ตอนที่ 941 ที่นี่เหมือนกับครอบครัว
จงกวนและคนอื่นอิจฉาจนน้ำลายหก แต่เลือดมังกรโบราณไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะทนรับได้
พวกเขาชอบยาเม็ดพลังยุทธ
ไม่มีผลกระทบพิเศษ
เลือดมังกรโบราณแม้ว่าจะดี แต่กระทิงเถื่อนสองพี่น้องหลอมรวมแล้วจะทำให้กล้ามเนื้อเพิ่มเป็นสองเท่า
โชคดีที่สองพี่น้องกระทิงเถื่อนต่อให้อยู่ในสภาพน่าเกลียดแต่พวกเขาไม่สนใจว่าอาการที่แสดงออกมาจะเป็นยังไง ตราบเท่าที่มีพลังเพิ่มขึ้น ทุกอย่างนับว่าไม่เป็นไร
แน่นอนว่าถึงแม้ยาเม็ดพลังยุทธจะเป็นของดีแต่นี่ไม่ใช่กะหล่ำปลีที่ปลูกตามสวน คุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นผู้ปรุงขึ้น และเขาใช้เป็นรางวัล พูดง่ายๆก็คือต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการทำงานคนเกียจคร้านไม่มีทางทำให้คุณชายสามพยักหน้าด้วยความพอใจได้ ตรงกันข้ามนั่นมักเป็นจุดเริ่มต้นของการถูกทำโทษ
“กลุ่มพลังเทพนี้ดึงออกมาจากสองพี่น้องกระทิงเถื่อนหรือ?” เย่ว์หยางกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์จุ้ยมาวอี้ประหลาดใจเล็กน้อย พี่น้องกระทิงเถื่อนมีพลังเทพอยู่ในร่างกายได้อย่างไร?”
“เทวีเสรีภาพ” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฉลาด คาดเดาครั้งเดียวก็ถูกต้อง
“อาจเป็นไปได้ว่าก่อนนั้นสองพี่น้องกระทิงเถื่อนได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตาย ดังนั้นเทวีเสรีภาพจึงใช้พลังนี้ช่วยรักษาชีวิตของพวกเขาไว้” เย่ว์หวี่ผู้มีทักษะแฝงเร้นทางรักษารู้สึกว่าพลังเทพที่ไม่รู้จักนี้ความจริงเป็นพลังที่ใช้ในการรักษา วัตถุประสงค์ไม่ได้ใช้เพื่อต่อสู้ แต่ใช้ฟื้นฟูพลังชีวิตสิ่งที่ทำให้นางมั่นใจอย่างที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือในพลังเทพที่ถูกรวบรวมอยู่ในมือของเย่ว์หยางไม่มีสำนึกพลังเทพอื่นเหลืออยู่และมีแต่พลังเทพที่มีสรรพคุณทางรักษาเยียวยาเท่านั้นที่ก่อตัวขึ้น”
“ถูกแล้ว นี่เป็นพลังเยียวยารักษาแน่นอน”เย่ว์หยางพยักหน้า”
“พลังเทพนี้ถ้ามีประโยชน์ต่อสองพี่น้องกระทิงเถื่อนจริงๆเจ้าจะดึงออกมาทำไม?” จุ้ยมาวอี้ถามด้วยความสงสัย
“นี่คือพลังเทพที่มีคุณสมบัติอ่อนโยนและมีข้อจำกัดซึ่งไม่เหมาะกับสองพี่น้องกระทิงเถื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องกระทิงเถื่อนที่มีพลังเทพอยู่ในตัวมากสุด พลังนี่กลายเป็นเหมือนแม่เลี้ยงไปโดยไม่รู้ตัว คนผู้ให้พลังเทพแก่พวกเขาอาจพยายามจะช่วยชีวิตพวกเขารู้ว่านี่ไม่ใช่วิธีที่ดี แต่คงไม่มีวิธีที่ดีไปกว่านี้ อาจเป็นไปได้ว่าเขาไม่รู้ความจริงและใช้พลังเทพนี้ช่วยสองพี่น้องไปโดยไม่รู้ตัวไม่ว่ายังไงก็ตามการมีอยู่ของพลังเทพนี้ไม่เพียงแต่เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของพลังเท่านั้นแต่ยังส่งผลต่อบุคลิกและอุปนิสัยของพวกเขาอย่างแท้จริง ข้าช่วยดึงพลังเทพนี่ออกมาถือเป็นการช่วยสงเคราะห์พวกเขาอย่างใหญ่หลวงแล้ว นอกจากนี้ข้าไม่ได้เอาพลังเทพของพวกเขามาเปล่าๆ ข้าใช้เลือดมังกรโบราณแลกเปลี่ยนได้มาไม่ใช่หรือ?”เย่ว์หยางหัวเราะเหมือนตัวร้าย
เลือดมังกรโบราณแลกกับพลังเทพน่ะหรือ?
พูดอย่างนั้นออกมาได้หน้าหนาสมกับเป็นคุณชายสามตระกูลเย่ว์จริงๆ
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเย่ว์หวี่และจุ้ยมาวอี้ชินกับนิสัยของเขานานแล้ว พวกนางคร้านเกินกว่าจะถ่มน้ำลาย ถ้าเย่ว์หยางไม่ทำเช่นนี้นั่นคงน่าสงสัยมากกว่า!
อย่างไรก็ตามพลังเทพที่เย่ว์หยางเอากลับมาจะใช้ทำอะไรได้?พลังงานประหลาดแบบนี้สามารถเปลี่ยนบุรุษให้เป็นเหมือนแม่บุญธรรม เขาจะไม่ใช้แน่นอนไม่อย่างนั้นเขาคงโชคร้ายมากกว่า
เย่ว์หยางมองดูสายตาที่แฝงไปด้วยความสงสัยของสามสาวเขาตะโกนทันที “พวกเจ้าคิดอะไร? ข้าเป็นคนดีนะ!”
เด็กหนุ่มจากโลกอื่นกล่าวว่าเมื่อเขายังเป็นเด็กเขามักช่วยพาคนแก่ข้ามถนน แม้ว่าแม่บุญธรรมเขาไม่ต้องการข้ามถนน แต่เพื่อต้องการทำความดี เขาพยายามทำดีกับนางมากที่สุด ในที่สุดนางก็บอกครูอนุบาลของเขา ทำให้เขาได้รับคำชมถึงหนึ่งสัปดาห์เขาตั้งใจศึกษาเติบโตเรียนรู้อยู่ทุกวันเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะเอาพลังเทพมาใช้ทำร้ายผู้คน?
ไม่มีทาง!
พลังเทพนี้เป็นของดี แต่สำหรับเขา ถือว่าไม่พอใช้
“พวกเจ้าต้องการจะให้ใคร? ข้าไม่ต้องการเอาไว้ใช้เองแน่นอน!” แม้ว่าพลังเทพนี้จะถูกชำระโดยเพลิงอมฤตแต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกว่านี่เป็นพลังที่สกัดมาจากสองพี่น้องกระทิงเถื่อนนางรู้สึกไม่สบายใจ และมองพลังนี้เหมือนอสรพิษ
“แม่เสือสาว เจ้ายังไม่รู้จักของดี” แม้ว่าเย่ว์หยางจะวิเคราะห์ให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟัง แต่นางไม่มีรสนิยมทางนั้น แม้ว่าพลังเทพนี้จะเป็นของดีแต่เขาไม่มีทางให้สตรีของเขาเอง สตรีของเขามีพลังดีที่สุดของตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังคนอื่น นอกจากนี้พลังเทพนี้ไม่เหมาะกับใครเลย
“เจ้าจะเอาไว้ให้อสูรของเจ้าใช้หรือเปล่า?” เย่ว์หวี่รู้ใจของเย่ว์หยางดีและพูดออกมาทันที
“ถูกแล้ว มันคืออาวุธเทพร่างอสูร ข้าได้กุ่ยหยินไฟและเพลิงแดงเทพมาด้วยและรวมทั้งบ่อเลือด ข้าต้องการยกระดับดาบเทาเถี้ย ไม่อย่างนั้นมันจะได้รับการยกระดับช้าไปเล็กน้อย ความจริงไม่เพียงแต่ดาบเทาเถี้ยเท่านั้นที่เลื่อนระดับพลัง แต่ยังมีอสูรพิทักษ์ที่เป็นบริวารของอสูรที่เขาทำสัญญาอีกที อสูรที่เลื่อนระดับพลังได้ไม่เร็ว ตอนนี้เรามีเลือดเทพและร่างเทพของชี่เทียนเหอ เลือดเทพและบ่อเลือดที่ชี่เทียนเหอสร้างไว้ ไม่มีเหตุผลใดที่เราจะสร้างของวิเศษไม่ได้และปล่อยโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้เสียเปล่า” เย่ว์หยางพูดกับตัวเองเกี่ยวกับแผนเลื่อนระดับนี้มานานแล้วเพียงแต่เงื่อนไขยังไม่พร้อมเพียงพอ จนกระทั่งบัดนี้
“ความจริงมีอสูรมากหลายที่ไม่สามารถฝึกฝนยกระดับได้เหมือนเสี่ยวเหวินหลีตั่วตั่ว อาหง อาหมัน เจี้ยงอิงและสองสาวมังกรพี่น้องอาเหยาอาหยูถ้าพวกเขาอยู่แค่เพียงหอทงเทียน ก็นับว่ามีพลังเพียงพอ แต่สำหรับในแดนสวรรค์มีแต่ศัตรูแข็งแกร่ง ถ้าอสูรไม่ได้รับการเลื่อนพลังด้วยนั่นจะมีปัญหาตามหลัง” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเห็นด้วยเช่นกัน
เพื่อให้ทุกคนก้าวหน้าได้รวดเร็ว ไม่มีเวลาไปฝึกกันที่บันไดสวรรค์เจ้าต้องเข้าไปสำรวจแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ และเอาของวิเศษออกมา” จุ้ยมาวอี้ถอนหายใจ
“แดนล่มสลายแห่งทวยเทพไม่ต้องไปคิดถึงเลย” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคิดว่ายังห่างไกลเกินไปต้องใช้ของวิเศษที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เกิดความก้าวหน้าเสียก่อน
ทุกคนบอกว่าเย่ว์หยางมีสมบัติวิเศษมากมาย
เลือดเทพก็ยังมีอีกขวดใหญ่
อย่างไรก็ตามในความเป็นจริง การแบ่งปันยังไม่เพียงพอ
เพื่อไม่ให้เป็นการถ่วงความก้าวหน้าของอสูรอย่างตั่วตั่ว อาหง อาหมัน อิคคาและเจี้ยงอิง พวกนางจะอาศัยความสามารถของตนเองฝึกฝนและก้าวหน้าได้ และการให้สมบัติวิเศษเพิ่มเติมจะทำให้พวกที่สติปัญญายังไม่เติบโตเต็มที่ฝึกฝนได้ช้าอย่างเช่นตั๊กแตนมัจจุราช, ภูตฟ้าปั่นป่วน, ดาบอสูรเทาเถี้ย, แมงป่องดาว,อสูรน้อยทงเทียนและฮุยไท่หลาง อสูรของเสวี่ยอู๋เสีย, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน,โล่วฮัว, อี้หนาน, เย่ว์หยาง, เย่ว์ซวง, นางเซียนหงฟ้า และสหายอื่นอย่างเย่คงเจ้าอ้วนไห่, เสวี่ยทันหลาง องค์ชายเทียนหลัวและพี่น้องตระกูลหลี่ การเลื่อนระดับพลังของพวกเขายังต้องอาศัยเย่ว์หยาง
แม้แต่อสูรที่ต้องทำสัญญาก็ไม่อาจมีพัฒนาการได้ดีโดยไม่มีเย่ว์หยาง
เขาต้องคอยเอาใจใส่ถึงพวกมัน
ของวิเศษนั้นก็เท่ากับไม่มีอะไรเลย
ถ้าไม่ได้เย่ว์หยางออกหน้าปล้นชิงอย่างเมามันไม่ได้เขาคอยเก็บกวาดสมบัติ ไม่ได้ความหน้าด้านใจถึงของเขา จะได้สมบัติวิเศษมาจากที่ไหน? ทุกวันนี้ทุกคนจะอยู่ในระดับไหน? ไม่มีใครอยากเป็นตัวเลวร้ายแต่ถ้าเขาไม่ยอมเป็นตัวเลวร้าย ก็จะหาทางออกไม่ได้ ในที่สุดก็มีแต่เพียงเย่ว์หยางที่ยิ่งใหญ่อยู่คนเดียว และทำเพื่อตนเอง
เป็นความเจ็บปวดจนปัญญาเย่ว์หวี่และสาวๆเข้าใจดี
อาจกล่าวได้ว่าเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
ดังนั้นไม่ว่าเย่ว์หยางจะทำอะไรพวกนางจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยทั่วไปจะไม่มีการคัดค้าน
บ่อยครั้งที่พวกนางยังหวังว่าเย่ว์หยางจะปล่อยวางความคิดทั่วไปและใช้สมบัติวิเศษยกระดับตนเองให้เต็มที่ก่อน ที่สำคัญเขาคือเสาหลักที่สำคัญที่สุดของหอทงเทียน และเป็นตัวแทนของทุกอย่างโดยตรง ยิ่งเขามีความแข็งแกร่งมากขึ้นก็ยิ่งยกสถานะหอทงเทียนให้สูงขึ้นและทุกคนจะสามารถตามรอยเขาสู่ระดับพลังที่สูงขึ้น....”
“ดาบอสูรเทาเถี้ยยกระดับสูงขึ้นจะเปลี่ยนเป็นอะไร?เพลิงฟ้า หรือเพลิงแดง?”
จุ้ยมาวอี้ถามคำถามเช่นนี้เพราะเย่ว์หยางมีเพลิงวิเศษในครอบครองอยู่มากมาย
นอกจากเพลิงอันดับหนึ่งของโลกเพลิงอมฤต
ระหว่างที่เย่ว์หยางมีการฝึกฝนก้าวหน้าเขาได้เก็บรวบรวมพลังเพลิงไว้หลากหลายชนิด อาทิ เพลิงบัวแดงฟ้าซึ่งของจักรพรรดิชื่อตี้และสนมชื่อเฟยและทำความเข้าใจตั้งแต่นั้นมา
นอกจากนี้ยังมีไฟบางชนิดที่มีความพิเศษมากอย่างเช่นเพลิงน้ำเงิน เพลิงชนิดนี้เย่ว์หยางได้มาหลังจากอยู่ในสนามประลองดึกดำบรรพ์และไล่ล่าตามศัตรูเข้าแดนสวรรค์ครั้งแรกและสู้กับผู้อาวุโสจากตำหนักไฟนอกจากนี้ยังมีเพลิงแดงฟ้าที่ใกล้เคียงกับเพลิงเทพเขาได้รับมาไม่นานจากการต่อสู้กับชี่เทียนเหอเย่ว์หยางดูดซับดูดกลืนและหลอมรวมด้วยพลังกฎสวรรค์น้อย, อักขระรูนโบราณ, พลังเทพวิบัติและสร้างเป็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์แดงสวรรค์ที่เหนือกว่า
เพลิงศักดิ์สิทธิ์แดงสวรรค์ใกล้เคียงจะเป็นเพลิงระดับเทพแท้ๆ
แต่ที่สำคัญเย่ว์หยางยังไม่ใช่สุดยอดนักสู้ปราณราชันย์ เพลิงแดงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์นี้ก็คงตั้งชื่อได้แค่นี้เป็นเพลิงเตรียมระดับเทพแข็งแกร่งมากกว่าเพลิงบัวแดง,และเพลิงน้ำเงินแดงเล็กน้อย แต่เย่ว์หยางพบว่าบทบาทที่สำคัญที่สุดของเพลิงเหล่านี้คือใช้ยกระดับอสูรได้ดีกว่าไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ผลดีในการต่อสู้เท่านั้น
ในบรรดาพลังงานไฟเหล่านี้สิ่งที่ยุ่งยากที่สุดสำหรับเย่ว์หยางก็คือกุ้ยหยินไฟ
นี่คือเปลวไฟที่คงที่ สงบที่สุด
เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายสมดุลทันทีที่มีพลังงานผันผวน มันจะระเบิดพลังงานทำลายล้างออกมาเป็นสิบล้านเท่า
เคยใช้กุ่ยหยินไฟเพื่อยกระดับดาบอสูรเทาเถี้ยแต่เย่ว์หยางยังรู้สึกปวดหัว ดังนั้นจุ้ยมาวอี้ถามเย่ว์หยางว่าเขาต้องการใช้เพลิงบัวแดงหรือเพลิงแดงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อช่วยให้ดาบอสูรเทาเถี้ยยกระดับ
“กลุ่มพลังศักดิ์สิทธิ์นี้ นอกจากมีแก่นผลึกไฟของจ้าวอัคคี,เพลิงแดงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์และพลังงานปั่นป่วน” เย่ว์หยางรู้สึกละอายใจมากที่เขาไม่ได้ใช้ความพยายามมากพอในการยกระดับอสูรของเขา อสูรอย่างดาบอสูรเทาเถี้ยฮุยไท่หลางและอสูรน้อยทงเทียนมีพรสวรรค์ไม่มีขีดจำกัด ไม่ต้องพูดถึงอาหมันตั่วตั่วและเสี่ยวเหวินหลี”
นอกจากนี้ถ้ามีเวลาเขาจะต้องยกระดับอสูรน้อยขับวารีขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน“เจ้าอสูรน้อยนี้จะวิวัฒนาการเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้” เย่ว์หยางเสนอแนะ แน่นอนว่าก่อนนั้นนางเสนอให้ยกระดับหนูน้อยแพนด้าหนิวหนิว แต่เย่ว์หยางรู้สึกว่าหนิวหนิวควรจะได้รับการวางรากฐานที่ดีและไม่ควรจะก้าวหน้าเร็วเกินไป ทางที่ดีให้เธอค่อยๆ เรียนรู้เหมือนกับเด็กอย่าเอาเข้าร่วมการต่อสู้ต่างๆ เร็วเกินไปเพื่อไม่ให้กระทบต่อการเติบโตตามธรรมชาติ ในความคิดของเย่ว์หยาง หนิวหนิวก็คล้ายกับหนูน้อยเย่ว์ซวง ถ้าพวกเขาจะต้องออกไปต่อสู้ควรจะเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผู้เป็นพี่ชาย
“แล้วเจ้าหนอนขี้เกียจฮุยไท่หลางเล่าน่าจะทำให้มันก้าวหน้าระดับใหม่ได้” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะหงุดหงิดทุกครั้งที่พูดถึงฮุยไท่หลาง
“ข้าเห็นว่าเจ้าหนูนั่นขยันจริงๆ เมื่อเจ้านายผ่านเข้าประตูมาได้ มันจะรีบไถลตัวเข้ามาเลียแข้งเลียขาเจ้านายมัน...หนิวหนิวไม่ถึงกับเป็นเช่นนั้น!” จุ้ยมาวอี้รู้สึกอิจฉา
“การอบรมสั่งสอนของเชี่ยนเชี่ยนเข้มงวดมาก” เย่ว์หวี่หยอกเขาอสูรน้อยขับวารีปกติจะซุกซนมาก แต่เมื่อมันเห็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน มันจะกลัวแทบไม่กล้าหายใจ
“เอาล่ะ ไม่เป็นไรหลังจากนี้ข้าจะยกระดับให้ดาบอสูรเทาเถี้ยก่อน” เย่ว์หยางใช้เข็มทิศสามพิภพกลับไปยังหอทงเทียนทวีปมังกรทะยานเพราะเขาเก็บดาบอสูรเทาเถี้ยไว้ที่นั่น ฮุยไท่หลางรับผิดชอบในการควบคุมเจ้าอ้วนไห่กับพวกพ้องในการฝึกฝน พอมันรู้สึกถึงเย่ว์หยาง มันรีบตามมาสมทบทันที
ไม่ใช่เพียงแค่มันเท่านั้น
แมงป่องดาวและอสูรน้อยทงเทียนก็ตามมาสมทบด้วยเช่นกัน
เย่ว์หยางต้องการยกระดับดาบอสูรเทาเถี้ยพวกมันย่อมไม่มีความเห็น พวกมันต้องเร่งทำคะแนนแข่งกันแม้จะเป็นความดีเพียงเล็กน้อยมิฉะนั้นพวกมันคงได้แต่ใช้สายตาน่าสงสารมองดูเย่ว์หยางจนกว่าเขาจะใจอ่อน
ครอบครัวฟุ่มเฟือย!
อสูรที่เอาแต่กินโดยไม่ทำงานแต่ยังเสนอหน้าให้ทุกคนได้เห็น เย่ว์หยางสบถด่าพวกมันฮุยไท่หลางกับพวกอสูรได้แต่ก้มหน้าเกาเนื้อเกาตัวแก้เก้อทำนองว่าพวกมันจะแก้ไขตัวเองแน่นอน
เลือดเทพหยดสุดท้ายที่ใช้งานนี้ถูกใช้ออกไปกับดาบอสูรเทาเถี้ยอย่างตั้งใจ ความจริงดาบอสูรถูกใช้งานมากที่สุดในกลุ่มพวกนี้โดยเฉพาะงานสกปรก เนื่องจากดาบอสูรเทาเถี้ยกลายสภาพมาจากดาบไปเป็นอาวุธร่างอสูรฮุยไท่หลางถือว่ามันเป็นน้องชาย เพราะความสัมพันธ์ทางสติปัญญาของมันยังตามหลังแมงป่องดาวแต่มันใช้งานได้ดีกว่า ยังไม่ต้องไปเทียบกับอสูรน้อยทงเทียน เจ้าอสูรในตำนาน
เทาเถี้ยไม่เคยบ่นไม่เคยอุทธรณ์ว่ามันเหนื่อยล้าเย่ว์หยางอยากให้อสูรอื่นเรียนรู้เอาอย่างดาบอสูรเทาเถี้ย
มันจึงได้รับโอกาสเลื่อนระดับเป็นธรรมดา
ดาบอสูรเทาเถี้ยยิ้มอยู่เงียบๆ
ใครว่าความซื่อสัตย์ไม่ใช่เรื่องดี?
ฮุยไท่หลาง อสูรน้อยทงเทียนมองดูผลึกเพลิงพิโรธน้ำลายหกเย่ว์หยางผนึกติดเพลิงแดงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์และพลังปั่นป่วนผสานไว้ที่หน้าผากเทาเถี้ย โดยใช้แก่นผลึกไฟเป็นหลักเย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤตชำระดาบอสูรเทาเถี้ยอาวุธเทพร่างอสูรทำให้มันได้ชีวิตใหม่และเลื่อนระดับพลังอย่างสมบูรณ์ พอเย่ว์หยางเหยียดมือออกอสูรเทาเถี้ยกลายร่างเป็นดาบเทาเถี้ยมีศักดิ์ฐานะเกินกว่าดาบเทพธรรมดา
แค่เพียงตวัดดาบเบาๆท้องฟ้าและมิติเกิดรอยแยกทันที
เมื่อเย่ว์หยางปล่อยมันออกมา ดาบเทาเถี้ยแปลงร่างเป็นอสูรเทาเถี้ยดาบเทพร่างอสูรที่สมบูรณ์ วิวัฒนาการร่างของมันแปลกประหลาดและมันเชิดหัวกู่ร้องคำรามราวสายฟ้าฟาด
แม้แต่ฮุยไท่หลางที่ดูดซับเลือดเทพอยู่ด้านนอกยังรู้สึกได้ถึงพลังกดดันที่หนักหน่วง
มันลืมตาอย่างรวดเร็ว ตาเป็นประกาย
หลังจากเลื่อนระดับให้ดาบเทาเถี้ยเย่ว์หยางให้รางวัลเหล่าอสูรอย่างจ้าวฉลามเสือทอง พญางูโลหิต นางพญาผึ้งเพลิง ฯลฯเป็นรางวัลที่พวกมันทำงานหนักมาตลอด เขาไม่ได้ให้แค่เลือดเนื้อธรรมดา แต่เป็นเนื้อของชี่เทียนเหอ ตัดเนื้อจากร่างเทพ ฮุยไท่หลางน้ำลายหกและแมงป่องดาวฟ้ากระตือรือร้นอยากได้ แต่ไม่มีส่วนแบ่งให้มัน
มีเพียงอสูรน้อยทงเทียนที่สะบัดก้นนอนต่อและกัดกินเศษแก่นผลึกต่อพลังงานอัญมณีหรือเลือดเทพ เห็นได้ชัดว่าไม่เพียงพอ
ถ้าเย่ว์หยางควักอัญมณีสุริยันต์ออกมามันจะเกิดอาการน้ำลายไหลเหมือนกับสุนัขพันธุ์ปั๊กทันที
“เจ้าก็อยากจะกินด้วยหรือ?” เย่ว์หยางถามพลางหัวเราะ
“โฮ่ง” ฮุยไท่หลางผงกศีรษะเหมือนไก่จิกข้าว และแมงป่องดาวฟ้าผงกหัวและกระดิกหางเหมือนกับเป็นสุนัขเลี้ยงประจำบ้าน
“แล้วทำไมพวกเจ้าไม่ออกไปทำงานให้ข้า?ข้าไม่ใช่ถังใส่ข้าว!” เย่ว์หยางโมโหทันที เวลาโมโหเขาโมโหเหมือนกับภูเขาไฟระเบิดทำให้ฮุยไท่หลางและแมงป่องดาวฟ้ากอดกันกลัวจนตัวสั่น โชคดีที่เย่ว์หวี่อยู่ที่นี่ช่วยชีวิตพวกมันไว้ มิฉะนั้นพวกมันคงต้องปล่อยให้เย่ว์หยางด่าว่าพวกมันจะกว่าเขาจะพอใจ จากนั้นเขาเห็นฮุยไท่หลางและแมงป่องดาวฟ้าพยายามจะทำงานอย่างหนัก พวกมันเอาถังขยะและไม้กวาดทำความสะอาดทั้งข้างในและข้างนอกการทำความสะอาดครั้งสุดท้ายพวกมันดูดซับพลังจากภูเขาน้ำแข็งและกำจัดภูเขาน้ำแข็งหายไป
ไม่เพียงแต่พวกมันเท่านั้นแม้แต่อสูรน้อยทงเทียนอสูรที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชอบมากที่สุดก็ยังไม่กล้านอนหลับอย่างเกียจคร้าน แต่มันจะเข้าครัวช่วยหั่นเนื้อหั่นผัก
ยิ่งช่วยก็ยิ่งวุ่นวายแต่มองเห็นภาพเช่นนี้แล้วสาวน้อยลูกครึ่งเอลฟ์อดหัวเราะไม่ได้
เย่ว์หวี่มองเห็นภาพนี้แล้วอดยิ้มไม่ได้ “ดีจริงๆ ดูแล้วค่อยเหมือนครอบครัวบ้าง!”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองดูเย่ว์หวี่และหัวเราะนางพูดเสริม “ใช่แล้ว หลายคนวุ่นวายจริงๆ ค่อยดูเหมือนกับเป็นบ้านขึ้นมาบ้าง...”
……