ตอนที่แล้วตอนที่ 4 ผู้ตรวจสอบไนท์แห่งกองควบคุม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 ทดสอบพรสวรรค์

ตอนที่ 5 สถาบันเอลาเดีย


ตอนที่ 5 สถาบันเอลาเดีย

ยานอวกาศของผู้ตรวจสอบไนท์บินผ่านหุบเขาและเหวลึกมากมาย ซึ่งสภาพพื้นผิวของดาวอังคารนั้นเต็มไปด้วยหลุม ภูเขาไฟและเหว

โดยดาวอังคารยังมีภูเขาไฟที่สูงที่สุดในระบบสุริยะที่ชื่อว่า “โอลิมปัส” แต่ต่อมาได้มีการค้นพบที่สูงกว่าในภายหลัง แต่ว่าตอนนี้มันก็ยังเป็นภูเขาไฟใหญ่และสูงสุดในดาวอังคารอยู่ดี

และตอนนี้มันได้ถูกสหพันธรัฐเปลี่ยนทั้งภูเขาไฟโอลิมปัสไปเป็นแหล่งพลังงานจากใต้พิภพหล่อเลี้ยงระบบปรับสมดุลชั้นบรรยากาศของดาวอังคารแล้ว เรียกว่าเป็นระบบที่ใช้พลังงานได้อย่างสะอาดหมดจดจริง ๆ

ข้อมูลเหล่านี้อยู่ในความทรงจำของลีโอคนเก่า ซึ่งช่วยเปิดโลกให้กับลีโออย่างแท้จริง

ลีโอค้นพบว่าสมองของคนในยุคนี้ไม่ได้ฉลาดไปมากกว่ามนุษย์ในยุคก่อนเท่าไหร่ แต่ว่าที่ต่างกันนั้นคือองค์ความรู้ของพวกเขาที่มีมากกว่า ทำให้เหล่าเด็ก ๆ ในยุคนี้ได้รับการศึกษาและค่อย ๆ พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว

ยานค่อย ๆ บินเข้าไปในเขตของภูเขาไฟโอลิมปัสไป ตอนแรกลีโอคิดว่าทางเจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลพื้นที่จะไม่อนุญาตให้บินเข้าไป เพราะพื้นที่รอบทั้งภูเขาไฟคือพื้นที่หวงห้าม ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้ามาครอบครองได้ ยกเว้นว่าจะเป็นบริษัทหรือองค์กรใหญ่ที่มีสิทธิ์เข้ามา

แต่พอ AI ของยานที่ชื่อว่า เอ็มส่งข้อมูลกลับไปก็ได้รับอนุญาตทันที

“สถาบันที่เรากำลังไปตั้งอยู่ด้านในพื้นที่ของภูเขาไฟโอลิมปัส” ผู้ตรวจสอบไนท์ลุกจากที่นั่งนักบินเดินมาพูดคุยกับลีโอ

ลีโอจึงถือโอกาสสอบถาม “เรื่องที่บอกว่าตัวเองไม่ใช่หมอผีมันหมายความว่ายังไง ข้านึกว่าคนจากกองควบคุมจะเป็นหมอผีทั้งหมด”

“กองควบคุมมีเจ้าหน้าที่อยู่สองประเภท คือผู้ควบคุมกับผู้ตรวจสอบ”

“ผู้ควบคุม คือ หมอผีที่ถูกเรียกใช้ผ่านองค์กรต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้กองควบคุม ซึ่งทำให้ง่ายและไม่ต้องคอยดูแลมาก คล้ายกับการจ้างนักล่าค่าหัว หน้าที่ของผู้ควบคุมคือตามจับหมอผีนอกรีตรวมถึงมนุษย์ที่เป็นอันตรายต่อการปกครองของมนุษย์ตามหมายจับ”

“ส่วนผู้ตรวจสอบ เป็นคนที่ขึ้นตรงต่อกองควบคุมที่มาจากสหพันธรัฐโดยตรง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นหมอผี แค่คนธรรมดาก็ได้ มีหน้าที่ในการตรวจสอบองค์กรหมอผี หรือแม้แต่ตรวจสอบตัวตนของหมอผีด้วย”

ผู้ตรวจสอบไนท์เล่าให้ฟัง ลีโอจึงเข้าใจ

“เจ้าเตรียมตัวเถอะ เราใกล้ถึงแล้ว” ผู้ตรวจสอบไนท์กล่าว ก่อนจะลุกขึ้นกลับไปยังที่นั่งนักบิน

ยานค่อย ๆ ลดระดับลงเรื่อย ๆ ลีโอมองผ่านหน้าต่างก็พบว่าพวกเขากำลังลงไปที่หุบเหวแห่งหนึ่งที่เบื้องล่างนั้นเต็มหมอกหนา

พอยานผ่านหมอกเข้ามาแล้วลีโอก็ต้องตะลึงกับภาพที่เห็นด้านล่างของรอยแยกมีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตรได้ มันเป็นสิ่งก่อสร้างแบบตึกที่ฝึกตัวลงไปในรอยแยก

ด้านบนนั้นมีลานจอดยานอยู่ เขาพบว่ามียานจอดอยู่ประมาณแค่ 10 กว่าลำเท่านั้น แทบทั้งหมดนั้นคล้ายคลึงกับยานของผู้ตรวจสอบไนท์และมีกลุ่มคนอายุใกล้เคียงกับลีโอเดินลงออกมาจากยานเหล่านั้น

“เจ้าลงไปรวมกับพวกเขาก็แล้วกัน” ผู้ตรวจสอบไนท์ตะโกนบอก

“ท่านจะไม่ลงไปด้วยเหรอ” ลีโอหันกลับไปถาม

“ไม่...หน้าที่ของข้ามีแค่พาเจ้ามาส่งเท่านั้น”

กล่าวจบประตูยานก็เปิดออก ลีโอสั่งการให้กระเป๋าหุ่นยนต์ตามเขา

ลีโอเดินลงจากยานตรงไปรวมกลับกับคนอื่น ๆ ในทันที คนส่วนใหญ่แล้วก็ขนของมาคล้าย ๆ กับลีโอ คือมีกระเป๋ามาคนละใบใหญ่ ๆ

“เอากระเป๋าของเจ้ามา”

ตอนนั้นเองก็มีชายใส่ชุดเทาขับรถเข้ามาพูดกับลีโอ ลีโอเห็นว่าบนรถนั้นมีกระเป๋าของเด็กคนอื่น ๆ อยู่ด้วย

“กระเป๋าพวกนี้จะถูกส่งไปไหนเหรอ” ลีโอถามด้วยความสงสัย

“มันจะถูกส่งไปที่ห้องของเจ้า” ชายคนนั้นบอก

ลีโอทำตามมอบการควบคุมให้กับชายคนนั้น กระเป๋าค่อย ๆ ขึ้นไปบนรถ ส่วนลีโอนั้นก็เดินไปรวมกับคนอื่น ๆ

ในกลุ่มที่เขามายืนรวมนี้มีอยู่ด้วยกันประมาณ 30 คนเห็นจะได้และทุกคนมีอายุใกล้เคียงกับลีโอ เขาคาดเดาว่าคนเหล่านี้ก็มาเพื่อฝึกฝนการเป็นหมอผีเช่นเดียวกัน

ขณะที่ยืนรอเงียบ ๆ ในใจของลีโอก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้

กึก ๆ ๆ ตอนนั้นเองจุดที่พวกเขายืนอยู่ก็ค่อย ๆ แยกออกจากพื้นด้านบนของสิ่งก่อสร้าง ทำให้ลีโอพึ่งเข้าใจว่ามันคือลิฟต์ขนาดใหญ่ที่เคลื่อนที่ลงไปด้านล่าง

ทันทีที่ลิฟต์ลงมาถึงและหยุดก็มีชายวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมสีดำสนิทยืนรอพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว โดยรอบนั้นไม่มีใครอื่นนอกจากชายผู้นี้

“ยินดีต้านรับสู่สถาบันเอลาเดีย ตอนนี้พวกเจ้าอยู่ในหอคอยเอลา ข้ามีนามว่า เธมบีเซ่ เป็นอาจารย์หมอผีที่มารับพวกเจ้าไปทดสอบการเป็นหมอผีในครั้งนี้ ตามข้ามา” เธมบีเซ่เดินนำเด็กทั้ง 30 เข้าไปด้านในหอคอยเอลา โดยที่ระหว่างทางนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร

ลีโอมองดูรอบ ๆ สถานที่เรียกว่าหอคอยเอลา มันไม่ได้ทันสมัยเหมือนกับคฤหาสน์หรือบ้านทั่วไปของผู้คนบนดาวอังคาร แต่สถานที่นี่มันเหมือนกับเป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นจากโลหะให้ความรู้สึกเก่าแก่อย่างบอกไม่ถูก

แถมบรรยากาศด้านนั้นก็เย็นพอสมควร

พวกเขาทุกคนถูกนำมาที่ห้องโถงใหญ่แห่งหนึ่งที่กำแพงทุกด้านนั้นเป็นสีขาวสว่าง และใจกลางนั้นมีลานโลหะยกสูงใจกลางมีแท่นเหล็กสูงประมาณ 1.5 เมตรด้านบนของเท่ามีผ้าสีแดงปิดสิ่งที่ของวางไว้อยู่

อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่เริ่มพูดอีกครั้ง

“นี่คือโถงแห่งการทดสอบ มันจะเป็นสถานที่ทดสอบพรสวรรค์ด้านพลังจิตที่เหมาะสมต่อการฝึกฝนของหมอผี ยิ่งพวกเจ้ามีพรสวรรค์มากก็ยิ่งเหมาะสมในการเป็นหมอผีมาก”

“พรสวรรค์หมอผีแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ระดับ 1 นั้นแย่ที่สุด ระดับ 5 นั้นดีที่สุด”

อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่เดินขึ้นไปบนลานโลหะตรงไปยังแท่นโลหะ เขาเอื้อมมือไปดึงผ้าออกมาทำให้ลีโอเห็นว่าสิ่งของที่วางอยู่นั้นคือมือเหี่ยวแห้งข้างหนึ่งที่ส่วนข้อศอกถูกหล่อติดอยู่กับแท่นโลหะ

“อุปกรณ์ทดสอบชิ้นนี้คือ นิ้วศพ เป็นแขนที่โดนตัดออกมาจากศพของหมอผีแท้จริง ถูกตั้งยึดไว้กับแท่นโลหะจากเหล็กสื่อวิญญาณ พวกเจ้าเพียงแค่จับไปที่แขน นิ้วมือที่กำอยู่ก็จะตอบสนองตามพรสวรรค์ ถ้าขยับออกมา 1 นิ้วก็มีพรสวรรค์ระดับ 1 ถ้า 2 นิ้วก็ระดับ 2 และสูงสุดคือ 5 นิ้วเป็นพรสวรรค์ระดับ 5”

“และใครก็ตามที่มีพรสวรรค์ที่ดีข้าจะรับเป็นศิษย์ส่วนตัว คอยฝึกฝนพวกเจ้าด้วยตนเอง”

เสียงฮือฮาอย่างตื่นเต้นดังขึ้นมาในทันที เมื่ออาจารย์หมอผีเธมบีเซ่พูดว่าจะรับเป็นศิษย์ส่วนตัว พวกเขาอยากจะขึ้นไปด้านบนแท่นและเริ่มทดสอบพรสวรรค์ของตนเองแล้ว

“ข้าจะเรียกชื่อทีละคน พวกเจ้าเดินขึ้นมาตามลำดับชื่อ” อาจารย์หมอผีเธมบีเซ่เริ่มเรียกชื่อของเด็กที่รวมกลุ่มกันอยู่ให้ขึ้นไปบนแท่น

ลีโอนั้นยืนมองอย่างสนใจอยู่ด้านล่าง ตอนนั้นเองข้าง ๆ เขาก็มีเด็กสาวน่ารักยืนอยู่

นางพูดกับตัวเองด้วยความตื่นเต้นว่า “เป็นอย่างที่ท่านพ่อบอก ข้าจะต้องเป็นศิษย์ส่วนตัวให้ได้และเมื่อเป็นหมอผีแท้จริงท่านพ่อจะมีอำนาจมากขึ้นในตระกูล”

ลีโอหันไปมองเด็กสาวที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องภูติผีปีศาจเป็นอย่างดี ก่อนจะลองถามขึ้นมาว่า “ข้าถามหน่อยได้ไหม ศิษย์ส่วนตัวดีขนาดนั้นเลยเหรอ พวกเจ้าถึงอยากจะเป็นกันนัก”

หญิงสาวที่โดนลีโอชวนคุยก็หันไปมองเขาด้วยท่าทางมองคนประหลาด ก่อนจะถามกลับไปว่า “เจ้าเป็นคนสมองทึ่มเหรอ”

ลีโอขมวดคิ้วในทันที

“ข้าไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นเรียกยังไงดีละ เจ้ามาถึงที่นี่แต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหมอผีเลย เดี๋ยวก่อนเจ้าไม่ได้มาจากตระกูลหมอผีเหรอ หรือว่าเป็นคนที่บังเอิญโดนภูติผีปีศาจโจมตีและรอดตายมาได้เหรอ” หญิงสาวพูดด้วยความสนใจ

“ข้าไม่ได้มาจากตระกูลหมอผีและใช่ข้าคือคนที่โดนภูติผีปีศาจโจมตี” ลีโอยอมรับตรง ๆ

“เหลือจะเชื่อจริง ๆ” หญิงสาวมองลีโออย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ

“มองข้าแบบนั้นทำไม” ลีโอถามกลับเมื่อโดนมองแบบนั้น

“เปล่าหรอกข้าก็แค่แปลกใจ ส่วนใหญ่ที่รอดมาได้ ถ้าไม่เป็นบ้า ก็โดนทำลายวิญญาณนอนเป็นผัก และจะตายเร็วก็แค่นั้น เจ้าเองก็คงจะโดนเหมือนกัน”

ลีโอขมวดคิ้วทันที เพราะรู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้ปากช่างไม่เป็นมงคลซะจริง ๆ

หญิงสาวเห็นสายตาไม่เป็นมิตรของลีโอก็รีบพูดว่า “อย่าเข้าใจผิดข้าไม่ได้จะพูดสาปแช่งอะไร แต่เพราะคนที่รอดมาได้ ส่วนใหญ่จะโดนวิญญาณตนเดิมมาตามฆ่า เพราะพวกภูตผีปีศาจมักยึดติดกับเป้าหมายของตัวเอง เจ้าควรจะระวังตัวไว้ก็ดี”

ลีโอนึกไปถึงผีร้ายที่ตามมาฆ่าเขาอีกครั้งในห้องนอนและตอนนี้มันก็โดนขังอยู่ในดวงตาผนึกเทพของเขาอยู่

“เจ้ายังไม่ตอบคำถามของข้าเรื่องศิษย์ส่วนตัว”

“ข้าจะบอกก็ได้ ศิษย์ส่วนตัวของหมอผีจะได้รับทรัพยากรจากหมอผีผู้เป็นอาจารย์และพอรวมกับพรสวรรค์ที่สูง จะทำให้มีโอกาสสูงมากที่จะกลายเป็นหมอผีแท้จริง น่าอิจฉาใช่ไหมไหมล่ะ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นหมอผีแท้จริงได้หรอกนะ มีไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของหมอผีฝึกหัดที่ได้เป็นหมอผีแท้จริง แถมได้อาจารย์หมอผีของตนเองช่วยแนะนำเข้าองค์กรหมอผีได้อีกด้วย คิดดูสิอนาคตสดใสแค่ไหน”

“ส่วนใหญ่แล้วพวกที่มาจากตระกูลหมอผีก็อยากจะให้ลูกหลานของตนเองกลายเป็นศิษย์ส่วนตัวของหมอผีทั้งนั้นแหละ เพราะยังช่วยผูกมิตรกับหมอผีแท้จริงได้ด้วย ข้าเองก็อยากจะเป็นศิษย์ส่วนตัวของหมอผีสักคน ตระกูลของข้าไม่มีหมอผีมาแล้วกว่า 50 ปี”

“อ้อ ประมาณเด็กปั้นนี่เอง” ลีโอพึมพำออกมา

“เจ้าพูดอะไรหรือเปล่า”

“เปล่า จริงด้วยเจ้าพูดถึงตระกูลหมอผี ที่ข้ารู้มากองควบคุมดูแลองค์กรแล้วพวกเขาคอยควบคุมตระกูลหมอผีหรือเปล่า” ลีโอถาม

“เจ้านี่ทึ่มจริง ๆ ไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องพวกนี้ กองควบคุม คอยควบคุมองค์กรหมอผี แต่ตระกูลหมอผีคอยสนับสนุนองค์กร ในบางกรณีตระกูลหมอผียังทรงพลังกว่าองค์กรและกองควบคุมซะอีก เพราะว่าตระกูลหมอผีนั้นสืบทอดกันมานานแล้ว ดังนั้นแล้วกองควบคุมจะมาควบคุมตระกูลหมอผีได้ยังไง”

“ถ้าอย่างนั้นกองควบคุมก็มีอำนาจน้อยกว่าตระกูลหมอผีเหรอ”

“เปล่า กองควบคุมมาจากสหพันธรัฐ ส่วนตระกูลหมอผีทำข้อตกลงและยินยอมร่วมมือกับสหพันธรัฐ เนื่องจากตระกูลหมอผีไม่ต้องการเป็นศัตรูกับสหพันธรัฐ สรุปแล้วทั้งกองควบคุมและตระกูลหมอผีมีอำนาจพอ ๆ กันแต่กองควบคุมสามารถดำเนินการภายใต้การสนับสนุนของสหพันธรัฐจึงมีอำนาจขยายไปได้ไกลกว่า ขณะที่ตระกูลหมอผีนั้นแยกออกเป็นหลายตระกูลจึงมีอำนาจแค่ในเขตของตนเองเท่านั้น” หญิงสาวอธิบายให้ลีโอฟัง

“หมายความว่ากองควบคุมมีอำนาจทั่วทั้งสหพันธรัฐ ขณะที่ตระกูลหมอผีมีอำนาจในเขตตระกูลของตนเอง” ลีโอสรุปง่าย ๆ

“ก็ประมาณนั้น จริงสิเจ้าชื่อว่าอะไร” หญิงสาวหันมาถามชื่อของลีโอ

“ลีโอ เบลซ”

“ลีโอ เบลซข้าจะจำไว้เพราะเจ้าคือสหายร่วมรุ่นคนแรกที่คุยกับข้า ส่วนข้านั้นชื่อ เดลล่า ดิออร์” เดลล่าแนะนำตัวเองกลับเช่นกัน

ลีโอพยักหน้าจดจำไว้ ตอนนั้นเองอาจารย์หมอผีเธมบีเซ่ก็เรียกชื่อหนึ่งขึ้นมา “เดลล่า ดิออร์”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด