ตอนที่ 4 ผู้ตรวจสอบไนท์แห่งกองควบคุม
ตอนที่ 4 ผู้ตรวจสอบไนท์แห่งกองควบคุม
‘ท่านพ่อน่าจะสืบจนรู้เรื่องราวบางอย่างเกี่ยวกับกัส หวังว่าเขาจะยังไม่รู้ลึกเกินไป’ ลีโอคิดในใจอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้
ลีโอไม่อยากจะใช้ริชาร์ทมาพัวพันกับภูตผีปีศาจ โดยเฉพาะคำเตือนของคนปริศนาผู้นั้นที่บอกว่า เมื่อรับรู้ถึงพวกมัน พวกมันก็จะรับรู้ถึงคนผู้นั้น
ถ้าเป็นจริงริชาร์ทอาจจะมีอันตรายได้
“ท่านพ่อข้าไปฟังพวกท่านสนทนาด้วยได้ไหม”
“แน่นอน ไม่มีอะไรต้องปิดยังเจ้า อีกอย่างพวกเขาก็น่าจะเรียกเจ้าไปสอบถามด้วย ดังนั้นไปพร้อมกันก็ดี” ริชาร์ทกล่าว
พวกเขาจัดการรับประทานมื้ออาหารบนโต๊ะเสร็จสิ้น ก่อนจะเดินไปที่ห้องรับรอง ซึ่งถูกจัดไว้เป็นห้องรับแขก ในระหว่างนั้นอลิซและสาวใช้คนอื่น ๆ ก็ไปพักตามสะดวก
มีเพียงริชาร์ท ลีโอและพ่อบ้านบาสเตียนเท่านั้นที่เข้าไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ไปถึงก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่สามคน ที่แต่งกายต่างกันไป ชายสองคนแรกเป็นตำรวจแต่งกายชุดเกราะยุทธวิธีเต็มตัวโดยมีสีแดงออกสนิมของดาวอังคารเป็นสีพื้นหลักของชุดและคาดลายสีเทาของโลหะตามแบบฟอร์มตำรวจของยุคสมัยนี้ ที่แขนมีปลอกแขนติดหน้าจอประมาณฝ่ามือเหมือนกันทั้งสองคน มีหมอกที่ติดหน้าจอและมีปืนไฟฟ้าเหน็บอยู่ข้างเอว
ส่วนอีกคนนั้นต่างออกไปเป็นหญิงสาวที่สวมชุดสูทสีดำราวกับพนักงานบริษัท ให้บรรยากาศไม่ต่างจากเจ้าหน้าที่ในสำนักงานและดูเหมือนตำรวจทั้งสองนายจะเกรงใจอยู่ในระดับหนึ่ง
ริชาร์ทมองไปที่เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคนก่อนจะเหลือบไปมองดูเจ้าหน้าที่ชุดสูทดำอย่างสงสัย
“เจ้าหน้าที่ไดม่อน เจ้าหน้าที่ฮอปเปอร์” ริชาร์ทรู้จักเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคนจึงเดินเข้าไปทักทายอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะหันไปทางเจ้าหน้าที่ชุดสูทสีดำ
“เจ้าหน้าที่ไนท์” หญิงสาวชุดสูทดำแนะนำตัวเองและยื่นมือมาจับมือทักทายกับริชาร์ท
“ชื่อคุณเหมือนผู้ชาย” ริชาร์ทกล่าว ขณะที่จับมือ
“หลายคนก็พูดแบบนั้น” เจ้าหน้าที่ไนท์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เชิญนั่ง” ริชาร์ทเชิญพวกเขาทั้งสามคนนั่งตามหน้าที่ของเจ้าบ้าน
“ที่จริงตอนนี้มีเวลาไม่มากนัก อีกอย่างข้ามาเพื่อสอบถามสิ่งที่เกิดขึ้นกับลีโอ เบลซ เขาอยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่า” หน้าที่ไนท์เหลือบไปมองลีโอ
“นี่คือลูกชายของข้า ลีโอ เบลซ” ริชาร์ทแนะนำ
เจ้าหน้าที่ไนท์พยักหน้าและถามว่า “ขอพวกเราพูดคุยตามลำพังได้ไหม”
ริชาร์ทรู้สึกสงสัย แต่เมื่อมองแล้วเจ้าหน้าที่ไดม่อน เจ้าหน้าที่ฮอปเปอร์ก็ยังคงนั่งเงียบอยู่ ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ไนท์นั้นมีอำนาจมากกว่าสองคนนี้
“บาสเตียน เจ้าช่วยพาเจ้าหน้าที่ไนท์ไปที่ห้องด้านข้างหน่อย” ริชาร์ทหันมากล่าวกับพ่อบ้าน
“ครับ เจ้าหน้าที่ไนท์เชิญทางนี้” พ่อบ้านบาสเตียนกล่าวและนำทาง
“ลีโอ” ริชาร์ทพูดกับลูกชายของตน
“ท่านพ่อไม่ต้องห่วง” ลีโอกล่าวสั้น ๆ และลุกเดินตามไป
ริชาร์ทมองดูท่าทีของลูกชายอย่างประหลาดใจเล็กน้อย เพราะรู้สึกว่าท่าทีของลีโอต่างออกไปเล็กน้อยจากปกติ ริชาร์ทหันไปสนทนากับสองเจ้าหน้าที่ไดม่อนและเจ้าหน้าที่ฮอปเปอร์
“เจ้าหน้าที่ไนท์เป็นใคร ทำไมพวกเจ้าถึงเคารพนางนัก”
“นางคือคนที่มาจากสำนักงานกลาง ท่านริชาร์ทไม่ต้องเห็นห่วง การที่นางมาที่นี่หมายความว่าคดีนี้และตัวลูกชายของท่านปลอดภัยแล้วแน่นอน” เจ้าหน้าที่ไดม่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“หวังว่านะ ว่าแต่ความคืบหน้าของคดีเป็นอย่างไรบ้าง” ริชาร์ทเริ่มสอบถามถึงความคืบหน้าใจคดี โดยเฉพาะเกี่ยวกับกัส
...
พ่อบ้านบาสเตียนเปิดประตูพาเจ้าหน้าที่ไนท์และลีโอเข้าไปในห้องหนึ่ง เจ้าหน้าที่ไนท์มองไปรอบ ๆ ก็พยักหน้าพอใจ ก่อนจะพูดกับพ่อบ้านบาสเตียนว่า “ที่นี่ใช้ได้ ขอบใจมาก”
บาสเตียนเข้าใจความหมาย เขาเดินออกมาพร้อมกับปิดประตูห้องในตอนนี้จึงเหลือเพียงนางและลีโอ
ลีโอยืนอยู่ด้านหลังมองดูหญิงสาวในชุดสูทสีดำ
“ที่นี่ไม่มีใครแล้วก็เข้าเรื่องกันเถอะ เมื่อคืนเจ้าเจอกับคนของพวกเราแล้วใช่ไหม” หญิงสาวพูดพร้อมกับหันตัวกลับมา
‘เป็นอย่างที่คิด นางคือคนที่บุคคลปริศนาบอกว่าจะมาเจอกับข้า’ ลีโอกล่าวในใจ เขาเริ่มสงสัยตั้งแต่ตอนที่เจ้าหน้าที่ไนท์นั้นเจาะจงมาที่เขาแล้ว
ลีโอพยักหน้าให้กับนาง ก่อนจะถามกลับไปว่า “ข้าถามได้ไหม พวกเจ้าเป็นใครกันแน่”
“มานั่งคุยกันเถอะ” เจ้าหน้าที่ไนท์กล่าวและเดินไปนั่งที่โซฟา
ลีโอเดินตามไปนั่งฝั่งตรงข้ามและรอคอย
เจ้าที่หน้าที่ไนท์เริ่มตอบข้อสงสัยของลีโอ
“ข้าไม่ใช่คนจากส่วนกลาง แต่มาหน่วยงานที่เรียกว่า สำนักงานควบคุมวิญญาณแห่งมวลมนุษยชาติ หรือเรียกย่อ ๆ ว่า”กองควบคุม“ก็ได้ พวกเราเป็นหน่วยงานลับของสหพันธรัฐแห่งดาวอังคาร มีหน้าที่ คอยกำกับดูแลควบคุมและตรวจสอบองค์กรของเหล่าหมอผี”
“ข้าคือ ผู้ตรวจสอบไนท์ ส่วนคนที่เจ้าเจอเขาเป็นผู้ควบคุมของกองควบคุมเป็นหมอผี”
ลีโอไม่รู้ว่าจะตกใจกับอะไรก่อน ระหว่างหน่วยงานลับอย่างสำนักงานควบคุมวิญญาณแห่งมวลมนุษยชาติ ผู้ตรวจสอบ ผู้ควบคุมหรือหมอผี
“จะบอกว่าคนที่เจอคือหมอผีมันเป็นจริงเหรอ” ลีโอถาม ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามันเป็นคำถามที่โง่กับสิ่งที่เขาเจอ เขาจึงเปลี่ยนคำถามใหม่ว่า “ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับหมอผีมาก่อน”
“แน่นอนว่าต้องไม่เคยได้ยินมาก่อน เพราะสหพันธรัฐที่อยู่ในยุคสำรวจอวกาศไม่ต้องการให้ผู้คนตื่นตระหนกกับเรื่องราวของภูติผีปีศาจที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ จึงสนับสนุนที่จะปกปิดเรื่องราวเหล่านี้ไว้ด้วย”
“เรื่องนี้เอาไว้ก่อน เรามาพูดเรื่องของเจ้าดีกว่าหนุ่มน้อย” หญิงสาวเปลี่ยนท่าทางให้จริงจัง
“เรื่องของข้า” ลีโอชี้มาที่ตน
“ใช่ เจ้าพบเจอกับหมอผีนอกรีตที่ชื่อว่ากัสและโดนโจมตีโดยผีรับใช้ แต่รอดมาได้ ซึ่งทำให้เจ้าพบเจอกับเรื่องของภูตผีปีศาจ ตามกฎที่ว่า เมื่อมนุษย์มองเห็นพวกมัน พวกมันก็รู้ถึงการมีตัวตนของมนุษย์คนนั้นและพวกมันจะตามล่ามนุษย์เหล่านั้น”
“แม้หมอผีนอกรีตกัสจะหนีไปแล้ว แต่ว่าโลกยังมีภูตผีปีศาจอีกมากมาย พวกมันจะตามมาหาเจ้าไปเรื่อย ๆ จนกว่าเจ้าจะตาย ดังนั้นเจ้ามีสองตัวเลือก ทางแรกคือไม่ต้องทำอะไร แค่อยู่ที่นี่ เราจะส่งเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลความปลอดภัยของเจ้าเท่าที่จะทำได้” เจ้าหน้าที่ไนท์พูดและหยุดให้ลีโอคิด
“ที่ว่าดูแลหมายถึงนานแค่ไหน” ลีโอถาม
“จนกว่าเรื่องของหมอผีนอกรีตที่โจมตีเจ้าจะจบลงหรือไม่ก็เท่าที่เราทำได้” เจ้าหน้าที่ไนท์ให้คำตอบ
“แล้วอีกทางเลือกละ” ลีโอถาม เขารู้ว่าทางเลือกแรกเป็นเหมือนการนั่งรอความตาย
“ทางเลือกที่สองเจ้าไปที่สถาบันของเหล่าหมอผีเรียนรู้การเป็นหมอผีและปกป้องตัวเอง แต่ขอเตือนไว้ทางเลือกที่สองมันจะพาเจ้าไปสู้เรื่องของภูติผีปีศาจที่มืดมิดกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้มาก ซึ่งจุดจบอาจจะสยองยิ่งกว่าที่เจ้าคาดคิด” เจ้าหน้าที่ไนท์กล่าวจบก็เงียบลง
“หมอผี! ข้าสามารถฝึกฝนได้ด้วยเหรอ”
“แน่นอน เจ้าเข้าเงื่อนไขอายุไม่เกิน 15 ปีและเกี่ยวกับภูตผีปีศาจ แม้จะเป็นการโดนทำร้าย แต่ก็ถือว่าเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงสามารถฝึกฝนได้”
ลีโอนั้นอายุตามร่างนี้คือ 14 ปี ทำให้เขาเข้าเงื่อนไขทั้งหมด
เมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็เริ่มเปรียบเทียบทั้งสองทางเลือก รอให้ภูตผีปีศาจมาตามล่าและฆ่า กับอีกทางเลือกคือไปเป็นหมอผี อย่างน้อยก็น่าจะมีวิธีปกป้องตัวเองได้
ลีโอนึกไปถึงคำพูดของหมอผีปริศนาเมื่อคืนที่บอกว่าถ้าไม่อยากตายก็รับเงื่อนไขที่เสนอมา
“ตกลงข้าเลือกทางเลือกที่สอง ต้องทำอะไรบ้าง” ลีโอตอบตกลงและถามถึงเงื่อนไขอื่น ๆ
“อ่านเอกสารแล้วเซ็นยินยอมตามเงื่อนไขต่าง ๆ แม้เรื่องของภูตผีจะเป็นความลับ แต่เอกสารพวกนี้มีผลทางกฎหมายที่รับรองโดยสหพันธรัฐ และเรื่องราวการสนทนาของข้ากับเจ้าที่นี่ห้ามเปิดเผยแก่บุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับภูตผีปีศาจ นี่ก็เพื่อปกป้องพวกเขา”
เจ้าหน้าที่ไนท์หยิบการ์ดสีดำแผ่นหนึ่งออกมา ก่อนจะวางลงไปที่โต๊ะกระจกด้านหน้า ทันใดนั้นก็มีรหัสชีวะภาพขึ้นมาให้ใส่สแกน การสแกนนี้จะอ่านทั้ง DNA สัญญาณชีพ อัตราลักษณ์บุคคลและข้อมูลละเอียดอีกมากที่สามารถระบุได้ว่าเป็นคนผู้นั้นจริง ๆ
หญิงสาวยื่นมือไปสแกนและปรากฏเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาหนึ่งฉบับตรงหน้าของลีโอ
เขาเริ่มอ่านมันอย่างตั้งใจ ส่วนใหญ่เป็นเงื่อนไขปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการมีอยู่ของกองควบคุม หมอผีและภูติผีปีศาจ
ลีโอเซ็นชื่อยอมรับในเงื่อนไขเหล่านั้น
“เก็บการ์ดนี้ไว้ ข้อมูลในการ์ดเชื่อมต่อกับระบบกลางของสหพันธรัฐ มันจะใช้ยืนยันตัวตนของเจ้า เจ้าควรนำเครดิตไปด้วย แล้วก็เตรียมตัวเก็บของเราจะออกเดินทางกันเลย”
“ตอนนี้เลยเหรอ” ลีโอรู้สึกตกใจ
“ใช่ ยิ่งปล่อยเวลาไว้นานก็ยิ่งอันตราย ข้าไม่ใช่หมอผีดังนั้นถ้าเกิดเรื่องกับเจ้า ข้าคงช่วยอะไรไม่ได้”
“แล้วก็ต่อไปนี้ให้เรียกว่าข้าว่าผู้ตรวจสอบไนท์ เจ้ามีเวลา 1 ชั่วโมงข้าจะรออยู่ที่ยานด้านนอกคฤหาสน์” ผู้ตรวจสอบไนท์กล่าวจบก็ลุกยืนและเดินออกจากห้องไปพบกับเจ้าหนี้ที่ตำรวจสองนายนั้น
นางยังเข้าไปพูดคุยกับริชาร์ทและเรื่องราวที่ต้องการพาตัวของลีโอไป โดยให้เหตุผลว่าลีโอนั้นตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรระดับอวกาศนามว่า กัส ดังนั้นเขาต้องเข้าไปอยู่ในการคุ้มครองพยานชั่วคราว
ริชาร์ทดูจะงุนงงมากกับการเปลี่ยนแปลงนี้ และรู้การอาชญากรอวกาศนั้นอันตรายแค่ไหน แต่เขาไม่คิดว่าลูกชายของเขาจะตกเป็นเป้าหมายของพวกคนแบบนั้นได้
“ข้า ข้าสามารถช่วยอะไรได้บ้าง” ริชาร์ทถามไนท์ เพราะอยากจะช่วยเหลือลูกชายของตน เขามีลูกชายเพียงคนเดียวเท่านั้น และไม่อาจจะยอมเสียลีโอไปแน่นอน
“แม้สหพันธรัฐจะช่วยปกป้องเขาได้ แต่ว่าในเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเขาก็ยังคงต้องเตรียมไว้เอง ท่านควรจะเตรียมเงินไว้ให้บุตรชายไปด้วย มันจะช่วยในการใช้จ่ายของเขา ข้าจะรอด้านนอกพวกท่านมีเวลาบอกลากัน 1 ชั่วโมง”
เจ้าหน้าที่ไนท์กล่าวจบก็เดินออกไป ด้านหลังมีสองตำรวจที่มาด้วยเดินตามไปด้วย
“ลีโอเจ้าตกเป็นเป้าหมายจริงเหรอ” ริชาร์ทกันมาสอบถามเรื่องราวกับลีโอผู้เป็นลูกชาย
ลีโอเล่าเรื่องตามที่พอจะคิดได้ไป แน่นอนว่ามันไม่ใช่การเจาะจงอะไรมาก แต่ว่าตัวร้ายหลักยังคงเป็นกัสเหมือนเดิม และยังบอกว่าไม่รู้ว่าพวกนั้นต้องการอะไรกับเขาเช่นกัน
“พ่อเคยได้ยินข่าวในแวดวงชั้นสูงมาว่าพวกอาชญากรอวกาศมักจะจับตัวของมนุษย์วัยเด็กไปสกัดเอาเลือด เพราะเชื่อว่าเลือดของมนุษย์บางคนเป็นกุญแจสู่ความเยาว์วัย บางทีเจ้าอาจจะตกเป็นเป้าหมายของพวกมันเพราะเรื่องนี้ก็ได้”
ริชาร์ทหาเหตุผลมาอธิบายให้กับความสงสัยของเขาเอง โดยที่ลีโอไม่ต้องทำอะไรมาก แต่ลีโอประหลาดใจที่ว่ามีเรื่องแบบนี้ในยุคอวกาศด้วยอย่างนั้นเหรอ
“ท่านพ่อข้าต้องไปเตรียมตัวเพื่อตามเจ้าหน้าที่ไนท์ไป”
“เจ้าไปเตรียมตัวเถอะ ข้าจะเตรียมเครดิตไว้ให้กับเจ้า” ริชาร์ทกล่าวด้วยความเศร้าใจที่ต้องแยกจากลูกชาย ดังนั้นเขาจึงเตรียมเครดิตให้กับลีโอมากเท่าที่จะหาได้ เพื่อให้เขามีชีวิตในช่วงการคุ้มกันที่สะดวกสบายที่สุด
เครดิตเป็นเงินในยุคสำรวจอวกาศที่สหพันธรัฐใช้จ่าย
ริชาร์ทจัดการโอนเงินให้ลีโอมากถึง 15 ล้านเครดิต
ข้าวของส่วนตัวของลีโอนั้นถูกอลิซเก็บไว้ให้ในกระเป๋าเดินทางสุดไฮเทค มันสามารถเคลื่อนที่ตามเจ้าของกระเป๋าได้เองโดยไม่จำเป็นต้องคอยลาก
“ท่านพ่อข้าไปก่อน” ลีโอกล่าวลาริชาร์ทแม้จะพบเจอและใช้เวลากันไม่เกิน 2 วัน แต่ว่าลีโอรู้สึกขอบคุณทุกอย่างที่ริชาร์ททำให้ ส่วนหนึ่งเพราะสิ่งที่อยู่ในความทรงจำทำให้เขารู้สึกว่าชายผู้นี้รักลูกชายคนนี้เป็นอย่างยิ่ง
“ไว้เจ้าติดต่อมาหาพ่อบ้างก็แล้วกัน”
“ข้าจะหาทางติดต่อมาในตอนที่มีโอกาส บางทีเร็ว ๆ นี้ข้าอาจจะกลับมาแล้วก็ได้”
“ข้าก็หวังว่าอย่างนั้น” ริชาร์ทกล่าวด้วยสีหน้าหม่นหมอง
“ท่านพ่อดูแลตัวเองด้วย” ลีโอโบกมือลา
เขาเดินไปขึ้นยานอวกาศของผู้ตรวจสอบไนท์ ซึ่งมันเป็นยานขนาดเล็กที่ใช้ในภาคพื้นดินจนถึงระดับวงโคจรของดวงดาว ด้านในมีที่นั่งประมาณ 6 ที่นั่งและด้านหลังที่เก็บสัมภาระอีกส่วนหนึ่ง
ผู้ตรวจสอบไนท์ตอนนี้นั่งอยู่ในตำแหน่งของนักบิน
“เอ็มช่วยตั้งพิกัดเป้าหมายไปที่สถาบันเอลาเดีย” ผู้ตรวจสอบไนท์สั่ง AI ของยาน
ไม่นานยานก็บินขึ้นอย่างช้า ๆ ขณะที่ลีโอนั่นกำลังนั่งอยู่ที่นั่งติดขอบหน้าต่างมองพื้นดินที่คอย ๆ มีขนาดเล็กลงไปเรื่อย ๆ อย่างตื่นเต้น เพราะเป็นครั้งแรกสำหรับเขาที่นั่งยานอวกาศ