ตอนที่แล้วตอนที่ 947 มือสังหารพลังสาป หักหลัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 949 แรงบันดาลใจสุดยอด

ตอนที่ 948 เทวีเสรีภาพ?


มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิมังกรมองหน้ากันเองเงียบๆ

พ่อบ้านเย่เพิ่งจะหายตกตะลึงเขาลุกขึ้นยืนตัวสั่น “ฝ่าบาท! ท่านมีคำพูดอะไรจะสั่งเสียโปรดเชื่อใจท่านมารสัมฤทธิ์ฟ้าเถิด ข้าเองต้อยต่ำด้อยพลังเกรงว่ายากจะรับภาระที่หนักหนาสาหัสได้”

พ่อบ้านเย่แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสับสนแต่ก็ยังไม่หมดสติไปเสียก่อน

ในห้วงเวลาวิกฤติเช่นนี้

เขาเลือกมารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้ทรงพลังไว้ก่อน

ตอนนี้คุณชายไตตันยังไม่ปรากฏตัว  ชิงหลาง ว่านเจียว โหลวลั่ว ราชาทั้งสามถ้าพวกเขาเข้าแทรกแซงเกรงว่าไม่เพียงแต่เมืองลู่หลิวเท่านั้น แต่ทั่วทั้งอาณาจักรจื่อฟงอาจถูกสามราชานี้กวาดล้างได้ แน่นอนว่าการขอให้มารสัมฤทธิ์ฟ้าและคุณชายไตตันกลับมาจัดการเพื่อทุกคนยังจะดีกว่า เขาเชื่อว่าราชาจื่อฟงสามารถทำตามความปรารถนาได้อย่างสมบูรณ์

“หรือว่าเจ้ายังภักดีอยู่อีก...”  ราชาจื่อฟงยิ้มเจ็บปวดและลุกขึ้นยืนทันที

พลังกายของเขาระเบิดออกมาเหมือนกับเปลวไฟและเขาที่อ่อนแอเหมือนคนใกล้ตายก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ใช่เพราะที่หลังของเขามีมีดอาบยาพิษแทงปักคาไว้ยังมีเลือดไหลออกอยู่หลายคนคงคิดว่าตนเองตาฝาด

พ่อบ้านเย่ เจ้าเมืองและนักรบปราณฟ้าอดโห่ร้องไม่ได้

ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเขาไม่ยินดีกับการตายของราชาจื่อฟง

ถ้าราชาจื่อฟงตายอย่างนั้นพวกเขาจะต้องเปลี่ยนเจ้านาย

หลังจากเปลี่ยนผู้นำความรุ่งเรืองในวันนี้บางทีจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น  คุณชายไตตันและมารสัมฤทธิ์ฟ้ายังพอฝากฝังความเชื่อใจได้“คาดว่าพวกเขาคงจะไม่สนใจครอบครองเมืองลู่หลิวและเมืองอื่นๆ  ทุกคนไม่ว่าจะเป็นราชาชิงหลางว่านเจียวและโหลวลั่วสามารถยึดอาณาจักรนี้ได้ ตอนนี้พวกเขาเกรงว่าเจ้าเมืองบางแห่งจะถูกแทนที่คนที่นี่จะถูกกำจัดและสังหาร ไม่มีใครต้องการเห็นภาพเช่นนี้เมื่อเห็นว่าราชาจื่อฟงลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แน่นอนว่าทุกคนย่อมมีความสุข

ชิงหลาง ว่านเจียวและโหลวลั่วรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

แต่พวกเขาสายตาแหลมคม

เขาสังเกตเห็นรายละเอียดบางอย่างว่านักรบจากหอทงเทียนยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก

จื่อฟงนี้ฟื้นขึ้นมาแล้วก็จริงแต่เขาฟื้นฟูพลังได้จริงๆ หรือเปล่า? เป็นไปไม่ได้ หัวใจของเขาถูกมีดอาบยาพิษแทงจื่อฟงไม่ใช่คนที่มีร่างเป็นคุณสมบัติธาตุที่เด่นชัดเป็นไปไม่ได้ที่จะมีภูมิต้านทานพิษ นักฆ่าถือว่าลงมือประสบผลสำเร็จมาก

ราชาจื่อฟงในตอนนี้แค่แข็งใจยืนขึ้น

อย่างไรก็ตามเมื่อยังมีมารสัมฤทธิ์ฟ้าและพวก   ชิงหลางกับราชาอื่นไม่กล้าเคลื่อนไหวขณะนั้นพวกเขายังไม่เห็นจุดอ่อนของจื่อฟง

“ท่านมารสัมฤทธิ์ฟ้า! ในใจของข้าจื่อฟงอยากจะขออภัยหมื่นครั้ง แต่พูดออกมาจากปากไม่ได้เหตุการณ์ในวันนี้เป็นความผิดของข้าจื่อฟงคนเดียว น่าละอายจริงๆที่ต้องทำให้คุณชายไตตันและอาคันตุกะผู้มีเกียรติต้องกังวลใจ วันนี้จื่อฟงหวังว่าคุณชายไตตันคงปลอดภัยไม่เป็นอะไร  ทุกอย่างเรายังควบคุมไว้ได้  ข้าไม่ทราบว่าจะหาร่องรอยคุณชายไตตันได้อย่างไร?”  ราชาจื่อฟงพูดเช่นนี้ ทุกคนพากันเงียบ  ราชาจื่อฟงไม่มีอะไรต้องห่วงอีกต่อไป แต่อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติอย่างคุณชายไตตันเพิ่งได้รับการช่วยเหลือไปเขาไม่มีอะไรต้องกังวล มิฉะนั้นเมืองลู่หลิวคงพบกับหายนะแน่นอน

“ด้วยการคุ้มกันของฮุยไท่หลางไม่มีอะไรต้องกังวล” จักรพรรดิมังกรอยู่ในท้องพระโรงมาครู่หนึ่งแล้ว ขณะที่มารสัมฤทธิ์ฟ้าออกไปอย่างรวดเร็ว

สิบนาทีต่อมา

มารสัมฤทธิ์ฟ้าพาฮุยไท่หลางซึ่งกลับคืนสู่รูปลักษณ์ปกติไม่ใช่รูปอสูรเทพที่น่าทึ่งอีก ทำให้ทุกคนรู้สึกเสียดาย

มันเรียกคัมภีร์อัญเชิญฉายประกายแสงระยิบระยับต่อหน้าทุกคน

เมื่อเห็นเจ้าหมาสกปรกที่เป็นอสูรเทพนี้เรียกคัมภีร์อัญเชิญชั้นแพลตตินัมออกมาผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดรวมทั้งราชาจื่อฟงรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก  เพราะในบรรดานักสู้ปราณฟ้าหลายคน มีเพียงราชาทั้งสี่เช่นจื่อฟงและชิงหลางเท่านั้นที่มีคัมภีร์อัญเชิญแต่อย่างมากก็แค่มีคัมภีร์อัญเชิญชั้นเงิน ไม่ต้องพูดถึงชั้นทอง หรือชั้นแพลตตินัม

คนมีพรสวรรค์ในภูมิภาคสวนสวรรค์ถูกดึงไปช่วยทำสงครามอีกทั้งนักสู้ปราณฟ้าก็ทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ยาก

ยิ่งไปกว่านั้นนักสู้ระดับราชาบางพวกที่เป็นคนรุ่นหลังซึ่งสามารถทำสัญญากับคัมภีร์ได้แต่ไม่ทันได้เติบโตก้าวหน้าและมีผู้ถือครองคัมภีร์อัญเชิญลดน้อยลงไปมากและยิ่งเป็นนักสู้ระดับราชาก็ยิ่งมีน้อยมาก

“อสูรเทพมาถึง ข้านับว่าเลินเล่อจริงๆข้าต้องขออภัย” พ่อบ้านเย่รีบไปพาหัวหน้าจินฟันทองและบ่าวรับใช้คนอื่นๆ มากล่าวขออภัยฮุยไท่หลาง

“เมี้ยว!”ฮุยไท่หลางทำท่าทางหยิ่งภูมิใจที่มันเรียนรู้จดจำมาจากเย่ว์หยางจากนั้นปล่อยเจ้านายออกมาจากโลกคัมภีร์

ทุกคนมองดูคุณชายไตตันผู้ถูกลอบฆ่าอย่างกระวนกระวายและหวังว่าเขาจะไม่โกรธ

คาดกันว่าคุณชายอย่างเขาคงไม่เคยพบเรื่องตื่นเต้นอย่างนี้มาก่อน

ก่อนนี้หากไม่ใช่เพราะอสูรเทพเกรงว่าคุณชายจากแดนสวรรค์บนคงถูกโจมตีได้รับบาดเจ็บหนัก  แต่เมื่อเย่ว์หยางออกมาได้เขาหัวเราะทันที  “ไม่เลว, น่าตื่นเต้นดีคิดไม่ถึงเลยว่าในงานเลี้ยงวันเกิดยังจะมีนักฆ่าแฝงตัวเข้ามาด้วยน่าสนุกจริงๆ  ว่าแต่จับนักฆ่าได้หรือไม่?ข้าอยากจะสอบสวนด้วยตนเองสักหน่อย ข้าเตรียมแส้และปากแร้งไว้แล้ว อยากจะดูว่าพอทรมานไปแล้วจะเหมือนกับอะไร!”

หลังจากได้ยินคำพูดของคุณชายไตตัน ทุกคนโล่งใจและระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้ง

เขาไม่เป็นอะไร

แต่งานวันเกิดที่มีนักฆ่าเข้ามาก่อกวนคงจะไม่สนุกแน่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นก็ยากจะจัดการได้ง่ายๆ

ราชาจื่อฟงถอนหายใจโล่งอก เขาถูกโจมตีได้รับบาดเจ็บยังเป็นเรื่องเล็ก  แต่ถ้าคุณชายได้รับบาดเจ็บขึ้นมานั่นเป็นเรื่องแย่  เขาเดินเข้ามาหาและกล่าวขออภัยพลางถอนหายใจกล่าว  “ศัตรูลอบเร้นเข้ามาได้จื่อฟงไม่สามารถหยุดได้จริงๆ นับว่ายังโชคดีที่น้องไตตันไม่ได้รับบาดเจ็บ  บัดนี้มือสังหารหนีไปได้โดยไม่เหลือร่องรอย ทั้งยังจับสนมรักของข้าจื่อฟงไปด้วย...”

เขาอธิบายสาเหตุและผลกระทบของเรื่องราว

แน่นอนว่าเขาสงสัยว่าอีกฝ่ายคงจะเป็นคนจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์พวกเขาตั้งใจเข้ามาสังหารคุณชายไตตันและโยนความผิดไปให้จักรพรรดิฟู่โฉว

เรื่องนี้ต้องบอกกล่าวแต่ต้องไม่ใช่ต่อหน้าราชาชิงหลางและคนอื่นๆ

รอสบโอกาสเขาค่อยลอบบอกคุณชายไตตัน

ตอนนี้เขายังไม่แพ้

มีคุณชายไตตันยืนอยู่ฝ่ายเขาเองทั้งยังมีสุดยอดนักสู้อย่างมารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพสนับสนุนถ้าอย่างนั้นเขายังสู้ได้

“เลือดเทพถูกชิงเอาไป ก็แล้วไปเถอะ ไม่เป็นไรข้าจะส่งให้ท่านอีกหยดหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเสียใจเกินไป  ส่วนท่านหญิงจูกวง เป็นเพราะเราโชคไม่ดี ข้าไตตันไม่สบายใจถ้ามีเบาะแส ข้าควรจะไปตามหาคนที่เกาะกลางจื่อฟง ข้าต้องช่วยนางออกมาอย่างปลอดภัย  โจรนักฆ่ากลุ่มนี้เหิมเกริมเกินไป ถึงกับใช้แผนการกับเรา  ข้าตัดสินใจสู้กับพวกมันให้ถึงที่สุด มิฉะนั้นพวกมันคงคิดว่าคุณชายไตตันผู้นี้สามารถกลั่นแกล้งรังแกกันได้!  จงกวน! ไประดมกลุ่มนักรบของเรามา ข้าจะถล่มเกาะกลาง! เย่ว์หยางนายใหญ่โบกมือให้สัญญาณนั่นหมายความว่าสมรภูมิถูกกำหนดไว้ที่เกาะกลางแห่งบึงหยุดลม  การต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่จบ!

ราชาจื่อฟงมีนิสัยใจเข้มแข็งเหมือนเหล็กปลาบปลื้มใจเป็นที่สุดคุณชายไตตันกระตือรือร้นจริงๆ มีสหายอย่างเขาก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีกแล้ว

ราชาชิงหลางและราชาอื่นพากันอิจฉา

จื่อฟงโชคดีอะไรอย่างนี้คุณชายผู้นี้ทั้งที่เลือดเทพถูกชิงเอาไป เขายังไม่กล่าวตำหนิ แต่กลับบอกว่าจะให้เพิ่มอีกหนึ่งหยด

ถ้าไม่ใช่เพราะคนผู้นี้ได้รับบาดเจ็บทั้งยังไม่ทันได้ดูดซับเลือดเทพบางทีคุณชายไตตันคงจะให้เลือดเทพเขาเป็นการปลอบใจก็ได้  โอวพระเจ้า! จื่อฟงช่างมีโชคเทียมฟ้าแท้ๆ เมื่อครู่นี้ทำไมหวีเจ้าไม่แทงเขาให้ตายไปเลย?

ชิงหลางว่านเจียวและโหลวลั่วลอบมองหน้ากันเอง

พวกเขามองเห็นจุดอ่อนของจื่อฟงแล้ว

ต้องเป็นที่หัวใจอย่างแน่นอน

หวีเฉาคนทรยศย่อมรู้จักจื่อฟงดีที่สุด ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่โจมตีจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของจื่อฟง

สำหรับนักสู้ปราณฟ้าธรรมดาหัวใจย่อมไม่ใช่จุดอ่อน  แต่สำหรับนักสู้ชั้นราชาระดับหนึ่งไม่ว่าหัวใจของเขาจะถูกบดขยี้เพียงใดก็ตาม พวกเขาจะไม่เป็นอะไร  ตัวอย่างเช่นราชาชิงหลางเองอาจถูกบดขยี้หัวใจได้  อย่างไรก็ตามจื่อฟงที่เป็นถึงราชากลับถูกทำร้ายได้  นี่ถ้าไม่มีมารสัมฤทธิ์ฟ้าอยู่ด้วยจื่อฟงคงจะถูกโจมตีบดขยี้อย่างหนักไปแล้ว

ถ้าต้องการจะฆ่าจื่อฟงผู้นี้ให้ได้จริงๆ  เขาจะต้องโจมตีที่หัวใจอีกครั้ง

ตอนนี้เขาเพียงแต่ฝืนอาการบาดเจ็บโดยไม่แสดงออกเท่านั้นเอง

ราชาจื่อฟงมองดูชิงหลางและพวกอย่างเย็นชาและทั้งที่หลายคนมองเห็น เขาลอบบอกเย่ว์หยางทางลมปราณ นอกจากเย่ว์หยางแล้วไม่มีคนอื่นได้ยิน เย่ว์หยางพยักหน้าให้จื่อฟง ดวงตาของเขาเริ่มเย็นชามากขึ้นชิงหลางและพวกนักสู้ปราณฟ้าอื่นถึงกับลอบสะท้านใจ

จื่อฟงผู้นี้ต้องการโยนบาปตัวเองหรือ?หรือว่ามีเบาะแสที่น่าสงสัยที่เขาค้นพบแล้ว

ไม่มีใครรู้ความจริง

อย่างไรก็ตามคุณชายไตตันมีปฏิกิริยาตอบสนองในท่ามกลางกลุ่มผู้คนทันที  เขาชูกำปั้นและยิ้มเหี้ยมเกรียม  ทำให้คนในที่นั้นหนาวสะท้าน“โอว..ช่างน่าสนใจจริงๆเมื่อเป็นอย่างนั้นเราต้องเตรียมการให้พร้อมสำหรับสงครามอย่างจริงจังเสียแล้ว  ข้าไม่ได้จริงจังมาเป็นเวลานานแล้ว   หลายคนต้องการจะท้าทายข้าไตตัน  แต่ว่าจะมีสักกี่คนที่ได้หัวเราะในที่สุด?”

ฝูงชนในที่นั้นต่างประหลาดใจเมื่อพบว่าเมื่อคุณชายจริงจังพวกเขารู้สึกได้ถึงพลังกดดันและอารมณ์ที่กราดเกรี้ยว

แม้ว่าพลังของเขาจะไม่สูงคาดว่าเป็นระดับเตรียมปราณฟ้า แต่เขามีสมบัติวิเศษและนักสู้ปราณฟ้ามากมาย

อย่าว่าแต่นักสู้ปราณฟ้าธรรมดาเลยแม้แต่นักสู้ระดับราชาอย่างราชาชิงหลางก็ยังรู้สึกได้ถึงรังสีฆ่าฟันสยบขวัญของคุณชายไตตันผู้นี้ได้และรู้สึกหวาดหวั่นในหัวใจ

แดนสวรรค์บนไม่มีคนอ่อนแอเลยจริงๆ

ประโยคนี้

ย่อมพูดถูกแน่นอน

รอจนพ่อบ้านเย่และคนอื่นจัดเตรียมเรือเหาะใหญ่เสร็จพวกเขาเตรียมตัวออกเดินทางสู่เกาะกลางแห่งบึงหยุดลมทันที

หมิงลี่ฮ่าวผู้ซ่อนตัวดื่มกินเสร็จเพิ่งจะออกมา และแอบชูกำปั้นให้เย่ว์หยางในขณะที่คนอื่นไม่สนใจ “เด็กน้อย,ลูกไม้ของเจ้าประสบผลสำเร็จอย่างงดงามสิ่งที่ข้าชื่นชมมากที่สุดก็คือพวกมือสังหารเหล่านั้นทำงานประสานความร่วมมือเป็นอย่างดีเจ้าใช้เหตุผลคิดคำนวณออกไหม?”

“ใช้สมองเจ้าคิดดูสิ” เย่ว์หยางชูนิ้วกลางให้สำหรับคนขี้เกียจผู้นี้

“ถ้าฝ่ายนั้นจะปรากฏตัว  เจ้าใช้คนแค่นี้จะพอหรือ?”  หมิงลี่ฮ่าวปล่อยให้เย่ว์หยางค่อนแคะและเขาไม่รู้สึกโกรธต่อไป

“แล้วเจ้าเล่า!เป็นอะไรไป ถ้าเจ้าเกียจคร้าน เราคุณชายจะไม่พูดอะไรอีกต่อไป และจะออกไปทันทีทั้งจะยกคัมภีร์เทพทั้งหมดให้กับเจ้า ถ้าเจ้ามีความสามารถก็ฆ่าเจ้าพวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ที่แอบลอบโจมตีลับหลังเจ้าเพื่อแย่งชิงคัมภีร์เทพได้เลย” เย่ว์หยางเตือนหมิงลี่ฮ่าวไม่ให้แกล้งเฉยเมยเป็นตาย  มิฉะนั้นเขาจะแฉ  หมิงลี่ฮ่าวเกรงเรื่องนี้ที่สุดเขารีบโบมือพัลวัล “เฮ้, คุณชายสาม มีบางอย่างจะต้องบอกกันไว้ก่อนอย่าเพิ่งโกรธกัน  ก่อนหน้านั้นข้าไม่ได้ขี้เกียจแต่ทำตามแผนของเจ้า นอกจากนี้ สนมจูกวงนั่นยังไม่ได้จากไป เมื่อข้าปรากฏตัวขึ้นนางจะมองแผนการออก นั่นเป็นเรื่องแย่ไม่ใช่หรือ? ต่อไปข้าจะเชื่อฟังเจ้าก็แล้วกันถ้าเจ้าให้ข้าไปทางตะวันออก รับรองว่าข้าไม่ไปทางตะวันตกแน่ เจ้าให้ข้าหุบปากรับรองได้ว่าไม่มีอะไรรั่วไหลจากปากข้า!”

“ที่นี่มีคัมภีร์เทพอยู่จริงๆ หรือ?”  จักรพรรดิมังกรยังไม่ค่อยเชื่อ

“ข้าหวังว่าตอนนี้ภูมิภาคสวนสวรรค์จะไม่มีอยู่จริง” เย่ว์หยางรู้สึกว่าถ้าไม่มีคัมภีร์เทพย่อมเป็นเรื่องดีที่สุด เขาไม่ต้องการลงมือกับจีอู๋ลี่สุดยอดนักสู้ฝีมือไม่ธรรมดาผู้นี้

“เรื่องคัมภีร์เทพข้าไม่สนใจ แต่เจ้าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ข้าอยากจะลองฝีมือกับเขาดู” นี่คือคำพูดของคนที่คลั่งไคล้การต่อสู้อย่างมารสัมฤทธิ์ฟ้า เขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำสัญญากับคัมภีร์เทพ   นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เย่ว์หยางปวดเศียรเวียนเกล้า   เขาไม่ต้องการคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เจ้าตำหนักของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ก็มีฝีมือร้ายกาจจริงๆ  เขาเองก็อยากท้าทาย

“จะมีโอกาสแน่ ถ้าเจ้าไม่กลัวถูกโจมตีข้าสามารถบอกได้ว่านั่นไม่ใช่เรื่องดีแน่ คาดว่าเจ้ายังไม่สามารถสู้กับเจ้าตำหนักได้” หมิงลี่ฮ่าวรู้ว่ายอดฝีมือระดับเจ้าตำหนักจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งมากขนาดไหน

“ขู่พวกเขาไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก พวกเขาฆ่ายอดฝีมือระดับรองเจ้าตำหนักไปสองคนแล้วและนั่นคือความภูมิใจของพวกเขา พวกเขาไม่เชื่อว่าพวกเขาจะโดนคุกคามได้”เย่ว์หยางหัวเราะอารมณ์ดี

“พวกเจ้าฆ่ารองเจ้าตำหนักไปสองคนแล้วหรือ?”  หมิงลี่ฮ่าวประหลาดใจตาค้าง

รองเจ้าตำหนักกลางฝีมือใช้ไม่ได้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?

มิน่าเล่ามารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้นี้ถึงกล้าพูดว่าจะท้าทายเจ้าตำหนัก!

ฟงจีและจินหวินที่เพิ่งเข้าร่วมกลุ่มใหม่ๆหลั่งน้ำตา  คนพวกนี้เป็นใครกันแน่? ถึงกล้าต่อกรกับตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์?  อนาคตของพวกเขาช่างมืดมน

ขณะที่เย่ว์หยาง มารสัมฤทธิ์ฟ้าหมิงลี่ฮ่าวและคนอื่นกำลังพูดคุยกันถึงแผนต่อไปทันใดนั้นมีเสียงสวดกล่อมโลกดังกังวาลไปทั่ว เป็นเสียงที่ดังมาจากที่ไกลเหมือนสายน้ำพร่างพรมวิญญาณชำระจิตใจให้ผู้คนทุกคน

สองพี่น้องกระทิงเถื่อนกำลังดื่มกินอย่างมูมมามกระโดดผางทันที“เทวีเสรีภาพมาแล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด