941 - เผชิญหน้าราชวงศ์โบราณ
941 - เผชิญหน้าราชวงศ์โบราณ
ขณะที่เย่ฟ่านฝึกฝนคัมภีร์โบราณ ชายผมทองตัวเล็กๆ บนท้องฟ้าก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เขากลืนแก่นแท้ของดวงอาทิตย์ด้วยการกัดคำใหญ่และสร้างรอยแหว่งเว้าให้กับดวงอาทิตย์ที่อยู่บนฟ้านั้น
นี่เป็นภาพที่น่าสยดสยอง วิญญาณศักดิ์สิทธิ์เย่ฟ่านกลืนกินแก่นแท้ของดวงอาทิตย์เพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นพลังของตนเอง
"บูม"
จู่ๆ เมฆสีดำก็ปกคลุมยอดเขาขนาดใหญ่ สายฟ้าอันน่าสะพรึงกลัวหลายหมื่นเส้นกระแทกเข้าหาเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว
“ทัณฑ์สวรรค์?”
เย่ฟ่านตกตะลึง มันกะทันหันเกินไป ไม่มีการเตือนแม้แต่น้อย
ในเวลาเดียวกัน มนุษย์สีทองตัวเล็กๆ บนท้องฟ้าก็จมอยู่ใต้ทะเลสายฟ้าสีทองที่บ้าคลั่ง
เย่ฟ่านไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อใช้ร่างกายของตัวเองปิดกั้นสายฟ้าทั้งหมดให้กับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขา
ทันใดนั้นทะเลสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวก็เทลงมาพร้อมกับคุมขังเย่ฟ่านอย่างแน่นหนา พวกมันโจมตีเขาจากทุกทิศทุกทาง
"ภัยพิบัติครั้งนี้แตกต่างออกไปเล็กน้อย แม้ว่ามันจะทรงพลังมาก แต่ดูเหมือนมันจะไม่ตั้งใจสังหารข้าโดยตรง"
เขาเกิดความงงงวยและสงสัยในใจ พลังที่แท้จริงของดวงอาทิตย์ดูเหมือนจะหล่อหลอมวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาให้มีความสมบูรณ์แบบใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิตอมตะเป็นอย่างมาก
"สวรรค์แต่ละชั้นในอาณาจักรเซียนเทียมเทียบได้กับอาณาจักรลับอันยิ่งใหญ่ในอดีต สายฟ้ารูปร่างคล้ายมนุษย์และมันจะไม่ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งจนกว่าข้าจะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะอย่างแท้จริง"
เขาเข้าใจทันที สาเหตุที่ผู้คนในโลกไม่สามารถกระตุ้นสายฟ้ารูปร่างมนุษย์ให้ปรากฏขึ้นได้ก็เพราะพวกเขาไม่ได้ฝึกฝนคัมภีร์โบราณที่สอดคล้องกันในทุกอาณาจักร
เย่ฟ่านตระหนักว่าเขาได้ผ่านสวรรค์ชั้นแรกของอาณาจักรเชียรเทียมแล้ว และด้วยความช่วยเหลือของคัมภีร์สุริยันครั้งนี้ภัยพิบัติกลับมีส่วนช่วยเหลือให้รากฐานของเขาสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
เมื่อหายนะทุกประเภทหายไป เย่ฟ่านก็นั่งสมาธิอยู่บนท้องฟ้าด้วยท่าทางเคร่งขรึม อักขระเต๋าหลายสิบตัวกระจัดกระจายออกมาจากร่างกายของเขาและส่องสว่างอยู่ทั่วท้องฟ้า
"อย่าบอกนะว่าเจ้าฝึกฝนคัมภีร์สุริยันสำเร็จแล้ว มันเป็นไปได้อย่างไร?"
เมื่อสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองที่เย่ฟ่านปิดผนึกไว้ปรากฏตัวอีกครั้งพวกมันก็ตกใจเป็นอย่างมาก
ในขณะนี้ร่างกายของเย่ฟ่านมีความสดใสราวกับหยกขาว และดวงตาของเขายิ่งน่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด
ในเวลาแค่หนึ่งเดือนพลังการต่อสู้ของเย่ฟ่านกลับแข็งแกร่งอย่างมีนัยยะสำคัญอีกครั้ง ด้วยความเร็วในการพัฒนาตัวเองมากมายถึงขนาดนี้ ในอนาคตเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน
เย่ฟ่านนั่งสมาธิในความว่างเปล่าพร้อมกับปลดปล่อยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์สีทองให้โลดแล่นออกไปทุกที่
"ปัด..."
ด้วยความคิดเดียววิญญาณสีทองของเขาก็ลากสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองให้บินขึ้นสู่ท้องฟ้า
"เจ้าบอกว่าเราจะรอดถ้าเราแปลคัมภีร์โบราณให้เจ้า”
"ข้ารักษาสัญญาเสมอ”
เย่ฟ่านยิงปราณกระบี่สีทองเข้าไปในหน้าผากของสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองพร้อมตัดความทรงจำของพวกมันที่เกี่ยวข้องกับคัมภีร์สุริยันออกไปทั้งหมด
สิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองสูญเสียความทรงจำไปมากมาย แต่พวกเขาก็ยังจำได้ว่าร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณคือคนที่ราชาโบราณน้อยของพวกมันสั่งให้ฆ่า
ดังนั้นสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองตัวก็พุ่งเข้าหาด้วยความตื่นเต้น
"เป็นพวกเจ้าเลือกเส้นทางนี้เอง?"
เย่ฟ่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดของเขาก็บินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
"ปัง!"
ด้วยเสียงระเบิดที่ดังกึกก้อง สิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองถูกหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดบดขยี้จนกลายเป็นหมอกเลือด ดับสูญทั้งร่างกายและวิญญาณอย่างง่ายดาย
เย่ฟ่านหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเขาก็ควบคุมให้หม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดบินกลับเข้าสู่หน้าผากของเขา
…
ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นข้างนอก
จักรพรรดิน้อยแดนเหนือเข้าสู่ตระกูลจี้อีกครั้งและได้รับการต้อนรับเข้าสู่ห้องโถงของจักรพรรดิโบราณที่จักรพรรดิมิติทิ้งไว้
ในการเดินทางเข้าสู่ตระกูลจี้ครั้งนี้เป็นราชาโบราณน้อยจากเผ่าพันธุ์โบราณเจรจาด้วยตนเอง
มีข่าวลือว่าน้ำเสียงของตระกูลจี้นั้นอ่อนโยนมากและเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะตกลงทำสัญญาแต่งงานในเร็วๆนี้
จี้จื่อเยว่ที่ได้ยินเรื่องนี้ก็โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก นางพยายามหลบหนีข้ามความว่างเปล่า แต่สุดท้ายก็ถูกผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลไล่ล่ากลับมา
หวังเถิงกวาดสายตาไปทั่วตงหวง ในชีวิตของเขาไม่เคยมีสหายแม้แต่คนเดียว อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ที่เขาเดินทางสู่ตงหวงกลับมีผู้คนมากมายต้องการที่จะเป็นสหายกับเขา!
อนาคตของหวังเถิงสดใสและไร้ขีดจำกัด เขากำลังก้าวเข้าสู่เส้นทางของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่โดยไม่มีผู้ใดสามารถขัดขวางทางเดินของเขาได้
นอกจากนี้เขายังเป็นมิตรกับราชาโบราณและสามารถเดินทางเข้าสู่ภูเขาสีม่วงได้ตลอดเวลา
อาจกล่าวได้ว่าหวังเถิงในปัจจุบันไม่เพียงแต่ครอบงำทุกคนในบรรดาเด็กรุ่นหลังของห้าอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มิหนำซ้ำปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายคนยังหวาดกลัวต่อเขาอีกด้วย
ในช่วงเดือนที่ผ่านมาหวังเถิงและราชาโบราณน้อยจื่อเทียนได้เร่งเร้าให้ทะเลสาบสีทองค้นหาที่อยู่ของเย่ฟ่าน แต่สุดท้ายมันก็ไร้ผล
เย่ฟ่านกำลังเดินทางอยู่ด้านนอก เขาได้ยินข่าวลือและข่าวมากมายที่คนของตระกูลหวังแห่งแดนเหนือเปิดเผยออกมา คำพูดเหล่านี้ล้วนเป็นคำเหยียดหยามที่ต้องการให้เขาปรากฏตัวจากความโกรธแค้น
"เย่ฟ่านเจ้าลูกเต่า เจ้าไม่กล้าปรากฏตัวออกมาเพราะกลัวหวังเถิงลูกพี่ลูกน้องของข้าฆ่าเจ้าใช่หรือไม่!"
“ลูกพี่ลูกน้องของข้าถูกเรียกว่าจักรพรรดิแดนเหนือ เขาคืออัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เย่ฟ่านไม่คู่ควรแม้แต่จะหิ้วรองเท้าให้กับเขา!”
กลุ่มคนของหวังเถิงต่างก็ร่วมประณามเย่ฟ่านว่าเป็นคนไร้ค่า และยิ่งเย่ฟ่านไม่ปรากฏตัวขึ้นคำพูดของพวกเขายิ่งรุนแรงจนล้ำเส้นไปโดยสิ้นเชิง
จุดประสงค์ของการทำเช่นนี้ง่ายมาก เพื่อให้เย่ฟ่านที่เป็นคนอายุน้อยไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ คนเหล่านี้ต้องการให้เขาปรากฏตัวออกมาและจะได้ลงพร้อมสังหารเขาพร้อมกัน
เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนที่หลายคนอารมณ์เสียมาก แม้แต่ผังป๋อและคนอื่นๆ ที่อยู่ห่างไกลในสำนักฉีซื่อก็ยังได้ยินคำพูดที่น่าเกลียดน่าชังนี้
“ให้ตายเถอะ อีกไม่นานเด็กรุ่นหลังของตระกูลหวังจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตอย่างแน่นอน” หลี่เหอซุยรู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก
“พวกเราไปที่ตงหวงเพื่อชมเรื่องสนุกสนานกันดีกว่า!”
คนเถื่อนที่ถือกระบองขนาดใหญ่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็แจ้งข่าวที่สำคัญบางอย่าง
ภายใต้การเติบโตอย่างต่อเนื่องของเย่ฟ่าน ราชวงศ์จิ่วหลีไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว พวกเขาระดมกำลังทั้งหมดเพื่อออกตามล่าเย่ฟ่านในตงหวงโดยไม่สนใจว่าจะสูญเสียมากน้อยเพียงใด
เย่ฟ่านไม่ปรากฏตัวเป็นเวลาหนึ่งเดือน ดังนั้นหลายๆ คนในตงหวงจึงพูดถึงเรื่องนี้โดยธรรมชาติ บางคนบอกว่าเขาควรจะทำแบบนี้อยู่แล้ว เมื่อเขาเติบโตขึ้นค่อยกลับมาแก้แค้นก็ไม่สาย
แต่ภายใต้เสียงประนามของลูกหลานตระกูลหวัง สุนัขตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้น มันลงมือสังหารลูกหลานตระกูลหวังหลายสิบคนพร้อมกับจับตัวคนที่เหลือและบังคับให้พวกเขาเป็นสัตว์เลี้ยง
ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าที่ด้านข้างของเย่ฟ่านมีสุนัขตัวใหญ่ตัวหนึ่ง บารมีของจักรพรรดิ์ดำเลื่องลือไปทั่วตงหวงตั้งแต่ตอนที่มันสังหารครึ่งเซียนสองคนได้สำเร็จ
"นี่คือสุนัขดุร้ายในตำนาน? ครั้งที่แล้วมันฆ่าสองครึ่งเซียนซึ่งเป็นผู้คุ้มกันของจักรพรรดิน้อยแดนจนหวังเถิงต้องหนีตายเข้าไปในภูเขาสีม่วง?"
จักรพรรดิดำกระโดดออกมาและเยาะเย้ยหวังเถิงว่าเป็นคนขี้ขลาด เด็กรุ่นหลังของตระกูลหวังหลายคนโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก แต่ทุกครั้งที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้นก็จะถูกสุนัขดำตัวนี้ลงมือสังหารทันที
เหล่าผู้อาวุโสตระกูลหวังไม่พอใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก พวกเขาส่งยอดฝีมือระดับเซียนเทียมขั้นที่เจ็ดออกตามล่าสุนัขสีดำตัวใหญ่ทั่วตงหวง
ยิ่งไปกว่านั้น บรรพบุรุษของตระกูลหวังได้เคลื่อนไหวด้วยตัวเองโดยตั้งใจจะสังหารทั้งจักรพรรดิดำและเย่ฟ่านไปพร้อมกันอีกด้วย