ตอนที่ 948 เทวีเสรีภาพ?
มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรมองหน้ากันเองเงียบๆ
พ่อบ้านเย่เพิ่งจะหายตกตะลึงเขาลุกขึ้นยืนตัวสั่น “ฝ่าบาท! ท่านมีคำพูดอะไรจะสั่งเสียโปรดเชื่อใจท่านมารสัมฤทธิ์ฟ้าเถิด ข้าเองต้อยต่ำด้อยพลังเกรงว่ายากจะรับภาระที่หนักหนาสาหัสได้”
พ่อบ้านเย่แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสับสนแต่ก็ยังไม่หมดสติไปเสียก่อน
ในห้วงเวลาวิกฤติเช่นนี้
เขาเลือกมารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้ทรงพลังไว้ก่อน
ตอนนี้คุณชายไตตันยังไม่ปรากฏตัว ชิงหลาง ว่านเจียว โหลวลั่ว ราชาทั้งสามถ้าพวกเขาเข้าแทรกแซงเกรงว่าไม่เพียงแต่เมืองลู่หลิวเท่านั้น แต่ทั่วทั้งอาณาจักรจื่อฟงอาจถูกสามราชานี้กวาดล้างได้ แน่นอนว่าการขอให้มารสัมฤทธิ์ฟ้าและคุณชายไตตันกลับมาจัดการเพื่อทุกคนยังจะดีกว่า เขาเชื่อว่าราชาจื่อฟงสามารถทำตามความปรารถนาได้อย่างสมบูรณ์
“หรือว่าเจ้ายังภักดีอยู่อีก...” ราชาจื่อฟงยิ้มเจ็บปวดและลุกขึ้นยืนทันที
พลังกายของเขาระเบิดออกมาเหมือนกับเปลวไฟและเขาที่อ่อนแอเหมือนคนใกล้ตายก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ใช่เพราะที่หลังของเขามีมีดอาบยาพิษแทงปักคาไว้ยังมีเลือดไหลออกอยู่หลายคนคงคิดว่าตนเองตาฝาด
พ่อบ้านเย่ เจ้าเมืองและนักรบปราณฟ้าอดโห่ร้องไม่ได้
ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเขาไม่ยินดีกับการตายของราชาจื่อฟง
ถ้าราชาจื่อฟงตายอย่างนั้นพวกเขาจะต้องเปลี่ยนเจ้านาย
หลังจากเปลี่ยนผู้นำความรุ่งเรืองในวันนี้บางทีจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น คุณชายไตตันและมารสัมฤทธิ์ฟ้ายังพอฝากฝังความเชื่อใจได้“คาดว่าพวกเขาคงจะไม่สนใจครอบครองเมืองลู่หลิวและเมืองอื่นๆ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นราชาชิงหลางว่านเจียวและโหลวลั่วสามารถยึดอาณาจักรนี้ได้ ตอนนี้พวกเขาเกรงว่าเจ้าเมืองบางแห่งจะถูกแทนที่คนที่นี่จะถูกกำจัดและสังหาร ไม่มีใครต้องการเห็นภาพเช่นนี้เมื่อเห็นว่าราชาจื่อฟงลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แน่นอนว่าทุกคนย่อมมีความสุข
ชิงหลาง ว่านเจียวและโหลวลั่วรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
แต่พวกเขาสายตาแหลมคม
เขาสังเกตเห็นรายละเอียดบางอย่างว่านักรบจากหอทงเทียนยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก
จื่อฟงนี้ฟื้นขึ้นมาแล้วก็จริงแต่เขาฟื้นฟูพลังได้จริงๆ หรือเปล่า? เป็นไปไม่ได้ หัวใจของเขาถูกมีดอาบยาพิษแทงจื่อฟงไม่ใช่คนที่มีร่างเป็นคุณสมบัติธาตุที่เด่นชัดเป็นไปไม่ได้ที่จะมีภูมิต้านทานพิษ นักฆ่าถือว่าลงมือประสบผลสำเร็จมาก
ราชาจื่อฟงในตอนนี้แค่แข็งใจยืนขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อยังมีมารสัมฤทธิ์ฟ้าและพวก ชิงหลางกับราชาอื่นไม่กล้าเคลื่อนไหวขณะนั้นพวกเขายังไม่เห็นจุดอ่อนของจื่อฟง
“ท่านมารสัมฤทธิ์ฟ้า! ในใจของข้าจื่อฟงอยากจะขออภัยหมื่นครั้ง แต่พูดออกมาจากปากไม่ได้เหตุการณ์ในวันนี้เป็นความผิดของข้าจื่อฟงคนเดียว น่าละอายจริงๆที่ต้องทำให้คุณชายไตตันและอาคันตุกะผู้มีเกียรติต้องกังวลใจ วันนี้จื่อฟงหวังว่าคุณชายไตตันคงปลอดภัยไม่เป็นอะไร ทุกอย่างเรายังควบคุมไว้ได้ ข้าไม่ทราบว่าจะหาร่องรอยคุณชายไตตันได้อย่างไร?” ราชาจื่อฟงพูดเช่นนี้ ทุกคนพากันเงียบ ราชาจื่อฟงไม่มีอะไรต้องห่วงอีกต่อไป แต่อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติอย่างคุณชายไตตันเพิ่งได้รับการช่วยเหลือไปเขาไม่มีอะไรต้องกังวล มิฉะนั้นเมืองลู่หลิวคงพบกับหายนะแน่นอน
“ด้วยการคุ้มกันของฮุยไท่หลางไม่มีอะไรต้องกังวล” จักรพรรดิมังกรอยู่ในท้องพระโรงมาครู่หนึ่งแล้ว ขณะที่มารสัมฤทธิ์ฟ้าออกไปอย่างรวดเร็ว
สิบนาทีต่อมา
มารสัมฤทธิ์ฟ้าพาฮุยไท่หลางซึ่งกลับคืนสู่รูปลักษณ์ปกติไม่ใช่รูปอสูรเทพที่น่าทึ่งอีก ทำให้ทุกคนรู้สึกเสียดาย
มันเรียกคัมภีร์อัญเชิญฉายประกายแสงระยิบระยับต่อหน้าทุกคน
เมื่อเห็นเจ้าหมาสกปรกที่เป็นอสูรเทพนี้เรียกคัมภีร์อัญเชิญชั้นแพลตตินัมออกมาผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดรวมทั้งราชาจื่อฟงรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก เพราะในบรรดานักสู้ปราณฟ้าหลายคน มีเพียงราชาทั้งสี่เช่นจื่อฟงและชิงหลางเท่านั้นที่มีคัมภีร์อัญเชิญแต่อย่างมากก็แค่มีคัมภีร์อัญเชิญชั้นเงิน ไม่ต้องพูดถึงชั้นทอง หรือชั้นแพลตตินัม
คนมีพรสวรรค์ในภูมิภาคสวนสวรรค์ถูกดึงไปช่วยทำสงครามอีกทั้งนักสู้ปราณฟ้าก็ทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ยาก
ยิ่งไปกว่านั้นนักสู้ระดับราชาบางพวกที่เป็นคนรุ่นหลังซึ่งสามารถทำสัญญากับคัมภีร์ได้แต่ไม่ทันได้เติบโตก้าวหน้าและมีผู้ถือครองคัมภีร์อัญเชิญลดน้อยลงไปมากและยิ่งเป็นนักสู้ระดับราชาก็ยิ่งมีน้อยมาก
“อสูรเทพมาถึง ข้านับว่าเลินเล่อจริงๆข้าต้องขออภัย” พ่อบ้านเย่รีบไปพาหัวหน้าจินฟันทองและบ่าวรับใช้คนอื่นๆ มากล่าวขออภัยฮุยไท่หลาง
“เมี้ยว!”ฮุยไท่หลางทำท่าทางหยิ่งภูมิใจที่มันเรียนรู้จดจำมาจากเย่ว์หยางจากนั้นปล่อยเจ้านายออกมาจากโลกคัมภีร์
ทุกคนมองดูคุณชายไตตันผู้ถูกลอบฆ่าอย่างกระวนกระวายและหวังว่าเขาจะไม่โกรธ
คาดกันว่าคุณชายอย่างเขาคงไม่เคยพบเรื่องตื่นเต้นอย่างนี้มาก่อน
ก่อนนี้หากไม่ใช่เพราะอสูรเทพเกรงว่าคุณชายจากแดนสวรรค์บนคงถูกโจมตีได้รับบาดเจ็บหนัก แต่เมื่อเย่ว์หยางออกมาได้เขาหัวเราะทันที “ไม่เลว, น่าตื่นเต้นดีคิดไม่ถึงเลยว่าในงานเลี้ยงวันเกิดยังจะมีนักฆ่าแฝงตัวเข้ามาด้วยน่าสนุกจริงๆ ว่าแต่จับนักฆ่าได้หรือไม่?ข้าอยากจะสอบสวนด้วยตนเองสักหน่อย ข้าเตรียมแส้และปากแร้งไว้แล้ว อยากจะดูว่าพอทรมานไปแล้วจะเหมือนกับอะไร!”
หลังจากได้ยินคำพูดของคุณชายไตตัน ทุกคนโล่งใจและระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้ง
เขาไม่เป็นอะไร
แต่งานวันเกิดที่มีนักฆ่าเข้ามาก่อกวนคงจะไม่สนุกแน่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นก็ยากจะจัดการได้ง่ายๆ
ราชาจื่อฟงถอนหายใจโล่งอก เขาถูกโจมตีได้รับบาดเจ็บยังเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าคุณชายได้รับบาดเจ็บขึ้นมานั่นเป็นเรื่องแย่ เขาเดินเข้ามาหาและกล่าวขออภัยพลางถอนหายใจกล่าว “ศัตรูลอบเร้นเข้ามาได้จื่อฟงไม่สามารถหยุดได้จริงๆ นับว่ายังโชคดีที่น้องไตตันไม่ได้รับบาดเจ็บ บัดนี้มือสังหารหนีไปได้โดยไม่เหลือร่องรอย ทั้งยังจับสนมรักของข้าจื่อฟงไปด้วย...”
เขาอธิบายสาเหตุและผลกระทบของเรื่องราว
แน่นอนว่าเขาสงสัยว่าอีกฝ่ายคงจะเป็นคนจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์พวกเขาตั้งใจเข้ามาสังหารคุณชายไตตันและโยนความผิดไปให้จักรพรรดิฟู่โฉว
เรื่องนี้ต้องบอกกล่าวแต่ต้องไม่ใช่ต่อหน้าราชาชิงหลางและคนอื่นๆ
รอสบโอกาสเขาค่อยลอบบอกคุณชายไตตัน
ตอนนี้เขายังไม่แพ้
มีคุณชายไตตันยืนอยู่ฝ่ายเขาเองทั้งยังมีสุดยอดนักสู้อย่างมารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพสนับสนุนถ้าอย่างนั้นเขายังสู้ได้
“เลือดเทพถูกชิงเอาไป ก็แล้วไปเถอะ ไม่เป็นไรข้าจะส่งให้ท่านอีกหยดหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเสียใจเกินไป ส่วนท่านหญิงจูกวง เป็นเพราะเราโชคไม่ดี ข้าไตตันไม่สบายใจถ้ามีเบาะแส ข้าควรจะไปตามหาคนที่เกาะกลางจื่อฟง ข้าต้องช่วยนางออกมาอย่างปลอดภัย โจรนักฆ่ากลุ่มนี้เหิมเกริมเกินไป ถึงกับใช้แผนการกับเรา ข้าตัดสินใจสู้กับพวกมันให้ถึงที่สุด มิฉะนั้นพวกมันคงคิดว่าคุณชายไตตันผู้นี้สามารถกลั่นแกล้งรังแกกันได้! จงกวน! ไประดมกลุ่มนักรบของเรามา ข้าจะถล่มเกาะกลาง! เย่ว์หยางนายใหญ่โบกมือให้สัญญาณนั่นหมายความว่าสมรภูมิถูกกำหนดไว้ที่เกาะกลางแห่งบึงหยุดลม การต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่จบ!
ราชาจื่อฟงมีนิสัยใจเข้มแข็งเหมือนเหล็กปลาบปลื้มใจเป็นที่สุดคุณชายไตตันกระตือรือร้นจริงๆ มีสหายอย่างเขาก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีกแล้ว
ราชาชิงหลางและราชาอื่นพากันอิจฉา
จื่อฟงโชคดีอะไรอย่างนี้คุณชายผู้นี้ทั้งที่เลือดเทพถูกชิงเอาไป เขายังไม่กล่าวตำหนิ แต่กลับบอกว่าจะให้เพิ่มอีกหนึ่งหยด
ถ้าไม่ใช่เพราะคนผู้นี้ได้รับบาดเจ็บทั้งยังไม่ทันได้ดูดซับเลือดเทพบางทีคุณชายไตตันคงจะให้เลือดเทพเขาเป็นการปลอบใจก็ได้ โอวพระเจ้า! จื่อฟงช่างมีโชคเทียมฟ้าแท้ๆ เมื่อครู่นี้ทำไมหวีเจ้าไม่แทงเขาให้ตายไปเลย?
ชิงหลางว่านเจียวและโหลวลั่วลอบมองหน้ากันเอง
พวกเขามองเห็นจุดอ่อนของจื่อฟงแล้ว
ต้องเป็นที่หัวใจอย่างแน่นอน
หวีเฉาคนทรยศย่อมรู้จักจื่อฟงดีที่สุด ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่โจมตีจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของจื่อฟง
สำหรับนักสู้ปราณฟ้าธรรมดาหัวใจย่อมไม่ใช่จุดอ่อน แต่สำหรับนักสู้ชั้นราชาระดับหนึ่งไม่ว่าหัวใจของเขาจะถูกบดขยี้เพียงใดก็ตาม พวกเขาจะไม่เป็นอะไร ตัวอย่างเช่นราชาชิงหลางเองอาจถูกบดขยี้หัวใจได้ อย่างไรก็ตามจื่อฟงที่เป็นถึงราชากลับถูกทำร้ายได้ นี่ถ้าไม่มีมารสัมฤทธิ์ฟ้าอยู่ด้วยจื่อฟงคงจะถูกโจมตีบดขยี้อย่างหนักไปแล้ว
ถ้าต้องการจะฆ่าจื่อฟงผู้นี้ให้ได้จริงๆ เขาจะต้องโจมตีที่หัวใจอีกครั้ง
ตอนนี้เขาเพียงแต่ฝืนอาการบาดเจ็บโดยไม่แสดงออกเท่านั้นเอง
ราชาจื่อฟงมองดูชิงหลางและพวกอย่างเย็นชาและทั้งที่หลายคนมองเห็น เขาลอบบอกเย่ว์หยางทางลมปราณ นอกจากเย่ว์หยางแล้วไม่มีคนอื่นได้ยิน เย่ว์หยางพยักหน้าให้จื่อฟง ดวงตาของเขาเริ่มเย็นชามากขึ้นชิงหลางและพวกนักสู้ปราณฟ้าอื่นถึงกับลอบสะท้านใจ
จื่อฟงผู้นี้ต้องการโยนบาปตัวเองหรือ?หรือว่ามีเบาะแสที่น่าสงสัยที่เขาค้นพบแล้ว
ไม่มีใครรู้ความจริง
อย่างไรก็ตามคุณชายไตตันมีปฏิกิริยาตอบสนองในท่ามกลางกลุ่มผู้คนทันที เขาชูกำปั้นและยิ้มเหี้ยมเกรียม ทำให้คนในที่นั้นหนาวสะท้าน“โอว..ช่างน่าสนใจจริงๆเมื่อเป็นอย่างนั้นเราต้องเตรียมการให้พร้อมสำหรับสงครามอย่างจริงจังเสียแล้ว ข้าไม่ได้จริงจังมาเป็นเวลานานแล้ว หลายคนต้องการจะท้าทายข้าไตตัน แต่ว่าจะมีสักกี่คนที่ได้หัวเราะในที่สุด?”
ฝูงชนในที่นั้นต่างประหลาดใจเมื่อพบว่าเมื่อคุณชายจริงจังพวกเขารู้สึกได้ถึงพลังกดดันและอารมณ์ที่กราดเกรี้ยว
แม้ว่าพลังของเขาจะไม่สูงคาดว่าเป็นระดับเตรียมปราณฟ้า แต่เขามีสมบัติวิเศษและนักสู้ปราณฟ้ามากมาย
อย่าว่าแต่นักสู้ปราณฟ้าธรรมดาเลยแม้แต่นักสู้ระดับราชาอย่างราชาชิงหลางก็ยังรู้สึกได้ถึงรังสีฆ่าฟันสยบขวัญของคุณชายไตตันผู้นี้ได้และรู้สึกหวาดหวั่นในหัวใจ
แดนสวรรค์บนไม่มีคนอ่อนแอเลยจริงๆ
ประโยคนี้
ย่อมพูดถูกแน่นอน
รอจนพ่อบ้านเย่และคนอื่นจัดเตรียมเรือเหาะใหญ่เสร็จพวกเขาเตรียมตัวออกเดินทางสู่เกาะกลางแห่งบึงหยุดลมทันที
หมิงลี่ฮ่าวผู้ซ่อนตัวดื่มกินเสร็จเพิ่งจะออกมา และแอบชูกำปั้นให้เย่ว์หยางในขณะที่คนอื่นไม่สนใจ “เด็กน้อย,ลูกไม้ของเจ้าประสบผลสำเร็จอย่างงดงามสิ่งที่ข้าชื่นชมมากที่สุดก็คือพวกมือสังหารเหล่านั้นทำงานประสานความร่วมมือเป็นอย่างดีเจ้าใช้เหตุผลคิดคำนวณออกไหม?”
“ใช้สมองเจ้าคิดดูสิ” เย่ว์หยางชูนิ้วกลางให้สำหรับคนขี้เกียจผู้นี้
“ถ้าฝ่ายนั้นจะปรากฏตัว เจ้าใช้คนแค่นี้จะพอหรือ?” หมิงลี่ฮ่าวปล่อยให้เย่ว์หยางค่อนแคะและเขาไม่รู้สึกโกรธต่อไป
“แล้วเจ้าเล่า!เป็นอะไรไป ถ้าเจ้าเกียจคร้าน เราคุณชายจะไม่พูดอะไรอีกต่อไป และจะออกไปทันทีทั้งจะยกคัมภีร์เทพทั้งหมดให้กับเจ้า ถ้าเจ้ามีความสามารถก็ฆ่าเจ้าพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ที่แอบลอบโจมตีลับหลังเจ้าเพื่อแย่งชิงคัมภีร์เทพได้เลย” เย่ว์หยางเตือนหมิงลี่ฮ่าวไม่ให้แกล้งเฉยเมยเป็นตาย มิฉะนั้นเขาจะแฉ หมิงลี่ฮ่าวเกรงเรื่องนี้ที่สุดเขารีบโบมือพัลวัล “เฮ้, คุณชายสาม มีบางอย่างจะต้องบอกกันไว้ก่อนอย่าเพิ่งโกรธกัน ก่อนหน้านั้นข้าไม่ได้ขี้เกียจแต่ทำตามแผนของเจ้า นอกจากนี้ สนมจูกวงนั่นยังไม่ได้จากไป เมื่อข้าปรากฏตัวขึ้นนางจะมองแผนการออก นั่นเป็นเรื่องแย่ไม่ใช่หรือ? ต่อไปข้าจะเชื่อฟังเจ้าก็แล้วกันถ้าเจ้าให้ข้าไปทางตะวันออก รับรองว่าข้าไม่ไปทางตะวันตกแน่ เจ้าให้ข้าหุบปากรับรองได้ว่าไม่มีอะไรรั่วไหลจากปากข้า!”
“ที่นี่มีคัมภีร์เทพอยู่จริงๆ หรือ?” จักรพรรดิมังกรยังไม่ค่อยเชื่อ
“ข้าหวังว่าตอนนี้ภูมิภาคสวนสวรรค์จะไม่มีอยู่จริง” เย่ว์หยางรู้สึกว่าถ้าไม่มีคัมภีร์เทพย่อมเป็นเรื่องดีที่สุด เขาไม่ต้องการลงมือกับจีอู๋ลี่สุดยอดนักสู้ฝีมือไม่ธรรมดาผู้นี้
“เรื่องคัมภีร์เทพข้าไม่สนใจ แต่เจ้าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ข้าอยากจะลองฝีมือกับเขาดู” นี่คือคำพูดของคนที่คลั่งไคล้การต่อสู้อย่างมารสัมฤทธิ์ฟ้า เขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำสัญญากับคัมภีร์เทพ นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เย่ว์หยางปวดเศียรเวียนเกล้า เขาไม่ต้องการคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เจ้าตำหนักของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ก็มีฝีมือร้ายกาจจริงๆ เขาเองก็อยากท้าทาย
“จะมีโอกาสแน่ ถ้าเจ้าไม่กลัวถูกโจมตีข้าสามารถบอกได้ว่านั่นไม่ใช่เรื่องดีแน่ คาดว่าเจ้ายังไม่สามารถสู้กับเจ้าตำหนักได้” หมิงลี่ฮ่าวรู้ว่ายอดฝีมือระดับเจ้าตำหนักจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งมากขนาดไหน
“ขู่พวกเขาไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก พวกเขาฆ่ายอดฝีมือระดับรองเจ้าตำหนักไปสองคนแล้วและนั่นคือความภูมิใจของพวกเขา พวกเขาไม่เชื่อว่าพวกเขาจะโดนคุกคามได้”เย่ว์หยางหัวเราะอารมณ์ดี
“พวกเจ้าฆ่ารองเจ้าตำหนักไปสองคนแล้วหรือ?” หมิงลี่ฮ่าวประหลาดใจตาค้าง
รองเจ้าตำหนักกลางฝีมือใช้ไม่ได้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?
มิน่าเล่ามารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้นี้ถึงกล้าพูดว่าจะท้าทายเจ้าตำหนัก!
ฟงจีและจินหวินที่เพิ่งเข้าร่วมกลุ่มใหม่ๆหลั่งน้ำตา คนพวกนี้เป็นใครกันแน่? ถึงกล้าต่อกรกับตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์? อนาคตของพวกเขาช่างมืดมน
ขณะที่เย่ว์หยาง มารสัมฤทธิ์ฟ้าหมิงลี่ฮ่าวและคนอื่นกำลังพูดคุยกันถึงแผนต่อไปทันใดนั้นมีเสียงสวดกล่อมโลกดังกังวาลไปทั่ว เป็นเสียงที่ดังมาจากที่ไกลเหมือนสายน้ำพร่างพรมวิญญาณชำระจิตใจให้ผู้คนทุกคน
สองพี่น้องกระทิงเถื่อนกำลังดื่มกินอย่างมูมมามกระโดดผางทันที“เทวีเสรีภาพมาแล้ว!”