ตอนที่แล้วตอนที่ 939 รับรู้ก่อนรบขั้นเด็ดขาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 941 รายงานตัวรับภารกิจ

ตอนที่ 940 มาสู้กัน


ตู้เค่อชื่นชมและศึกษาลำแสงลงทัณฑ์  เขาสนใจระบบของวิหารมาก  เขาไม่มีขุนพลวิญญาณและเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา แต่แนวคิดและการประยุกต์ที่อยู่เบื้องหลังทำให้เขาสนใจสำรวจ  ลำแสงลงทัณฑ์ถูกสร้างมาจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีโครงสร้างที่ซับซ้อนและเติบใหญ่มาก และจากหลายๆที่เขาสามารถเห็นร่องรอยของการเสริมประสิทธิภาพ

จี๋เจ๋อและพวกที่เหลือให้ความเคารพตู้เค่อมากอยู่แล้ว ช่วงเวลาวิกฤติอย่างนั้นเขายังคงดื่มด่ำอยู่กับการค้นคว้า  กรอบความคิดดังกล่าวเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถแข่งขันได้ พวกเขาทุกคนกังวลต่อการต่อสู้ขั้นเด็ดขาดมากกว่า

ศัตรูของพวกเขาทรงพลังมากจนทำให้พวกเขาสิ้นหวัง

พลังต่อสู้ของวิหารแข็งแกร่งที่สุดในทั่วทั้งดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ประมุขผู้อาวุโสยังใช้เวลาถึงสองสามทศวรรษวางแผนและสร้างขึ้นมา  การใช้ทวีปเซียนทั้งหมดเป็นเครื่องมือ  เขาสร้างพื้นฐานที่ทรงพลังขนาดนั้นไว้

ตระกูลชั้นสูงที่ทรงอำนาจได้พังทลายไปก่อนหน้าที่ประมุขผู้อาวุโสจะปรากฏตัวเองเสียอีกโดยยังไม่ต้องใช้รูปแบบใด ซาดราและประมุขตระกูลอื่นที่จี๋เจ๋อและพวกมองเห็นดูหดหู่ท้อแท้  พวกเขาทุกคนเคยเป็นผู้นำตระกูลที่ทรงอำนาจและมั่งคั่งพวกเขาตอนนี้ถูกใช้งานอย่างเหน็ดเหนื่อย

วิหารยังคงอยู่แต่ในนาม ประมุขผู้อาวุโสผู้ได้รับการยกย่องว่าทรงพลังที่สุดดูดเลือดดูดชีวิตทั้งหมดในวิหารและเลือดของทวีปเซียนเป็นการวางแผนที่ทรงประสิทธิภาพ แผนการที่อยู่เหนือผู้ใดในประวัติศาสตร์

ไม่ต้องคำนึงว่าการเป็นผู้อาวุโสหรือการวางแผนข่มผู้อื่นจนจมอยู่ในความสิ้นหวัง  พวกเขาเป็นทุกอย่างเกินกว่าจี๋เจ๋อและพวกอื่นๆจะมีขีดจำกัดในการเข้าใจได้ สำหรับพวกเขานี่เป็นเกมที่แตกต่างและความยากลำบากและความรุนแรงของการรบที่จะตามมาทำให้ใจพวกเขากังวล

ตู้เค่อทำเป็นไม่สนใจมากขึ้น  เขาเป็นคนที่มีฝีมืออยู่ระดับสูงไปแล้ว และสภาพใจของเขามีความชัดเจนและผ่านการทดสอบมากมากกว่าพวกเขา  ยิ่งมีระดับที่สูงก็ยิ่งยากจะพัฒนาและก้าวหน้านี่เป็นเรื่องแท้จริงของโลก และไม่สำคัญว่าใครจะยืนหยัดได้อย่างไรเมื่อไม่มีกำลังใจที่ดี เขาจะไม่มีทางบรรลุระดับพลังนั้นได้

ตู้เค่อมองโลกในแง่ดีมากขึ้น แม้ว่าการสู้รบที่จะมาถึงจะไม่ง่ายอย่างแน่นอน  ตราบใดที่พวกเขาชนะจะไม่มีใครในดาราจักเซียนศักดิ์สิทธิ์สามารถหยุดพวกเขาได้

ทั่วทั้งทวีปกวงหมิงจะตกเป็นของถังเทียน การควบคุมของเขาอยู่เหนือโลกจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถเขย่าบัลลังก์เขาได้  เพิ่มทั้งแดนบาปและสวรรค์วิถียิ่งมีข้อได้เปรียบ ตู้เค่อเชื่อว่าไม่มีใครสามารถหยุดถังเทียนได้จากการรวมดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์

สำหรับแดนบาปของเขาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสามารถเกิดขึ้นกับพวกเขาได้  พวกเขามีสถานที่ให้อยู่อาศัยมากขึ้นและสามารถกลับมายังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้ง่ายซึมซับความรู้ได้

แต่ถ้าประมุขผู้อาวุโสชนะก็อาจเป็นหายนะสำหรับแดนบาป ความแตกต่างจากพลังงานรังสีเก่า เพลิงศักดิ์สิทธิ์ทองจะเข้ามาจำกัดสภาพแวดล้อมของแดนบาป  และจะเป็นอันตรายต่อกฎธรรมชติ  ถ้าประมุขผู้อาวุโสชนะอัศวินกวงหมิงจะต้องทำลายแดนบาปแน่นอน ถ้าประมุขผู้อาวุโสสามารถลงมือต่อพลเมืองทวีปเซียนได้  ตู้เค่อไม่เชื่อว่าประมุขผู้อาวุโสจะยอมปล่อยคนแดนบาปไป

ตู้เค่อตัดสินใจทุ่มชีวิตของเขาต่อสู้แน่นอน

ทันใดนั้นเขาหยุดการเคลื่อนไหวของเขาและหันไปมองรอบๆ เขาเห็นวังวนพายุกระบี่มหึมาในท้องฟ้า

พัฒนาการของวังวนพายุหมุนกระบี่ช้าลง แม้ว่าจะมีความแตกต่างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับแต่ก่อน  แต่ตู้เค่อสามารถรู้สึกได้เมื่อสังเกตการเคลื่อนไหวของตู้เค่อทำคนหยุดกิจกรรมที่พวกเขากำลังกระทำและมองดูวังวนพายุกระบี่

ปัง!

โดยไม่มีสัญญาณบ่งบอก วังวนพายุกระบี่ขนาดมหึมาพังทลายเหมือนภูเขาหิมะถล่ม

พายุหมุนพังทลายกลายเป็นกระแสพลังสีเทาปกคลุมไปทั่วทุกตำแหน่ง

หน้าของทุกคนเปลี่ยน และโดยไม่ลังเลใจพวกเขาหันหลังวิ่งไม่คิดชีวิต

ชี่ ชี่ ชี่!

ภายในกระแสพลังจะมีรังสีกระบี่นับไม่ถ้วนแฝงมาด้วย เสียงหัวใจเต้นและเสียวหวีดหวิวภายในพายุรุนแรงทำให้โลกถึงกับเปลี่ยนสี

ปัง ปัง ปัง!

เสียงระเบิดรุนแรงเกิดขึ้นตามมาเป็นระลอก ทุกคนวิ่งเอาชีวิตรอดสามารถรู้สึกได้พื้นใต้เท้าของพวกเขาสั่นสะเทือนและพวกเขาหลายคนแทบล้มลง ทุกคนหันหลังไปดูโดยไม่รู้ตัว และภาพที่เขาเขาเห็นเป็นภาพตระการตา

เสาลำแสงลงทัณฑ์ที่สง่างามพังทลายพร้อมกับเสียงดังปังและคลื่นเพลิงศักดิ์สิทธิ์ถล่มลงเหมือนกับเหล็กที่หลอมละลายและยังทำให้ม่านของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในท้องฟ้าสั่นสะเทือน

ทุกคนตกตะลึง รวมทั้งตู้เค่อ เขาศึกษาลำแสงลงทัฑณ์และรู้ว่ามันแข็งขนาดไหน ลำแสงลงทัณฑ์หลายร้อยและม่านเพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของระบบที่ทนทาน

เพราะว่าหนึ่งในลำแสงถูกทำลายโดยวงวนพายุกระบี่ได้แสดงให้เห็นว่าวังวนพายุกระบี่นั้นทรงพลังรุนแรงเพียงไหน

ทันใดนั้นตู้เค่อสำนึกเสียใจทันที  ‘ทำไมข้ามัวแต่ศึกษาลำแสง?  ข้าควรจะศึกษาวังวนพายุหมุนกระบี่!  ข้าผิดไปแล้ว  ผิดไปแล้ว...’

เมืองหิมะเหลือแต่ซากปรักหักพังมันถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงราวกับว่าถูกเท้ายักษ์ย่ำเมืองหิมะพังราบ ไม่มีสิ่งก่อสร้างใดที่เหลืออยู่

อาซิ่นและพวกที่เหลือยืนอยู่ในซากหักพังอย่างงงงวยและไม่แน่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

**************

เมื่อขุนพลวิญญาณตนสุดท้ายเดินออกมาจากรังไหมสีแดงประมุขผู้อาวุยังคงสงบ  สำหรับเขาแผนการของเขาสมบูรณ์แบบเกินพอ และขั้นตอนทั้งหมดสำเร็จแล้ว แม้แต่เพลิงศักดิ์สิทธิ์ กองทัพขุนพลวิญญาณที่เขาวางแผนทั้งที่เป็นแผนการฉุกเฉินก็สำเร็จ

ไม่มีใครหยุดเขาได้

ขณะนั้นม่านเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในท้องฟ้าสั่นสะเทือนทันที

หน้าของประมุขผู้อาวุโสพลันเย็นชา  ‘ใครบางคนทำลายหนึ่งในลำแสงลงทัณฑ์ได้!’ เขาคิดถึงคนที่สอดแนมเขาก่อนหน้านั้น ก่อนหน้านั้นเขาพยายามคิดหาวิธีกำหนดตำแหน่งของอีกฝ่าย  แต่เขาไม่คาดเลยว่าอีกฝ่ายจะปกปิดตำแหน่งไว้ได้ ตราบใดที่เขาตรวจสอบเจอว่าเป็นลำแสงลงทัณฑ์ตรงไหนที่ถูกทำลายไปเขาจะหาตัวพวกเขาพบได้แน่

ในช่วงเวลาสั้นกองพลขุนพลวิญญาณเพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็ตั้งขบวนของพวกเขาได้สมบูรณ์  โซเฟียยืนอยู่ด้านหน้า  ด้านหลังนางเป็นอัศวินกวงหมิงสิบสามคน และด้านหลังพวกเขาเป็นกองทัพขนาดใหญ่นับจำนวนไม่ถ้วน

ภายในตัวขุนพลวิญญาณทุกตนจะมีรอยประทับแสงสว่างซึ่งผู้นำทหารสามารถใช้ให้คำแนะนำกับขุนพลวิญญาณ ขุนพลวิญญาณทั้งหมดกำเนิดจากผู้รอดชีวิตที่ผ่านการบำรุงเลี้ยงด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์  พลังส่วนตัวของพวกเขามีคุณภาพก้าวกระโดดและพลังต่อสู้ของพวกเขาแข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อน

ในการเผชิญกับความแข็งแกร่งที่เด็ดขาด  แผนการทุกอย่างล้วนแต่ไร้ประโยชน์

ประมุขผู้อาวุโสยังคงสงบ  ‘ใช้วิหารเป็นสนามรบใหญ่  ใครจะหยุดคลื่นพลังไร้เทียมทานนี้ได้?’

“เรามาเริ่มกัน”

เขาพูดอย่างเฉยเมย  ฝ่ามือของเขาสัมผัสบนลำแสงลงทัณฑ์ซึ่งเป็นเหตุให้สั่นสะเทือน ในต่อหน้าความมุ่งมั่น พลังความเชื่อมั่นที่กว้างไกลลำแสงเพลิงเริ่มลอยขึ้นกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์จากด้านบน และเหมือนกับเทียนที่หลอมละลาย

ในเวลารวดเร็วลำแสงเพลิงทองที่พุ่งขึ้นเมฆเปลี่ยนเป็นลูกบอลสีทองรัศมีหนึ่งกิโลเมตร

บอลไฟดูเหมือนกับว่าสร้างจากมือที่มองไม่เห็นและแตกตัวเริ่มก่อรูปเป็นประตูเพลิงสีทอง

เพลิงศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนจากทุกตำแหน่ง  ประตูเพลิงปลดปล่อยแสงทองทำให้ทุกคนไม่สามารถเห็น  ภายในลำแสงทองประตูค่อยๆ เปิดออก เหมือนกับว่ามีความรู้สึกหนักที่ประตู  ทั่วทั้งทวีปเซียนเริ่มสั่นสะเทือนลำแสงลงทัณฑ์ทั้งหมดสั่นสะเทือน และแม้แต่ม่านฟ้าที่ลุกไปด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในท้องฟ้าก็ยังสั่นสะเทือนได้

ถังเทียนและพวกเพิ่งจะหลุดออกมาจากพายุรังสีกระบี่กระโดดออกมาด้วยความตกใจสีหน้าเปลี่ยนทันที

พวกเขารู้สึกว่าทั่วทั้งทวีปเซียนกำลังสั่นสะเทือน

“เตรียมตัวรบ!” ถังเทียนมีความรู้สึกแรกที่ผิดปกติ และร้องเตือนทุกคนทันที

หลายคนยังคงอยู่ในอาการมึนงงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สหายร่วมงานที่คุ้นเคยกับถังเทียนและเชื่อใจเขาตั้งตัวได้อย่างรวดเร็วและมาปรากฏตัวข้างถังเทียน

เสี่ยวม่านที่ยังคงอยู่ในอาการมึนงงฟื้นตัวทันที  “ปกป้องคุณหนู!”

ขุนพลวิญญาณฝ่ายนางเกิดใหม่ทั้งหมด  พวกเขาเป็นเหมือนเทพอสูร 120 ตนทั้งหมดเปล่งรังสีอำมหิตที่ทรงพลังจนแทบจะทำให้อากาศโดยรอบแช่แข็ง  อากาศรอบตัวพวกเขากระพริบประกาย  และทุกคนที่ปรากฏตัวข้างเชียนฮุ่ยอยู่ในท่าที่สงบ

แต่อาซิ่นดูเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินคำเตือนของถังเทียน  เขาจ้องมองกระบี่อมตะอย่างว่างเปล่า

ขณะนั้นเองเพลิงศักดิ์สิทธิ์เหนือตัวพวกเขาเริ่มปั่นป่วนและชั้นเพลิงศักดิ์สิทธิ์เริ่มมาบรรจบกัน ในพริบตาดูราวกับว่าดวงอาทิตย์ก่อตัวอยู่เหนือท้องฟ้า เพลิงศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนควบแน่นเป็นบอลเพลิงแสง

บอลเพลิงแสงสีทองเปลี่ยนแปลงขนาดขยายกลายเป็นรูปประตูได้เร็วอย่างน่าทึ่ง

ประตูค่อยๆ เปิดออกและแสงสีทองอบอุ่นและบริสุทธิ์ฉายออกมา

ร่างหนึ่งที่คลุมตัวด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์เดินออกมาจากประตู

แม้ว่าร่างนั้นจะมีเปลวเพลิงคลุมไปทั้งตัว ถังเทียนก็ยังจำได้และระบุตัวบุคคลได้ทันที  เขาหรี่ตา “โซเฟีย!”

โซเฟียได้ยินถังเทียนตะโกนเรียกชื่อนาง  และเหลือบมองมาทางเขาวูบหนึ่ง และรั้งสายตากลับ

เสียงฝีเท้าเป็นจังหวะพร้อมเพรียงได้ยินจากด้านหลังประตูแสง  ขณะที่ขุนพลวิญญาณกรูกันออกมาจากประตู

จี๋เจ๋อและพวกที่เหลือพากันตะลึงทุกคน  และมีเพียงถังเทียนที่ยังสงบเขาได้เห็นการกำเนิดของขุนพลวิญญาณแล้ว เขาเห็นซาดราและประมุขตระกูลอื่นพากันตกตะลึงและรู้ว่าพวกเขาสูญเสียความกล้าจะต่อสู้อย่างสิ้นเชิง  แม้ว่าจะสามารถทำได้  แต่พลังของพวกเขาไม่สามารถช่วยในการรบได้  และถังเทียนจะไม่ต้องดูแลพวกเขา เขาสั่งจี๋เจ๋อให้อนุญาตซาดราและพวกที่เหลือพาครอบครัวพร้อมกับกลุ่มการค้าตระกูลเมซฟิลด์ถอยออกไปจากสนามรบ

หลังจากเห็นแล้วซาดราและพวกถอนหายใจโล่งอกและรีบถอยหนีออกไป  ถังเทียนรั้งสายตากลับ

พวกเขาอยู่ในการสู้รบที่รุนแรงที่ต้องตัดสินชะตากันนอกจากฝ่ายหนึ่งตาย จะไม่มีการจบสิ้นการสู้รบได้

โซเฟียมองตู้เค่อในท้องฟ้าเนื่องจากคนที่สามารถบินจากฝ่ายศัตรูได้ เขาก็ต้องเป็นคนที่โดดเด่นมาก ตู้เค่อรู้สึกได้ถึงสายตาจ้องมองของโซเฟีย หัวใจของเขาเย็นยะเยือกทันที ความแข็งแกร่งของขุนพลวิญญาณสตรีทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายรุนแรง

ตอนเริ่มแรกเมื่อขุนพลวิญญาณฝ่ายเชียนฮุ่ยเห็นว่าศัตรูเป็นขุนพลวิญญาณเหมือนกันสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยอาการเหยียดหยาม แต่ขณะที่พวกเขาออกมาเพิ่มขึ้นทุกทีจากในประตูสีหน้าพวกเขากลายเป็นเคร่งเครียด

ขุนพลวิญญาณจำนวนหนาแน่นลอยออกมาจากท้องฟ้า รัศมีของพวกเขาที่สร้างขึ้นต่อเนื่องทำให้รู้สึกราวกับมีภูเขากดดันใส่พวกเขา

และเมื่อสิบสามขุนพลวิญญาณก้าวออกมาเป็นแถวรัศมีรอบตัวพวกเขาแข็งแกร่งมากและรุนแรงจนรู้สึกได้ว่าพวกเขากลายเป็นมีตัวตนสีหน้าพวกเขายิ่งเปลี่ยนไปอีกครั้ง

ประมุขผู้อาวุโสเดินออกจากประตูเป็นคนสุดท้าย

เมื่อเขาปรากฏตัวพลังที่ปรากฏได้ครอบคลุมสนามรบทั้งหมด  ไม่ว่าจะเป็นขุนพลวิญญาณข้างฝ่ายเชียนฮุ่ยที่ดูคล้ายกับเทพอสูรหรือกองทัพขุนพลวิญญาณเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหมดดูเหมือนมดที่อยู่ใต้เท้าเขาพวกเขาทั้งหมดไม่โดดเด่นไม่มีความสำคัญ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด