ตอนที่แล้วตอนที่ 64 กับดักและเนื้อย่าง(อ่านฟรี17/02/2566)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 66 คนที่ถูกขังอยู่ในตู้ท้ายรถบรรทุก(อ่านฟรี26/02/2566)

ตอนที่ 65 เริ่มภารกิจรวบรวมของรอบที่พัก(อ่านฟรี22/02/2566)


ตอนที่ 65 เริ่มภารกิจรวบรวมของรอบที่พัก

เช้าวันออกเดินทางในงานเก็บกวาดรอบที่พักของพวกเขา

ทุกคนเตรียมตัวเดินทางกันตั้งแต่เช้า ระหว่างนั้นไอราก็คิดถึงสิ่งหนึ่งทั้งคืนและมาบอกกับทุกคนว่า เมื่อพวกเราจะต้องอยู่ที่นี่กัน มันไม่ควรจะมีชื่อเป็นเพียงโรงเลื่อยไม้เก่าหรือชื่ออะไรทำนองนั้น เราควรจะมีชื่อเรียกให้กับสถานที่แห่งนี้

และเธอก็เสนอให้เรียกที่นี่ว่า “บ้านอวาลอน”

ทุกคนนั้นคิดตามสุดท้ายก็ตกลง คำว่า อวาลอนเป็นคำที่มีความหมายและมันก็เหมาะมาก

เรนก็ไม่ได้ขัด ต่อให้จะเรียกว่าอะไรที่นี่ก็จะกลายเป็นที่หลบภัยให้กับพวกเขาหลังจากนี้

คนที่ต้องไปในครั้งนี้พากันทยอยขึ้นรถหุ้มเกราะ โดยประกอบไปด้วยกำลังรบหลักทั้งสามอย่าง เรน หลิน และผู้กองเชน ทีมเก็บกวาดประกอบไปด้วย ไอรา ลุงบุญ หมออลัน ลี

ส่วนรินดานั้นยังบาดเจ็บอยู่ จึงไม่ได้พาเธอไปและมินนาก็ยังเด็กมากจึงให้อยู่คอยดูรินดาที่นี่

เรนมั่นใจว่าผู้ติดเชื้อจะไม่มาทางผ่านมาถึงที่นี่แน่นอน เนื่องจากสถานที่นี้อยู่ในป่าและยังกับดักดึงดูดไปที่บ่อดินแล้ว ส่วนที่น่าเป็นห่วงจริง ๆ คือสัตว์ป่า แต่ถ้ารินดาไม่ออกไปด้านนอกพวกสัตว์ป่าก็คงไม่คิดจะโจมตีที่นี่ง่าย ๆ

“พวกเธออย่าออกไปข้างนอกกันนะ” หลินเตือนรินดาด้วยความเป็นห่วง

“อืม พวกเธอก็ระวังตัวด้วย” รินดากล่าวด้วยใบหน้าซีดเซียวเล็กน้อยจากอาการบาดเจ็บที่แขน ขณะที่เธอก็ใช้มืออีกข้างกอดมินนาเด็กสาวไว้

หลินรีบขึ้นรถมานั่งอยู่ข้างเรนในที่นั่งด้านหลัง

ผู้กองเชนเป็นคนขับ ส่วนลุงบุญนั้นนั่งข้าง ๆ คอยบอกทาง ด้านหลังจึงเหลือไอราและลีอีกคน

“ขานายดีขึ้นแล้วใช่ไหม” เรนถามกับลีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ขาผมดีขึ้นมากแล้ว” ลีตอบด้วยรอยยิ้ม

ลีในตอนนี้ได้มารวมกลุ่มกับพวกของเรนอย่างสมบูรณ์แล้ว แม้เรื่องราวก่อนหน้านั้นจะไม่ค่อยดีแต่นั่นไม่สำคัญในวันที่โลกเป็นแบบนี้พวกคุณจะรู้ว่าเรื่องราวไร้สาระเหล่านั้นมันก็แค่เมฆหมอกที่หายไปได้ตลอดเวลา สิ่งที่น่ากลัวจริง ๆ คือการอยู่ให้รอดไปในแต่ละวันต่างหากที่สำคัญ

“พร้อมแล้วใช่ไหม” ผู้กองเชนหันกลับมาถาม

เรนเอื้อมมือไปดึงประตูท้ายรถเข้ามาปิด ก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า “พร้อมแล้วออกเดินทางได้เลย”

ผู้กองเชนได้ยินดังนั้นก็ขับรถออกไปจากบ้านอวาลอนทันที

รินดาและมินนาช่วยกันปิดประตูไม้ ก่อนจะพากันหลบเข้าไปในที่โรงนอนและรอคอยการกลับของทุกคนอย่างคาดหวัง

“พวกเราจะไปที่ไหนกันก่อน” ผู้กองเชนถาม

“ไปตรวจดูกับดักกันก่อน แล้วค่อยให้ลุงบุญนำทางต่อ” ผู้กองเชนตกลง

กับดักที่พวกเขาตั้งไว้ใช้เวลาเดินทางไม่ไกล ไม่นานก็ไปถึงแล้ว

“ฉันจะลงไปดูหน่อย” เรนกล่าว ก่อนจะลงไป

“ฉันจะไปด้วย” ไอราขอตามไปดูด้วย

ผู้กองเชนและหลินตามไปอีก ส่วนลุงบุญและลีนั้นขอนั่งเฝ้ารถ ทำให้ทั้งสองคนเริ่มพูดคุยกันอยู่บนรถ

เรนและอีกสามคนเดินผ่านพุ่มไม้จำนวนหนึ่งไปยังบ่อดิน พอมาถึงไอราก็มองด้วยความสนใจ ขณะที่เรนนั้นมองดูด้านล่างและเห็นว่ามีผู้ติดเชื้อสองสามตัวตกลงไปจริง ๆ

พวกพวกนั้นเห็นกลุ่มเนื้อสดอยู่ด้านบนของหลุมก็พยายามจะปีนขึ้นมา แต่น่าเสียดายที่พื้นดินนั้นสูงเกินกว่าที่จะใช้เพียงพละกำลังในการปีนขึ้นมาได้

“จัดการเลยไหม” ผู้กองเชนถาม ขณะที่เล็งปืนไปที่พวกมัน

“อย่าทำเสียงดังดีกว่า” เรนยกมือห้ามผู้กองเชน ก่อนจะเอารูนิกคันธนูออกมาและยิงพวกมันสองสามตัวตายลงไปอย่างง่ายดาย

จากนั้นเขาก็เดินกลับไปที่รถเอาเชือกเส้นยาวมาผูกเข้ากับต้นไม้ใกล้ ๆ ค่อย ๆ ไต่ลงไปเก็บของที่ออกมาจากผู้ติดเชื้อและกลับไปที่รถกัน

กับดักไม่มีอะไรล่าตื่นเต้นมากนัก เพราะมันก็คือกับดัก

รถเริ่มออกเดินทางต่อหลังจากออกจากเส้นทางดินแล้วก็เข้าสู่เส้นทางดำ (ลาดยาง) วิ่งไปทางใต้ของเส้นทางนี้สักสองสามกิโลเมตรตามคำบอกของลุงบุญ พวกเขาก็เจอกับบ้านที่อยู่รวมกันประมาณ 3-4 หลังคาเรือน

บ้านส่วนใหญ่ปิดเงียบจนน่าขนลุก ไม่มีลร่องรอยของผู้ติดเชื้อ แต่เรื่องนี้ไม่แปลก ผู้ติดเชื้อที่อยู่ด้านนอกมักจะเดินไปเรื่อย ๆ ตามเสียงหรือสิ่งกระตุ้นที่ดึงดูดความสนใจของมัน ดังนั้นการที่มันหายไปจากที่นี่ก็เป็นเรื่องปกติ สิ่งที่พวกเขาควรกังวลและระวังคือผู้ติดเชื้อภายในตัวบ้าน

“เริ่มจากบ้านหลังแรกก็แล้วกัน ฉันจะเข้าไปก่อน” เรนบอกกับผู้กองเชนและหลิน

การเข้าไปก่อนหมายถึงการเสี่ยงโดนโจมตีจากผู้ติดเชื้อ แต่เรนรู้ว่าเขานั้นมีภูมิต้านทานเชื้อตามธรรมชาติ ดังนั้นหน้าที่นี้จึงควรเป็นของเขา และเขาไม่ต้องการให้ใครมาคอยเถียงเรื่องเหล่านี้ จึงเข้าไปที่ตัวบ้านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถีบมันเข้าไปตรง ๆ

ปัง!

ประตูบ้านถูกถีบพับเข้าไปเสียงดังอย่างรุนแรง ตามความตั้งใจของเรน มันดึงดูดความสนใจของผู้ติดเชื้อสองตัวในบ้านทันที

ผู้ติดเชื้อตัวหนึ่งเป็นชายแก่ ส่วนอีกตัวนั้นเป็นเด็กสาววัยรุ่น

ไม่ต้องคิดมากเรนใช้ปืนลูกซองยิงใส่ผู้ติดเชื้อวัยรุ่นที่รวดเร็วกว่า เสียงปืนดัง ปัง! หัวสมองแตกกระจายสาดกระเซ็นไปทางด้านหลัง ก่อนจะล้มลงหงายหลังในสภาพหัวมีรู

ผู้ติดเชื้อชายแก่กระโจนเข้าใส่ แต่เรนใช้เท้าถีบไปที่มันจนล้มไปกับพื้น เขาใช้เท้าเหยียบซ้ำและปืนลูกซองยิงยัดปากไปอีกครั้งจนพื้นเป็นรูเช่นเดียวกับที่ผู้ติดเชื้อคนแก่ตายลงไป

สองตัวนี้อยู่ในบ้านจึงไม่ได้รับเชื้อจากสภาพแวดล้อมและน้ำด้านนอก พวกมันจึงอ่อนแอมาก ขอแค่รู้วิธีการรับมือก็ไม่ยากแล้ว

หลินและผู้กองเชนเดินเข้ามามองดูสองศพที่มีไอเทมออกมา ก่อนเดินผ่านไปตรวจสอบตามห้องต่าง ๆ

“ห้องครัวไม่มีใคร”

“ห้องด้านนี้ก็ด้วย”

หลินและผู้กองเชนกลับมาบอก ตอนนั้นเองด้านบนก็มีเสียงวิ่งอย่างรวดเร็วมาทางบันได พร้อมกับตะโกนเรียกว่า “คุณปู่หนีเร็ว ๆ ๆ”

การพูดซ้ำแบบนี้มันชัดเจนว่านี่คือผู้ติดเชื้อพูดได้

หลังจากเสียงวิ่งก็ตามมาด้วยเสียงตกลงมาที่บันได ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้ออีกตัวหนึ่งจริง ๆ

เรนไม่ได้ลงมือ เพราะผู้กองเชนนั้นเข้าไปจัดการมันด้วยปืนลูกโม่แล้ว

ปัง! ๆ ๆ

ผู้กองเชนยิงสังหารโดยที่มันไม่ทันได้ลุกขึ้นมาตั้งหลักด้วยซ้ำ สามนัดก็มากเกินพอกับผู้ติดเชื้อพูดได้แล้ว

พวกเขาไปตรวจสอบด้านบนและก็ไม่เจอผู้ติดเชื้ออีก จึงออกไปบอกกับคนที่เหลือว่าด้านในบ้านนี้ปลอดภัยแล้ว

ทีมเก็บของทั้ง 4 คนก็ลงมือ ส่วนทีมต่อสู้ก็ลุยบ้านหลังอื่น ๆ ต่อ

เรนไม่ได้ฆ่าผู้ติดเชื้อทุกตัว เขาปล่อยให้หลินและผู้กองเชนได้จัดการพวกมันด้วย เนื่องจากว่าไอเทมจากผู้ติดเชื้อนั้นสำคัญกับพวกเขาที่เป็นผู้ใช้วงแหวนด้วยเหมือนกัน ถ้าเรนฆ่าหมดทั้งสองคนคงไม่ได้อะไรมาพัฒนาพลังของตัวเอง

บ้านหลังแรกมีผู้ติดเชื้อสามตัว บ้านหลังที่สองมี 2 ตัว บ้านหลังที่ 3 นั้นมีอยู่ถึง 6 ตัวและหลังสุดท้ายนั้นมีตัวเดียว แต่ว่ามีปัญหาเพราะเจ้าตัวนี้ดันเป็นพวกผิวลอก

ซึ่งพวกเขาสามคนช่วยกันกระหน่ำยิงจนมันพรุนเป็นรู จึงจะฆ่าได้

ไอเทมที่ได้นั้นก็คุ้มค่ากับกระสุนที่เสียไป มันมีหินรูนิกเปล่าและหินพลังงาน 2 ชิ้น

ผู้กองเชนขอหินรูนิกไป ส่วนเรนและหลินนั้นเอาหินพลังงานมา

หลังจากจัดการผู้ติดเชื้อเสร็จแล้วทั้งสามก็ไปช่วยทีมเก็บของขนของขึ้นรถด้วย ของส่วนใหญ่เป็นน้ำและอาหารที่ถูกให้ความสำคัญก่อน พวกเขายังเจอรถกระบะอีกคันหนึ่งจึงใช้มันช่วยขนของด้วย

การได้รถมาเพิ่มช่วยพวกเขาได้มาก เพราะว่าในตอนนี้ทั้งค่ายนั้นเหรอแค่รถหุ้มเกราะเท่านั้น พวกเขาควรจะมีรถมาเพิ่มเพื่อใช้ในการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น

หลังขนของขึ้นรถแล้วพวกเขาก็เดินทางกันต่อ บ้านในจุดนี้เป็นเพียงสถานที่เรียกน้ำย่อยเท่านั้น เมนูหลักจริง ๆ ขอที่ต่อจากนี้ต่างหาก

หมู่บ้านขนาดเล็กที่มีบ้านเรือนราว ๆ 30 หลังคาเรือน พวกเขาไม่ได้จะเข้าไปตรวจสอบทุกหลังคาเรือน แต่เป้าหมายคือร้านค้าสะดวกซื้อภายในหมู่บ้าน ที่นั่นมีของกินและน้ำขวดจำนวนมากแน่นอน

แต่ว่าปัญหาคือยังมีผู้ติดเชื้อวนเวียนอยู่แถวนั้นเยอะมาก

รถของพวกเขาทั้งสองคนได้มาจอดสังเกตการณ์อยู่ที่หน้าหมู่บ้าน โดยเรนและผู้กองเชนสองคนพากันปืนขึ้นไปที่เสาสัญญาณเพื่อมองจากมุมสูง

“เอายังไงกันดี ลุยเข้าไปตรง ๆ เลยไหม” ผู้กองเชนเอ่ยถาม แม้ผู้ติดเชื้อจะเยอะ แต่พวกเขาเคยเจอกันมาเยอะกว่านี้แล้ว จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาถ้าจะจัดการพวกมัน

“ลุยเลยน่าจะจัดการพวกที่ขวางทางออกไปจนหมด แต่ว่ารถพวกเราคงขนของไปไม่หมดแน่ ถ้าเราฆ่าพวกมันไปครั้งหนึ่ง คงมีตัวอื่น ๆ ในละแวกนี้จะตามกลิ่นเลือดมารวมกันแน่นอน ดังนั้นควรจะขนของออกไปในครั้งเดียวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีพวกมันมากแค่ไหน โดยเฉพาะอาจจะมีตัวระดับ 2 ที่นี่ก็ได้” เรนกล่าวอธิบายถึงปัญหาออกมา

“ฉันพอมีทางออก” ผู้กองเชนกล่าว ก่อนจะชี้ไปทางด้านหนึ่งของหมู่บ้าน

“เห็นรถหกล้อคันนั้นไหม น่าจะยังขับได้ ฉันจะไปเอารถคันนั้นมา ส่วนนายพาคนอื่น ๆ ไปเคลียร์เส้นทางที่และไปรอที่ร้านสะดวกซื้อ ฉันจะเอารถไปให้” ผู้กองเชนเสนอ

เรนมองไปยังรถบรรทุก 6 ล้อขนาดเล็ก มันไม่มีอะไรเหมาะกับการใช้ขนของมากที่สุดขนาดนี้แล้ว

“เอาตามนั้นก็ได้ ลงไปบอกแผนกับคนข้างล่างกันเถอะ”

เรนและผู้กองเชนปีนกันลงมาจากนั้นก็เล่าถึงแผนที่พวกเขาจะใช้กัน

ผู้กองเชนและลุงบุญจะไปเอารถบรรทุก เพราะว่าลุงบุญนั้นขับรถใหญ่ได้ ส่วนผู้กองเชนต้องขับรถหุ้มเกราะไปส่ง โดยจะเหยียบพวกที่ขวางทางไปด้วย

เรนและคนที่เหลือนั้นไปเคลียร์ทางด้านร้านสะดวกซื้อ จะได้ไม่เสียเวลา พอรถมาก็ขนของได้ในทันที รวดเร็วและออกมาก่อนที่พวกผู้ติดเชื้อละแวกใกล้เคียงแถวนี้จะมาถึง

ทุกคนพยักหน้าตกลงจากนั้นก็ลงมือทันที

เรนนั่งอยู่หลังกระบะทายรถกับหมออลันและลี ส่วนหลินนั้นเป็นคนขับนั่งข้างกับไอราอีกคน

พอรถไปถึงเรนก็ใช้ลูกธนูยิงนำสังหารพวกผู้ติดเชื้อที่ยืนอยู่ทันที

“ช่วยด้วย...ช่วยด้วย!” มีผู้ติดเชื้อพูดได้ตัวหนึ่งวิ่งมาจากทางด้านข้างจะเข้ามาโจมตีใส่รถ แต่เรนนั้นรู้อยู่แล้วจากความสามารถของรูนิกลางสังหรณ์ เขาหันกลับมาใช้ธนูยังมันจนตายในทันที

เอียดดดด!!!

หลินเหยียบแบกรถที่ขับมาด้วยความแรงจนล้อนั้นลากไปกับพื้นตรงหน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปจอดขวางประตูร้านไว้ในทันที

“ไป” เรนสั่งพร้อมกับที่เขาลงมาจากรถไปจัดการพวกผู้ติดเชื้อจากภายนอกร้าน

หลิน ไอรา หมออลัน ลี ทั้งสี่คนพากันลงมาจากรถตรงไปที่ร้านสะดวกซื้อ หน้าที่ของพวกเขาคือรีเข้าไปในร้านและเตรียมขนของ

เรนยิงพวกผู้ติดเชื้อตายไปเรื่อย ๆ แต่อย่างที่บอกว่ายังมีพวกมันอยู่แถว ๆ นี้อีก ทำให้ผู้ติดเชื้อพูดไม่ได้พากันคำรามเรียกตัวอื่น ๆ มาเรื่อย ๆ

ปัง!

ตอนนั้นก็มีเสียงยิงดังขึ้นมาจากด้านหลังก็เป็นว่าไอราใช้ปืนยิงใส่ล็อกของประตูจนพัง เนื่องจากว่าประตูร้านสะดวกซื้อถูกล็อกจากด้านใน ถ้าไม่พังเข้าไปก็เปิดไม่ได้

“ระวังด้วย” หลินกล่าวเตือน การที่ประตูล็อกจากด้านในมีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง ถ้าไม่มีคนที่ล็อกประตูหลบอยู่ด้านในก็คงมีคนที่ติดเชื้อหนีเข้าไปและตอนนี้ก็กลายเป็นผู้ติดเชื้อรอพวกเขาอยู่ด้านใน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด