ตอนที่แล้วตอนที่ 949 แรงบันดาลใจสุดยอด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 951 เจ้าไม่ฉวยโอกาสหรือ?

ตอนที่ 950 วารีสุทธิอัคคีพิสุทธิ์


ในโลกคัมภีร์

หลังจากเสร็จสิ้นการสนทนากับเทพีเสรีภาพ เย่ว์หยางกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์และเอาแต่นั่งนิ่งอยู่กับที่

ตอนแรกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่ไม่รู้สึกประหลาดใจพวกนางต่างฝึกฝนกันเอง ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด ตอนแรกจุ้ยมาวอี้ต้องการชักชวนเย่ว์หยางไปอาบน้ำด้วยกันคาดไม่ถึงว่าเขายังคงนั่งตรึกตรองอยู่เงียบๆ นางตัดสินใจไม่รบกวนเขา เพราะบางครั้งเย่ว์หยางเมื่ออยู่ในช่วงทำการทดลองอะไรก็ตามเขามักจะคิดต่อเนื่องเป็นเวลา 1- 2 ชั่วโมง นั่นจึงไม่ใช่พฤติกรรมที่แปลกประหลาด

แต่หลังจากที่จุ้ยมาวอี้อาบน้ำเสร็จและเตรียมพักผ่อนนางถึงรู้ว่าเย่ว์หยางนั่งอยู่อย่างนั้นมาถึงห้าชั่วโมงแล้ว

นี่นี่ไม่เคยเกิดเรื่องผิดปกติอย่างนี้มาก่อน

เกิดอะไรขึ้นข้างนอก?

เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่ทั้งคู่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ

ทั้งสามสาวแอบอยู่นอกประตูมองผ่านรอยแง้มประตูและกระซิบคุยกันระหว่างที่มองดู“ตอนนี้เราควรจะทำอย่างไรดี? จะเข้าไปปลุกเขาดีไหม?”

“ถ้าเขากำลังหาเงื่อนงำแรงบันดาลใจบางอย่างอยู่  แล้วเราเข้าไปปลุกเขาบางทีอาจไม่เกิดประโยชน์” เย่ว์หวี่ส่ายหน้าเล็กน้อย

“ปัญหาก็คือเขาอยู่ในสภาพนั้นมาเป็นเวลานานแล้ว”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่เคยเห็นเย่ว์หยางอยู่ในสภาวะเหมือนงงงวยอย่างนั้นมาก่อน

“บางทีนี่อาจเป็นช่วงสุดท้ายของการไตร่ตรอง  เราต้องเชื่อมั่นในตัวเขา” เย่ว์หวี่เป็นหนึ่งในสตรีสามคนที่เชื่อมั่นในเย่ว์หยางนางคิดว่าเขาไม่ได้อยู่ในสภาวะงงงวย แต่กำลังมองหาเงื่อนงำความรู้แจ้ง

“งั้นก็รอต่อไป!”  จุ้ยมาวอี้ยังคงรู้สึกว่านางควรสนับสนุนเขา

“เจ้ารอก็แล้วกัน  วันนี้ข้าฝึกหนักเกินไปบ้าง  และข้าเหนื่อยแล้ว” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคิดเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง  เรื่องนี้ไม่มีอะไรน่ากลัว  นางคิดเงียบๆ ต้องเข้าใจว่ามีบางเรื่องที่นางไม่สามารถเข้าใจได้ ถ้ามีเสวี่ยอู๋เสียอยู่ด้วยบางทีอาจช่วยได้   แม้ว่าตัวนางเองในสภาพปัจจุบันนี้ยังอยู่ห่างไกลมาก  และเมื่อนางเข้าไปสำรวจสภาวะใจของเขา  นางก็คงมีแต่มึนงงและปวดหัว

นางตัดสินใจไม่รอต่อและไปพักผ่อนก่อนมีแต่เย่ว์หวี่คอยระมัดระวังให้ เขาคงไม่เป็นอะไร

ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง

จุ้ยมาวอี้ง่วงนอน

เย่ว์หวี่เห็นนางหาวจึงชักชวนให้นางไปพัก

ส่วนนางกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนขยันฝึกฝนในตอนกลางวันอยู่แล้วเพื่อความก้าวหน้า พวกนางฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเกินกำลังของตนเองและตอนนี้พวกนางเริ่มง่วงจัด

“ไม่มีอะไรแล้วยังมีสาวใช้น้อยคอยอยู่คุยเป็นเพื่อนข้า!”  เย่ว์หวี่แนะนำให้จุ้ยมาวอี้ไปนอนสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์อยู่เป็นเพื่อนเย่ว์หวี่ แต่เมื่อนางวุ่นวายกับการทำงานมาทั้งวัน นางนั่งพึมพำอยู่ข้างๆ เย่ว์หวี่พูดได้ไม่นานนางก็ผลอยหลับอยู่ข้างแขนเย่ว์หวี่ ทำให้เย่ว์หวี่อดขำไม่ได้

“พวกเจ้าไม่มีวันที่ทำให้ข้าวางใจได้เลยสักวัน”เย่ว์หวี่พาสาวใช้น้อยไปนอนและคลี่ผ้าห่มให้นาง

เมื่อแม่สี่ไม่ได้อยู่ใกล้นางจะดูแลทุกคนแทนแม่สี่

โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องสามของนางผู้นี้กลัวความเดียวดายเป็นที่สุด

ถ้าวันหนึ่งไม่มีใครอยู่ด้วยกับเขาเขาจะรู้สึกไม่สบายใจ และดูเหมือนจะกระด้างขึ้น แต่เด็กหนุ่มคนนี้เหมือนกับทารกใหญ่ที่ไม่รู้จักโต

บางครั้งเย่ว์หวี่มีความรู้สึกเช่นนี้ในใจของนางและนางเองก็ไม่ยอมรับเป็นธรรมดา ความจริงนางเต็มใจจะเห็นเขาเป็นแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาต้องพึ่งพาตัวนางดูเหมือนว่านางจะสนิทกับเขาเป็นพิเศษนางได้ปลดปล่อยความตะขิดตะขวงในใจได้ทั้งหมดสามารถดูแลชีวิตของเขาได้ทุกด้าน และร่วมติดตามดูความสำเร็จของเขาไปทีละขั้น ความรู้สึกรับรู้ได้ถึงความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมนี้ ไม่สามารถใช้คำใดๆมาอธิบายได้

ราตรีดึกสงัด  ทุกคนพากันหลับใหล

เย่ว์หวี่มองดูเย่ว์หยางเขายังคงนั่งเงียบหายใจแผ่วเบา

เสวี่ยอู๋เสียอยู่ในระหว่างหลับลึกโล่วฮัวและอี้หนานไม่อยู่ที่นั่น เชี่ยนเชี่ยนเหน็ดเหนื่อยและกำลังพักผ่อนอยู่  ใครจะอยู่ช่วยเขาได้บ้าง?

อยู่ในสภาพอย่างนี้ช่างน่ากังวลเหลือเกินเกิดอะไรขึ้นที่ข้างนอกกันแน่? บอกเราได้ไหมว่าเจ้าคิดอะไรอีก?

“ไม่!”เย่ว์หวี่มองดูที่ด้านนอกประตูและพบว่าทุกคนหลับใหลหมดแล้ว  นางกัดริมฝีปากล่างตัดสินใจอยู่ในใจหลายครั้งและในที่สุดนางส่ายหน้ายกเลิกความคิดนั้น เป็นเรื่องที่แย่จริงๆ  ถ้านางจะเชื่อมใจกับเขาผ่านสายแพรเชื่อมใจยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องรบกวนความคิดของเขา แต่นั่นจะทำให้เขาเข้าใจถึงความลับของนาง ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดี

อย่างไรก็ตามนี่ชักจะน่ากังวลเกินไป

นางนั่งอยู่ชั่วครู่

เย่ว์หวี่ไม่มีทางนั่งรออยู่เงียบๆได้อีกต่อไป

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?  เสี่ยวซานเป็นคนที่นางรักห่วงมากที่สุดถ้าเขาเผชิญพบเจอกับความยากลำบาก ถ้านางสามารถช่วยให้เขาคลี่คลายปัญหาได้  ไม่ว่ายังไงก็ตามถ้าเขาได้รู้แจ้งระดับใหม่นางจะร่วมช่วยให้เขาผ่านไปได้หรือไม่?

เมื่อคิดเรื่องนี้ในใจแล้วเย่ว์หวี่กำหมัดควงเบาๆ ดูเหมือนว่านางกำลังชั่งใจ

นางยังคงมองดูนอกประตูเห็นว่าไม่มีใครเข้ามารบกวน

นางถอนหายใจเล็กน้อย

ในเมื่อไม่มีใครเห็นนางแอบช่วยเขาสักครั้งจะเป็นไรไป!

เมื่อเย่ว์หวี่ตัดสินใจอยู่ในใจ  นางไม่ต้องข่มความอายอีกต่อไปนางย่องเข้าไปหาเขาและนั่งลงข้างเขา รอให้สายแพรเชื่อมใจสัมผัสที่แขนของเขามีแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยใจก็เชื่อมถึงกัน นางไม่รู้ว่ากอดเขาไว้ในอ้อมแขนเมื่อไหร่ เพื่อเสี่ยวซานนางยินดีจะลืมความเขินอายตามปกติ เสี่ยวซานบอกข้าได้ไหมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้ายินดีจะร่วมแบ่งปันกับเจ้า....เย่ว์หวี่ที่กำลังจดจ่ออยู่กับทะเลใจของเย่ว์หยางต้องประหลาดใจกับสิ่งที่นางค้นพบ

โลกวิญญาณทั้งหมดเงียบสงัด

เงียบสงัดเหมือนทะเลหลังเกิดพายุฝนปราศจากเมฆมีแต่ทะเลกับท้องฟ้า ใจทั้งหมดเหมือนกับทะเลกว้างไกลไม่มีสิ้นสุด

เย่ว์หยางพบว่ากายและใจของนางบริสุทธิ์เหมือนทารกแรกเกิดร่างเปลือยตามธรรมดาไม่รู้สึกว่าน่าเขินอายแต่อย่างใดและเขายังคงนั่งอยู่ในที่ห่างไกลอย่างเงียบๆ เหมือนกับว่าเขาอยู่นอกตัวของเขา

เกิดอะไรขึ้น

มีแต่ความประหลาดใจและความสงสัย

ร่างวิญญาณของเย่ว์หวี่ลอยไปหาร่างวิญญาณของเย่ว์หยางด้วยความระมัดระวังและสบายใจนางเหยียดนิ้วและสัมผัสที่หลังของเขาเบาๆ จากนั้นโน้มตัวลงช้าๆ จับตัวเขาอย่างนุ่มนวล... จิตใจของทั้งสองค่อยๆดึงเข้าหากันเพราะมีการสัมผัสทางใจ ในขณะที่ทั้งสองสอบถามแบ่งปันความลับ ในโลกของจิตวิญญาณนั่นคือโลกที่ไม่มีอุปสรรคขัดขวางพวกเขาได้รับรู้ทุกอย่างอย่างรวดเร็วเพียงชั่วขณะนางก็ได้เรียนรู้สัจธรรมความจริงจากความคิดของเขาและจากอาณาจักรจิตวิญญาณที่งดงาม

ขณะเดียวกันเขาได้รับรู้ถึงภาระและความกังวลของนาง

มีความรู้สึกลึกๆที่หวั่นไหวอยู่ในใจนาง เมื่อนางคิดถึงนางจะสั่นเล็กน้อย.. เขารู้จักนางนางรู้จักเขา และนางสัมผัสได้ถึงการปลอบประโลมจากเขาหลังจากได้รับรู้ความลับทั้งปวง

เธอสามารถสัมผัสได้ถึงความปรารถนาและความต้องการส่วนลึกที่สุดในจิตวิญญาณของเขาณ ขณะนี้คนสองคนไม่มีความลับต่อกันแต่อย่างใดเลย

มีแต่เพียงความเสียใจเล็กน้อยว่าระดับของนางยังไม่สูงส่งเท่าของเขา

ในหลายด้านนางอาจจะรู้จักเขาน้อยกว่าที่เขารู้จักนาง

เหมือนกับที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเคยกล่าวไว้ความรู้ไม่รู้หมดสิ้นไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถรู้สึกได้ในเวลานี้ความลับของเขาทั้งหมดนางไม่สามารถสำรวจรู้ได้ทั้งหมด แม้ว่าเขาเต็มใจแบ่งปันก็ตามแต่นางก็ยังไม่สามารถรับรู้ได้ทั้งหมดสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือนางไม่ตั้งใจจะรู้ลึกเข้าไปถึงความลับของเขาเหมือนกับที่เขาเคยแลกเปลี่ยนอารมณ์กับเสวี่ยอู๋เสีย เชี่ยนเชี่ยน โล่วฮัวอี้หนานและมารกฎฟ้า เพื่อจะหลีกเลี่ยงปล่อยพื้นที่ส่วนตัวดั้งเดิมของเขาไว้ให้เจ้าของพื้นที่ยินดีแบ่งปันมากกว่าจะเข้าไปตรวจดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น...สถานการณ์เช่นนั้นควรเป็นเรื่องของการฝึกพลังคู่รัก หรือฝึกพลังคู่สามีภรรยา  นางจึงหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดความลำบากใจ

การเปลี่ยนแปลงต่างๆในร่างกาย และการฝึกฝนคู่รักจะต้องผ่านสถานการณ์ขัดแย้งนี้

ใจของเขากับใจของนาง

ประสานลอยขึ้นไปในท้องฟ้า

เย่ว์หวี่ไม่รู้ตัวว่านางกำลังบินไปที่ไหนความรู้สึกหมือนกับจะทะลุเพดานท้องฟ้าออกไปมองกลับมาดูก็เห็นโลกไม่ชัดเจนนอกจากท้องฟ้าที่นางบินผ่านทะลุออกไปมีช่องขนาดใหญ่นางไม่เคยพบกับความรู้สึกเช่นนั้นมาก่อนในชีวิต

น่ากลัว?น่าแปลกใจ?

ดูเหมือนมีความกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็นมากกว่า

ทำไมเสี่ยวซานถึงพานางมาพบกับความรู้สึกนี้ด้วยตัวเอง?นี่คือความรู้ หรือปัญหายากคลี่คลายที่เขาประสบอย่างนั้นหรือ?

“ข้าก็อยากจะช่วยเจ้าเหมือนกันหากแต่ข้าไม่รู้จะทำอย่างไร?” ร่างวิญญาณของเย่ว์หวี่หวังว่าจะช่วยเขาได้ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่ยากเย็นหรือมีความหมายลึกซึ้งก็ตามหากนางสามารถให้ความร่วมมือได้ ก็ย่อมจะเกิดประโยชน์จริงๆ

“....” ร่างวิญญาณของเย่ว์หยางไม่ตอบมีแต่พลังงานแผ่ขยายออกมา

เขาไม่จำเป็นต้องบอกนางรู้ตัวว่าจะต้องทำตาม

แต่นางไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร  นางรู้ว่าเขาจะทำได้ดีและเชื่อว่าเขาจะทำได้สมบูรณ์แบบ

ใจทั้งสองผสานรวมกันอีกครั้ง  คราวนี้แทนที่จะเป็นการสื่อสารกันเหมือนก่อนแต่กลับเป็นการฝึกฝนร่วมกันในรูปแบบใหม่นี่คือการฝึกของเย่ว์หยางหลังจากมีความรู้แจ้งมากขึ้น ไม่เพียงแต่ใจเท่านั้นแต่ยังรวมถึงร่างกายด้วย ปราณกระบี่ซวงหัวฉายประกายเสื้อผ้าของทั้งสองคนสลายเป็นธุลีเหลือแต่ร่างกายที่ยังกอดกันแน่นพลังหยินกับหยางบริสุทธิ์เชื่อมโยงถึงกัน

ด้านหนึ่งเป็นวารีสุทธิอีกด้านหนึ่งเป็นอัคคีพิสุทธิ์

การสื่อสารเชื่อมโยงเช่นนั้น

ไม่มีการทำลายหรือขัดแย้งกันมีแต่การผสมผสานที่ยอดเยี่ยม

แต่ละคนต่างมีกายใจผสานกันเป็นหนึ่งลำแสงพลังงานฉายขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับจะทะลุผ่านโลกคัมภีร์ จุ้ยมาวอี้และองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตื่นจากฝันหวานตะลึงมองดูภาพแสงพลังงานของเย่ว์หวี่ นั่นเป็นแสงสว่างที่สวยสง่างามล้ำเป็นพิเศษมิอาจจะเขียนบรรยายด้วยภาพวาดใดๆได้ จนถึงตอนนี้พวกนางถึงตระหนักได้ว่าระดับความก้าวหน้าของเย่ว์หยางสูงล้ำยิ่งใหญ่เพียงไหน

สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ส่งสัญญาณมือบอกว่าการฝึกฝนนี้ควรปล่อยให้ดำเนินต่อไป

อย่าปลุกพวกเขา

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยิ้มและมองดูจุ้ยมาวอี้นางบิดขี้เกียจอย่างน่ารักและกลับไปพักต่อเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

วันต่อมาเย่ว์หวี่รู้สึกโล่งใจและได้รับการชำระพลัง  นางตื่นขึ้นจากโลกจิตวิญญาณที่เหมือนกับฝัน

และพบว่าตนเองนอนอยู่บนตัวเสี่ยวซาน

เรื่องที่แย่ก็คือน้องชายตัวร้ายสัมผัสกับส่วนสงวนของนางทำให้นางตกใจกลัว

นางรีบข่มกลั้นความอายทั้งกังวลและโล่งใจเล็กน้อย โชคดีที่น้องชายนางไม่ได้ทำสิ่งที่นางหวั่นเกรงแทบตาย!

เย่ว์หวี่แต่งตัวเรียบร้อยขณะที่เขายังคงฝันหวาน นางรีบเอาวางเสื้อผ้าบนตัวของเขา น้องชายตัวร้ายทำให้นางอึดอัดใจ ยังดีที่ไม่มีใครเห็นไม่เช่นนั้นนางคงรู้สึกอับอายทำหน้าไม่ถูก นางข่มใจคลี่ผ้าห่มคลุมตัวเขามองดูข้างนอกประตูยังไม่เห็นใครตื่น ทุกคนยังคงหลับอยู่ นางยกมือทาบอก นางคิดว่าควรไปก่อนดีกว่า  ตอนเช้านี้ยังไม่มีใครเห็น

นางยินดีที่ได้ช่วยให้เขาก้าวหน้าบรรลุระดับพลังใหม่ได้สำเร็จ  นางปิดประตูเบาๆ และออกไปอย่างเงียบงัน

นางพยายามข่มกลั้นไม่ให้ตนเองดีใจมากเกินไปเพราะมีความสุข

ไปทำอาหารเช้าให้เขาดีกว่า

หนึ่งชั่วโมงต่อมาเมื่อนางเตรียมทุกอย่างพร้อมนางเห็นเขางัวเงียเดินเข้ามาและกล่าว “กลิ่นหอมน่ากิน”  นางดุเขา “หนอนเกียจคร้าน!  ดูสิ ยังมิทันล้างหน้าบ้วนปากนี่จะกินอาหารเช้าเลยหรือ?”

ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ทุกวันนางอยากจะดูแลเขาไปทั้งชีวิตที่เหลือของนาง เพราะไม่มีวันใดเลยที่นางไม่ห่วงเขา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด