปอาบน้ำจัดการตัวเอง เปลี่ยนชุดใหม่ ส่วนชุดเก่าทิ้งลงช่องส่งไปซักทำความสะอาดจากนั้นเขาก็เข้านอน พรุ่งนี้เขามีเรียนในคาบที่ 5 ของหลังสูตรผู้จารึก
รุ่งเช้าของวันต่อมาเยือนอย่างรวดเร็ว ลีโอตรวจสอบตนเองพบว่าการนอนเต็มอิ่มมันดีอย่างนี้นี่เอง ลอยคล้ำใต้ตาหายไป ใบหน้าดูแจ่มใสขึ้นมาก
แถมเขายังหลับลึกไปเกือบ 5 ชั่วโมง การหลับลึกนั้นคือหนึ่งในวิธีการหลับที่ดีที่สุด เพราะร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองได้ดีเยี่ยมและสมดุล นานมากแล้วที่ลีโอไม่เคยหลับลึกแบบนี้มาก่อน
“ต้องรีบไปแล้ว ไม่อย่างนั้นจะกินข้าวเช้าไม่ทัน”
ลีโอรีบแต่งตัวออกไปกินอาหารเช้าที่สวนสาธารณะ
จากนั้นก็ตรงไปที่ห้องเรียนเดิมที่ชั้น 6 ซึ่งเริ่มผู้คนทยอยมากันมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากเหมือนในคาบแรก เพราะนี่คือหลักสูตรเฉพาะที่หมอผีฝึกหัดส่วนใหญ่สัมผัสได้ถึงโครงสร้างแห่งอักขระวิญญาณไฟและเดินอยู่ในเส้นทางของผู้จารึกแล้ว