ตอนที่ 5 ทางเลือกของเฉินเหวิน
ตอนที่ 5 ทางเลือกของเฉินเหวิน
【ชื่อสัตว์เลี้ยง】: หมีพิโรธ
【คุณสมบัติของสัตว์อสูร】: ทอง ดิน
【ระดับศักยภาพ】: ธรรมดา
【พรสวรรค์สัตว์อสูร】: ทรงพลัง
【ลักษณะนิสัย】 : บ้าคลั่ง
[ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสัตว์อสูร]: สัตว์อสูรเป็นสัตว์ที่พบได้ทั่วไปในจีน ตราบเท่าที่ยังถูกกินและไล่ล่า และ พวกมันก็เชื่องและเลี้ยงง่าย แต่อย่างไรก็ตาม พวกมันมีความบ้าคลั่งในการต่อสู้ แต่ข้อเสียของพวกมันก็คืิอ เคลื่อนไหวค่อนข้างช้า
พลังโจมตี และพลังป้องกันของหมีพิโรธนั้น มีการแข่งขันสูงมากในหมู่สัตว์อสูรระดับต่ำ ลักษณะนิสัยที่บ้าคลั่ง แต่พวกมันก็สามารถเอาชนะข้อบกพร่องด้านความเร็วของพวกมันได้อีกด้วย
มีเหตุผลว่าหมีพิโรธเช่นนี้ควรได้รับความนิยมอย่างมากจากบีสมาสเตอร์ระดับทั่วไป
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากความช้า แล้วเจ้าหมีพิโรธยังมีข้อบกพร่องอื่นๆอีกหลายอย่างอีกด้วย และมันอาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตอีกด้วย หากกำหราบมันไม่อยู่หมัด
ข้อบกพร่องร้ายแรงนี้คือ ระดับศักยภาพของเจ้าหมีพิโรธเนั้นต่ำมาก ยกเว้นบางตัวที่มีความสามารถเป็นเลิศ ระดับศักยภาพของพวกมันส่วนใหญ่นั้นเป็นเพียงหมีธรรมดาๆ ก็เท่านั้น หลังจากที่บีสมาสเตอร์ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับมืออาชีพแล้ว เขาจะไม่สามารถเลี้ยงพวกมันได้อีก
ดังนั้น มีเพียงอสูรฝึกที่มีอยู่ไม่มากนัก ที่เกิดในครอบครัวฐานะปานกลาง ที่จะเลือกที่จะทำพันธสัญญากับเจ้าหมีพิโรธได้
สัตว์เลี้ยงในโรงเพาะพันธุ์ไม่ได้ถูกขังไว้ในกรงเหล็ก แต่ถูกเลี้ยงในเซฟเฮ้าส์ ซึ่งส่วนใหญ่จะล้อมรอบด้วยผนังกระจก เพื่อควบคุมสภาวะทางธรรมชาติ เช่น อุณหภูมิ และความชื้นที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตของพวกมัน
ตามเส้นทางบนแผนที่ เฉินเหวินและเหอเซิ่งรีบไปที่โรงเพาะพันธุ์ซึ่งเก็บหมีพิโรธไว้.........
ระหว่างทางเฉินเหวินถามด้วยความสงสัย:
"เหอเซิ่ง.....ทำไมนายถึงระบุหมีพิโรธ พี่จูหวู่เคยกล่าวว่าสัตว์อสูรตัวแรกควรเป็นสัตว์ที่มีศักยภาพโดดเด่น"
ขณะที่พูด เฉินเหวินชี้ไปที่ภาพประกอบของเสือโหยหวน และลิงพ่นไฟในหนังสือ ระดับศักยภาพของทั้งสองนี้อยู่ระหว่างระดับพิเศษที่ยอดเยี่ยม และระดับพิเศษที่หายาก และศักยภาพของพวกมันนั้นสูงกว่าหมีพิโรธอย่างเห็นได้ชัด
เหอเซิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มองไปรอบๆ ว่าไม่มีใครอยู่แล้วเข้าไปใกล้หูของเฉินเหวิน
“เฉินเหวิน ....ฉันจะบอกนายเอาไว้อย่าบอกใครไปนะ!”
เฉินเหวินพยักหน้าและพูดว่า: "นายก็รู้จักฉันดี ขนาดที่ฉันสามารถเก็บเรื่องที่นายฉี่รดที่นอนตอนอายุเจ็ดขวบมาเป็นเวลาสิบปีแล้ว เพราะฉะนั้นอย่ามาลูกเล่น มีอะไรก็จงบอกมา!"
ใบหน้าของเหอเซิ่งแดงขึ้นทันที จากนั้นเขาก็ตบไหล่ของเฉินเหวินด้วยเสียงเข้ม....
ถ้าไม่ใช่เพราะการเตรียมการแต่เนิ่นๆ ของเฉินเหวิน เขาคงถูกเหอเซิ่งแบล็กเมล์นานแล้ว
เฉินเหวินหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า "ฉันจะไปดูหมีพิโรธ นายได้เรียนรู้วิธีกำหราบมันหรือยัง""ตะคอก!"
เหอเซิ่งตะคอกเสียงดังกลับ: "ใครฉี่รดที่นอนตอนอายุเจ็ดขวบ? ฮึ!นายยังต้องการฟังข้อมูลอย่างอื่น
อีกมั้ยเนี้ยะ พูดจาแบบนี้"
เฉินเหวินถูไหล่ที่เจ็บของเขาแล้วพูดว่า: "เออ ๆ ฉันล้อเล่นมีอะไรพูดมาเดี๋ยวนี้!"
เหอเซิ่งเข้าใกล้หูของเฉินเหวินอีกครั้ง และพูดด้วยเสียงแผ่วเบา: "ลูกพี่ลูกน้องของฉันหยูฮวยเป็นนักเพาะพันธุ์สัตว์อสูรที่มหาวิทยาลัยมณฑลซีฉวน และเขาก็สามารถเอาน้ำผึ้งร้อยดอกไม้ให้ฉัน... เขากำลังศึกษาเส้นทางวิวัฒนาการของหมีพิโรธกับอาจารย์ของเขา และขณะนี้การวิจัยอยู่ในระหว่างดำเนินการ โดยสรุปแล้ว ได้ส่งเส้นทางวิวัฒนาการให้สมาคมพัฒนาพันธุ์สัตว์ตรวจสอบแล้ว"
"เยี่ยมมากเลย นายมีลูกพี่ลูกน้องที่เลี้ยงสัตว์อสูรด้วยเหรอเนี่ย!"
เฉินเหวินมีความสุขกับเหอเซิ่ง มีญาติเป็นผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรเอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ในอนาคตเป็นแน่
ผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรเป็นอาชีพสำหรับวิจัย สามารถ ฝึกฝนความรู้ และทักษะระดับมืออาชีพในการเพาะเลี้ยงสัตว์อสูร และช่วยให้พวกมันมีวิวัฒนาการที่เป็นเลิศได้อีกด้วย
ผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรนั้นแตกต่างจากบีสมาสเตอร์ ก็ตรงที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ดังเช่นบีสมาสเตอร์ แต่พวกเขาต้องมีความรู้เบื้องต้นในวิชาชีพนี้เท่านั้น
“ฮ่าฮ่า พี่หยูฮวยใจดีกับฉันมากนะ!”
ด้วยรอยยิ้ม เหอเซิ่งพูดกับเฉินเหวิน: "เฉินเหวิน ถ้านายไม่คิดมาก ฉันว่านายก็น่าจะสามารถทำพันธสัญญากับหมีพิโรธได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำผึ้งร้อยดอกไม้แม้แต่หยดเดียว!"
“ได้สิ... แต่นายเคยบอกว่าอยากลองดูก่อนไม่ใช่เหรอ?” เฉินเหวินยิ้ม "ใช่น่ะซิเพราะถ้าเราทำพันธสัญญาเลยมันก็จะไม่มีโอกาสได้ลองดูนะ!"
เหอเซิ่งทำหน้ามึนไม่โต้ตอบ...
เฉินเหวินส่ายหัวเบา ๆ เขารู้ว่าเหอเซิ่งตรียมน้ำผึ้งร้อยดอกไม้นี้ไว้ให้เขาเป็นพิเศษ ไม่ว่าเขาจะโลภมากเพียงใด แต่เขาก็มีน้ำใจกับเพื่อนเสมอ
ทั้งสองเดินและพูดคุยกัน และหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงโรงเพาะพันธุ์ขนาดเล็กทางทิศตะวันตก
เมื่อมองผ่านผนังกระจก จะมีเนินหินลูกเล็กๆ อยู่ตรงมุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสนามหญ้าสีเขียว และหมีน้อยเจ็ดตัวกำลังเล่นอยู่บนนั้น
นอกประตูเหล็กของโรงเพาะพันธุ์ มีนักเรียนเก้าคนเข้าแถวแล้ว และด้านหน้าแถวคือ เจ้าหน้าที่ของโรงเพาะพันธุ์ในเสื้อคลุมสีขาว
เฉินเหวินก้าวไปข้างหน้าและตบไหล่นักเรียนคนสุดท้ายในแถวคนหนึ่ง แล้วถามว่า "เฮ้.. นายตอนนี้ที่นี่เป็นไงบ้าง!"
เขาหันมาเป็นเด็กผู้ชายที่มีสิวเกรอะบนใบหน้า เขาพูดว่า: "สัตว์อสูรในพันธสัญญาก็ต้องเข้าคิว มาก่อนได้ก่อน!"
เฉินเหวินขมวดคิ้วและพึมพำ"ตอนนี้มีลูกหมีพิโรธเพียงเจ็ดตัว แต่มีคนเข้าคิวรอยาวเหยียดขนาดนี้..."
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเขาจะได้เปรียบที่สุด ที่ถามพนักงานเกี่ยวกับกลยุทธ์ แต่เมื่อมองไปที่แถวที่อยู่ด้านหน้านั้นมันแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย
มันต้องเข้าคิวอย่างเดียวถึงจะได้มันมา
การถามเกี่ยวกับกลยุทธ์นั้นมีประโยชน์กับเขา แต่มันกลับให้ผลตรงกันข้ามกับเหอเซิ่งที่เตรียมการไว้นานแล้ว
เหอเซิ่งโบกมือและพูดว่า: "ไม่เป็นไร เจ้าหมีพิโรธไม่ต้องเรื่องมากเรื่องพันธสัญญา แต่จะมีใครทำมันได้สำเร็จเท่านั้น "
เขาพูดกับเฉินเหวิน: "แล้วนายตัดสินใจที่จะทำพันธสัญญากับเจ้านั่นหรือเปล่าล่ะ หากนายไม่แน่ใจก็ลองเดินสำรวจดูรอบๆ ก่อนก็ได้นะ แล้วค่อยว่ากันต่อ "
เฉินเหวินพยักหน้า......เมื่อมองแถวที่ยาวเหยียดแล้วเดินออกไป......
แม้ว่าเขาจะมีน้ำผึ้งร้อยดอกไม้แต่ทว่า ... ศักยภาพของหมีพิโรธก็ไม่ต่ำตามเส้นทางวิวัฒนาการ แต่มันไม่ได้อยู่ในรายชื่อสัตว์อสูรในพันธสัญญาที่ได้ฟรีน่ะสิ!
พรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรของเขาน่าจะสามารถสร้างคุณสมบัติ ทักษะ พรสวรรค์ และสายเลือดของพวกมันได้
คุณลักษณะของเจ้าหมีพิโรธนั้นไม่เลว แต่ความสามารถ และทักษะของมันนั้นค่อนข้างธรรมดา ในฐานะบีสมาสเตอร์ ทำไมมันถึงบ้าคลั่งได้ขนาดนั้น?
มันเพียงพอแล้วสำหรับสัตว์อสูรที่จะทำสิ่งต่าง ๆ เช่นการต่อสู้ แต่ในฐานะบีสมาสเตอร์ สิ่งที่เขาต้องการคือความสง่างาม
ก่อนมาโรงเพาะพันธุ์ เฉินเหวินมีแผนในใจอยู่แล้วเชียว
เฉินเหวินมีพรสวรรค์อยู่หลายอย่าง เช่น การหลบหลีก การแปลงร่าง การควบคุมไฟ การควบคุมน้ำ...
เขาชอบความสามารถ และทักษะทั้งหมด แต่เขาไม่สามารที่จะยิงปืนครั้งเดียวได้นกหลายตัวได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกสิ่งที่เหมาะสมกว่าก่อนเท่านั้น
หลังจากชั่งใจอยู่นาน เขาตัดสินใจว่าสัตว์อสูรตัวแรกจะเลือกทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรประเภทมีปีกได้ซึ่งมีศักยภาพที่ดีกว่า
เหตุผลที่เลือกสัตว์อสูรประเภทมีปีกก็เพื่อความปลอดภัยในอนาคตเป็นหลัก
อาชีพของบีสมาสเตอร์ ยังคงอันตรายมาก ไม่ต้องพูดถึงดินแดนลี้ลับที่เต็มไปด้วยภยันตราย อีกทั้งการต่อสู้ระหว่างบีสมาสเตอร์ด้วยกันเองที่ลอบกัดปล่อยสัตว์อสูรลอบสังหารก็มี
ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในฐานะบีสมาสเตอร์ก็คือความปลอดภัยของตัวเองนั่นเอง!
บีสมาสเตอร์ทั่วไปจะสวมชุดเกราะ หรือเรียนรู้วิธีการหลบหลีก หรือปล่อยให้สัตว์อสูรปกป้องตนเอง
เฉินเหวินแตกต่างออกไป เขามีพรสวรรค์ในการ "พันธนาการ" และเขาก็มีทักษะและพรสวรรค์ที่ได้มาฟรีๆอีกด้วย
ดังนั้น เตรียมทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรประเภทมีปีกจะเป็นสัตว์อสูรตัวแรกของเขา
ถ้าเขาจำไม่ผิด ในข่าวที่เขาเห็นเมื่อวานนี้ เคยมีคนสามารถทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรประเภทมีปีกได้ตั้งแต่แรกเกิดก็มี
หลังจากทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรประเภทมีปีก เขาก็จะสามารถใช้ทักษะการบินหรือพรสวรรค์อื่นๆได้แบบอิสระ
เมื่อมีภยันตรายในป่า เขาสามารถปล่อยให้พวกมันไปเพื่อซุ่มโจมตีก่อน เป็นผู้ล่าย่อมดีกว่าที่จะเป็นเหยื่อมิใช่หรือ อีกทั้งเพื่อช่วยยืดเวลาในการหากลยุทธ์เพื่อเอาชนะศัตรู
เมื่อเทียบกับการล่าถอยโดยตรง โดยสัตว์อสูรประเภทมีปีกนั้นย่อมปลอดภัยกับตัวเองกว่าสองเท่า
เมื่อพลิกดูคู่มือ เฉินเหวินเดินตามแผนที่ไปยังเนินเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเพาะพันธุ์
“อีกาอัคคี !”