ตอนที่ 2 ประวัติศาสตร์ดาวอังคาร
ตอนที่ 2 ประวัติศาสตร์ดาวอังคาร
ลีโอค่อย ๆ ตั้งสติ ก่อนจะมองไปที่ดอกทานตะวันสีเหลืองในมือ เขาเริ่มเข้าใจเหตุผลของการมาอยู่ในร่างนี้ได้บางส่วนแล้ว เพราะวิญญาณของเด็กหนุ่มที่บังเอิญมีชื่อเดียวกับเขา โดนผีร้ายกินวิญญาณไป ทำให้ร่างกายของลีโอเหมือนกับคนหมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุ
ใครสักคนคงไปเจอและริชาร์ทก็ได้พาเขามาที่นี่และตามหมอมารักษา แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล จนสุดท้ายลีโอนั้นได้มาเกิดใหม่ในร่างนี้
ลีโอยังมีความทรงจำของลีโอเจ้าของร่างเดิมอยู่ นอกจากความหวาดกลัวต่อผีร้ายที่กัสใช้ทำร้ายแล้ว มันยังมีความทรงจำและความรู้สึกอื่นอยู่ด้วย
เขาสัมผัสได้ถึงความแค้นของเจ้าของร่างคนนี้ที่แค้นที่มีต่อวิญญาณและชายคนนั้น
“ในเมื่อข้าเกิดใหม่ในร่างของเจ้าแล้ว ข้าก็จะแก้แค้นให้” ลีโอพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่มันกลับทำให้ความรู้สึกสุดท้ายที่มีต่อร่างกายนี้เหมือนจะยอมรับเขาอย่างสมบูรณ์
ลีโอลุกขึ้นยืนและเสียบดอกทานตะวันไว้ที่แจกัน ก่อนจะเดินไปดูที่หน้าต่าง เขามองออกไปด้านนอกและยืนยันแล้วว่าที่นี่ไม่ใช่โลก แต่เป็นดาวอังคารจริง ๆ
ท้องฟ้าเป็นสีแดงมากกว่าที่ปรากฏบนโลก
ลีโอยื่นมือไปสัมผัสที่หน้าต่างตามความทรงจำของเขา หน้าต่างนี้ก็เป็นเหมือนหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในยุคนี้
“ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การมาตั้งรกรากของมนุษย์ที่ดาวอังคาร”
ตอนนี้ลีโอต้องการข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาในช่วง 400 ปีนี้ แม้ในความทรงจำจะมีแต่หลายอย่างเด็กหนุ่มลีโอเจ้าของร่างเดิมนั้นก็ลืมเลือนมันไปบ้าง ทำให้มันไม่ค่อยปะติดปะต่อเท่าไหร่
กระจกหน้าต่างเริ่มการค้นหาข้อมูลและเริ่มอ่านให้เขาฟัง โดยที่ลีโอไม่ต้องสั่งการอะไร
จุดเริ่มต้นเมื่อปี 2023
โลกประสบกับสภาวะโลกร้อนขึ้นจนเกินควบคุม ภัยพิบัติธรรมเกิดขึ้นทุกที่ แต่ต่อมาดาวเคราะห์โลกเริ่มตายซากอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ทำให้ปี 2029 โลกเข้าสู่สงครามแย่งชิงทรัพยากรกัน ผู้คนกว่า 3 ใน 10 ของทั้งโลกตายจากสงครามและอีก 4 ใน 10 ของดาวเคราะห์โลกตายจากความอดอยากและหิวโหย
ปี 2032 รัฐบาลโลกจัดตั้งแผนสร้างอาณานิคมบนอวกาศ เป้าหมายแรกคือดาวอังคาร เพราะมีการค้นพบธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ใต้ผิวดาว ซึ่งจะเป็นต่อการดำรงชีวิต จึงเกิดเป็นแผนย้ายดวงดาวระยะยาวขึ้นมา
ปี 2035 โลกกลายเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งยิ่งกว่าดาวอังคารเคยประสบ แหล่งน้ำเหือดแห้งและเหลือแค่ความตาย มนุษย์พากันอพยพไปบนอวกาศ โดยเริ่มจากการตั้งอาณานิคมสนับสนุนที่ดวงจันทร์ เพื่อสนับสนุนแผนการบนดาวอังคาร
ปี 2086 อาณานิคมแห่งแรกบนดาวอังคารเสร็จสมบูรณ์ มีการเชื่อมต่อไปยังทะเลสาบใต้ธารน้ำแข็งของดาวอังคารได้สำเร็จ แต่อาณานิคมนี้มีเป็นโดมแก้วครอบทั้งอาณานิคมไว้ภายใน เพราะสภาพอากาศไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยของมนุษย์
ปี 2185 เป็นเวลากว่า 100 ปีในการพยายามปรับเปลี่ยนสภาพอากาศของดาวอังคาร ในที่สุดมนุษย์ก็ทำสำเร็จ สามารถสร้างชั้นบรรยากาศให้กับดาวอังคารได้ จนมีชั้นบรรยากาศไม่ต่างจากดาวโลกก่อนที่มันจะตายและในปีเดียวกันนี้รัฐบาลโลกก็เปลี่ยนชื่อเป็น “สหพันธรัฐดาวอังคาร”
ปี 2200 อาณานิคมบนดวงจันทร์ได้ถูกกลุ่มที่เรียกตนเองว่า “กบฏเงาจันทร์” โจมตีและเข้ายึดครองและใช้เป็นฐานที่มั่นต่อสู้กับสหพันธรัฐดาวอังคาร โดยเป้าหมายคือการต่อต้านและทำลายสหพันธรัฐดาวอังคารในคำกล่าวอ้างที่ว่า สหพันธรัฐดาวอังคารนั้นสูบเอาทรัพยากรจากโลกไปจนทำให้ดาวโลกต้องตาย รวมถึงคนอีกหลายพันล้าน จึงกลายเป็นสงครามอวกาศครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติขึ้นมา
ปี 2230 สหพันธรัฐดาวอังคารประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มกบฏเงาจันทร์ ดวงจันทร์พังไปครึ่งดวง พวกกลุ่มแกนนำของกลุ่มกบฏเงาจันทร์ตายไปจนหมด กลุ่มล่มสลาย ส่วนพวกระดับล่างหนีลงไปที่ดาวโลกที่ตายซาก สุดท้ายสหพันธรัฐดาวอังคารยกเลิกภารกิจตามล่าและตั้งค่าหัวอาชญากรเหล่านั้นแทน นี่ทำให้ดาวโลกที่ตายซากเป็นสถานที่รวมตัวของกลุ่มอาชญากรและพวกนอกกฎหมาย
ปี 2250 สหพันธรัฐดาวอังคารเริ่มการสำรวจอวกาศและการตั้งอาณานิคมไปทั่วทั้งระบบสุริยะ โดยเป้าหมายหลักคือการทำเหมืองแร่ ขุดหาทรัพยากรที่มีประโยชน์
และตอนนี้ก็คือปี 2423 ผ่านมา 400 ปี ดาวอังคารได้พัฒนาจนถึงขีดสุดในด้านของเทคโนโลยีและการสำรวจอวกาศ มีอาณานิคมมากมายนับพัน ๆ แห่งทั่วทั้งระบบสุริยะและทั้งหมดถูกปกครองโดยสหพันธรัฐดาวอังคาร
วิดีโอและเสียงบรรยายสิ้นสุดลงตรงนี้ ลีโอยืนนิ่งเงียบไป
“400 ปีแล้ว” ลีโอพ่นลมหายใจอย่างเศร้า ๆ
เขานึกกลับไปวันที่ตนเองไปพักผ่อนและเป็นจุดเริ่มต้นของทั้งมัน มันคือช่วงเวลาปี 2023 พอดี ซึ่งนับแล้วก็ 400 ปีพอดี
“ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโชคชะตาที่ไม่มีทางหวนกลับ” ลีโอพูดกับตัวเอง มันผ่านมานานขนาดนั้นแล้ว เขาไม่มีทางย้อนกลับไปได้อีกและในที่สุดความคิดอันสับสนต่อการมายังโลกนี้ของเขาก็ถูกปล่อยวางลงไป
“ข้าจะเริ่มชีวิตใหม่ที่นี่ก็แล้วกัน” ลีโอกล่าวกับตัวเอง แต่ว่าตอนนั้นประตูห้องก็เปิด อลิซสาวรับใช้เข้ามาพร้อมกับถาดอาหารที่ยกมาโดยหุ่นด้านหลัง
หุ่นตัวนี้เป็นเหมือนกับตู้อุ่นอาหารเคลื่อนที่ทำให้อาหารนั้นร้อนอยู่ตลอดเวลา
อาหารของชาวดาวอังคารนั้นก็ไม่ได้ต่างจากดาวโลกในสมัยก่อน เพราะอย่างไรชาวดาวอังคารก็สืบเชื้อสายมาจากดาวโลก ในความทรงจำดูเหมือนชาวดาวอังคารจะเก็บสูตรอาหารที่โด่งดังจากดาวโลกไว้มากมายและยังสามารถคงรสชาติที่ใกล้เคียงไว้
ซึ่งริชาร์ทในฐานะที่เป็นเศรษฐีที่ดินจึงพิถีพิถันในอาหารการกินไม่ต่างจากตระกูลชนชั้นสูงของดาวอังคารอื่น ๆ
ลีโอนั่งลงที่เตียง หุ่นยนต์อาหารก็มาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของเขา อลิซเริ่มทำหน้าที่ของตัวเองโดยการจัดการให้ตามปกติ ก่อนจะยืนรออย่างเงียบ ๆ
“เจ้าไปทำอย่างอื่นก่อนเถอะ หลังจากข้าทานอิ่มแล้วค่อยให้มันเก็บไปก็ได้” ลีโอกล่าวกับนาง
“ไว้นายน้อยทานเสร็จแล้ว ข้าจะเข้ามาเก็บค่ะ” อลิซกล่าวออกมา เธอมีไหวพริบและรู้ว่าควรจะทำตามคำสั่งของลีโอ แต่ว่าก็ยังต้องทำหน้าที่จึงเลือกจะออกไปและเข้ามาทีหลัง
ลีโอพยักหน้าตกลงและเริ่มจัดการมื้ออาหารของเขา ตอนที่บอกกับริชาร์ทว่าหิว เขาไม่ได้โกหก เขาหิวจริง ๆ
หลังจากมื้ออาหารแรกที่ดาวอังคารผ่านไป ลีโอจัดการแช่น้ำร้อนในห้องน้ำสุดหรูหราที่แม้แต่โรงแรม 5 ดาวในยุคเดิมจะเทียบได้ เขาแช่น้ำอยู่นาน เพราะอยากจะสัมผัสความรู้สึกสบายเหล่านี้จนพอใจจึงลุกขึ้นมาและแต่งตัวด้วยชุดนอนที่เนื้อผ้านั้นดีเป็นอย่างมาก มันนิ่มและเย็นสบายเหมือนกับปุยเมฆ
ลีโอเดินมานอนทิ้งตัวที่เตียง
ก่อนที่จะหลับเขายังพบว่าอลิซนั้นมาตรวจสอบเขาก่อนนอนอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่านายน้อยของเธอนั้นไม่ต้องการอะไรอีกสำหรับค่ำคืนนี้
“นางน่าจะอายุแค่ 20 เท่านั้น” ลีโอมองไปที่รูปร่างของอลิซ ก่อนจะรีบส่ายหัวเบา ๆ เมื่อครู่เขาเผลอเคยชินไปการกระทำของความทรงจำของลีโอคนเก่า
ถึงแม้ว่าลีโอคนเก่าจะไม่ได้คิดทำอะไรอลิซ แต่ก็แอบมองเธออยู่เป็นประจำตามประสาของเด็กหนุ่มที่ร่ำรวยคนหนึ่ง แต่ว่าลีโอเพียงแค่มอง เขาไม่เคยคิดจะบีบบังคับหรือทำอะไรที่ไม่ให้เกียรติอลิซเลย
แม้แต่คนงานทั่วไปลีโอคนก่อนก็ใจดีกับพวกเขามาก เรียกว่าเป็นนายน้อยที่คนภายใต้ปกครองชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
“นิสัยนายก็ไม่เลว” ลีโอบอกกับตัวเอง ก่อนจะหลับตาลงอย่างแผ่วเบา ไฟในห้องค่อย ๆ หรี่จนมืดสนิท
...
บรรยากาศในห้องนั้นเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมหายใจของลีโอที่ดังขึ้นเป็นบางครั้ง แต่แล้วความอุณหภูมิในห้องก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ที่กระจกหน้าต่างเริ่มมีเกล็ดน้ำค้างแข็งจับตัวจนเป็นผลึกค่อย ๆ ขยายจากขอบหน้าต่างบานใหญ่ไปเรื่อย ๆ จนทั้งบานมีแต่เกล็ดน้ำแข็งปกคลุม
มีเงาสีดำค่อย ๆ แทรกตัวผ่านทางหน้าต่างเข้ามาและคืบคลานหาเตียงนอนอย่างช้า ๆ
ลีโอที่นอนหลับอยู่ เริ่มขนลุกและอยู่ ๆ เขาก็ถึงความเย็นที่ผิดปกติ
ลีโอมองดูแสงจากเงายามกลางคืนที่สองเข้ามา เขามองดูที่ปลายเตียงนอนของตน มันมืดมัวมาก
“เปิดไฟ” ลีโอรีบสั่งด้วยเสียง
ไฟเปิดขึ้นมา แต่มันเหมือนกับว่าถูกรบกวนด้วยพลังเหนือธรรมชาติ ทำให้ติด ๆ ดับ ๆ และสายตาของลีโอก็เห็นว่าที่ปลายเตียงนอนมีเงากำลังก่อตัวขึ้นมาอย่างช้า ๆ
ขนทั้งตัวของลีโอลุกขึ้นซู่ในทันที
“ผะ...ผี” ลีโอพูดออกมาด้วยความกลัว ร่างกายของเขานั้นเหมือนจะยังจดจำความกลัวนี้ได้อยู่ มันจึงแข็งค้างไม่กล้าขยับ
ผีตนนี้เป็นเหมือนกับเงาที่หน้าอกของมันมีรูโดนัทอยู่ เขาจดจำได้ว่าผีตนนี้คือตนเดียวกับที่เคยฆ่าลีโอคนก่อนหน้า
ผีค่อย ๆ ลอยเข้ามาหาลีโออย่างช้า ๆ
‘ไม่ข้าต้องหนี’ ลีโอพยายามกัดริมฝีปากของตัวเองเพื่อให้ร่างกายกลับมาควบคุมได้อีกครั้งและหนีไปได้ ในที่สุดเขาก็ควบคุมร่างกาย ลีโอก็พบว่าผีร้ายนั้นหายไปจากตรงหน้าเขาแล้ว
‘หายไปแล้ว’ ลีโอพยายามมองไปรอบ ๆ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าด้านบนมีบางสิ่งจ้องมองอยู่ พอเงยหน้าไปเขาก็พบว่าผีร้ายมันอยู่ด้านเพดาน
ว๊ากกก!!!
ผีร้ายกรีดร้องแหลมเสียดหู ก่อนจะพุ่งเข้ามาหาชายหนุ่ม
ลีโอได้แต่เบิกตาขวางมองไปที่มัน แต่แล้วตอนนั้นดวงตาข้างขวาของลีโอที่จากเดิมแดงเหมือนทับทิมก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้าของท้องนภาและเกิดเป็นวังวนที่มองไม่เห็นดูดเอาผีร้ายตนนั้นเข้าไปในดวงตาของเขา
สีหน้าที่หวาดกลัวของลีโอได้แปรเปลี่ยนเป็นความอึ้งไปในสิ่งที่เกิดขึ้น เขาหันหน้าไปมองกระจกที่กำแพงก็พบว่าตาขวาของตนเองนั้นกลายเป็นสีฟ้าอ่อนเหมือนกับดวงตาของรูปปั้นที่นำพาเขามายังยุคสมัยนี้