ตอนที่ 946 เหตุเปลี่ยนแปลง
“คุณชายไตตันกำลังเพลิดเพลินกับการเที่ยวชมแดนสวรรค์ล่างจนมาถึงภูมิภาคสวนสวรรค์ มิทราบว่าคุณชายมีที่หมายใดอยู่หรือไม่?” ชิงหลางและพวกมองหน้ากันและตัดสินใจสอบถาม
“ไม่เลย, แต่ตู๋กูฉางฟงขอให้ข้าไปยังเมืองไป๋เหอข้าคิดว่าจะไปที่นั่นต่อ ถ้าราชาชิงหลางมีคำแนะนำอะไรดีๆ ในชีวิตของข้าไตตันให้ความสนใจเรื่องราวลึกลับต่างๆ ข้าต้องการไปดูเช่นกัน” ตอนแรกเย่ว์หยางพูดว่าไม่ชิงหลางก็ยังไม่แน่ใจ แต่พอพูดเช่นนี้พวกเขาเชื่อว่าคุณชายผู้นี้คงได้รับเชิญจริงๆ และไม่มีความเข้าใจสถานการณ์ของภูมิภาคสวนสวรรค์แม้แต่น้อย
“ตู๋กูฉางฟง! คุณชายฉางฟงแห่งสี่ตระกูลใหญ่ใช่ไหม?” ราชาโหลวลั่วถามด้วยความไม่แน่ใจเล็กน้อย
“ท่านราชาโหลวลั่วเคยพบเจอเขามาก่อนหรือ?” เย่ว์หยางถามด้วยความประหลาดใจ
“ไม่,แต่ดูเหมือนว่ามีสี่ตระกูลระดับสูงเป็นอาคันตุกะของจักรพรรดิเสิ่นกวงอาจจะเป็นคุณชายฉางฟงก็ได้” ราชาโหลวลั่วต้องการรู้สถานะของเย่ว์หยางผ่านเรื่องเหล่านี้
“เจ้าผู้นี้มีผมเป็นงูมีทางเป็นไปได้ที่อาจเป็นเขา นอกจากเขาแล้ว มีคนในตระกูลใหญ่ไม่กี่คนหรอกที่วิ่งพล่านไปทั่วเหมือนคนบ้า เมืองไป๋เหออยู่ไกลจากที่นี่และไม่มีประตูเทเลพอร์ตผ่านเข้าไปได้ ข้าสงสัยว่ามีจุดเที่ยวชมวิวพิเศษอยู่ในที่ใกล้เคียงหรือไม่?ไม่เช่นนั้นใช้เรือเหาะบินทุกวัน และอุดอู้อยู่แต่ในเรือ มันช่างน่าอึดอัดเสียจริง”คำพูดของเย่ว์หยางทำให้ราชาชิงหลางและพวกลอบดีใจ
งานเลี้ยงวันเกิดเขาไม่สามารถทำลายได้
เขาต้องการล่อลวงคุณชายไตตันผู้นี้!
หยดเลือดเทพย่อมเป็นของที่ดี แต่คุณชายเย่ว์ไตตันย่อมมีเลือดเทพมากกว่าหนึ่งหยดแน่ ถ้าเขาพอใจเขาอาจจะยอมปล่อยออกมาเพื่อใช้ช่วยชีวิตได้
ไม่ต้องพูดอะไรเรื่องอื่นตราบเท่าที่ดึงชาวสวรรค์บนเป็นแนวร่วมได้ ผลรับใหญ่จะตามมา
คุณชายไตตันผู้นี้เหมือนกับไม่มีอะไรที่เขาทำได้ตราบเท่าที่เขาอยากทำ ย่อมไม่มีอะไรผิด
“จุดชมวิวท่องเที่ยวของแดนสวรรค์ล่างจะเทียบกับแดนสวรรค์บนได้อย่างไร และภูมิภาคสวนสวรรค์หยาบกร้านเกินกว่าจะทนมอง หากต้องการสำรวจล่าขุมทรัพย์คุณชายไตตันอาจไปตามแนวบึงหยุดลมได้ กล่าวกันว่ายังมีร่างเทพอยู่ร่างหนึ่ง แน่นอนว่านี่เป็นตำนานเมื่อหมื่นปีที่แล้วไม่มีใครยืนยัน ถ้าคุณชายไตตันสนใจ ข้าชิงหลางขออาสานำทางคุณชายไตตันชื่นชมทิวทัศน์ไปด้วย สำรวจความลึกลับไปด้วย และมุ่งไปยังเมืองไป๋เหอก็ยังไม่สาย” คำพูดของชิงหลางนับว่าพูดมากเกินจนราชาจื่อฟงแทบบันดาลโทสะทันที
บัดซบ!
นี่อาคันตุกะของเจ้าหรือ?คิดชิงอาคันตุกะชั้นสูงกันต่อหน้าต่อตาอย่างนี้เชียวหรือ?
ไร้ยางอายเขาไม่น่าจะไร้ยางอายมากมายถึงขนาดนี้!เขาควรจะรู้ว่านี่คือที่ไหน? นี่มันบ้านของข้า!
ราชาจื่อฟงโมโหจริงๆ
แทบจะตบโต๊ะลุกขึ้นยืน
“ราชาชิงหลาง!น่าสนใจดี, เมื่อพูดถึงบึงหยุดลม คนที่คุ้นเคยกับมันต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ นั่นก็คือราชาของข้า!” สนมจูกวงกระตุกมือราชาจื่อฟงไม่ให้เคลื่อนไหวเพื่อแสดงอุบายของนางในฐานะเจ้าบ้านย่อมต้องได้เปรียบอยู่แล้ว และนี่โอกาสจะมาถึงเขาเอง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้วบึงหยุดลมก็อยู่ในเขตปกครองของข้าเอง ถ้าน้องไตตันสนใจเที่ยวชม ข้าจื่อฟงจะไม่กล้าไปพร้อมกับเจ้าได้อย่างไร ข้าจื่อฟงก็ใส่ใจมิตรภาพตลอดมาไม่ใช่หรือ? ราชาชิงหลางข้าได้ยินมาว่ามีความวุ่นวายสับสนในพื้นที่นั้น แล้วยังไม่มีความสงบข้าไม่คาดหวังว่าจะสนุกเท่าใดนัก ช่างแย่จริงๆ” ราชาจื่อฟงเพราะได้ตอบโต้ตามคำแนะนำของสนมจูกวงถึงกับอารมณ์ดีหัวเราะได้ เขายังบอกเย่ว์หยางต่อ “จื่อฟงเติบโตที่นี่ตั้งแต่เด็กย่อมคุ้นเคยกับที่นี่ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของจักรพรรดิเสิ่นกวง ถ้ามีร่างเทพอยู่ในบึงหยุดลมจื่อฟงได้รับอนุญาตให้เป็นเจ้าของ แต่ข้าไม่รู้เรื่องสมบัติวิเศษและข้ายินดีจะร่วมเดินทางกับน้องไตตัน”
“ความจริงแล้วมีร่างเทพหรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ได้เที่ยวชมดูทิวทัศน์ที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์นั่นก็เพียงพอแล้ว”เย่ว์หยางกล่าวทำนองว่าเขาไม่เชื่อว่าจะมีร่างเทพอยู่ที่นี่ ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นแต่รวมทั้งราชาจื่อฟงอีกด้วย พวกเขาไม่เชื่อเรื่องนั้น และเชื่อว่านั่นเป็นแค่เรื่องล้อเล่น ถ้ามีจริงตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ที่มีจมูกไวยิ่งกว่าสุนัขคงยึดครองทั้งหมดไปแน่นอน
แต่ในบึงหยุดลมยังเต็มไปด้วยปรากฏการณ์ประหลาดอย่างแน่นอน
คล้ายกับปริศนาลี้ลับ
แต่นั่นเป็นความจริง!
“หลังจากงานเลี้ยงวันเกิดแล้วจื่อฟงจะร่วมทางกับน้องไตตันพาท่องเที่ยวเอง” ราชาจื่อฟงให้คำมั่นในฐานะเจ้าภาพ
“ข้ากับสหายยินดีจะร่วมทางด้วย”ชิงหลางกับพวกพ้องไม่ยอมเสียเปรียบ
“มีคนร่วมทางมากขึ้นอาจจะไม่สะดวกสบายอยู่บ้าง” เย่ว์หยางรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณที่ตระกูลมีชื่อเสียงให้การสนับสนุนตอบรับด้วยดี แต่เพราะไม่คุ้นเคยกับการของร่วมทางของชิงหลางว่านเจียวและโหลวลั่ว ทำให้เขามีสีหน้ายุ่งยากเล็กน้อยและดูเหมือนกว่าคงไม่ดีนักที่จะปฏิเสธ เขาลอบพยักหน้าให้ราชาจื่อฟงอย่างจนใจ
งานเลี้ยงวันเกิดมีผู้คนผลัดกันดื่มอวยพร
สนมจูกวงได้รับการอวยพรจากเจ้าเมืองนักสู้ปราณฟ้าและคนอื่นๆ นับไม่ถ้วน นางรู้สึกตื่นเต้น
แม้ขณะแสดงการร่ายรำขับฟ้อนบทเพลงบรรเลงก็ไพเราะ ขณะร่ายรำดูราวกับว่าเป็นสายลมโบกพัดน่าตื่นตาอลังการ
ชิงหลางกับพวกมีแววปรารถนาในดวงตาลึกแน่นมากขึ้นทุกขณะพวกเขามองหน้ากันและพยักหน้าให้กันเหมือนกับมีแผนอยู่แล้ว ราชาจื่อฟงลอบมองตาพวกเขายอย่างตื่นตัวและส่งสายตาให้หวีเฉาหัวหน้าองครักษ์ที่เขาไว้วางใจที่สุด หวีเฉามีพลังปราณฟ้าระดับสี่แต่ไม่ยินยอมจะเป็นผู้บัญชาการทหาร เขายินดีจะแสดงความภักดีแค่ราชาจื่อฟงคนเดียวเขาทำหน้าที่เป็นผู้นำนักสู้ระดับปราณฟ้า 18คนทำหน้าที่คุ้มกันราชาจื่อฟงและยืนอารักขาอยู่หน้าหยดเลือดเทพ
เจ้าแคว้นที่อยู่ใกล้หลายคนมาร่วมแสดงความยินดีกับราชาจื่อฟงและคารวะคุณชายไตตัน
นี่ยังคงอยู่ในภาวะสงครามไม่อย่างนั้นจะมีเจ้าแคว้นมาร่วมมากกว่านี้
พลังของเจ้าแคว้นบางคนแข็งแกร่ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าราชาชิงหลางว่านเจียวและโหลวลั่ว พวกเขาได้แต่หมองประกาย เจ้าแคว้นเหล่านี้ยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน ไม่สนใจต่อสู้เพื่อเลือดเทพ
“ฝ่าบาท,เมื่อคุณชายไตตันใช้เลือดเทพร่วมแสดงความยินดี ทำไมท่านถึงไม่เอามาอวดต่ออาคันตุกะพิเศษของท่าน?” สนมจูกวงยิ้มเล็กน้อยนางมีเหงื่อซึมหลังจากร่ายรำ นางแค่ขอให้คุณชายไตตันมอบเลือดเทพให้ราชาจื่อฟงด้วยมือตนเองนั่นคือจุดสำคัญที่สุดในงานฉลองวันเกิด จากนั้นงานฉลองวันเกิดที่ทุกคนรอคอยมายาวนานจะเริ่มต้นฉลองอย่างเป็นทางการ
“ยกยอเกินไปแล้ว แค่ของขวัญเล็กน้อยเท่านั้น” เย่ว์หยางแสดงสีหน้าเหมือนกับชอบให้คนอื่นชื่นชมตนเองยิ่งชื่นชมก็ยิ่งภูมิใจ ด้วยความที่เป็นตระกูลชั้นสูงมีชื่อเสียงย่อมต้องชอบความโดดเด่นกว่าใครในกลุ่มเป็นธรรมดา
“ของขวัญของน้องไตตันข้ารู้สึกซาบซึ้งขอบคุณ ข้าเกรงว่าคนในโลกทราบแล้วจะหัวเราะเยาะข้าได้ที่ข้าผู้เป็นเจ้าภาพมีมารยาทหยาบกร้าน”
ราชาจื่อฟงเห็นเย่ว์หยางมีสีหน้าร่าเริงคล้อยตามคำเยินยอ มีแต่มารสัมฤทธิ์ฟ้าที่ยังมีสีหน้าเฉยเมย
เขารู้สึกว่าแม้เลือดเทพนี้จะต้องมาอยู่ในกระเป๋าของเขา แต่เมื่อคุณชายไตตันจงใจมอบให้ มารสัมฤทธิ์ฟ้าย่อมไม่มีความเห็น
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคนอย่างคุณชายไตตันให้ของขวัญแล้วถ้าชิงหลาง ว่านเจียวและโหลวลั่วบังอาจคิดไม่ซื่อ อย่างนั้นก็คงยกโทษให้ไม่ได้มีทั้งมารสัมฤทธิ์ฟ้าและคุณชายไตตัน จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพอยู่ที่นั่นใครก็ตามที่กล้าชิงเลือดเทพ ก็เท่ากับตบหน้าคนเหล่านั้น
มีคนอย่างมารสัมฤทธิ์ฟ้าและพวกสามคน พวกชิงหลางกับพวกคงต้องยั้งคิดไม่กล้าแตะต้องเลือดเทพเป็นแน่
ราชาจื่อฟงยืนขึ้นและเดินเข้ามาหาเย่ว์หยางเอง
เตรียมตัวจะรับเลือดเทพ
ส่วนสนมจูกวงยังคงยืนอยู่ด้านหลังราชาจื่อฟงมีสีหน้ายอมรับ
ชิงหลางกับพวกนัยน์ตาเป็นประกายแต่ทำอะไรไม่ได้แค่มารสัมฤทธิ์ฟ้า ก็เพียงพอทำให้พวกเขาต้องปวดเศียรเวียนเกล้าและเลือดเทพมีเพียงหยดเดียว ใครจะกล้าเป็นศัตรูกับมารสัมฤทธิ์ฟ้าจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพ พวกเขาจะกล้าอาจเอื้อมหรือ?
ยิ่งกว่านั้นพลังของจื่อฟงเองพวกเขาก็ยังประมาทไม่ได้
ถ้ามีคนพยายามก่อกวนขัดขวางอย่างนั้นเขาคงไม่สามารถออกไปได้ คงจะติดอยู่ในวังลู่หลิวแห่งนี้
แม้ว่าจะรู้สึกไม่สบายใจแต่ชิงหลาง ว่านเจียวและโหลวลั่วก็ยังลุกขึ้นยืนยิ้มและปรบมือและกล่าวแสดงความยินดีกับเหตุการณ์ที่เห็น
พ่อบ้านเย่รู้สึกตื่นเต้นที่ได้รู้จักคุณชายไตตัน เขารู้สึกว่าตนมีโชคดีที่ได้รับงานจัดเก็บเลือดเทพเขาเดินเข้ามาพร้อมกับหัวหน้าองครักษ์หวีเฉาคำนับแสดงความเคารพจากนั้นรับขวดหยกที่บรรจุเลือดเทพเขาหายใจลึกสามครั้งก่อนรับขวดหยกด้วยมือสั่นเทา นี่เป็นของล้ำค่าที่ไม่เคยปรากฏมีมาก่อน แม้ว่าเลือดเทพที่ใสสว่างจะมีเพียงหยดเดียว แต่เขากลับมีความรู้สึกว่ากำลังถือภูเขาทั้งลูกไว้ในมือ
จากนั้นเดินเข้ามาถึงคุณชายไตตัน
เป็นระยะทางสั้นๆ
การเดินระยะไม่เกินสิบเมตรนี้พ่อบ้านเย่รู้สึกว่านี่เป็นการเดินทางที่ไกลที่สุดในชีวิตของเขา
แน่นอนว่าถ้าทำได้เขาสามารถเดินอย่างนี้ได้ตลอดชีวิตโดยไม่รู้จักเบื่อหน่าย แต่แน่นอนว่าคงจะเป็นไปไม่ได้ ยิ่งเข้าไปใกล้คุณชายไตตันฝีเท้าของพ่อบ้านเย่ยิ่งมั่นคงมากขึ้นเขาแสดงความเคารพอาคันตุกะจากแดนสวรรค์บนด้วยมารยาทเคารพสูงสุดและจากนั้นยื่นมือรับเลือดเทพจากคุณชาย เขาส่งให้ราชาจื่อฟงอย่างเป็นทางการนั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่างานฉลองวันเกิดนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์
เขาใกล้เข้าไปทุกที
พ่อบ้านเย่พยายามข่มใจควบคุมลมหายใจไม่ให้เต้นเร็วเกินไป
เขาพยายามทำท่าเดินให้สงบที่สุดขณะที่เข้าหาคุณชายไตตัน
“บังอาจ”
ทันใดนั้นมารสัมฤทธิ์ฟ้าตวาดด้วยความโกรธในทันใด
มิติพื้นที่ดูเหมือนจะเกิดระลอกคลื่น มีเงาร่างที่โปร่งใสมาจากข้างนอกเข้ามาในห้องโถงจัดเลี้ยงและรีบตรงไปที่พ่อบ้านเย่ที่กำลังถือเลือดเทพ
ขณะที่ร่างเงาโปร่งแสงกำลังจะยื่นมือจับกล่องทองในมือของพ่อบ้านเย่ พ่อบ้านเย่ไม่ทันได้สังเกต อย่างไรก็ตามชิงหลางและนักสู้ปราณฟ้าคนอื่นๆ แค่นเสียงไม่พอใจหลายคนพุ่งออกมาโจมตีร่างเงาโปร่งแสงจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพจับร่างเงาโปร่งแสงกดลงกับพื้น
ต้องการจะชิงเลือดเทพต่อหน้าต่อตาคนหรือ?
ไม่ต้องดูว่ามันอยู่ที่ไหน
อย่างไรก็ตามปรากฏโจรคนใหม่อีกที่ด้านหนึ่ง!