ตอนที่ 12 ซื้อขายกับลูคัสและขั้นตอนแปลงวิญญาณสร้างรูนจิต
ตอนที่ 12 ซื้อขายกับลูคัสและขั้นตอนแปลงวิญญาณสร้างรูนจิต
“เจ้าเขียนว่าต้องการซื้อจำนวนมากคุยกันก่อนได้ เจ้ามีดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนจำนวนมากอย่างนั้นเหรอ เจ้ามีกี่ดอกกัน”
“ข้ามีทั้งหมด 16 ดอก ท่านต้องการเท่าไหร่” ลีโอกล่าว
“16 ดอก เยี่ยมไปเลยในที่สุดข้าก็สามารถหาพวกมันพอไปแลกของกับเจ้าบ้านั้นได้สักที จากนั้นจะได้เริ่มปรุงยาของข้าสักที” ลูคัสพึมพำกับตนเองด้วยความพอใจ
“ท่านเป็นนักปรุงยาเหรอ” ลีโอถามอย่างสนใจ
“ใช่แล้ว เจ้ามีอะไรหรือเปล่า” ลูคัสยอมรับออกมาตรง ๆ ไม่ได้จำเป็นต้องปิดบัง
แม้การซื้อส่วนตัวมักจะไม่ได้บอกข้อมูลของคนซื้อละคนขายมากนัก แต่บางคนก็ไม่ได้จริงจังในการปกปิดข้อมูลขนาดนั้น เพราะอย่างไรทุกคนก็คือศิษย์ของสถาบันเหมือน ๆ กัน
“ดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนใช้สร้างยันต์ ท่านคงเอาไปแลกกับคนอื่น แต่ว่าในอนาคตข้าอาจจะมีหญ้าศพ ไม่รู้ว่าท่านจะสนใจด้วยไหม” ลีโอลองถามออกไป เขาต้องการหาลูกค้าที่ค้าขายกันระยะยาวได้
และหมอผีนักปรุงยาคือเป้าหมายที่ดี เนื่องจากหมอผีนักปรุงยานั้นต้องการพืชสมุนไพรจำนวนมากไม่ว่าจะใช้เพื่อฝึกฝนหรือการสำรองไว้ผลิตยาไปขายให้กับหมอผีคนอื่น ๆ
“หญ้าศพเจ้ามีพวกมันด้วยเหรอ ตามปกติแล้วหญ้าศพจะขาดตลาดตลอดเพราะว่ามันทำยาร่างศพที่ขายดีที่สุดได้ อืม...ข้ามีเหลือไม่มากแล้วด้วย เอาแบบนี้ถ้าเจ้ามีของและขายในราคาที่เหมาะสมข้าก็สามารถซื้อได้ แต่ว่าตอนนี้เจ้าเอาดอกลำโพงโหยหวนมากก่อนก็แล้วกัน ข้าซื้อทั้งหมดเลย” ลูคัสกล่าว
ลีโอพยักหน้าตกลง
“ท่านรอตรงนี้สักครู่ พอดีข้าไม่ได้เอาพวกมันมาทั้งหมดด้วย” ลีโอกล่าว
“ได้ข้าจะรอ” ลูคัสตอบกลับและนั่งรออยู่ที่นี่
ขณะที่ลีโอนั้นก็รีบวิ่งตรงไปยังทางลงสู่ชั้นสามเพื่อไปที่ห้อง แต่อันที่จริงลีโอไม่ได้กลับไปที่ห้องจริง ๆ เขาวิ่งไปที่ห้องน้ำที่ลับตาผู้คนสักหน่อย ก่อนจะแอบเข้าไปในโลกมิติดวงตาผนึกเทพ จากนั้นก็หยิบดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนออกมาทั้งหมดและรีบกลับไปหาลูคัส
ลีโอเอาดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนออกมาให้ลูคัส มีทั้งหมด 16 ดอก
แม้ลูคัสจะรีบร้อน แต่เขาก็ยังตรวจสอบดอกลำโพงแห่งเสียงโหยหวนทุกอย่างระมัดระวัง อย่างที่บอกการซื้อขายส่วนตัวนั้นไม่ได้รับการรับรองจากสถาบันดังนั้นอาจจะมีการขายของปลอมได้
เมื่อตรวจสอบจนมั่นใจแล้วว่าทั้งหมดเป็นของจริงลูคัสก็หยิบถุงหนังที่ใส่เหรียญดากาซออกมาจ่ายเงินให้กับลีโอ
ราคาที่ลีโอขายคือ 8 ดากาซต่อดอก ซึ่งมีทั้งหมด 16 ดอกจึงมีราคาเท่ากับ 128 ดากาซ นับว่าเป็นกำไรที่มหาศาลมากจริง ๆ
ลีโอรับเหรียญพวกนั้นมาเก็บอย่างระวัง
“นี่ไอดีของข้า”
ลูคัสกล่าวพร้อมกับหยิบแพดสื่อสารของตนเองออกมาให้ลีโอได้เพิ่มเพื่อน ลีโอหยิบเอาแพดสื่อสารมาเพิ่มลูคัสเป็นเพื่อนอย่างรวดเร็ว
แม้ที่นี่จะเป็นสถาบันหมอผี แต่ว่าพวกเขาก็ยังสื่อสารกัน ดังนั้นจึงใช้แพดสื่อสาร ซึ่งคล้ายกับโทรศัพท์เพียงแต่แพดสื่อสารนั้นเป็นกระจกใส มีฟังชั้นหลอกหลายที่สำคัญคือสามารถเชื่อมต่อได้กับทุกระบบในทุกอุปกรณ์ แหล่งพลังงานก็ใช้น้อยมาก เพียงแค่แสงก็สามารถชาร์จพลังงานให้กับมันได้แล้ว
ที่ผ่านมาลีโอไม่ได้ใช้มันนัก เพราะว่าเขาไม่มีใครให้คุยด้วย นอกจากที่ติดต่อหาริชาร์ทพ่อของลีโอคนเก่าเป็นบางครั้งบางคราว
“ไว้ข้าจะติดต่อท่านไป เมื่อข้ามีของแล้ว” ลีโอกล่าว
ลูคัสพยักหน้า ก่อนจะรีบจากไป
ลีโอจับถุงเงินของเขาแน่นและตรงไปยังชั้น 5 เพื่อหาห้องสำหรับเรียนและฟังบรรยายในคาบเรียนของขั้นที่สามทันที แต่ว่าคาบเรียนที่ 3 นั้นเริ่มไปก่อนแล้ว ทำให้ลีโอได้แต่ลงทะเบียนไว้ 1 คาบเรียนที่ราคา 15 เหรียญดากาซและก็ตรงกลับห้องพักของเขา
หลังจากกลับมาที่ห้องลีโอก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า แม้จะยังไม่สร้างรูนจิต แต่ว่าเขาก็ดึงอนุภาควิญญาณออกมาจากผีร้ายตรงหน้าและทำการสร้างเส้นใยวิญญาณที่สองต่อทันที
ตามปกติแล้วหมอผีจะไม่สามารถสร้างเส้นใยที่สองได้ถ้ายังไม่ทำให้เส้นใยก่อนหน้ากลายเป็นรูนจิต นั้นเพราะว่าจิตจะไม่สามารถรองรับพวกมันพร้อม ๆ กันได้
แต่ว่าลีโอใช้วิธีง่าย ๆ แค่เอาเส้นใยแรกออกมาและผนึกไว้เหมือนกับผีร้าย พอโดนผนึกพวกมันก็เหมือนกับถูกแช่แข็งไว้ไม่สลายหรือเปลี่ยนแปลงอะไร ดังนั้นลีโอจึงสามารถเริ่มสร้างเส้นใยที่สองต่อได้ในทันที
“เจ้าไม่ต้องกลัวข้าไม่ให้เจ้าตายหลอก” ลีโอกล่าวกับผีร้ายและเริ่มนั่งลงจากนั้นก็ทำกระบวนการเดิมอีกครั้งสร้างเส้นใยวิญญาณอย่างต่อเนื่อง
...
เช้าวันต่อมาลีโอต้องไปเรียนในคาบเรียนที่มีชื่อว่า ขั้นแปลงวิญญาณสร้างรูนจิต ซึ่งสอนโดยอาจารย์หมอผีดาร์เลเน่ ซึ่งนางเป็นหนึ่งในอาจารย์หมอผีที่รับผิดชอบสอนเทคนิคการฝึกฝนทั้งสามขั้นตอน แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะสอนในช่วงที่ว่างจากการฝึกฝน
ลีโอคาดเดาว่ารายได้จากการสอนของอาจารย์หมอผีต่อวันคงสูงมาก เพราะในแต่ละคาบเรียนจะมีศิษย์ที่มาเรียนไม่ต่ำกว่า 40-50 คน
ลีโอก็เข้ามาเรียนพร้อม ๆ กับศิษย์รุ่นอื่น ๆ ที่ไม่ได้เข้ามาพร้อมกับเขาด้วย โดยส่วนใหญ่ก็เป็นพวกพรสวรรค์ระดับ 1-2 และมีบางคนที่มีพรสวรรค์ระดับ 3 จึงฝึกได้เร็วกว่า
หลังจากที่ลีโอเข้ามาเรียนก็มีศิษย์รุ่นหลังเขาอีก 2-3 รุ่นที่เข้ามาใหม่ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะมีการรับหมอผีฝึกหัดเข้ามาไม่หยุด แต่ว่าหมอผีที่จบออกไปก็มีมากไม่ต่างกันและหมอผีที่ตายลงระหว่างการเรียนด้วย โดยส่วนใหญ่จะเป็นหมอผีฝึกหัดระดับ 2 และ 3 ซึ่งเป็นหมอผีที่สามารถรับภารกิจของสถาบันได้
ห้องเรียนในคาบนี้ไม่ได้ไปที่บ่อคลื่นวิญญาณ แต่ว่ามาเรียนกันที่ห้องบรรยายแบบอัฒจันทร์แทน ทำให้ไม่ว่านั่งตรงไหนก็สามารถเห็นอาจารย์ผู้สอนได้อย่างชัดเจน
ลีโอเลือกจะนั่งแถวหลัง ๆ หลบมุมอยู่ด้านหนึ่ง เขาไม่อยากจะโดดเด่นมากเกินไป เพราะพรสวรรค์ของเขาคือระดับ 2 ถ้ามีคนรุ่นเดียวกับเขามาเห็นเข้าจะโดนสงสัยได้ว่าทำไมผู้มีพรสวรรค์ระดับ 2 ที่พึ่งเข้ามาไม่ถึงเดือน ถึงได้สนใจมาเรียนขั้นแปลงวิญญาณสร้างรูนจิตกันได้
รอไม่นานอาจารย์หมอผีดาร์เลเน่ก็เข้ามาในห้องและเริ่มลงมือสอนโดยไม่สนใจมาเรียนบ้าง
“เอาละพวกเจ้ามากันพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย” อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่กล่าวขึ้นมา ศิษย์ทุกคนต่างพากันนิ่งเงียบ พวกเขาจดจ้องไปที่อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่เป็นตาเดียวกัน เพราะไม่ต้องการพลาดการสอนใด ๆ ไป
“พวกเจ้าที่ลงเรียนคาบเรียนนี้คงเชี่ยวชาญการฝึกฝนของสองขั้นแรกในเทคนิคมือวิญญาณแล้ว ดังนั้นเรามาเริ่มที่ขั้น 3 หรือที่มีชื่อเรียกว่า ขั้นแปลงวิญญาณสร้างรูนจิต”
ขั้นแปลงวิญญาณสร้างรูนพลังจิต คือการเอาเส้นใยวิญญาณสมบูรณ์มาสร้างรูนพลังจิต ซึ่งสิ่งที่เรียกว่ารูนจิตนั้นเป็นเสมือนตำบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทางจิตให้มีคุณภาพขึ้น
โดยจิตเริ่มจากความไม่มี ไปที่เส้นใยวิญญาณและต่อมาคือการมีรูนจิต
รูนจิตก็จะเป็นเหมือนก้าวแรกของการเป็นหมอผีฝึกหัดระดับ 1
“เอาละอาจารย์จะทำให้พวกเจ้าดู” อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่ได้หยิบบางสิ่งออกมา มันเป็นเหมือนกับปากกาที่ดูเก่าสักหน่อย ซึ่งในยุคนี้หายากที่จะใช้กันแล้ว
“นี่คือวัตถุวิญญาณระดับ 1 มันกำเนิดขึ้นมาจากเจ้าของที่โดนหญิงสาวชู้รักคนหนึ่งแทงเข้าไปที่คอ ก่อนตายเจ้าของปากกาเคียดแค้นเป็นอย่างมาก จึงเกิดเป็นผีร้าย ประเภท 1 ขึ้นมาและผีตนนั้นก็ทำให้ปากกานี้กลายเป็นวัตถุวิญญาณระดับ 1”
อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่โชว์ปากกาให้พวกเขาดู
พอได้ยินว่านี่คือปากกาที่เป็นวัตถุวิญญาณระดับ 1 ทุกคนก็จ้องมองอย่างสนใจ แต่พอจ้องมองพวกเขาก็พากันขนลุกและรู้สึกว่าอากาศโดยรอบหนาวเหน็บขึ้นมาในทันที
“พวกเจ้าลองเปิดจิตสัมผัสและดูมันอีกครั้ง” อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่กล่าว
ไม่มีใครเห็นการเปลี่ยนสีของดวงตาลีโอ ตอนนี้เขากำลังลองมองผ่านดวงตาผนึกเทพโดยที่ ลีโอเห็นว่าภายในปากกามีอนุภาควิญญาณอัดแน่นจำนวนมากและติดอยู่ในปากกานั้น มีบางส่วนที่หลุดออกมาแต่ก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่พูดต่อว่า “อนุภาคในอากาศที่อยู่ในสถาบันนี้เป็นแค่ละอองฝุ่นเล็ก ๆ ของอนุภาควิญญาณจากวัตถุวิญญาณจำนวนมากที่เก็บอยู่ใต้ในสถาบันเอลาเดียแห่งนี้ พวกอนุภาคในอากาศมันแทบจะไร้ค่า ดังนั้นถ้าพวกเจ้าอยากจะแข็งแกร่งโดยเร็วก็ควรจะหาวัตถุวิญญาณมาครอบครองไว้ใช้ในการฝึก แน่นอนว่ามันราคาแพงมาก”
ตอนนั้นมีคนยกมือถามว่า “อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่ พวกเราจะหาวัตถุวิญญาณมาครอบครองได้อย่างไรในเมื่อมันราคาแพงมาก พวกเราซื้อไม่ไหวหรอก”
“ทำเหมือนหมอผีคนอื่น ๆ คือ ใช้ความสามารถยังไงละ ถ้าพวกเจ้ากล้าก็ไปรับภารกิจ ก็จะได้ทั้งเงินและอาจจะเจอวัตถุวิญญาณในระหว่างทำภารกิจได้” อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่กล่าว ทำให้ทั้งห้องเงียบไป
รับภารกิจ!?
ทุกคนส่ายหัวทันที ภารกิจนั้นเป็นงานปราบผีประเภท 0 ที่ทางสถาบันมีไว้ให้หมอผีฝึกหัดทำ ซึ่งที่จริงหมอผีแท้จริงไม่สนใจพวกภูติผีปีศาจ ประเภท 0 เพราะผลตอบแทนมันน้อยไป
แต่ว่าถึงจะเป็นประเภท 0 ที่อ่อนแอที่สุด ก็ยังเป็นอันตรายดังนั้นจะต้องมีหมอผีไปจัดการ จึงได้มีการเอางานเหล่านั้นมอบหมายให้หมอผีฝึกหัดได้ฝึกฝน แต่ภูตผีปีศาจไม่ว่าจะระดับใดก็อันตรายทั้งสิ้น ทำให้ทุก ๆ สัปดาห์จะมีหมอผีฝึกหัดตาย 1-2 คนเสมอ
ขณะที่คนอื่น ๆ ไม่สนใจลีโอก็กำลังคิดว่าจะดึงเอาอนุภาควิญญาณรอบ ๆ ปากกานั้นมาดีหรือไม่ แต่หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนลีโอก็ไม่ทำ
ที่นี่มีระดับหมอผีแท้จริงอย่างอาจารย์หมอผีดาร์เลเน่อยู่ หมอผีแท้จริงต้องมีจิตสัมผัสที่แข็งแกร่งมาก การดึงอนุภาคเล็ก ๆ สักจุดมันอาจจะไม่ได้ดึงดูดความสนใจ แต่ถ้าดึงเอาอนุภาควิญญาณจำนวนมาก คงโดนตรวจพบทันที
และถึงตอนนั้นความลับเรื่องดวงตาผนึกเทพของเขาอาจจะถูกตรวจพบ
มันไม่คุ้มค่ากับอนุภาควิญญาณแค่นี้เลย
อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่เริ่มใช้พลังจิตของตนเองดึงอนุภาควิญญาณและปั้นเป็นเส้นใยวิญญาณ ใช้เวลาราว ๆ 10 นาทีก็กลายเป็นเส้นใยวิญญาณที่สมบูรณ์ปรากฏอยู่บนฝ่ามือ
ทุกคนมองดูขั้นตอนเหล่านี้ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง โดยเฉพาะผู้มีพรสวรรค์ระดับ 1 ที่กว่าพวกเขาจะสร้างเส้นใยวิญญาณแต่ละเส้นได้ต้องใช้เวลาเป็นวัน
อาจารย์หมอผีดาร์เลเน่ยังไม่หยุด แต่เริ่มขึ้นแปลงวิญญาณสร้างรูนจิตต่อในทันที